ภาพเก่าเล่าเรื่อง
วัดบุรณศิริมาตยาราม
ภาพที่อยู่ในอัลบั้มเล่มที่ ๑ ชุดแรกเป็นภาพของบิดามารดาและพี่ ๆ ที่อยู่ในสวนหลังวัดใหม่พิเรนทร์เมื่อผมอายุ ๑-๔ ขวบ
ส่วนชุดที่ ๒ ก็เป็นภาพการอุปสมบท เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ อายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ที่วัดบุรณศิริมาตยาราม
แต่ไปหาประวัติจากวิกิพีเดีย ก็มี นิดหน่อย
หาจากหนังสือวัดในกรุงเทพ ก็มีอยู่นิดเดียว ว่า
วัดบุรณศิริมาตยาราม เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี ต้นสกุล บุรณศิริ เป็นผู้สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อแรกสร้าง รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า วัดศิริอำมาตยาราม ต่อมารัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดบุรณศิริมาตยาราม
ก็เลยต้องเอามาจากความจำของตนเอง ในฐานะที่บวชเรียนอยู่ที่นี่ถึงหนึ่งพรรษา
วัดบุรณศิริมาตยาราม ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมรัตนโกสินทร์ หรือโรงแรมรอแยล ด้านริมคลองหลอด (ที่เรียกชื่อใหม่ว่า คลองคูเมืองเดิม)
ฝั่งตรงข้ามกับคลองหลอด เป็นศาลยุติธรรม มุมอนุสาวรีย์พระแม่ธรณีบีบผมมวย ตรงข้ามเป็นสนามหลวงหรือทุ่งพระเมรุในสมัยก่อน
ผมได้อุปสมบทเมื่อวัน เสาร์ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๔๙๕ เวลา ๑๔.๐๐ น.
ยี่สิบแปดมิถุนาเก้าห้าศก
ข้างขึ้นตกหกค่ำจำพรรษา
บุรุษหนึ่งพึงเข้าบรรพชา
ในพระพุทธศาสนาด้วยชื่นชม
ท่านเจ้าคุณญาณเวทีมีชื่อเด่น
ท่านรับเป็นอุปัชฌาย์สง่าสม
อีกท่านเริ่มพระปลัดจัดอบรม
ตามนิยมเถระพระอาจารย์
พอได้ฤกษ์นาฬิกาสิบห้านอ
ไม่รั้งรอเริ่มบวชพระสวดขาน
ทั้งคู่สวดอุปัชฌาย์อีกอาจารย์
ไม่ช้านานก็สำเร็จเสร็จพิธี
ได้รับชื่อฉายาดูท่าโก้
ปภัสสโร เหมาะนักสมศักดิ์ศรี
รักษาศีลภาวนาหมดราคี
เพื่อแสดงกตเวทีต่อมารดา
งานสำเร็จเสร็จไปได้เรียบร้อย
แม้จะน้อยแต่ก็งานตามประสา
เห็นหน้าญาติพร้อมพรั่งตั้งศรัทธา
ทั้งพี่ป้าน้าอาตื้นตันใจ
อีกมวลหมู่มิตรสหายทั้งชายหญิง
ไม่ทอดทิ้งเหินห่างไปทางไหน
มาร่วมงานคับคั่งสมดังใจ
แม้นานไปยังปลาบปลื้มไม่ลืมเอย
วันเสาร์เอาภาพเก่ามาเล่าเรื่องอดีต ๓ ต.ค.๕๘
วัดบุรณศิริมาตยาราม
ภาพที่อยู่ในอัลบั้มเล่มที่ ๑ ชุดแรกเป็นภาพของบิดามารดาและพี่ ๆ ที่อยู่ในสวนหลังวัดใหม่พิเรนทร์เมื่อผมอายุ ๑-๔ ขวบ
ส่วนชุดที่ ๒ ก็เป็นภาพการอุปสมบท เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ อายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ที่วัดบุรณศิริมาตยาราม
แต่ไปหาประวัติจากวิกิพีเดีย ก็มี นิดหน่อย
หาจากหนังสือวัดในกรุงเทพ ก็มีอยู่นิดเดียว ว่า
วัดบุรณศิริมาตยาราม เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี ต้นสกุล บุรณศิริ เป็นผู้สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อแรกสร้าง รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า วัดศิริอำมาตยาราม ต่อมารัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดบุรณศิริมาตยาราม
ก็เลยต้องเอามาจากความจำของตนเอง ในฐานะที่บวชเรียนอยู่ที่นี่ถึงหนึ่งพรรษา
วัดบุรณศิริมาตยาราม ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมรัตนโกสินทร์ หรือโรงแรมรอแยล ด้านริมคลองหลอด (ที่เรียกชื่อใหม่ว่า คลองคูเมืองเดิม)
ฝั่งตรงข้ามกับคลองหลอด เป็นศาลยุติธรรม มุมอนุสาวรีย์พระแม่ธรณีบีบผมมวย ตรงข้ามเป็นสนามหลวงหรือทุ่งพระเมรุในสมัยก่อน
ผมได้อุปสมบทเมื่อวัน เสาร์ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๔๙๕ เวลา ๑๔.๐๐ น.
ยี่สิบแปดมิถุนาเก้าห้าศก
ข้างขึ้นตกหกค่ำจำพรรษา
บุรุษหนึ่งพึงเข้าบรรพชา
ในพระพุทธศาสนาด้วยชื่นชม
ท่านเจ้าคุณญาณเวทีมีชื่อเด่น
ท่านรับเป็นอุปัชฌาย์สง่าสม
อีกท่านเริ่มพระปลัดจัดอบรม
ตามนิยมเถระพระอาจารย์
พอได้ฤกษ์นาฬิกาสิบห้านอ
ไม่รั้งรอเริ่มบวชพระสวดขาน
ทั้งคู่สวดอุปัชฌาย์อีกอาจารย์
ไม่ช้านานก็สำเร็จเสร็จพิธี
ได้รับชื่อฉายาดูท่าโก้
ปภัสสโร เหมาะนักสมศักดิ์ศรี
รักษาศีลภาวนาหมดราคี
เพื่อแสดงกตเวทีต่อมารดา
งานสำเร็จเสร็จไปได้เรียบร้อย
แม้จะน้อยแต่ก็งานตามประสา
เห็นหน้าญาติพร้อมพรั่งตั้งศรัทธา
ทั้งพี่ป้าน้าอาตื้นตันใจ
อีกมวลหมู่มิตรสหายทั้งชายหญิง
ไม่ทอดทิ้งเหินห่างไปทางไหน
มาร่วมงานคับคั่งสมดังใจ
แม้นานไปยังปลาบปลื้มไม่ลืมเอย