วันที่ครูเกษียณ

....วันที่ครูเกษียณ....

        เรื่องนี้เป็นความรู้สึกของเจ้าของกระทู้นะคะ เราเรียนสายอาชีพค่ะ สาขาการเลขานุการ ในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง วันที่มาสมัคร ก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรของการเรียนสายอาชีพมาก เพราะอยากเรียนสายสามัญมากกว่า แต่เป็นข้อบังคับของพ่อที่อยากให้เรียนสายอาชีพ เพราะต้องการให้ห่างกับเพื่อน ช่วงม.3 ติดเพื่อนมาก พ่อติดต่อลูกพี่ลูกน้องของเราให้ดูแลเราเรื่องสมัครเรียนหน่อย ตอนที่มาถึงวิทลัย เราก็เอ่อแหลกเลยค่ะ นักเรียนเยอะมาก เรารอพี่ไม่นาน พี่ก็มาหาแล้วก็เอาใบสมัครมาให้
พี่ : คิดไว้ยัง ว่าจะเรียนอะไร
เรา : ยังอ่ะ พี่เรียนไร
พี่ : เลขา
เรา : งั้นหนูเอาเลขา
เราก็เขียน วิชาเลือก ไว้3สาขา เลขานุการ การบัญชี การขาย เรียงกันมา
พี่ : บ้าป่าว เอาสาขายากมาไว้หลังๆ
เรา : อ้าวหรอ ไม่เป็นไรหรอก หนูไม่มี ลิควิก
พี่ : อืมๆๆ ไปยื่นไปจ่ายตังป่ะ
................................
วันสอบ ไม่พร้อมมากๆ เพราะไม่ได้อ่านอะไรมาเลย ไม่รู้จะอ่านอะไร แต่ในใจก็ไม่คิดมาก เพราะไม่ได้อยากเรียนสายนี้อยู่แล้ว เรานั่งสอบ เลขที่ 22 ไม่รู้ว่าเพราะบังเอิญหรืออะไร เพราะตอนเรียน ตั้งแต่ ป.1 ยัน ม.3 เราก็เลขที่ 22 มาตลอด ตอนสอบเราก็ตั้งใจมากๆ บรรจงเขียนชื่อ เลขที่ แล้วทำข้อสอบไปเรื่อย มันเพลินมาก ทำแล้วสนุกอย่างบอกไม่ถูก มันไม่มีอะไรซับซ้อน เราทำเสร็จคนแรกแล้วก็นั่งรอจนเพื่อนๆสอบเสร็จหมด เราสังเกตว่า คนที่มาสอบ มีเพื่อนมาด้วย ยกเว้นเราที่มาคนเดียว ไม่มีคนรู้จัก เราก็ได้แต่นั่งเงียบๆไปตามระเบียบ

     วันประกาศผล ปรากฏว่า เราได้อันดับที่ 4 เราดีใจมาก เราคิดว่าที่นี่มันใช่สำหรับเรา เราชอบที่นี่มาก แหมจะเล็กกว่าที่เก่า แต่นักเรียนเยอะกว่ามากๆ โดยเฉพาะผู้หญิง เราคิดถึงผลที่ตามมา ผู้หญิงเยอะ จะต้องตบกันแน่ๆ มันน่ากัวมาก เราก็ปรึกษาพี่บ่อยๆ พี่เราบอกไม่มีแบบที่เราคิดหรอก ถ้าเราไม่ไปทำอะไรใครนะ เราก็เบาใจมาบ้าง เพราะเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหากับใครอยู่แล้ว
การมอบตัวก็ได้ผ่านพ้นไป เราได้พบกับอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วก็เพื่อนๆ ซึ่งแต่ละคนวางตัวดีมาก เราไม่กล้าคุยกะใครเลย พอเรากลับบ้านไปพี่เราถามว่า
พี่ : ที่ปรึกษาคือใครหรอ
เรา : อ่อ นี่ๆชื่อนี้ อาจารย์สุวรรณา
พี่ : ห๊ะ!!! รู้ป่ะแกโหดที่สุดในแผนกเลยนะ
เรา : อร๊ายยยยยยยยย ม่ายยยย จริงงงงง

