ปกติผมใช้กล้อง DSLR อยู่เป็นประจำ พอดีกล้องผมพังครับ ประกอบกับช่วงนี้เจอกระแสกล้อง Mirrorless ล้อมหน้าล้อมหลัง ในฐานะช่างภาพที่ใช้กล้องทำมาหากินจึงเริ่มลังเล เมื่อคุณสมบัติที่ผมต้องการคือกล้องขนาดกระทัดรัดและใช้ถ่ายงานแบบทำมาหากินได้จริง
ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็น LUMIX GX8 แค่ใน Social และสื่อต่างๆ มาได้เห็นของจริงก็ตอนที่ทาง Panasonic ให้ยืม LUMIX GX8 มาให้ทดลองใช้นี่แหละครับ
ผมได้ตัว Body สีเงินมา (อีกแบบ Body เป็นสีดำ) ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกว่ามันคลาสสิคมากๆ ทำให้นึกถึงกล้องฟิล์มสมัยก่อนที่ผมเคยหัดถ่ายภาพ
จากที่หาข้อมูลก่อนจะใช้งานจริงแบบคร่าวๆ มานั้น LUMIX GX8 เป็นกล้อง Micro Four Third ตัวแรกที่ทะลายกำแพง 16 ล้านพิกเซลได้ โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 20.3 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับนวัตกรรมป้องกันการสั่น Dual I.S ที่ทำงานประสานกันระหว่าง Body กับ Lens และโหมด Burst ที่ทำให้เก็บภาพได้ทุกเสี้ยววินาที สามารถถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที (AF-S) และ 6 ภาพต่อวินาที (AF-C)
ความเร็วชัตเตอร์กลไกสูงสุด 1/8000 วินาทีมีชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ความเร็วสูงสุด 1/16000 วินาทีเซนเซอร์ Live MOS ขนาด Four Third ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซลชิปประมวลผล Venus Engine ตัวใหม่(Quad-core CPU)
คุณสมบัติเบื้องต้นขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับกล้อง Mirrorless
LUMIX GX8 ที่ทาง Panasonic ให้ผมยืมมาใช้ มาพร้อมเลนส์คิท 14-42 มม. ตัวBody ของ LUMIX GX8 จับถนัดมือมากครับเมื่อเทียบกับกล้อง mirrorless ยี่ห้ออื่น ไม่หนักไม่เบาเกินไป น้ำหนักนี่ถือว่ากำลังพอดีเลยครับ
Body ทำจากแม็กนีเซี่ยมอัลลอย มีซีลกันน้ำกันฝุ่น วันที่ผมถ่ายฝนตกพอดี แต่ผมก็รอให้ฝนเบาบางลงก่อนถึงเริ่มกดชัตเตอร์ นึกแล้วก็ยังเสียดายที่ไม่ไ่ด้มีโอกาสทดลองใช้คู่กับเลนส์ H-HS12035E 12-35mm F.28 หรือ รุ่น H-HS35100E 35-100 mm F2.8 ซึ่งทาง Panasonic บอกว่าโดดเด่นเรื่องกันน้ำกันฝุ่นมากๆ
ด้านหลัง Body มาพร้อมปุ่มฟังชั่นการใช้งานต่างๆ รวมไปถึงปุ่ม Quick menu ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกมากๆ พร้อมหน้าจอแสดงผล OLED Touchscreen ขนาดกว้างถึง 3 นิ้ว สามารถปรับหมุนได้ (Vari-angle) ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
ส่วนช่องมองภาพนั้น พิเศษกว่ากล้อง Mirrorless ทั่วไป ก็ตรงที่สามารถปรับช่องมองภาพขึ้นลงได้ ทำให้ถ่ายภาพที่เป็น outdoor ช่วงแสงจัดๆ ได้โดยไม่แสบตา ที่ประทับใจผมอีกอย่างก็คือค่อนข้างสะดวกเมื่อเปรียบเทียบกับช่องมองภาพของกล้อง DSLR ที่ปรับไม่ได้
