>>>>>>
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ทุกอย่างที่จะเล่าคือ ความจริงไม่ได้ปรุงแต่งเองขึ้นมา<<<<<<<<<<<<
ปกติแม่เราจะมีหมอประจำคนไข้อยู่ที่โรงบาลเอกชน จ.พิษณุโลก แต่บ้านอยู่ จ.เพชรบูรณ์ พอดีแม่เราป่วยกะทันหัน พ่อเลยรีบส่งไปโรงบาลตำบล แต่โรงบาลตำบลมีเคื่องมือไม่พอเลยส่งแม่ไปยังโรงบาลศูนย์ของจ.เพชรบูรณ์ พอไปถึงโรงบาลศูนย์เค้าได้ใส่สายออกซิเจนให้แม่ เพราะมีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ (จากการสันนิฐานของพยาบาลกะดึกเพราะเป็นตอนดึกพอดี) ซึ่งตอนนั้นแม่ก้นอนให้ออกซิเจนรอ หมอมา จน11:30น. หมอค่อยมา นานมาก เราสงสารแม่มาก (คือปกติโรงบาลเอกชนที่ไปประจำช่วงประมาณ8โมงหมอก้มาแล้ว)....เริ่มบทสนทนา หมอที่รอมาตรวจ จนถึง11:30น. แม่รอทั้งคืนและเกือบครึ่งวันนน
หมอ: อ่านป้ายชื่อมองหน้าแม่ "มาใหม่หรอ มีอาการเปนไง"
แม่: แน่นหน้าอก หน้ามึด หายใจไม่สะดวก มือเท้าเย็นชา หัวใจเต้นแรง (เสียงคนป่วย)
หมอ: แน่นหน้าอกตรงลิ้นปีกปะ
แม่: ไม่ตอบเพราะไม่รุ้ลิ้นปีกอยู่ใหน (คนแก่ไม่เคยเรียนมาจะรุ้ได้ไงวะอยู่ใหน)
หมอ: ฟังรุ้เรื่องมั้ย รุ้จักลิ้นปีกมั้ย ตรงเนี่ยๆ(เสียงตะคอก)
แม่: ตอบแบบ งงๆ ชะใช่ --!!!!
หมอ: แน่นหน้าอกยังไง เหมือนช้างเหยียบแมะ (สึดด ช้างเหยียบไงวะ ไม่เคยโดนช้างเหยียบ)
แม่: ไม่ได้ตอบตามเคย แม่ก้บอกไปว่า ก้ไม่รุ้ช้างเหยียบเป็นไงน้ออหมอ
หมอ: ตะคอก!!! คนไข้ฟังรุ้เรื่องมั้ย แน่นหน้าอกเหมือนช้างเหยียบอะ (เรานี่ลุกขึ้นยืน มองหน้าหมอละ แบบ พุดจาไม่ดีอะ ตะคอกทำไมอะ ไร้มารยาทวะ)
แม่: จากที่นอนอยู่ก้ลุกนั่งคุยกะหมอ เพราะหมอยืนอยู่ปลายเตียง แทนที่จะมายืนข้างๆเตียง แล้วแม่ตอบแบบ งงๆ ตามเคย พยักหน้า ค่า
หมอ : ก้แค่เนี่ยยย เดียวจัดยาให้กิน
----------แล้วหมอก้เดินดูคนไข้เตียงถัดไป พยาบาลก้เดินมาเตียงแม่------------
พยาบาล: อะปรอทวัดอุณหภูมิ อย่าทำหาย แตก ซื้อใช้ด้วย แล้วยัดใส่รักแร้แม่
-----จากการสังเกตุแล้วพยาบาลในแผนกนี้ คุยกันเสียงดังเหมือนตลาดสดกันเลยที่เดียว เดินลากเท้าซะด้วย (ใส่รองเท้าแตะจ้า)
-------จากที่แม่นอนอยู่โรงบาลนั้น สามคืน ก้ยังไม่มีการตรวจใดๆเกิดขึ้น นอกจาก จัดยาให้กิน จนคืนที่สี่หมอปล่อยแม่กลับบ้านค่าาาา------
-----วันที่ห้า แม่กับพ่อก้มาตรวจที่โรงบาลเอกชน จ.พิษณุโลก วันเดียวรุ้ผลเลยค่าาาาา แม่ไม่ได้เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ จากการไปซาวร์หัวใจมาหมอบอกว่าแม่มีอาการหัวใจพองโตเล็กน้อย แถมหมอแอบแซวแม่ว่า "คนไข้เบี้ยวนัดหมอนี่ แม่บอกว่าที่เบี้ยวเพราะเปนแบบนี้กะทันหันก่อน มาพิษณุโลกคงไม่ทัน เลยไปที่ไกล้ๆก่อนนะ หมอนะ "------------------ หมอยิ้มมมม

คือแบบ ทุกคนที่นี่บริการดีมากอะ ปลื้มปิติ ปรบมือ รัวๆๆๆๆๆ
>>สิ่งที่ไม่พอใจมากที่สุดจากโรงบาลรัฐแห่งหนึ่งที่เพรชบูรณ์ คือ หมอคุยไม่ดีกับคนไข้เลย จากการสังเกตุไม่มีพุด ค่ะ คะ เลย แถมตะคอกด้วย <<
>> ทุกอย่างดำเนินการช้าไปหมด แม่ต้องนอนให้ออกซิเจน ตลอด!!!! โดยไม่มีการตรวจใดๆ แม่ดูทรมานมากกก TTTT<<
