นิยายเรื่อง "สงครามข้ามภพ" เพื่อนๆ อ่านแล้วเป็นไงบ้าง?

<ผมจะแต่งนิยายน่ะครับ เรื่อง "สงครามข้ามภพ"  อันนี้เป็นเรื่องย่อนะครับ ยังไม่ได้เขียนฉบับเต็มและยังไม่ได้แต่งคำพูดของแต่ละตัวละคร เพื่อนๆ อ่านแล้วเป็นไงบ้าง?  อยากให้แต่งเรื่องต่อไหม หรืออยากให้เปลี่ยนชื่อนิยายไหมครับ เนื้อเรื่องน่าสนใจไหม ขอความรู้ทีครับ
ขอบคุณครับ ติดตามด้านล่างนี้ได้เลย>
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                                                                               เรื่องย่อสงครามข้ามภพ
“มังกร”  หนุ่มพนักงานบริษัท ตำแหน่งพนักงานอาวุโส ของบริษัท Finance แห่งหนึ่ง  ที่เพิ่งย้ายที่ทำงานจากชานเมืองมาอยู่ในย่านใจกลางเมืองหลวงที่วุ่นวาย ในชีวิตประจำวันต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่กว่าจะกลับก็ 2-3 ทุ่ม ก็เพื่อหลีกหนีชีวิตที่วุ่นวายในช่วงเวลาที่คนอื่นเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถติด มลพิษ ความวุ่นวายในบริษัท และอื่นๆ อีกมากมายที่แสนน่าเบื่อ  มังกรเป็นคนที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสักเท่าไร ไม่มีความก้าวหน้าอะไรเลย ไม่มีหน้าที่ ที่โดดเด่นเหมือนคนอื่น อยู่ไปวันๆ  เพื่อรอรับเงินเดือนก็เท่านั้น

               แต่ละวันหลังเลิกงาน มังกร ก็จะนั่งเล่น Computer แชท พูดคุยกับเพื่อนในเว็บแชท หรือดูข้อมูลข่าวสารในเว็บไปเรื่อยๆ เพื่อรอเวลากลับบ้าน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว  จากเว็บแชท หรือจากเว็บบล็อกนี่เอง ทำให้มังกรได้รู้จักกับ “กวิน” นักวิจารย์เกมส์และพวกเกรียนคีย์บอร์ด ทำอาชีพอิสระ  ที่ชอบวิจารณ์ แชร์ข้อมูลต่างๆ ในโลก Social และ Comment ในเพจของคนอื่น กวิน เป็นคนรักอิสระ วันๆ ไม่ค่อยออกจากบ้านอยู่แต่หน้าจอ Computer ชอบ Chat กับเพื่อนในโลก online เป็นชีวิตจิตใจ

           มังกร จะพูดคุยกับ กวิน เหมือนเป็นเพื่อนสนิทกันมาก ทั้งที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันจริงๆ เห็นแค่ในเว็บแคม แต่ก็คุยกันได้ทุกเรื่องเพราะโลก Social ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันและเข้าใจกันมากขึ้นทุกวัน

         วันหนึ่ง กวิน ได้รับอีเมล ลึกลับจากเพื่อนในบล็อกที่เขาเล่นอยู่ส่งมาให้ เป็นข้อความคล้ายกับอีเมลลูกโซ่ ให้ส่งต่อไปเรื่อยๆ   ในอีเมลนั้นมีข้อความระบุว่า      “มีถ้ำมรกตแห่งหนึ่ง อยู่ในเกาะ “เขาภูมิ” ทางตอนใต้ของเมืองไทย คนในแถบนั้นเชื่อว่าในถ้ำมรกตแห่งนี้มีทางที่สามารถไปโลกอนาคตได้หรือภพอื่น แต่ต้องหาทางที่จะข้ามไปอีกภพหนึ่งเจอให้ได้ และยังไม่มีใครสามารถหาเจอเลย แต่คนบางกลุ่มเชื่อว่ามีจริง ถ้ามีความสามารถพอ  ลองดู!!! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ถ้าเชื่อก็จงส่งต่อให้คนอีก 10 คน”
        กวิน เลยส่งต่อข้อความนี้ให้กับ มังกรอ่านเพื่อจะชวนไปท้าทายความเชื่อที่ระบุในอีเมล   และนั่นเป็นช่วงจังหวะที่ มังกรเจอกับปัญหาชีวิตพอดี เนื่องจากโดนลูกค้าฟ้องหัวหน้า เรื่องให้ข้อมูลผิดทำให้ต้องโดนพักงาน 1 เดือน  มังกร ตอบตกลง กวิน ที่จะไปด้วย แต่ไม่ได้ไปเพราะอีเมลนั้นหรอก เขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เหตุผลหลักของ มังกร คือต้องการที่จะไปพักผ่อนคลายเครียดที่ไหนสักแห่ง ชาร์ทแบตก่อนกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่  