ถึงเวลาลองใช้งานผมทดลองถ่ายภาพแบบ Close up เพื่อดูไฟล์ภาพที่ได้ก่อน
ปรากฏว่าได้ไฟล์ภาพที่ค่อนข้างน่าพอใจมากๆ สำหรับเลนส์คิท 14-42 ที่ให้มา
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/160 sec , mode A , ISO.400
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 4 , S 1/160 sec , mode A , ISO.400
ระหว่างทางผมทดลองถ่ายภาพตอนนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซด์ ขณะกำลังวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 40 km ด้วยฟังก์ชั่น Dual I.S. ระบบกันสั่นทำงานประสานกันระหว่างเลนส์และที่เซนเซอร์ระบบโฟกัส Contrast Detection 49 จุดทำงานในสภาพแสงน้อยได้ถึง -4EV ได้ภาพออกมาแบบนี้ครับ
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 11 , S 1/60 sec , mode P , ISO.400
นับว่าเป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์มากๆ กล้องสามารถจับโฟกัสได้เร็วทันใจ โดยทำงานควบคู่กับระบบโฟกัส DFD (ช่วยเพิ่มความเร็วในการโฟกัสภาพเหลือเพียง 0.07 วินาที) ทำให้ทุกภาพที่ตัวแบบเคลื่อนไหวนั้นไม่สั่นไหวตอนถ่ายผมจับโฟกัสที่กระจกรถมอเตอร์ไซด์เพื่อให้เห็นว่าใช้ GX8 ถ่าย
ต่อมาเป็นภาพวิว ท่ามกลางสภาพอากาศตอนฝนตก
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/400 sec , mode P , ISO.400
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/400 sec , mode P , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 5.6 , S 1/1000 sec , mode M , ISO.200
พอฝนเบาบางลงหน่อยคราวนี้เลยลองถ่ายภาพแนว Street ดูบ้าง
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 3.5 , S 1/60 sec , mode P , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 5.5 , S 1/80 sec , mode P , ISO.500
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 5 , S 1/200 sec , mode P , ISO.200
คราวนี้ขอลองแนว Fashion ที่ตัวเองชอบ ซึ่งความตั้งใจหลักๆในการยืม LUMIX GX8 ของทาง Panasonic มาใช้ครั้งนี้ คือการลองเอามาถ่ายแนวแฟชั่นที่ผมชอบนี่ละครับ ว่ากล้องจะตอบโจทย์ไหมผมจะเอาไปใช้ทำงานจริงแทนกล้อง DSLR ได้หรือไม่
สถานที่ก็ในตัวเมืองชุมพรกับสถานีรถไฟชุมพรคือเดินเจอตรงไหนน่าสนใจก็ถ่ายกันเลยแบบง่ายๆ
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/125 , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f6.3 , S 1/80 sec , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/100 sec , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f5.6 , S 1/60 sec , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f5.6 , S 1/30 sec , mode M , ISO.200
คราวนี้มาถึง 4K PHOTO Mode ที่ทำให้ไม่พลาดแม้เสี้ยววินาทีประทับใจ ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ 4K Burst, 4K Burst(S/S), 4K Pre-Burst เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ประทับใจมากครับ