วันเปิดเทอม เราก็เริ่มมีเพื่อนบ้าง เราได้อยู่ห้อง ปวช.1/1 อยู่ห้องเดียวกับเด็กโควต้า มีพี่ที่โดนรีไทล์มาเรียนด้วย เรารู้สึกว่าเค้ากร่างมาก เราไม่ชอบเลย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน เราแทบไม่มีตัวตน เหมือนๆกับ เมย์ไหน แทบไม่มีใครรู้จัก แต่ก็มีเพื่อนสนิทๆอยู่บ้าง เทอมแรก เราสอบได้อันดับที่1ของห้อง ด้วยระดับเกรด ดีเยี่ยม เราเริ่มมีตัวตน เพื่อนเริ่มรู้จัก ให้เราสอนการบ้าน สอนบัญชีเบื้องต้น ที่ทั้งห้องมีเราคนเดียวที่เข้าใจ
เทอม2 เราได้ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง เราเริ่มมีแฟน (อิอิ ดูแรดเลย) อาจารย์ที่ปรึกษาก็เรียกเราไปคุย ยอมรับว่าเริ่มเถลไถลบ้าง อาจารย์ก็ดุ ตอนสอนอาจารย์ชอบเสียงดัง ชอบจี้ให้ทำงานให้ส่งงาน ปรากฏว่าเราทั้งห้องเริ่มไม่ค่อยชอบอาจารย์เลย อาจารย์ดุ ไม่ใจดีเหมือนที่ปรึกษาห้องอื่น รุ่นพี่ที่มาเรียนซ้ำ ก็ขาดเรียนไม่มาเรียน เพื่อนท้องออกไปบ้าง มีปัญหาบ้าง แต่เราเกรดก็ได้อันดับ1ในห้องเหมือนเดิม แต่เกรดตกมา อยู่ระดับ ดีมาก เท่านั่น
ปวช. 2 ทั้ง2เทอมเราก็เป็นหัวหน้าห้อง และเกรดก็ขึ้นมาอยู่ในระดับดีเยี่ยมเหมือนเดิม เราจึงเริ่มสนิทกับอาจารย์ที่ปรึกษามากขึ้น อาจารย์ก็ใช้เราถือของบ้าง ตรวจการบ้านเด็กปี1บ้าง พิมพ์เอกสาร คำนวณเกรดบ้าง เล็กๆน้อยๆ เท่าที่จะช่วยได้ เริ่มรู้สึกว่าท่านไม่ได้ร้ายอย่างที่เราเคยเจอ เราไม่เคยขาดเข้าแถว ท่านก็มีของขวัญให้ ไม่เฉพาะเรา เพื่อนคนอื่นๆก็ได้ ท่านบอกว่า เพื่อนจะได้เอาเป็นตัวอย่าง เราเคยบ่นให้ท่านฟังในวิชาโฮมรูม ว่าไม่ค่อยชอบ อาจารย์วิชาหนึ่ง เพราะจะชอบพูดแต่เรื่องการเมือง พูดแต่ความหมายของชื่อตัวเอง ไม่อยากเรียนเลย อาจารย์สอนว่า

"ถ้าไม่ชอบ ก็เรียนไปเถอะ เจอแค่ตอนนี้ ดีกว่าเราต้องมาแก้แล้วเราต้องเจอกันอีก มันจะเจออีกนาน"

ทำให้เรา อ่ะเรียนก็เรียน

ปวช. 3 เทอมแรก ฝึกงาน เราเลือกบริษัทเอกชน ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ อาเราทำอยู่ที่นั่น เลยคิดว่าน่าจะง่าย แต่ไม่ใช่อย่างนั่นเลย เราต้องทำรายงานภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับการสนทนาสำหรับเลย การประชุม การทำโปรแกรมที่เราเรียนมาน้อย แต่ก็อาศัยลักจำมา พี่ที่ฝึกงานก็สอนให้ พออาจารย์มาตรวจ พี่ที่ฝึกงานก็ชมเราจนเขินเลยค่ะ จบฝึกงานมาพรีเซ้นต์และทำรายงานส่ง สรุปเราได้เกรด4  เราดีใจมาก เพราะตอนฝึกงานมันยากและเหนื่อยมากๆ

แต่สิ่งที่เราได้คือภาษา แต่ไม่มากเท่าไหร่ แค่ทำให้ ภาษาอังกฤษ3ตัวเราผ่านฉลุย เกรด4ประดับใบประกาศ และได้เข้าแข่งขันการพูดภาษาอังกฤษได้รางวัลที่3 แต่แข่งกัน5 คน 555555 แต่ในใบประกาศก็ไม่มีใครรู้หรอกว่ากี่คน อิอิ

และเพราะเกรดและรางวัลทำให้เราได้ทุนการศึกษา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาช่วยผลักดันให้

