หาก Definitely Maybe งานชุดแรกทำให้วงบริทร็อค แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ แจ้งเกิดในวงการดนตรีโลก (What's the Story) Morning Glory? ก็คืออัลบั้มที่ทำให้ 5 หนุ่มจากเมืองผู้ดี ยกสถานะตัวเองขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ ด้วยยอดขายระดับแพลตตินั่มและเพลงฮิตมากมายที่เข้ามาถล่มชาร์จทั่วโลก

วันที่ 2 ตุลาคม 1995 ครีเอชั่น ต้นสังกัดของ Oasis ในเวลานั้น ได้ปล่อยสตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของพวกเขาออกมาเพื่อสานต่อความสำเร็จจากงานชุดที่แล้ว โดยชุดนี้ โอเวน มอร์ริส และ โนล กัลลาเกอร์ สองมือกีต้าร์ของวงรับหน้าที่โปรดิวเซอร์หลัก ขณะที่เนื้อเพลง โนล ก็รับหน้าที่เหมาเองเหมือนเดิม ส่วนสมาชิกในวงมีหน้าใหม่เข้ามาหนึ่งรายคือ อลัน ไวท์ ที่มาตีกลองแทน โทนี แม็คคาร์โรล มือกลองชุดแรกที่ดันมีปัญหากับพี่น้องตัวแสบจนโดนไล่ออกมา โดยทิ้งเพลง Some Might Say ที่อัดกลองเสร็จแล้วไว้ให้ดูต่างหน้า




อัลบั้มนี้อุดมไปด้วยเพลงฮิตที่สามารถตัดมาเป็นซิงเกิลได้ทั้งอัลบั้ม ตั้งแต่ Hello เพลงเปิดหัวที่ยังไม่ทิ้งสำเนียงบริท-ป๊อปอันเป็นเอกลักษณ์ และเสียงร้องของ เลียม กัลลาเกอร์ ที่ยียวนไม่เปลี่ยน, Roll With It เพลงที่ตัดออกมาสู้กับ Country House ของวงคู่แค้น Blur ซึ่งก็เป็นอีกเพลงฮิตแม้ยอดขายจะแพ้คู่แข่งแบบเฉียดฉิว, Champagne Supernova พาคนฟังเคลิบเคลิ้มล่องลอยไปนอกอวกาศ, Wonderwall เพลงชาติประจำวงที่ฮิตระเบิดระเบ้อ และที่ขาดไม่ได้คือ Don't Look Back in Anger เพลงรักอารมณ์จิ๊กโก๋ที่ โนล ได้โชว์เสียงร้องของตัวเอง และเป็นเพลงฮิตที่ทำให้คนทั่วโลกไม่มีใครไม่รู้จัก Oasis อีกต่อไป



การมาของงานชุดนี้ทำให้ Oasis ยกสถานะตัวเองขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการดนตรีอังกฤษอย่างแท้จริง พอๆกับฝีปากของ เลียม และ โนล ที่กร่างและกล้าหาญชาญชัยยิ่งกว่าเดิม แม้การบันทึกเสียงจะเต็มไปด้วยปัญหาเพราะ เลียม กับ โนล มีเรื่องทะเลาะกันแทบทุกวันโดยเฉพาะเรื่องแย่งเพลงกันร้อง (โนล เอา Wonderwall กับ Don't Look Back in Anger มาให้ เลียม เลือกว่าจะร้องเพลงไหน แต่ไอ้น้องชายตัวดีอยากร้องหมด ก่อให้เกิดสงครามย่อมๆในสตูดิโอ แต่สุดท้ายผลลัพธ์เป็นอย่างที่เห็นกันว่าใครได้ร้องเพลงอะไร)



สำหรับอัลบั้มนี้ทำยอดขายไปแล้ว 20 ล้านชุดทั่วโลก โดยเฉพาะที่บ้านเกิดนี่เกลี้ยงแผงในไม่กี่ชั่วโมงจนได้ยอดขายระดับ แพลตตินั่ม (ไม่รวมยอดขายรีมาสเตอร์ที่ออกมาเมื่อปีก่อน) ก่อนจะได้ขึ้นโชว์สุดยิ่งใหญ่ที่ Knebworth ต่อหน้าคนดู 250,000 คนที่มาชมกันแน่นตลอด 2 คืน แถมเพลง Wonderwall ก็เป็นที่ฮอตฮิตของคนฟังเพลงฝั่งอเมริกา จนกลายเป็นใบเบิกทางให้พวกเขาได้ไปทัวร์ที่เมืองลุงแซมเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นทัวร์ที่พังพินาศเพราะพี่น้องดันทะเลาะกันเองจนโชว์ล่มไม่เป็นท่า




เรียกได้ว่าช่วงปี 1994-1996 นี่ ไม่มีวงไหนอีกแล้วจะมาหยุดความร้อนแรงของวงร็อคขวัญใจชนชั้นแรงงานนี้ได้ แม้กระทั่ง Blur ถึงจะเป็นผู้ชนะการต่อสู้ Battle of Britpop ครั้งนี้ในเรื่องยอดขายซิงเกิล Country House แต่อัลบั้มเต็ม The Great Escape ที่ออกมาปีเดียวกันก็ถูกสับเละว่าห่วยแตกในสายตาของคนฟังเพลง (ยกเว้นนักวิจารณ์ที่ชื่นชอบเหลือเกิน) ก่อนที่ความนิยมของพวกเขาจะเริ่มลดลงจากอัลบั้มชุดถัดๆหลังจากนั้น

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้งานเขียนครบรอบ 20 ปี ของอัลบั้มคลาสสิคนี้ คือหนึ่งในเนื้อหาที่เราเขียนในเพจ https://www.facebook.com/hearandwatch/posts/482566011923049 เพจดนตรีพูดคุยเรื่องเพลงไทย-สากล อัลบั้มเพลงไทย-สากล และงานคอนเสิร์ตต่างๆที่เราไปดูมา เพื่อนๆคนไหนสนใจคลิกเข้าไปพูดคุยกันได้นะครับ