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 3.5 , S 1/1250 , mode P Function 4KPhoto , ISO.800
คราวนี้ลองให้แม่มาเป็นนางแบบบ้าง
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 4.4 , S 1/3200 , mode P ,Function 4KPhoto , ISO.800
โดยเราสามารถเลือกรูปได้จากทุกช่วงเวลาที่กล้องบันทึกภาพไว้แบบคลิปวีดีโอแล้วถูกบันทึกเป็นภาพนิ่งอีกทีที่ยังคงไว้ซึ่งความละเอียดขนาด 4K
จากที่มีโอกาสได้ใช้กล้อง LUMIX GX8 ในระยะเวลาแค่ 1 วันเพราะฝนนั้นตกกระหน่ำไม่ยอมหยุด เลยทำให้ผมไม่สามารถถ่ายภาพได้หลายรูปแบบอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า LUMIX GX8 ได้สร้างความประทับใจให้กับผมไว้มากมาย
ตั้งแต่ตัว Body ที่ดีไซน์ได้สวยงามคลาสสิค มีความทนทานต่อการใช้งานในทุกสภาพอากาศ ที่สำคัญเลยคือน้ำหนักกำลังพอดีจับถนัดมือมาก ไม่ต่างจากการถือกล้อง DSLR มากนัก ช่องมองภาพก็ชัดมากๆ และใช้งานง่าย, สะดวก, คล่องตัว
นอกจากนี้ไฟล์ภาพที่ได้ถือว่ามีคุณภาพที่ดีมาก ขนาดผมถ่ายเป็นไฟล์ Jpeg แล้วมาแต่งใน Light room คุณภาพของไฟล์ก็ยัง ok สามารถดึงแสงสีได้ค่อนข้างเต็มที่ ความละเอียดของไฟล์นั้นก็ประทับใจดีครับ นี่ขนาดเป็นเลนส์คิทติดกล้องนะครับ ถ้าได้เลนส์ดีๆ ของ Panasonic มาถ่ายละก็งดงามมากกว่านี้แน่ๆ
ในส่วนของปุ่มใช้งานหลัง Body ถือว่ามีประโยชน์ในการใช้งานมากๆ ใช้ง่ายคล่องดี โดยเฉพาะปุ่ม Q menu ส่วนฟังก์ชั่น Dual I.S. ระบบกันสั่นก็ช่วยให้ได้ภาพที่ชัดมากขึ้นยิ่งถ้าใช้ถ่ายภาพตอนกลางคืนกับ ISO ของกล้องที่สามารถดันได้สูงสุดถึง 25600 (ต่ำสุด 100) หมดปัญหาเรื่องภาพสั่นไหวชัดกันเลยทีเดียว
ส่วนการโฟกัสก็ไวทันใจ สามารถจับภาพโฟกัสได้ถึง 49 จุด ฟังค์ชั่นนี้เป็นลูกเล่นที่ผมชอบมากๆ คือเราสามารถใช้นิ้วแต่ะที่จอ OLED Touchscreen แล้วเลือกจุดโฟกัสได้เลยว่าจะจับโฟกัสตรงไหน
อีกฟังก์ชั่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ 4KPHOTO ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้ช่วยเก็บภาพประทับใจได้ทุกเสี้ยววินาทีทำให้ถ่ายภาพที่ตัวแบบเคลื่อนไหวได้ง่ายแค่คลิ๊กเดียวใครที่ชอบถ่ายภาพแอ็คชั่นนี่คงถูกใจ
ที่สำคัญ LUMIX GX8 นั้นใช้งานง่ายมาก ลบความรู้สึกเก่าๆ ของผมที่เคยสัมผัสกล้อง mirrorless แล้วรู้สึกว่ากล้องทำงานช้าไม่ทันใจ ไฟล์ภาพไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการออกไปเสียหมด
แถมเทคโนโลยีของ LUMIX GX8 ก็ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้นมากๆ คราวนี้ความมั่นใจมีมากกว่าเดิมเลยว่า
"ผมสามารถเอา LUMIX GX8 มาใช้งานถ่ายภาพสวยๆ แบบทำมาหากินได้สบายเลย"
ยิ่งมี Wi-Fi ในตัว ถ่ายปุ๊ปส่งเข้า Panasonic Image App แล้วโพสภาพไปยัง Facebook ก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้านโซเชี่ยลมาก
