
เมื่อวันที่ 26 – 29 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปปั่นไปเที่ยวรอบ ๆ ภาคตะวันออกของไทยเรา ด้วยจำนวนเพียง 4 วัน (เดิมตั้งใจไว้ 5 วัน แต่อยากกลับไปอยู่บ้านบ้าง)
เคยเกรินๆ กันเพื่อนๆ ที่ปั่นด้วยกันว่าจะไป แต่พอ 2-3 วันสุดท้ายกลับถูกปฏิเสธ ทำให้รู้สึกว่าเราเองก็ลาพักผ่อนไปแล้ว เกิดนึกเสียดายในการเตรียมการณ์นี้ขึ้นมา ถ้าไม่ลองทำมันด้วยตัวเราเอง กล้สที่จะไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองแล้วจะรอใครมารอเราล่ะ
[โอกาสอยู่ในกำมือเรา เริ่มมันเองเลยดีกว่า....]
เช้ามืดวันนั้น (26 กันยา) ราว ตี 4 ครึ่ง ผมไม่รอช้าหลังจากที่เมื่อคืนนั้นได้จัดแจงเตรียมข้าวของพร้อมลุยไป 1 เป้ใหญ่ และจักรยานหมอบคู่ใจ ตะลุยไป 7 จังหวัด เริ่มจากปั่นไปจากถนนทางทิศเหนือของจันทบุรี คือ อ.สอยดาว (ถ.จันทบุรี-สระแก้ว) ออกไปทางแยกซ้ายของ จังหวัดสระแก้ว ตรงไปเข้าสู่จังหวัดปราจีนบุรี หวังเที่ยวชมธรรมชาติ เก็บลายทาง (จันทบุรี-สระแก้ว-ปราจีนบุรี-นครนายก-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี - ระยอง กลับจันทบุรี) กว่า 600km.+ ภายใน 4 วัน (4 วัน 3 คืน) ด้วยตัวเองเพียงลำพัง ผมขอรีวิวแค่ 2 สถานที่เด่น ๆ เพราะที่อื่นผมนั่นพักอยู่ได้ไม่นานนัก 2 ที่นั้น คือ.- เขาอีโต้ / ทางขึ้นน้ำตกเหวนรก (เขาใหญ่)
ป้ายบอกทางที่เที่ยวเขาอีโต้ เข้ามาหน่อยเดียวจะมีทางแยก คนไม่เคยมาก็จะงงๆ ว่าจะไปทางไหน ดีว่ามีป้ายบอกทางปักอยู่ตรงนี้ ที่เที่ยวรอบๆ บริเวณอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ก็มีหลายที่ อย่างเช่นน้ำตกไทรทอง น้ำตกไผ่ข้าวหลาม เนินพิศวง จุดชมวิวผาหินซ้อน มีลานกางเต็นท์ด้วย ทั้งหมดดูเหมือนจะไปทางซ้าย ระยะทางต่างกันไป เดี๋ยวเราค่อยๆ ขับไปดูเรื่อยๆ ให้รอบๆ เลยแล้วกัน
แม้จะเป็นธารน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีจุดเด่นตรงที่สามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนในแนวโขดหินของตัวน้ำตกได้ และสามารถสัมผัสกับสายน้ำที่ไหลผ่านลอดแนวโขดหินได้อย่างใกล้ชิดที่สุด โดยในแนวโขดหินภายในตัวน้ำตกก็จะมีต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากที่สลับแซมขึ้นตลอด แนวช่วยให้ร่มเงา บรรยากาศร่มรื่นและค่อนข้างชื้นเล็กน้อยมีลมพัดมาเบา ๆโดยตลอด อากาศดีเย็นสบาย สร้างความสุขให้กับการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่ชมน้ำตกเขาอีโตแล้ว ก็เดินทางไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในวนอุทยานน้ำตกเขาอีโต้เพื่อมุ่งหน้าไปพิสูจน์รถไหลขึ้นเนินที่เนินพิศวง ออกจากตัวน้ำตกมาเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาเข้าที่ทำการอุทยานตรงไปตามเส้นทาง ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร โดยพื้นที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยพื้นป่าโปร่งธรรมชาติและป่าปลูกที่พัฒนา ขึ้นเพื่อรักษาต้นน้ำของน้ำตกเขาอีโต้ ตลอดเส้นทางมีพวกสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในวนอุทยานแห่งนี้ให้เราได้ชมและศึกษาอีกด้วย อย่างพวกนกนานาชนิด, ไก่ป่า และอีกหลายชนิด
อีกชื่อหนึ่งสำหรับที่ใช้เรียกสถานที่แห่งนี้นอกเหนือไปจากชื่อ อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ก็คือ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ และชื่อ พุทธอุทยานโลก เราก็ทำความเข้าใจง่ายๆ ว่า พื้นที่ทั้งหมดของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำตกเขาอีโต้ เป็นพุทธอุทยานโดยมีอ่างเก็บน้ำเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เพราะมีขนาดเล็กกว่า นั่นเอง
วันต่อมาลองเส้นทางปั่นจักรยานทางไปน้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ๆ กันในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง
(credit : ททท.)
