ถอนเงินอยู่ดี ๆ เงินก็หายไป 500 บาท

เตือนการถอนเงินจำนวนมากจากธนาคาร อย่าดูแค่จำนวนธนบัตรเท่านั้น พลิกดูด้วยว่าธนบัตรชนิดเดียวกันทั้งปึกหรือไม่

เนื่องด้วยวันเสาร์ (3/10/58) ผมได้ทำการถอนเงิน จำนวน 1,103,673.25 จาก 3 ธนาคาร เพื่อย้ายไปยังธนาคาร ธนาคารทหารไทย โดย
1.ปิดบัญชีธนาคารยูโอบี จำนวน 503,673.25 ( ปึ๊กละ 100,000 รัดด้วยปอกคาดธนาคาร x 5 ปึ๊ก + เศษ 3,673.25 บาท)
2.ธนาคารกรุงไทย 250,000 ( ปึกละ 100,000 x 2 ปึกรัดด้วยปลอกคาดธนาคาร + เศษ 50,000 บาทรัดด้วยหนังสติ๊ก ) โดยยอด 2 แสนแรก ตอนพนักงานหยิบมาก็มีรัดด้วยปลอกคาดตั้งแต่แรก ส่วนยอด 5 หมื่นพนักงานนับมือแยกภายหลัง
3.ธนาคารไทยพาณิชย์ 350,000 ( ปึ๊กละ 100,000 x 3 ปึ๊กรัดด้วยปลอกคาดธนาคาร  + เศษ 50,000 บาทรัดด้วยหนังสติ๊ก ) โดยยอดทั้งหมดไม่ได้นับมือ ใช้เครื่องนับทั้งหมด แล้วมารัดด้วยปลอกคาด ภายหลัง

ทุกปึกเป็นแบงค์พันทั้งหมด พอผมได้รับเงินมาก็ไม่ได้นับด้วยตัวเอง เพียงแค่ดูที่พนักงานปั่นเงินให้ดูว่าจำนวนธนบัตรตรง มีเพียงเศษ 3,673.25 ที่นับเอง

จากนั้นก็นำมาฝากที่ ธนาคารทหารไทย ซึ่งพนักงานได้นำธนบัตรเข้าเครื่องนับ โดยผมเรียงลำดับธนบัตรที่แกะจากซองของทั้ง 3 ธนาคาร ตามลำดับ

ยูโอบี 5 ปึก => กรุงไทย 2 ปึก => ไทยพาณิชย์ 3 ปึก ตามด้วย เศษ 50,000 ของกรุงไทย และ เศษ 50,000 ของ ไทยพาณิชย์ วางซ้อนกัน ส่วนเศษ  3,673.25 แยกไว้ต่างหาก ยื่นให้สุดท้าย
ทั้ง 10 ปึกที่รัดด้วยปลอกคาดของธนาคาร ไม่มีปัญหา ยอดปั่นครบ 1 ล้าน

พอยอด 1 แสน ที่เกิดจาก เศษ 5 หมื่นของกรุงไทยและ 5 หมื่นของไทยพาณิชย์ ปรากฎว่ามีธนบัตร 1 ใบถูกเครื่องนับเงิน Rejected ว่าเป็นธนบัตรใบละ 500 บาท ปัญหาคือว่าแบงค์ 500 นี้ มาจากธนาคารไหน ??

1.ผมเดินกลับไปที่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ เพื่อตรวจสอบ พนักงานนับยอดคงเหลือที่เคาว์เตอร์ตัวเอง แจ้งว่ายอดเงินในลิ้นชักครบ ไม่มีเงินเกิน

2.ผมเดินต่อไปที่ ธนาคารกรุงไทย พนักงานนับยอดเงินคงเหลือเช่นกัน + มีพนักงานอีกท่านช่วยนับเป็นพยานว่ายอดคงเหลือในเคาวน์เตอร์เกินมาหลักหน่วยประมาณ 2 บาท ซึ่งเป็นเรื่องปกติได้ และแจ้งว่ายอด 5 หมื่นนั้น เกิดจากการนับมือ หากมีธนบัตร 500 ปน ไม่น่าจะหลุดรอดการมองเห็นได้

3.ผมเดินกลับมาที่ ธนาคารทหารไทย ขอให้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดูให้แน่ใจว่า ปึกไหนที่มีปัญหา ซึ่งทางธนาคารทหารไทย ตรวจสอบกล้อง CCTV เทียบกับลำดับซองที่ผมแกะออกมาเพื่อยืนเงินให้เจ้าหน้าที่ พร้อมเอาซองใส่เงินของแต่ละธนาคารไปดูประกอบ
-คือซองแรกสุด 5 ปึก คือเป็นของ ยูโอบีแน่ไม่มีปัญหา
-ซองชุดต่อมายาวกว่าซองของธนาคารอื่นซึ่งเป็นของธนาคารกรุงไทย 2 ปึกก็ไม่มีปัญหา
-ส่วนชุดสุดท้าย คือ 3 ปึก ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
คือ 1 ล้านแรก เครื่องนับเงิน นับได้ครบไม่ถูก rejected แต่ยอด 1 แสนสุดท้าย ซึ่งผมนำเศษ 5 หมื่นของกรุงไทย มาวางทับ เศษ 5 หมื่นของ ไทยพาณิชย์ แล้วยื่นให้ชุดสุดท้าย ซึ่งทาง ธนาคารทหารไทย ตรวจกล้องวงจรปิดแล้วคิดว่าน่าจะเป็นของไทยพาณิชย์ที่มีปัญหา ( ไม่สามารถให้ลูกค้าดูกล้องด้วยได้ )



