สวัสดีค่ะทุกคน ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนต์บล็อกที่แล้ว สำหรับวันนี้จะบอกเล่าเรื่องราวแสนจะประทับใจที่สุดเพราะเราได้มีโอกาสไปดูเทศกาลดอกไม้ไฟของชาวโอซาก้า วันนี้เราสังเกตเห็นคนใส่ชุดยูกาตะเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นวัดที่นารา สถานีรถไฟ บนรถไฟ เรามองว่าเขาสวยและน่ารักมาก เราว่าคงเป็นเรื่องปรกติและธรรมดาเหมือนบ้านเราใส่ชุดลายดอกในวันสงกานต์มากกว่า เพราะดูเหมือนว่ามันไม่ได้แปลกตาสำหรับคนที่นี้เลย รถไฟขบวนที่จะไปนี้จอดรอคนอยู่ 2 ราง เราจะนั่งรถไฟไปลงสถานี Tondabayashi เราไม่รู้ว่าที่งานเป็นอย่างไรดังนั้นเรากับเพื่อนจึงนซื้อขนมและน้ำไปด้วยเผื่อจะหิวกัน สักพักไม่นานรถไฟก็ออกตามเวลา คนข้างในเยอะมากๆแทบจะไม่มีที่ยืน(ขาไปยังไปคนละเวลาได้ แต่ขากลับงานเลิกพร้อมกันทุกคนเนี๊ยสิ) ระหว่างทางไปเราได้ยืนค่ะ เรามองคนที่สวมชุดยูกาตะมีทั้งชาย หญิง วัยหนุ่มและคนแก่ ทุกคนที่ใส่ดูสวย หล่อกันไปหมด มีทั้งมากับเพื่อน มากับแฟน และมากันเป็นครอบครัว มองนาฬิกาก็เกือบทุ่มแล้วแต่ก็ต้องแปลกใจมากคือตอนนี้ยังไม่มืดเลยราวกับห้าโมงเย็นบ้านเราเลย พระอาทิตย์หน้าร้อนของที่นี้ตกช้ามากค่ะ และเมื่อวานเราก็ไม่ได้สักเกตเลยเพราะอยู่ที่โรงแรมกัน เหมือนวันนี้มันเป็นโอกาศดีที่ได้นั่งรถไฟชมเมืองของชาวโอซาก้า ที่นี้แม้จะเป็นแถบนอกเมืองแต่บ้านเมืองเขาก็ดูสะอาดตา ทุ่งนาก็เขียวขจีรายล้อมด้วยภูเขา เป็นภาพที่สวยมากๆ เรามองเห็นหลายบ้านจัดสังสรรค์เล็กๆที่บริเวณข้างบ้านเหมือนรอดูดอกไม้ไฟกัน สักพักฟ้าก็เริ่มมืดเราเดินทางประมาณ 20นาทีก็ถึงจุดหมาย เมื่อเดินออกมาจากสถานีจะเจอคนญี่ปุ่นใส่ชุดยูกะตะเยอะมากประมาณเกือบ 60% พวกเรากลายเป็นคนกลุ่มน้อยไปเลย
สาวๆส่วนใหญ่จะใส่ชุดยูกาตะลายดอกไม้ เน้นสีสันสดใส มีผ้าคาดเอวเป็นโบไว้ข้างหลังและติดดอกไม้ใหญ่ๆไว้ที่ผมแบบนี้ ส่วนผู้ชายและคนมีอายุจะเน้นสีเข้มๆกันค่ะ
งานเทศกาลฮานาบิ (ฮานา = ดอกไม้ ,บิ = ไฟ) ของที่นี้ก็เหมือนงานประจำปีบ้านเราค่ะ มาถึงที่นี้ทั้งทีจะช้าทำไมล่ะค่ะ นานๆทีได้เห็นอาหารที่เป็นออริจินอลแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เราก็พากันตะลุยหาของกินตามร้านแต่เราไม่รู้จักชื่ออาหารสักอย่างเลยนอกจากทาโกะยากิ ฮ่าๆๆๆ
เวลาไปซื้อของกินก็ชี้เอาอย่าเดียวเลยค่ะเพราะไม่รู้จักชื่ออาหาร เขาจะบอกวิธีการกินเรามาเอง
เราติดใจของกินเล่นเหมือนลูกชิ้นปูราดซอล ไม่รู้เรียกอะไร มันอร่อยๆมากแค่กินไม้เดียวก็อิ่มไปถึงชาติหน้าเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ เพื่อนคนญี่ปุ่นเคยบอกว่าเทศกาลนี้หนุ่มสาวเค้าจะนัดเดทกันหรือถ้าแต่งงานมีลูกแล้วจะพากันมาเป็นครอบครัวเลย โรแมนติกมากค่ะฮ่าๆๆๆ ตอนแรกเราคิดว่างานเริ่ม 1 ทุ่มแต่จริงๆแล้วเริ่มสองทุ่มเพราะว่าดูป้ายผิดตลกตัวเองมากๆ
นั่งกินขนมรอสักพักดอกไม้ไฟเริ่มจุดคนที่พากันนั่งรอก็รีบลุกขึ้นดูกัน ทุกคนพากันส่งเสียงดีใจ ตื่นเต้น โห่ร้องกัน ดอกไม้ไฟขึ้นบนท้องฟ้าไม่ขาดสายประมาณเกือบสองชั่วโมงและมันสวยมากๆ โดยแต่ละจุดจะมีตำรวจดูแลความเรียบร้อยภายในงานอยู่ไม่ขาดสาย เราต้องยื่นในจุดที่เค้ากั้นไว้ให้ดูเท่านั้นห้ามนั่งริมฟุตบาทและทุกคนต้องอยู่ในระเบียบกัน
ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เราได้เห็นบนท้องฟ้าหรือผู้คนที่อยู่รอบๆมันเป็นภาพที่ประทับใจที่สุด เงินค่าเครื่องบินที่เสียไปในทริปนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆกับสิ่งที่ได้รับ และในที่สุดงานเลี้ยงก็มีวันเลิกลา ผู้คนเริ่มทยอยกลับ ตอนกลับตำรวจเขาก็จัดการกันได้ดีมากในถ่ายเทคนออกจากสถานที่จัดงาน แค่แสดงบัตรก็ขึ้นรถไฟได้เลยไม่ต้องเสียเวลามาสอดบัตรเข้าให้เสียเวลาเลย
เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงโรงแรม หลังจากนั้นเราก็พากันพักผ่อนค่ะเพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปไกลหน่อย เราจะไปเกียวโตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเมื่องหลายร้อยปี เพื่อนคนญี่ปุ่นบอกไว้ว่าวัดที่เกียวโตสวยมากนะคุณต้องไปให้ได้นะ เราเลยไม่ควรที่จะพลาดเลยและวันนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ บล็อกต่อไปเราจะมาเล่าเรื่องการเดินทางไปที่เกียวโตให้ทุกคนฟังค่ะ ขอบคุณค่ะ
เทศกาลฮานาบิ.....ที่โอซาก้า
งานเทศกาลฮานาบิ (ฮานา = ดอกไม้ ,บิ = ไฟ) ของที่นี้ก็เหมือนงานประจำปีบ้านเราค่ะ มาถึงที่นี้ทั้งทีจะช้าทำไมล่ะค่ะ นานๆทีได้เห็นอาหารที่เป็นออริจินอลแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เราก็พากันตะลุยหาของกินตามร้านแต่เราไม่รู้จักชื่ออาหารสักอย่างเลยนอกจากทาโกะยากิ ฮ่าๆๆๆ
เราติดใจของกินเล่นเหมือนลูกชิ้นปูราดซอล ไม่รู้เรียกอะไร มันอร่อยๆมากแค่กินไม้เดียวก็อิ่มไปถึงชาติหน้าเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ เพื่อนคนญี่ปุ่นเคยบอกว่าเทศกาลนี้หนุ่มสาวเค้าจะนัดเดทกันหรือถ้าแต่งงานมีลูกแล้วจะพากันมาเป็นครอบครัวเลย โรแมนติกมากค่ะฮ่าๆๆๆ ตอนแรกเราคิดว่างานเริ่ม 1 ทุ่มแต่จริงๆแล้วเริ่มสองทุ่มเพราะว่าดูป้ายผิดตลกตัวเองมากๆ
นั่งกินขนมรอสักพักดอกไม้ไฟเริ่มจุดคนที่พากันนั่งรอก็รีบลุกขึ้นดูกัน ทุกคนพากันส่งเสียงดีใจ ตื่นเต้น โห่ร้องกัน ดอกไม้ไฟขึ้นบนท้องฟ้าไม่ขาดสายประมาณเกือบสองชั่วโมงและมันสวยมากๆ โดยแต่ละจุดจะมีตำรวจดูแลความเรียบร้อยภายในงานอยู่ไม่ขาดสาย เราต้องยื่นในจุดที่เค้ากั้นไว้ให้ดูเท่านั้นห้ามนั่งริมฟุตบาทและทุกคนต้องอยู่ในระเบียบกัน
ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เราได้เห็นบนท้องฟ้าหรือผู้คนที่อยู่รอบๆมันเป็นภาพที่ประทับใจที่สุด เงินค่าเครื่องบินที่เสียไปในทริปนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆกับสิ่งที่ได้รับ และในที่สุดงานเลี้ยงก็มีวันเลิกลา ผู้คนเริ่มทยอยกลับ ตอนกลับตำรวจเขาก็จัดการกันได้ดีมากในถ่ายเทคนออกจากสถานที่จัดงาน แค่แสดงบัตรก็ขึ้นรถไฟได้เลยไม่ต้องเสียเวลามาสอดบัตรเข้าให้เสียเวลาเลย
เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงโรงแรม หลังจากนั้นเราก็พากันพักผ่อนค่ะเพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปไกลหน่อย เราจะไปเกียวโตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเมื่องหลายร้อยปี เพื่อนคนญี่ปุ่นบอกไว้ว่าวัดที่เกียวโตสวยมากนะคุณต้องไปให้ได้นะ เราเลยไม่ควรที่จะพลาดเลยและวันนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ บล็อกต่อไปเราจะมาเล่าเรื่องการเดินทางไปที่เกียวโตให้ทุกคนฟังค่ะ ขอบคุณค่ะ