ส่วนตัวผมเองนั้นพอกล้อง DSLR ซ่อมเสร็จ
ไม่แคล้วคงขายแล้วเอาเงินมาซื้อ LUMIX GX8...เป็นแน่แท้
[SR] Lumix GX8 ในวันฝนตกที่ชุมพร
ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็น LUMIX GX8 แค่ใน Social และสื่อต่างๆ มาได้เห็นของจริงก็ตอนที่ทาง Panasonic ให้ยืม LUMIX GX8 มาให้ทดลองใช้นี่แหละครับ
ผมได้ตัว Body สีเงินมา (อีกแบบ Body เป็นสีดำ) ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกว่ามันคลาสสิคมากๆ ทำให้นึกถึงกล้องฟิล์มสมัยก่อนที่ผมเคยหัดถ่ายภาพ
จากที่หาข้อมูลก่อนจะใช้งานจริงแบบคร่าวๆ มานั้น LUMIX GX8 เป็นกล้อง Micro Four Third ตัวแรกที่ทะลายกำแพง 16 ล้านพิกเซลได้ โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 20.3 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับนวัตกรรมป้องกันการสั่น Dual I.S ที่ทำงานประสานกันระหว่าง Body กับ Lens และโหมด Burst ที่ทำให้เก็บภาพได้ทุกเสี้ยววินาที สามารถถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที (AF-S) และ 6 ภาพต่อวินาที (AF-C)
ความเร็วชัตเตอร์กลไกสูงสุด 1/8000 วินาทีมีชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ความเร็วสูงสุด 1/16000 วินาทีเซนเซอร์ Live MOS ขนาด Four Third ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซลชิปประมวลผล Venus Engine ตัวใหม่(Quad-core CPU)
คุณสมบัติเบื้องต้นขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับกล้อง Mirrorless
LUMIX GX8 ที่ทาง Panasonic ให้ผมยืมมาใช้ มาพร้อมเลนส์คิท 14-42 มม. ตัวBody ของ LUMIX GX8 จับถนัดมือมากครับเมื่อเทียบกับกล้อง mirrorless ยี่ห้ออื่น ไม่หนักไม่เบาเกินไป น้ำหนักนี่ถือว่ากำลังพอดีเลยครับ
Body ทำจากแม็กนีเซี่ยมอัลลอย มีซีลกันน้ำกันฝุ่น วันที่ผมถ่ายฝนตกพอดี แต่ผมก็รอให้ฝนเบาบางลงก่อนถึงเริ่มกดชัตเตอร์ นึกแล้วก็ยังเสียดายที่ไม่ไ่ด้มีโอกาสทดลองใช้คู่กับเลนส์ H-HS12035E 12-35mm F.28 หรือ รุ่น H-HS35100E 35-100 mm F2.8 ซึ่งทาง Panasonic บอกว่าโดดเด่นเรื่องกันน้ำกันฝุ่นมากๆ
ด้านหลัง Body มาพร้อมปุ่มฟังชั่นการใช้งานต่างๆ รวมไปถึงปุ่ม Quick menu ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกมากๆ พร้อมหน้าจอแสดงผล OLED Touchscreen ขนาดกว้างถึง 3 นิ้ว สามารถปรับหมุนได้ (Vari-angle) ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
ส่วนช่องมองภาพนั้น พิเศษกว่ากล้อง Mirrorless ทั่วไป ก็ตรงที่สามารถปรับช่องมองภาพขึ้นลงได้ ทำให้ถ่ายภาพที่เป็น outdoor ช่วงแสงจัดๆ ได้โดยไม่แสบตา ที่ประทับใจผมอีกอย่างก็คือค่อนข้างสะดวกเมื่อเปรียบเทียบกับช่องมองภาพของกล้อง DSLR ที่ปรับไม่ได้
ถึงเวลาลองใช้งานผมทดลองถ่ายภาพแบบ Close up เพื่อดูไฟล์ภาพที่ได้ก่อน
ปรากฏว่าได้ไฟล์ภาพที่ค่อนข้างน่าพอใจมากๆ สำหรับเลนส์คิท 14-42 ที่ให้มา
