การอธิบายกรุ๊ปเลือดด้วยเซต
-------
เรื่องกรุ๊ปเลือดนั้นสามารถอธิบายด้วยการใช้แผนภาพของเวนน์ในทฤษฏีเซตได้เป็นอย่างดี
* กรุ๊ปเลือดระบบ ABO
กรุ๊ปเลือดที่นิยมกันมากที่สุดก็เป็นการสังเกตแอนติเจนที่มีอยู่ในเลือด
- คนมีแอนติเจน A ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่า มีหมู่เลือด A (กรุ๊ป A)
- คนมีแอนติเจน B ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่ามีหมู่เลือด B
- คนมีแอนติเจน AB ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่ามีหมู่เลือด AB
- คนไม่มีแอนติเจน A และB ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่ามีหมู่เลือด O
ถ้าเรากำหนดให้
เซต A คือเซตของคนที่มีแอนติเจน A
เซต B คือเซตของคนที่มีแอนติเจน B
เราจะเขียนแผนภาพเวนน์ในทฤษฏีเซตได้ดังรูปที่ 1
ตรงกลางที่อยู่ในส่วนของ A และ B (ภาษาตรรกศาสตร์เรียกว่าอินเตอร์เซกชันของเซต A และ B) ก็จะมีเอนติเจนทั้ง A และ B คนอยู่บริเวณนั้นคือคนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือด AB
* การรับบริจาคเลือด
สำหรับการรับบริจาคเลือด คนรับบริจาคเลือดต้องมีแอนติเจนทั้งหมดที่คนบริจาคเลือดมี
ยกตัวอย่างเช่น คนรับบริจาคมีกรุ๊ปเลือด B ในร่างกายจะมีแอนติเจน B จึงรับเลือดจากคนที่มีแอนติเจน B หรือไม่ก็ได้ แต่ห้ามรับจากคนที่มีแอนติเจน A สรุปแล้วคนมีเลือดกรุ๊ป B สามารถรับบริจาคเลือดจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป
B (มีแอนติเจน B ในเลือด) และ
O (ไม่มีแอนติเจน A และ B ในเลือด) เท่านั้น
สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือด AB แสดงว่าร่างกายมีแอนติเจน A และ B จึงสามารถรับเลือดได้จากทุกกรุ๊ปคือ A, B และ O
สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือด O แสดงว่าร่างกายไม่มีทั้งแอนติเจน A และ B จึงรับเลือดจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป O ได้เท่านั้น
* กรุ๊ปเลือดระบบ Rh
ระบบเลือดแบบนี้จะละเอียดกว่าระบบ ABO คือมีการพิจารณาแอนติเจน Rh ในเลือดเพิ่มเข้ามา
สำหรับคนที่มีแอนติเจน Rh ในเลือด เราเรียกว่า Rh+ (อ่านว่า Rh บวก) คนที่ไม่มีแอนติเจน Rh ในเลือด เราเรียกว่า Rh- (อ่านว่า Rh ลบ)
ในการเขียนแผนภาพเวนน์ในทฤษฏีเซตก็จะละเอียดขึ้นดังรูปที่ 2 โดยให้ Rh เป็นเซตของคนที่มีแอนติเจน Rh ในเลือด
ส่วนการบริจาคเลือดนั้นยังคงใช้หลักการเดิม ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีเลือด A+ หมายถึงคนที่มีแอนติเจน A และ Rh ในเลือด สามารถรับบริจาคเลือดจากคนที่มีแอนติเจน A และ Rh เท่านั้น นั่นคือคนที่มีกรุ๊ปเลือด A+, A-, O+ และ O- ในกรณีนี้จะดูด้วยเซตง่ายมากเพราะตัดช่องที่อยู่ในเซต B ออกทั้งหมดก็จะได้คำตอบ (A+ จะรับแอนติเจน B เข้ามาในร่างกายไม่ได้)
หากเข้าใจหลักการของทฤษฎีเซต เราก็สามารถใช้เซตอธิบายเรื่องการรับบริจาคเลือดได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากคนแทบทั้งหมดจะมีแอนติเจน Rh จึงทำให้ไม่พูดถึงแอนติเจน Rh กันมากนัก สำหรับคนที่ไม่มีแอนติเจน Rh จะเป็นกลุ่มคนพิเศษที่จะต้องหาเลือดจากคนกลุ่มที่ไม่มีแอนติเจนนี้เหมือนกัน
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการนำความรู้เรื่องการแบ่งกรุ๊ปเลือดต่างๆ มาใช้ในการรับบริจาคเลือด และต่อมาก็ได้นำมาใช้ในการสร้างธนาคารเลือดสมัยใหม่ด้วย
บทความนี้ทำให้เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างวิชาคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ถ้าใครเรียนเรื่องเซต บทความนี้น่าจะช่วยให้เห็นคุณค่าของการเรียนเรื่องเซตมากยิ่งขึ้น ผู้อ่านคิดอย่างผมไหมครับ
Dr.Noom MathLover
ที่มาบทความนี้ :
http://on.fb.me/1NbV7yB
สนใจบทความลักษณะนี้สามารถชมได้จากแฟนเพจ
https://www.facebook.com/Dr.NoomMathLover