4.เดินกลับมาที่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ใหม่ แจ้งผลการตรวจสอบกล้องจาก ธนาคารทหารไทย ให้ , ทางพนักงาน ไทยพาณิชย์ (เข้าใจว่าเป็นผู้จัดการ ) ได้ให้พนักงานที่เบิกเงินให้ผม นับยอดเงินในโต๊ะตนเองอีกครั้ง + นับยอดเงินโต๊ะด้านข้างที่เข้าใจว่ายืมเงินมา รวมทั้งเข้าไปดูกล้อง CCTV แจ้งว่ายอดเงิน ครบ และจากการตรวจสอบกล้อง ไม่มีสิ่งผิดปกติ

5.ผมเดินมาที่ ยูโอบี เพื่อขอให้ตรวจสอบยอดเงิน คงเหลือในธนาคารว่าตรงกับในระบบหรือไม่ (แม้ว่าจะเป็นธนาคารที่สงสัยน้อยที่สุด ) ซึ่งก็เป็นดังคาด คือยอดเงินคงเหลือในธนาคาร ถูกต้องกับในระบบ ไม่มีเงินเกิน

6.ผมเดินกลับมาที่ธนาคารกรุงไทยอีกครั้ง พนักงานดูกล้องวงจรปิดให้ และขอเบอร์ติดต่อกลับ เพื่อตรวจสอบยอดเงินทั้งธนาคารเมื่อสิ้นวันอีกครั้ง เพราะยอดเงินในโต๊ะ ไม่มียอดเกิน พร้อมทั้งขอสายคาดธนบัตรเพื่อตรวจสอบ  ซึ่งผมเดินกลับมาที่ธนาคารทหารไทย ปรากฎว่าทิ้งไปหมดแล้ว และไปปะปนกับลูกค้าท่านอื่นแล้ว

7.ผมเดินกลับมาที่ ไทยพาณิชย์ อีกครั้ง เพื่อทิ้งเบอร์ และฝากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยอดเงินทั้งธนาคารเมื่อสิ้นวัน เผื่อว่าจะมียอดเงินเกินไป

กว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง กับการตามหาเงิน 500 บาทที่หายไป เมื่อกลับมาบ้าน ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ทางธนาคารกรุงไทยโทรแจ้งว่า เช็คยอดทั้งธนาคารแล้ว พบยอดเกินมา 408 บาท และทางธนาคารจะรับผิดชอบส่วนเกินโอนให้ แต่ผมว่ายอดเงินส่วนเกินนี้ อาจจะไม่ใช่ยอดเงินของผม จึงยังไม่ขอรับและรอทาง ไทยพาณิชย์ โทรกลับมาก่อน

เงิน 500 บาท จะว่าเสียดายก็เสียดาย แต่คงโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง และเป็นบทเรียนชั้นดีสำหรับคนที่ชอบโยกย้ายเงินตามโปรโมชั่นดอกเบี้ย หรือถอนเงินก้อนเป็นเงินสดปริมาณมาก แต่ก็ชื่นชมทั้ง 3 ธนาคารที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบโดยเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งก็แปลก มาก ๆ ที่ยอดเงินในธนาคารไม่เกิน แต่ ยอดเงินของผมหายไป คิดได้เพียงกรณีเดียวก็คือ ธนาคารรับเงินลูกค้าท่านอื่นมาผิดทำให้คีย์ในระบบผิด และก็จ่ายให้ผมผิดเช่นกัน
เรื่องนี้สิ่งที่อยากฝากไว้คือ
1.ถ้าต้องการย้ายเงินปริมาณมาก ถ้าอยากประหยัด อย่าดูแค่จำนวนเครื่องปั่นอย่างเดียว ให้ยืนนับด้วยตา+มือตัวเอง หรืออย่างน้อยที่สุดให้เปิดพลิกคร่าว ๆ ก็ยังดี เพราะถ้ามีธนบัตรแปลกปลอมสอดไส้ สีธนบัตรก็น่าจะสะดุดตาขึ้นมา แต่ถ้าขี้เกียจ ให้ซื้อแคชเชียร์เช็ค และควรซื้อวันทำการ เพราะถ้าซื้อวันหยุดธนาคาร เช็คจะติดเคลียร์ริ่งตอนนำเงินเข้า วันนั้นจะไม่ได้ดอกเบี้ย เพราะธนาคารไม่สามารถคีย์เข้าระบบได้

2.เวลานำเงินเข้าธนาคารปลายทาง ให้ยื่นทีละปึก ค่อย ๆ นับทีละปึก ปึกไหนไม่ครบจะได้รู้ทัน และเก็บปลอกคาดรัดเงินไว้ เพราะมีลายเซ็นพนักงานอยู่--ตรงนี้ ธนาคารทหารไทย ถือเป็นจุดบอด พนักงานมักจะรีบถอดปอกคาด ทุกปึก แล้วเอามาเข้าเครื่องนับทีเดียว ลดการเสียเวลาของธนาคาร ซึ่งเครื่องนับเงินของ ธนาคารทหารไทย ดีมาก เป็นเครื่องใหญ่ นับได้ทีละ 1000 ใบ และถ้ามีใบแปลกปลอมสามารถตรวจสอบได้ แต่ถ้ามีปัญหาแบงค์ปลอม หรือ เงินไม่ครบแล้วลูกค้าจะตามไม่ได้ว่ามีปัญหาจากปึกไหน และ ธนาคารทหารไทย จะทิ้งปลอกคาดรัดเงินลงถังขยะหมดเลย ไม่คืนให้ลูกค้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่