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/160 sec , mode A , ISO.400
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 4 , S 1/160 sec , mode A , ISO.400
ระหว่างทางผมทดลองถ่ายภาพตอนนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซด์ ขณะกำลังวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 40 km ด้วยฟังก์ชั่น Dual I.S. ระบบกันสั่นทำงานประสานกันระหว่างเลนส์และที่เซนเซอร์ระบบโฟกัส Contrast Detection 49 จุดทำงานในสภาพแสงน้อยได้ถึง -4EV ได้ภาพออกมาแบบนี้ครับ
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 11 , S 1/60 sec , mode P , ISO.400
นับว่าเป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์มากๆ กล้องสามารถจับโฟกัสได้เร็วทันใจ โดยทำงานควบคู่กับระบบโฟกัส DFD (ช่วยเพิ่มความเร็วในการโฟกัสภาพเหลือเพียง 0.07 วินาที) ทำให้ทุกภาพที่ตัวแบบเคลื่อนไหวนั้นไม่สั่นไหวตอนถ่ายผมจับโฟกัสที่กระจกรถมอเตอร์ไซด์เพื่อให้เห็นว่าใช้ GX8 ถ่าย
ต่อมาเป็นภาพวิว ท่ามกลางสภาพอากาศตอนฝนตก
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/400 sec , mode P , ISO.400
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/400 sec , mode P , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 5.6 , S 1/1000 sec , mode M , ISO.200
พอฝนเบาบางลงหน่อยคราวนี้เลยลองถ่ายภาพแนว Street ดูบ้าง
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 3.5 , S 1/60 sec , mode P , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 5.5 , S 1/80 sec , mode P , ISO.500
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 5 , S 1/200 sec , mode P , ISO.200
คราวนี้ขอลองแนว Fashion ที่ตัวเองชอบ ซึ่งความตั้งใจหลักๆในการยืม LUMIX GX8 ของทาง Panasonic มาใช้ครั้งนี้ คือการลองเอามาถ่ายแนวแฟชั่นที่ผมชอบนี่ละครับ ว่ากล้องจะตอบโจทย์ไหมผมจะเอาไปใช้ทำงานจริงแทนกล้อง DSLR ได้หรือไม่
สถานที่ก็ในตัวเมืองชุมพรกับสถานีรถไฟชุมพรคือเดินเจอตรงไหนน่าสนใจก็ถ่ายกันเลยแบบง่ายๆ
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/125 , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f6.3 , S 1/80 sec , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 6.3 , S 1/100 sec , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f5.6 , S 1/60 sec , mode M , ISO.200
LUMIX GX8 Lens 14-42 f5.6 , S 1/30 sec , mode M , ISO.200
คราวนี้มาถึง 4K PHOTO Mode ที่ทำให้ไม่พลาดแม้เสี้ยววินาทีประทับใจ ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ 4K Burst, 4K Burst(S/S), 4K Pre-Burst เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ประทับใจมากครับ