ระหว่างทางทาง ชมเมืองหาที่พักในแต่ละที่ และได้เก็บเส้นทางต่างๆ ในเมืองนครนายก ผ่านไปยังฉะเชิงเทรา – ชลบุรี – ระยอง จันทบุรี (ขาดเสียแล้วจังหวัดตราด จึงชดเชยด้วยเส้นทาง นครนายกแทน)
คืนสุดท้ายมีดราม่า ผมลองไปนอนหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มแยกหนองปรือ ด้วยความที่ได้เตรียบอุปกรณ์ป้องกันยุงไว้แล้ว ยังไม่ได้ลองใช้เลยเอาก็เอา... ตั้งใจจะนอนติดดินสักคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น(อากาศดี มีหมอกลง) ไม่ช้าล้างหน้าล้างตา ทานขนมและอาหารที่ร้านสะดวกซื้อนั่นเลย แล้วจึงเริ่มปั่นมาถึงเขตจังหวัดระยอง เสพบรรยากาศตลอดเส้นทาง อำเภอวังจันทร์ และ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พักเที่ยว ถ่ายรูป ทานน้ำ แล้วจึงตรงกลับสู่จันทบุรีเป็นที่สุดท้ายก่อนจบทริปในเวลา 14.10 น.
(*ขออภัยรีวิวกระชับไปหน่อยในเรื่องราวครับ ไว้มือโอกาสจะหาเวลามารีวิวแนวๆ นี้อีกครับ)
ระหว่างทางเข้าจังหวัดนครนายก มีกิจกรรม car free day พอดีเลยครับ เขาจัดงานกันวันนั้นเลย(27 กันยายน)
[CR] ปั่นเดี่ยวรอบภาคตะวันออก 7 จังหวัดไทย 4 วัน(3คืน) 600 km. ด้วยงบ 2,xxx บาท คุณก็ทำได้
เมื่อวันที่ 26 – 29 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปปั่นไปเที่ยวรอบ ๆ ภาคตะวันออกของไทยเรา ด้วยจำนวนเพียง 4 วัน (เดิมตั้งใจไว้ 5 วัน แต่อยากกลับไปอยู่บ้านบ้าง)
เคยเกรินๆ กันเพื่อนๆ ที่ปั่นด้วยกันว่าจะไป แต่พอ 2-3 วันสุดท้ายกลับถูกปฏิเสธ ทำให้รู้สึกว่าเราเองก็ลาพักผ่อนไปแล้ว เกิดนึกเสียดายในการเตรียมการณ์นี้ขึ้นมา ถ้าไม่ลองทำมันด้วยตัวเราเอง กล้สที่จะไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองแล้วจะรอใครมารอเราล่ะ
[โอกาสอยู่ในกำมือเรา เริ่มมันเองเลยดีกว่า....]