เรากลับมาเรียนอีกเทอมนึงก่อนจบ เราจะต้องทำโครงงานก่อนจบ สอนโดยอาจารย์ที่ปรึกษา เราเลือกทำ ชาจากดอกชมจันทร์ ราคาค่อนข้างแพง ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเยอะ อาจารย์ตรวจให้กี่ครั้งก็ไม่ผ่านซักที บวกกับอาจารย์ไม่สบายไม่ได้เข้าสอน เราก็ยิ่งงง พอเราทำส่ง ก็ไม่ผ่าน แก้ซ้ำไปวนมา เหนื่อยมาก เรากับเพื่อนท้อมาก เงินก็หมด วิชาอื่นก็ต้องทำรายงาน เราเคียดกันทั้งห้อง คาบหนึ่งวิชาบัญชี เราโดดเรียนกันยกห้อง เพราะเราเหนื่อยมาก และวิชานี้ เพื่อนเราเคยสาย15นาทีอาจารย์ไม่เช็คชื่อ วันนั้นอาจารย์สาย15นาทีเหมือนกันเราเลยหนีกันหมด ต่างคนต่างแตกย้ายไปทำรายงาน สรุปว่า อาจารย์บัญชีจะปรับตกทั้งห้อง แต่อาจารย์ที่ปรึกษาก็ช่วยไว้ โดยให้เราเขียนหลักภาษี 25 หน้า ส่ง แต่จะไม่ได้คะแนน เราก็ยอม แต่ยิ่งทวีความเคียดกับเรามากขึ้น

สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดเทอม เป็นสัปดาห์ที่เราจำได้อย่างดี วันศุกร์เราสอบเสร็จแล้วก็ไปฉลองกัน เพราะคิดเกรดแล้วไม่มีเพื่อนคนไหนตก แต่เหลือวิชาโครงการที่เราไม่มั่นใจ แต่ก็ส่งแล้ว เพราะเราพรีเซ้นต่อหน้าท่านผอ.แล้ว  ท่านประทับใจ เราก็คิดว่าผ่านแล้ว
แต่!!!!

วันเสาร์ 8โมง เพื่อนเราโทรหาบอกเราว่าอาจารย์นัดเพื่อนทั้งห้องมาแก้งานก่อนเที่ยง บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด นั่งรถประมาณ ชั่วโมงครึ่ง เรามาถึงประมาณ 11โมงกว่าๆ มีเงินติดตัวไป200บาท ไม่กล้ากินข้าว เพราะกลัวว่า ถ้าเราไปกินแล้วอาจารย์มา จะไม่เจอ จะกลายเป็นว่าเราสาย เรารอจนบ่ายกว่าๆ อาจารย์เพิ่งมา อาจารย์บอกให้เราแก้งาน และแก้ชิ้นงาน ซึ้งเป็นซองชา แต่เราบอกเพื่อนว่า จะแก้แค่ซองนะ เราไม่มีเงินแล้ว เพื่อนเราก็บอกว่า เค้าก็ไม่มีเหมือนกัน หลังจากที่เรานำซองชาไปแก้ไขเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ทำไปประมาณ100 บาท เพื่อนเราท้อแท้มาก บอกเราว่าไม่ไหวแล้วนะ เราก็ไปส่งอาจารย์แค่นั้น พร้อมบอกว่า
เรา : หนูไม่ได้แก้เล่มนะคะ
อาจารย์ : ถ้าส่งแค่นี้ ก็เอาคะแนนไปแค่ที่ส่งนะ

เราได้ยินแบบนั้นเราก็โมโหมากเพราะเราทำเต็มที่แล้ว เรายืนขึ้น

เรา : ค่ะ แค่ไหนหนูก็เอาแค่นั้น ตอนนี้เงินหนูก็หมดแล้ว เงินที่ฝากไว้ในธนาคารโรงเรียนก็เบิกมาหมดแล้ว หนูทำเต็มที่แล้วค่ะ หนูเรียนปวช.นะคะ ไม่ใช่เรียนมหาลัย หนูทำได้แค่นี้ อาจารย์ตัดเกรดเลยค่ะ

เราจำได้ว่าเราใส่อารมณ์ไปเต็มที่ เพื่อนๆเห็นเราไม่แก้เลยไม่แก้ส่งไปแบบนั้นเหมือนกัน เพื่อนยิ้มให้เราเหมือนให้กำลังใจ แต่ในใจรู้สึกผิด แต่ก็ไม่ได้ขอโทษท่าน

