@@@@@----- เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....ดู ห นั ง ดู ละ ค ร แ ล้ ว ย้ อ น ดู ต น....!!!!------@@@@@

กระทู้สนทนา
คำๆนี้จ่าว่าคำๆนี้ใช้กับปาร์ค ยอน มี ได้อย่างชัดเจน...!!!

เพราะสาวปาร์คเธอบอกว่า
"Watching Titanic made me realise
something was wrong in my country"

จ่าแปลเป็นไทยว่า....

"การได้ดูเรื่องไททานิคนั้น
มันทำให้ไอรู้สึกขึ้นมาทันทีค่ะ
ว่ามันน่าจะต้องอะไรที่ผิดปกติแน่ๆในประเทศไอ"

ใครอยากรู้รายละเอียดก็ไปหาอ่านเอาที่นี่ครับ

http://www.theguardian.com/world/2014/aug/26/north-korea-defector-titanic

เรื่องของเรื่องก็คือปาร์คอยู่ที่เกาหลีเหนือ
ประเทศนี้ก็เป็นที่รู้กันว่ามีกฏหมายแบบแปลกๆ
เพราะไอ้คิม จอง อึล มันจะทำยังไงก็ได้ตามใจมัน

ถ้าคุณเป็นคนเกาหลีเหนือ
แล้วคุณแอบดูหนังต่างชาติก็จะความผิดทันที

ถ้าคุณดูหนังรัสเซีย หรือ หนังอินเดีย "บอลลีวู๊ด" คุณจะโดนจำคุก3 ปี

แต่ถ้าคุณดันทะลึ่งไปแอบดูหนังอเมริกัน "ฮอลลีวู๊ด"
หรือ ดูหนังจากเกาหลีใต้บ้านพี่เมืองน้องแล้วล่ะก็ โทษที่จะได้รับคือ "ประหารชีวิต" เท่านั้น..!!

โหดยิ้มมั๊ยละครัฟฟฟฟ ?????












น้องปาร์คดันแอบดูเรื่อง "ไททานิค"
ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอเลย

ปาร์คแปลกใจมาก
ที่ไอ้ลีโอนิโด ดิคราปิโอ ในบท "แจ็ค" มันบูชาความรัก
และ ยอมตายเพื่อเคท วินสเล็ท ในบท "โรส" ท่ามกลางความเยือกเย็นของแอตแลนติค

ปาร์คไม่เข้าใจว่ามีผู้ชายที่ยอมตายเพื่อผู้หญิงด้วยหรือ ??
เพราะที่เกาหลีเหนือนั้น หากใครซักคนจะตายห่ะทั้งทีก็ต้องเพื่อชาติ
น้องปาร์ครู้สึกแปลกมากๆที่ผู้คนที่อื่นๆเขาให้ความสำคัญกับ "ความรัก"

ในขณะที่เกาหลีเหนือนั้น "ชาติ" ต้องมาก่อนอะไรทั้งนั้น
(พูดง่ายๆว่าถ้าหากจะตายห่ะทั้งที ก็ต้องยอมตายเพื่อ "ท่านคิม" นั่นแหละ)

น้องปาร์คก็เลยหนีออกจากเกาหลีเหนือ
เพราะพ่อของเธอโดนสั่งจำคุกที่ดันไปค้าขายกับจีน
ครอบครัวของปาร์คเลยเผ่นหนีเข้าจีน ก่อนที่จะขยับขยายไปมองโกเลีย

และ ท้ายที่สุดก็ขอลี้ภัยมาอยู่ในเกาหลีใต้ เพราะขืนอยู่บ้านตัวเองก็ตายห่ะแน่ๆ

แถมการมาอยู่เกาหลีใต้
ยังทำให้น้องปาร์คได้ออกมาจาก "กะลาท่านคิม" ได้พบชีวิตใหม่

เกาหลีใต้ก็เอาซิครับ....รีบอ้าแขนรับเลย
เพราะมันสามารถเอาเรื่องนี้มาตีกินในทางการเมืองได้
แถมน้องปาร์คก็ดันหน้าตาดี สวยอยู่ในระดับที่ "ปั้นได้" เลยว่างั้นเหอะ ..!!!!









น้องปาร์คเล่าว่า
ไอ้คิม ของ อึล มันกดขี่ทุกอย่าง
กดขี่แม้กระทั่งความรักของคนหนุ่มสาว
ทำให้คนหนุ่มสาวเกาหลีเหนือไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงออกซึ่งการบูชาความรักเหมือนคนชาติอื่นๆ

เพราะหากใครอยู่ที่นั่น
ก็จะต้องรักชาติ และ จงรักภักดีต่อไอ้คิมเพียงอย่างเดียว

ยิ่งถูกกดมาก
คนเกาหลีเหนือก็ยิ่งหา "รูระบาย"

น้องปาร์คเล่าว่ามีคนเกาหลีเหนือที่ชื่นชมตะวันตก
และ ชอบระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอยู่มากมาย
แต่ต้องชอบแบบลับๆ แอบๆ ห้ามแสดงออกนะครับ