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 3.5 , S 1/1250 , mode P Function 4KPhoto , ISO.800
คราวนี้ลองให้แม่มาเป็นนางแบบบ้าง
LUMIX GX8 Lens 14-42 f 4.4 , S 1/3200 , mode P ,Function 4KPhoto , ISO.800
โดยเราสามารถเลือกรูปได้จากทุกช่วงเวลาที่กล้องบันทึกภาพไว้แบบคลิปวีดีโอแล้วถูกบันทึกเป็นภาพนิ่งอีกทีที่ยังคงไว้ซึ่งความละเอียดขนาด 4K
จากที่มีโอกาสได้ใช้กล้อง LUMIX GX8 ในระยะเวลาแค่ 1 วันเพราะฝนนั้นตกกระหน่ำไม่ยอมหยุด เลยทำให้ผมไม่สามารถถ่ายภาพได้หลายรูปแบบอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า LUMIX GX8 ได้สร้างความประทับใจให้กับผมไว้มากมาย
ตั้งแต่ตัว Body ที่ดีไซน์ได้สวยงามคลาสสิค มีความทนทานต่อการใช้งานในทุกสภาพอากาศ ที่สำคัญเลยคือน้ำหนักกำลังพอดีจับถนัดมือมาก ไม่ต่างจากการถือกล้อง DSLR มากนัก ช่องมองภาพก็ชัดมากๆ และใช้งานง่าย, สะดวก, คล่องตัว
นอกจากนี้ไฟล์ภาพที่ได้ถือว่ามีคุณภาพที่ดีมาก ขนาดผมถ่ายเป็นไฟล์ Jpeg แล้วมาแต่งใน Light room คุณภาพของไฟล์ก็ยัง ok สามารถดึงแสงสีได้ค่อนข้างเต็มที่ ความละเอียดของไฟล์นั้นก็ประทับใจดีครับ นี่ขนาดเป็นเลนส์คิทติดกล้องนะครับ ถ้าได้เลนส์ดีๆ ของ Panasonic มาถ่ายละก็งดงามมากกว่านี้แน่ๆ
ในส่วนของปุ่มใช้งานหลัง Body ถือว่ามีประโยชน์ในการใช้งานมากๆ ใช้ง่ายคล่องดี โดยเฉพาะปุ่ม Q menu ส่วนฟังก์ชั่น Dual I.S. ระบบกันสั่นก็ช่วยให้ได้ภาพที่ชัดมากขึ้นยิ่งถ้าใช้ถ่ายภาพตอนกลางคืนกับ ISO ของกล้องที่สามารถดันได้สูงสุดถึง 25600 (ต่ำสุด 100) หมดปัญหาเรื่องภาพสั่นไหวชัดกันเลยทีเดียว
ส่วนการโฟกัสก็ไวทันใจ สามารถจับภาพโฟกัสได้ถึง 49 จุด ฟังค์ชั่นนี้เป็นลูกเล่นที่ผมชอบมากๆ คือเราสามารถใช้นิ้วแต่ะที่จอ OLED Touchscreen แล้วเลือกจุดโฟกัสได้เลยว่าจะจับโฟกัสตรงไหน
อีกฟังก์ชั่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ 4KPHOTO ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้ช่วยเก็บภาพประทับใจได้ทุกเสี้ยววินาทีทำให้ถ่ายภาพที่ตัวแบบเคลื่อนไหวได้ง่ายแค่คลิ๊กเดียวใครที่ชอบถ่ายภาพแอ็คชั่นนี่คงถูกใจ
ที่สำคัญ LUMIX GX8 นั้นใช้งานง่ายมาก ลบความรู้สึกเก่าๆ ของผมที่เคยสัมผัสกล้อง mirrorless แล้วรู้สึกว่ากล้องทำงานช้าไม่ทันใจ ไฟล์ภาพไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการออกไปเสียหมด
แถมเทคโนโลยีของ LUMIX GX8 ก็ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้นมากๆ คราวนี้ความมั่นใจมีมากกว่าเดิมเลยว่า
"ผมสามารถเอา LUMIX GX8 มาใช้งานถ่ายภาพสวยๆ แบบทำมาหากินได้สบายเลย"
ยิ่งมี Wi-Fi ในตัว ถ่ายปุ๊ปส่งเข้า Panasonic Image App แล้วโพสภาพไปยัง Facebook ก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้านโซเชี่ยลมาก
ส่วนตัวผมเองนั้นพอกล้อง DSLR ซ่อมเสร็จ
ไม่แคล้วคงขายแล้วเอาเงินมาซื้อ LUMIX GX8...เป็นแน่แท้