         กวิน ได้ชวน “โจอี้”  เพื่อนสนิท  หนุ่มทหารเรือ รูปร่างหน้าตาดี หุ่นกำยำ  อยู่ในเมืองแห่งหนึ่งติดชายทะเล และที่สำคัญเป็นเมืองที่ผ่านไปเกาะ เขาภูมิ ด้วย  โจอี้  น่าจะสามารถหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินทางได้ โดยเฉพาะ อุปกรณ์ดำน้ำ เรือเร็ว ที่สามารถพาทุกคนไปถึงเกาะเพียงไม่กี่ชั่วโมง และเป็นผู้นำทางที่ดีสามารถปกป้องทุกคนจากภัยอันตรายได้

        กวิน โทรหา โจอี้ ว่าจะไปหาพรุ่งนี้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผลว่าไปหาเพื่ออะไร เพราะกลัวว่าโจอี้ จะปฏิเสธ การเชิญชวนครั้งนี้ กวินรู้นิสัยของโจอี้ ดีถ้าบอกตรงๆ ไปอาจจะไม่ไปด้วยแน่นอน จะต้องหลอกล่อด้วยสิ่งที่ โจอี้ ชอบ
    มังกร และ กวิน เดินทางไปหา โจอี้ ที่ค่ายทหารที่โจอี้ประจำการอยู่  กวิน ออกอุบายชวน โจอี้ พาไปเที่ยวหญิงขายบริการ เพราะเป็นสิ่งที่ โจอี้ชอบ ซึ่งเป็นร้านประจำของโจอี้อยู่แล้ว “มาตา” หญิงขายบริการ ที่สวยเซ็กซี่  และเป็นที่ชื่นชอบของ โจอี้ ทุกครั้งที่มา จะเรียกมาตามาใช้บริการ  

          กวิน บอกโจอี้ว่า จะซื้อ member หญิงขายบริการให้ 10 ครั้ง ถ้า โจอี้ สามารถขโมยเรือและอุปกรณ์ ดำน้ำเพื่อพาทุกคนไปถ้ำมรกต  พร้อมเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับถ้ำมรกตที่จะไปให้ โจอี้ฟัง  
โจอี้ ตอบตกลง เขาคิดอยากจะไปท้าทายดูว่ามีจริงไหมแถมยังได้ข้อเสนอดีๆ จาก กวิน ด้วย  แต่ไม่มีใครรู้เส้นทางที่จะไปเกาะนั้นเลย  มาตา ได้ยิน เลยอาสาพาทุกคนไป แต่จะต้องจ่าย 10,000 เพื่อเป็นค่านำทางไปที่นั่น ทั้งที่ มาตา ก็ไม่รู้จักเส้นทางสักเท่าไร แค่ได้ยินเขาเล่ามาอีกทีเพราะเงิน มาตา เลยยอมที่จะเสี่ยงนำทางครั้งนี้  กวิน ตกลงที่จะจ่ายให้มาตา เพื่อพาทุกคนไปที่ถ้ำมรกต คืนนั้นหลังจากกลับจากเที่ยว โจอี้ ได้พาทุกคนเข้าไปขโมยเรือดำน้ำ และอุปกรณ์ ดำน้ำในค่ายทหารของตัวเอง เกือบจะโดนจับได้แต่ก็รอดตัวไปสามารถเอาเรือออกมาได้และพาทุกคนข้ามไปเกาะได้อย่างปลอดภัย แม้ระหว่างทางจะเจออุปสรรค์บ้างก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น เรือเครื่องดับเอง โจอี้ ซ่อมจนสามารถใช้ได้ หรือ ทุกคนเมาเรือเพราะคลื่นทะเล
    