วันประกาศผลว่าจบหรือไม่จบ เกรดวิชาโครงการ เราได้เกรด4กันทั้งห้อง เราดีใจมากๆ เราสมัครต่อ ปวส.ที่นั่น จ่ายเงินค่าเทอมแล้ว ช่วงปิดเทอม เราแอบไปสมัครสอบพนักงานราชการ ตำแหน่งพนักงานธุรการ ปรากฏว่าเราสอบติด เราดีใจมากโทรไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา ท่านดีใจมากแสดงความยินดีกับเรา พอเปิดเทอม เราก็ไปทำเรื่องลาออกเป็นเรื่องเป็นราว เพราะกลัวเสียประวัติ วันนั้นท่านร้องไห้ เรายื่นใบลาออกให้ท่านเซน ท่านบอกว่า

"ครูภูมิใจนะ"

กอดเราและร้องไห้ ต่อหน้าน้องๆในห้องเรียน ท่านอวดเรากับน้องๆว่าท่านสอนมา ได้เกรดดี ได้งานดี เราร้องไห้ ไหว้แกแล้วรีบนำเรื่องไปยื่นให้เสร็จเรียบร้อย เพราะต้องไปมอบตัวกับที่ทำงานอีก

หลายปีผ่านไป เราไม่ได้กลับมาวิทยาลัยเลย รับรู้ข่าวจากเพื่อนที่เรียนต่อปวส.บ้าง เราอยากเข้าไปเจออาจารย์ แต่ไม่สะดวก เพราะที่ทำงานเราอยู่อีกจังหวัดนึง

จนวันนึง เพื่อนเราบอกว่า
เพื่อน : อาจารย์จะเกษียณแล้วนะ ท่านถามเธอด้วย เพื่อนคนอื่นๆด้วย
เรา : จริงดิไวจัง เรานัดกันไปเจอท่านดีมั๊ย
เพื่อน : เคๆ

หลังจากที่เราตกลงกัน นัดวันและเวลามา โดยมีอาจารย์ท่านหนึ่งคอยช่วยเหลือโดยไม่บอกอาจารย์ที่ปรึกษา กะจะเซอร์ไฟส์

พอเราเปิดประตูเข้าไป
อาจารย์ : เห้ย มาทำไรกันเนี้ย
แล้วก็วิ่งออกมากอดเรา
เรา : หนูมาหา หนูคิดถึง
อาจารย์ : ครูก็คิดถึง รู้มั๊ย ช่วงที่ชมจันทร์ออกดอก ครูคิดถึงเธอมาก
TT,TT

จากนั้นเราก็คุยกัน เพื่อนเริ่มมากันหลายคนยิ่งเฮฮา
อาจารย์ : ตั้งแต่ครูสอนมา รุ่นเนี้ย ทำครูเหนื่อยสุดเลยนะ เคี่ยวเข็ญกันสุดๆจริงๆ
พวกเราก็หัวเราะเฮฮา
อาจารย์ : ทำงานเป็นยังไงบ้าง
เรา : เหมือนที่ครูสอนเลยค่ะ เหมือนมากกกกก
อาจารย์ : เห็นม่ะ ครูสอนไปไม่เสียหลายหรอก แล้วนี้จะแต่งงานรึยัง
เรา : ใกล้แล้วค่ะ ปีหน้า
อาจารย์ : กะใคร คนเดิมป่าว (หมายถึงคนที่คนกันตอนปี1เทอม2)
เรา : ใช่ค่ะ ^/////^
อาจารย์ : คบกันนานนะ วันไหนละบอกครูด้วย ครูจะไป ครูว่างแล้ววว
เราคุยกันหลายชั่วโมง แต่เหมือนแป็บเดียว

น่าเสียดายที่วันนั้นเพื่อนเราไปไม่ครบ และอาจารย์ท่านมีนัดท่านข้าวตอน11โมง อาจารย์เลยอดเลี้ยงข้าวเรา อิอิ

วันที่ท่านเกษียณ ท่านสวยมาก ท่านบอกว่า พี่น้องชวนขายของ แต่เราบอกท่านว่า
เรา : อาจารย์ค่ะ เหนื่อยมามากแล้ว พักเถอะค่ะ ไปเที่ยวให้สบายอารมณ์ไปเลย
อาจารย์ก็หัวเราะเรา

ทุกอย่างแฮปปี้มากค่ะ มันทำให้เราคิดได้ว่า
.....เราเรียนจบ มีหน้าที่การงานดี เลี้ยงดูพ่อแม่ได้ มีครอบครัวที่ดี ไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องเราเท่านั่นที่ภูมิใจ แต่คนที่ให้วิชาความรู้ ท่านก็ภูมิใจ.....

รักครูมากนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่