เช้ามืดวันนั้น (26 กันยา) ราว ตี 4 ครึ่ง ผมไม่รอช้าหลังจากที่เมื่อคืนนั้นได้จัดแจงเตรียมข้าวของพร้อมลุยไป 1 เป้ใหญ่ และจักรยานหมอบคู่ใจ ตะลุยไป 7 จังหวัด เริ่มจากปั่นไปจากถนนทางทิศเหนือของจันทบุรี คือ อ.สอยดาว (ถ.จันทบุรี-สระแก้ว) ออกไปทางแยกซ้ายของ จังหวัดสระแก้ว ตรงไปเข้าสู่จังหวัดปราจีนบุรี หวังเที่ยวชมธรรมชาติ เก็บลายทาง (จันทบุรี-สระแก้ว-ปราจีนบุรี-นครนายก-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี - ระยอง กลับจันทบุรี) กว่า 600km.+ ภายใน 4 วัน (4 วัน 3 คืน) ด้วยตัวเองเพียงลำพัง ผมขอรีวิวแค่ 2 สถานที่เด่น ๆ เพราะที่อื่นผมนั่นพักอยู่ได้ไม่นานนัก 2 ที่นั้น คือ.- เขาอีโต้ / ทางขึ้นน้ำตกเหวนรก (เขาใหญ่)
ป้ายบอกทางที่เที่ยวเขาอีโต้ เข้ามาหน่อยเดียวจะมีทางแยก คนไม่เคยมาก็จะงงๆ ว่าจะไปทางไหน ดีว่ามีป้ายบอกทางปักอยู่ตรงนี้ ที่เที่ยวรอบๆ บริเวณอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ก็มีหลายที่ อย่างเช่นน้ำตกไทรทอง น้ำตกไผ่ข้าวหลาม เนินพิศวง จุดชมวิวผาหินซ้อน มีลานกางเต็นท์ด้วย ทั้งหมดดูเหมือนจะไปทางซ้าย ระยะทางต่างกันไป เดี๋ยวเราค่อยๆ ขับไปดูเรื่อยๆ ให้รอบๆ เลยแล้วกัน
แม้จะเป็นธารน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีจุดเด่นตรงที่สามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนในแนวโขดหินของตัวน้ำตกได้ และสามารถสัมผัสกับสายน้ำที่ไหลผ่านลอดแนวโขดหินได้อย่างใกล้ชิดที่สุด โดยในแนวโขดหินภายในตัวน้ำตกก็จะมีต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากที่สลับแซมขึ้นตลอด แนวช่วยให้ร่มเงา บรรยากาศร่มรื่นและค่อนข้างชื้นเล็กน้อยมีลมพัดมาเบา ๆโดยตลอด อากาศดีเย็นสบาย สร้างความสุขให้กับการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่ชมน้ำตกเขาอีโตแล้ว ก็เดินทางไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในวนอุทยานน้ำตกเขาอีโต้เพื่อมุ่งหน้าไปพิสูจน์รถไหลขึ้นเนินที่เนินพิศวง ออกจากตัวน้ำตกมาเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาเข้าที่ทำการอุทยานตรงไปตามเส้นทาง ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร โดยพื้นที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยพื้นป่าโปร่งธรรมชาติและป่าปลูกที่พัฒนา ขึ้นเพื่อรักษาต้นน้ำของน้ำตกเขาอีโต้ ตลอดเส้นทางมีพวกสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในวนอุทยานแห่งนี้ให้เราได้ชมและศึกษาอีกด้วย อย่างพวกนกนานาชนิด, ไก่ป่า และอีกหลายชนิด
อีกชื่อหนึ่งสำหรับที่ใช้เรียกสถานที่แห่งนี้นอกเหนือไปจากชื่อ อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ก็คือ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ และชื่อ พุทธอุทยานโลก เราก็ทำความเข้าใจง่ายๆ ว่า พื้นที่ทั้งหมดของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำตกเขาอีโต้ เป็นพุทธอุทยานโดยมีอ่างเก็บน้ำเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เพราะมีขนาดเล็กกว่า นั่นเอง
วันต่อมาลองเส้นทางปั่นจักรยานทางไปน้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ๆ กันในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง
(credit : ททท.)
ระหว่างทางทาง ชมเมืองหาที่พักในแต่ละที่ และได้เก็บเส้นทางต่างๆ ในเมืองนครนายก ผ่านไปยังฉะเชิงเทรา – ชลบุรี – ระยอง จันทบุรี (ขาดเสียแล้วจังหวัดตราด จึงชดเชยด้วยเส้นทาง นครนายกแทน)
คืนสุดท้ายมีดราม่า ผมลองไปนอนหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มแยกหนองปรือ ด้วยความที่ได้เตรียบอุปกรณ์ป้องกันยุงไว้แล้ว ยังไม่ได้ลองใช้เลยเอาก็เอา... ตั้งใจจะนอนติดดินสักคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น(อากาศดี มีหมอกลง) ไม่ช้าล้างหน้าล้างตา ทานขนมและอาหารที่ร้านสะดวกซื้อนั่นเลย แล้วจึงเริ่มปั่นมาถึงเขตจังหวัดระยอง เสพบรรยากาศตลอดเส้นทาง อำเภอวังจันทร์ และ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พักเที่ยว ถ่ายรูป ทานน้ำ แล้วจึงตรงกลับสู่จันทบุรีเป็นที่สุดท้ายก่อนจบทริปในเวลา 14.10 น.
(*ขออภัยรีวิวกระชับไปหน่อยในเรื่องราวครับ ไว้มือโอกาสจะหาเวลามารีวิวแนวๆ นี้อีกครับ)
ระหว่างทางเข้าจังหวัดนครนายก มีกิจกรรม car free day พอดีเลยครับ เขาจัดงานกันวันนั้นเลย(27 กันยายน)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น