เพราะหากทางการรู้ รับรองว่าได้ไปเฝ้า "ท่านยม" แน่ๆ

ตอนที่ปาร์คอายุ 9 ขวบ
เธอโดนท่านผู้นำบังคับให้ไปดูการประหารชีวิต
คนที่โดนประหารนั้น ก็เป็นแม่ของเพื่อนร่วมชั้นเรียน

เพราะคุณแม่คนนี้ดันมีหนังที่มาจากเกาหลีใต้ และ เอาหนังเรื่องนี้ไปให้เพื่อนยืม

ยืมกันอีท่าไหนไม่รุ้
ปรากฏว่าทางการจับได้ และ สั่งประหารชีวิต
โดยประหารกันแบบเถื่อนๆในสนามกีฬาประจำเมืองนั่นแหละ







ปาร์คเล่าว่า....

"แม่เพื่อนไอโดนประหารต่อหน้าพวกเรา
ไอยืนอยู่ข้างๆเพื่อนไอที่เป็นลูกสาวของคนที่โดนประหาร
ทุกคนในโรงเรียนของไอโดนทางการให้เข้าไปในสนามกีฬาเพื่อดูการประหาร"

หนังต่างชาติที่แอบดูกันในเกาหลีเหนือนั้น
มักถูกแอบเอาเข้าไปในรูปแบบของ CD , DVD
แต่หากจะเอาแบบไฮเทคหน่อย ก็มีคนแอบนำเข้าในลักษณะของแฟลชไดร้ฟ์

และ ซื้อ-ขายกันในตลาดมืดในราคาที่แพงโคตรๆ

แม้จะโดนปิดกั้นทุกทาง
แต่คนเกาหลีเหนือที่นิยมเสพหนังต่างชาตินั้น
ก็ยังคงพยายามที่จะหาทางแอบดูกันอย่างมากมาย
เพราะการดูหนังต่างชาติมันคือการเปิดโลกให้รู้ว่าบ้านเมืองอื่นเขาเป็นยังไง





ราคาในตลาดมืดก็ไม่ได้ถูกๆนะครับ

ปาร์คบอกว่า "รู้มั๊ยคะว่า DVD 1 แผ่นราคาเท่ากับข้าวสาร 2 กก.เลยค่ะ"

ด้วยราคาที่โคตรแพง
คนเกาหลีเหนือเลยต้องใช้วิธีหยิบยืมแลกเปลี่ยนกัน
ก็ไอ้เพราะยืมกันไปยืมกันมานี่แหละครับ ที่ทำให้ทางการจับได้ และ ประหาร

แต่ในความเสี่ยงนั้น
มันก็มีความท้าทายเจือปนอยู่

ปาร์คถ่ายทอดว่า....

"ในเกาหลีเหนือมันไม่มีอะไรที่สนุกตื่นเต้นเลย
การแอบดูหนังแบบที่พวกเราทำอยู่นี่แหละ ที่เป็นความมันส์ทำให้ชีวิตมีรสชาติ
แม้พวกเราจะกลัวโดนจับได้ แต่มันก็แค่ความกลัวที่ไม่อาจมาหยุดยั้งพวกเราได้
การได้ดูหนังของประเทศอื่นๆมันทำให้เราได้ลิ้มรสชาติของความหวัง ได้เปิดโลกทัศน์ของเราค่ะ"

ละครทีวี , หนังสือ และ เพลง ในเกาหลีเหนือนั้น
มันล้วนแล้วแต่มีศูนย์กลางแห่งความรักอยู่ที่ไอ้คิม จอง อึล

ส่วนความรักแบบคนหนุ่มสาวนั้น
มันก็คือเรื่องต้องห้ามในที่สาธารณะ

ดังนั้นเรื่องราวของความบันเทิงที่เป็น passion
ที่เป็นความรักแบบหนุ่มสาวจึงไม่มีโอกาสได้เผยแพร่ในเกาหลีเหนือเลย





ปาร์คแสดงความมั่นใจว่า
"ไอเชื่อว่าซักวันหนึ่งมันคงจะมีเสรีภาพ และ ความรัก เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือค่ะ"

ปัจจุบันปาร์คทำงานในบริษัทที่เกี่ยวกับวิชาการที่ชื่อ "ฟรีด้อม แฟคทอรี่"
โดยที่งานของเธอคือการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในด้านต่างๆของเกาหลีเหนือ







จ่าว่าน้องปาร์คโชคดีจริงๆว่ะ
อย่างน้อยก็โชคดีกว่าแม่เพื่อนของเธอ
ที่โดนประหารในสนามกีฬาเพียงเพราะดูหนังที่มาจากต่างประเทศ !!!!!!











ขอบคุณพี่ผุยแห่งห้องย่อยบีเทิ่ลส์ ที่สละล็อคอินมาให้จ่าลุยต่อครับ






จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่