>> พูดเลย ใครไม่อยู่ ณ จุดๆนี่ ก้ไม่รู้เลยว่า ตอน หมอตะคอก ใส่แม่แล้ว เรา อารมขึ้นแค่ใหน <<
นี่หรอ คือการบริการ ของหมอและพยาบาล โรงบาลรัฐแห่งหนึ่ง จ.เพชรบูรณ์
ปกติแม่เราจะมีหมอประจำคนไข้อยู่ที่โรงบาลเอกชน จ.พิษณุโลก แต่บ้านอยู่ จ.เพชรบูรณ์ พอดีแม่เราป่วยกะทันหัน พ่อเลยรีบส่งไปโรงบาลตำบล แต่โรงบาลตำบลมีเคื่องมือไม่พอเลยส่งแม่ไปยังโรงบาลศูนย์ของจ.เพชรบูรณ์ พอไปถึงโรงบาลศูนย์เค้าได้ใส่สายออกซิเจนให้แม่ เพราะมีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ (จากการสันนิฐานของพยาบาลกะดึกเพราะเป็นตอนดึกพอดี) ซึ่งตอนนั้นแม่ก้นอนให้ออกซิเจนรอ หมอมา จน11:30น. หมอค่อยมา นานมาก เราสงสารแม่มาก (คือปกติโรงบาลเอกชนที่ไปประจำช่วงประมาณ8โมงหมอก้มาแล้ว)....เริ่มบทสนทนา หมอที่รอมาตรวจ จนถึง11:30น. แม่รอทั้งคืนและเกือบครึ่งวันนน
หมอ: อ่านป้ายชื่อมองหน้าแม่ "มาใหม่หรอ มีอาการเปนไง"
แม่: แน่นหน้าอก หน้ามึด หายใจไม่สะดวก มือเท้าเย็นชา หัวใจเต้นแรง (เสียงคนป่วย)
หมอ: แน่นหน้าอกตรงลิ้นปีกปะ
แม่: ไม่ตอบเพราะไม่รุ้ลิ้นปีกอยู่ใหน (คนแก่ไม่เคยเรียนมาจะรุ้ได้ไงวะอยู่ใหน)
หมอ: ฟังรุ้เรื่องมั้ย รุ้จักลิ้นปีกมั้ย ตรงเนี่ยๆ(เสียงตะคอก)
แม่: ตอบแบบ งงๆ ชะใช่ --!!!!
หมอ: แน่นหน้าอกยังไง เหมือนช้างเหยียบแมะ (สึดด ช้างเหยียบไงวะ ไม่เคยโดนช้างเหยียบ)
แม่: ไม่ได้ตอบตามเคย แม่ก้บอกไปว่า ก้ไม่รุ้ช้างเหยียบเป็นไงน้ออหมอ
หมอ: ตะคอก!!! คนไข้ฟังรุ้เรื่องมั้ย แน่นหน้าอกเหมือนช้างเหยียบอะ (เรานี่ลุกขึ้นยืน มองหน้าหมอละ แบบ พุดจาไม่ดีอะ ตะคอกทำไมอะ ไร้มารยาทวะ)
แม่: จากที่นอนอยู่ก้ลุกนั่งคุยกะหมอ เพราะหมอยืนอยู่ปลายเตียง แทนที่จะมายืนข้างๆเตียง แล้วแม่ตอบแบบ งงๆ ตามเคย พยักหน้า ค่า
หมอ : ก้แค่เนี่ยยย เดียวจัดยาให้กิน
----------แล้วหมอก้เดินดูคนไข้เตียงถัดไป พยาบาลก้เดินมาเตียงแม่------------
พยาบาล: อะปรอทวัดอุณหภูมิ อย่าทำหาย แตก ซื้อใช้ด้วย แล้วยัดใส่รักแร้แม่
-----จากการสังเกตุแล้วพยาบาลในแผนกนี้ คุยกันเสียงดังเหมือนตลาดสดกันเลยที่เดียว เดินลากเท้าซะด้วย (ใส่รองเท้าแตะจ้า)
-------จากที่แม่นอนอยู่โรงบาลนั้น สามคืน ก้ยังไม่มีการตรวจใดๆเกิดขึ้น นอกจาก จัดยาให้กิน จนคืนที่สี่หมอปล่อยแม่กลับบ้านค่าาาา------
-----วันที่ห้า แม่กับพ่อก้มาตรวจที่โรงบาลเอกชน จ.พิษณุโลก วันเดียวรุ้ผลเลยค่าาาาา แม่ไม่ได้เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ จากการไปซาวร์หัวใจมาหมอบอกว่าแม่มีอาการหัวใจพองโตเล็กน้อย แถมหมอแอบแซวแม่ว่า "คนไข้เบี้ยวนัดหมอนี่ แม่บอกว่าที่เบี้ยวเพราะเปนแบบนี้กะทันหันก่อน มาพิษณุโลกคงไม่ทัน เลยไปที่ไกล้ๆก่อนนะ หมอนะ "------------------ หมอยิ้มมมม
>>สิ่งที่ไม่พอใจมากที่สุดจากโรงบาลรัฐแห่งหนึ่งที่เพรชบูรณ์ คือ หมอคุยไม่ดีกับคนไข้เลย จากการสังเกตุไม่มีพุด ค่ะ คะ เลย แถมตะคอกด้วย <<
>> ทุกอย่างดำเนินการช้าไปหมด แม่ต้องนอนให้ออกซิเจน ตลอด!!!! โดยไม่มีการตรวจใดๆ แม่ดูทรมานมากกก TTTT<<
>> พูดเลย ใครไม่อยู่ ณ จุดๆนี่ ก้ไม่รู้เลยว่า ตอน หมอตะคอก ใส่แม่แล้ว เรา อารมขึ้นแค่ใหน <<