การอธิบายกรุ๊ปเลือดด้วยเซต
การอธิบายกรุ๊ปเลือดด้วยเซต
-------
เรื่องกรุ๊ปเลือดนั้นสามารถอธิบายด้วยการใช้แผนภาพของเวนน์ในทฤษฏีเซตได้เป็นอย่างดี
* กรุ๊ปเลือดระบบ ABO
กรุ๊ปเลือดที่นิยมกันมากที่สุดก็เป็นการสังเกตแอนติเจนที่มีอยู่ในเลือด
- คนมีแอนติเจน A ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่า มีหมู่เลือด A (กรุ๊ป A)
- คนมีแอนติเจน B ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่ามีหมู่เลือด B
- คนมีแอนติเจน AB ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่ามีหมู่เลือด AB
- คนไม่มีแอนติเจน A และB ในเลือด
เราเรียกคนนั้นว่ามีหมู่เลือด O
ถ้าเรากำหนดให้
เซต A คือเซตของคนที่มีแอนติเจน A
เซต B คือเซตของคนที่มีแอนติเจน B
เราจะเขียนแผนภาพเวนน์ในทฤษฏีเซตได้ดังรูปที่ 1
ตรงกลางที่อยู่ในส่วนของ A และ B (ภาษาตรรกศาสตร์เรียกว่าอินเตอร์เซกชันของเซต A และ B) ก็จะมีเอนติเจนทั้ง A และ B คนอยู่บริเวณนั้นคือคนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือด AB
* การรับบริจาคเลือด
สำหรับการรับบริจาคเลือด คนรับบริจาคเลือดต้องมีแอนติเจนทั้งหมดที่คนบริจาคเลือดมี
ยกตัวอย่างเช่น คนรับบริจาคมีกรุ๊ปเลือด B ในร่างกายจะมีแอนติเจน B จึงรับเลือดจากคนที่มีแอนติเจน B หรือไม่ก็ได้ แต่ห้ามรับจากคนที่มีแอนติเจน A สรุปแล้วคนมีเลือดกรุ๊ป B สามารถรับบริจาคเลือดจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป
B (มีแอนติเจน B ในเลือด) และ
O (ไม่มีแอนติเจน A และ B ในเลือด) เท่านั้น
สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือด AB แสดงว่าร่างกายมีแอนติเจน A และ B จึงสามารถรับเลือดได้จากทุกกรุ๊ปคือ A, B และ O
สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือด O แสดงว่าร่างกายไม่มีทั้งแอนติเจน A และ B จึงรับเลือดจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป O ได้เท่านั้น
* กรุ๊ปเลือดระบบ Rh
ระบบเลือดแบบนี้จะละเอียดกว่าระบบ ABO คือมีการพิจารณาแอนติเจน Rh ในเลือดเพิ่มเข้ามา
สำหรับคนที่มีแอนติเจน Rh ในเลือด เราเรียกว่า Rh+ (อ่านว่า Rh บวก) คนที่ไม่มีแอนติเจน Rh ในเลือด เราเรียกว่า Rh- (อ่านว่า Rh ลบ)
ในการเขียนแผนภาพเวนน์ในทฤษฏีเซตก็จะละเอียดขึ้นดังรูปที่ 2 โดยให้ Rh เป็นเซตของคนที่มีแอนติเจน Rh ในเลือด
ส่วนการบริจาคเลือดนั้นยังคงใช้หลักการเดิม ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีเลือด A+ หมายถึงคนที่มีแอนติเจน A และ Rh ในเลือด สามารถรับบริจาคเลือดจากคนที่มีแอนติเจน A และ Rh เท่านั้น นั่นคือคนที่มีกรุ๊ปเลือด A+, A-, O+ และ O- ในกรณีนี้จะดูด้วยเซตง่ายมากเพราะตัดช่องที่อยู่ในเซต B ออกทั้งหมดก็จะได้คำตอบ (A+ จะรับแอนติเจน B เข้ามาในร่างกายไม่ได้)
หากเข้าใจหลักการของทฤษฎีเซต เราก็สามารถใช้เซตอธิบายเรื่องการรับบริจาคเลือดได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากคนแทบทั้งหมดจะมีแอนติเจน Rh จึงทำให้ไม่พูดถึงแอนติเจน Rh กันมากนัก สำหรับคนที่ไม่มีแอนติเจน Rh จะเป็นกลุ่มคนพิเศษที่จะต้องหาเลือดจากคนกลุ่มที่ไม่มีแอนติเจนนี้เหมือนกัน
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการนำความรู้เรื่องการแบ่งกรุ๊ปเลือดต่างๆ มาใช้ในการรับบริจาคเลือด และต่อมาก็ได้นำมาใช้ในการสร้างธนาคารเลือดสมัยใหม่ด้วย
บทความนี้ทำให้เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างวิชาคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ถ้าใครเรียนเรื่องเซต บทความนี้น่าจะช่วยให้เห็นคุณค่าของการเรียนเรื่องเซตมากยิ่งขึ้น ผู้อ่านคิดอย่างผมไหมครับ
Dr.Noom MathLover
ที่มาบทความนี้ : http://on.fb.me/1NbV7yB
สนใจบทความลักษณะนี้สามารถชมได้จากแฟนเพจ https://www.facebook.com/Dr.NoomMathLover