         เมื่อมาถึงเกาะ ทุกคนหาที่พักแล้วพรุ่งนี้จึงจะได้เดินทางต่อ แต่เกาะนี้ไม่มีที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวพักเลย เป็นเกาะปิดที่ไม่ให้คนภายนอกเข้ามาเลยก็ว่าได้  มังกร ได้ถามคนที่อยู่ในเกาะแถวนั้นเพื่อถามหาทางไปถ้ำมรกต และที่พัก แต่แล้วถามใครก็ไม่มีใครบอกเหมือนปิดบังไม่อยากให้รู้ ชาวบ้านมองพวกเขาเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในระหว่างที่ทุกคนถามชาวบ้านอยู่นั้น ก็มีชายคนหนึ่งมีหนวดเคราเต็มไปหมด บอกว่า ถ้าอยากรู้ว่าถ้ำมรกตอยู่ไหนล่ะก็ให้ตามเขาไป ในระหว่างทางมังกรได้คุยกับชายดังกล่าวจนได้รู้จักชื่อว่า “ซอ” เขาอาศัยอยู่ท้ายเกาะห่างจากหมู่บ้านไป 20 กิโล ติดริมทะเล  ซอ เป็นคนอาศัยอยู่ในเกาะนี้แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่มานานเท่าเท่าไรแล้ว เพราะน้อยคนนักจะรู้จักเขา เพราะคิดว่าเขาเป็นคน ในระหว่างทาง ซอ เล่าให้ทุกคนฟังว่า ใครที่เข้าไปนั้นแล้วอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกเลยหรือไม่สามารถกลับมาได้อีก แต่ โจอี้ บอกว่าไม่อยากจะเชื่อที่ ซอ พูดเลย
    
          คืนนั้น ซอ พาทุกคนไปพักที่กระท่อมของเขา หลังจากนั้นเช้าตรู่ก็ให้ทุกคนออกมาแต่เช้าตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ทุกคนเดินทางไปถ้ำ มรกต มังกร แอบสงสัย ซอ ตั้งแต่แรกเห็น ไม่ค่อยไว้ใจสักเท่าไร แต่ก็ไม่กล้าพูดเพราะเกรงใจ
เมื่อถึงมาถึงที่หมายทุกคนก็พบกับถ้ำ มรกต ตามที่ซอ บอกไว้เลย แล้วเอาเชือกไต่ลงไปข้างล่างก้นของถ้ำที่ลึกมาก ระหว่างที่ลงไปในก้นของถ้ำที่ลึก มืด  แคบ และหายใจลำบาก แต่มีไฟฉายที่คอยส่องให้มีแสงสว่างพอเห็นทางบ้าง มาตา กลัวมากและร้องให้ตลอดเวลา เกือบจะลงไปไม่ได้ แต่ว่าทั้ง โจอี้ และ กวิน กล่อม ให้ทำใจสบายๆ หายใจลึกๆ จนสามารถ ลงไปถึงข้างล่างได้ทั้งหมด เมื่อถึงข้างล่างก็มองเห็นทะเลสาบเล็กๆ สีมรกตสวยงามอย่างไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกคนตะลึงกับภาพที่เห็นข้างหน้า  ต่างคนต่างมองหน้ากันและกัน

           กวิน ชวนเพื่อนดำลงไปในทะเลสาบเพื่อชื่นชมความสวยงามโดยไม่คิดอะไร  ส่วนกวิน ก็พยายามหาทางที่จะเจอแสงสว่างทางที่จะไปอีกภพเหมือนใจจดหมายบอกแต่ก็ไม่เจอเลย จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ทำให้พระอาทิตย์ส่องลงมาที่ทะเลสาบมรกตแห่งนี้สีสวยสดงดงามอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน และทำให้มังกร แปลกใจอย่างมากเมื่อมีแสงส่องลงมาที่ทะเลสาบรู้สึกแสงจะส่องลงไปได้ลึกและเหมือนสวยงามอย่างมากเหมือนทางที่จะไปสวรรค์ในความฝันเลย  
              มังกร จึงลองไปตามแสงส่องสวยๆนั้นดู แล้วก็ดำลึกลงไปเรื่อยๆ จนทำให้พลัดหลงกับเพื่อน ที่อยู่ในกลุ่ม ทุกคนพยายามดำตามหามังกร แต่ก็ไม่เจอ จมหายไปไหนแล้ว ในระหว่างที่ทุกคนกำลังตามหา มังกรอยู่นั้น ทันใดนั้นมังกร ก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วมาบอกทุกคนว่าเขาเจอบางอย่างเหมือนกับทางขึ้นฝั่งอีกที่หนึ่ง  ทุกคนเลยตามมังกรไปเพื่อไปดูอีกฝั่งที่เขาบอก และก็เจออีกฝั่งจริงๆ เมื่อทุกคนขึ้นจากบนพื้นน้ำก็เจอทะเลสาบเล็กๆ อยู่ในป่าแห่งหนึ่ง ทุกตลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นและก็พากันเดินดูรอบๆ ก็แปลกใจมากเพราะมีแค่ป่าที่ล้อมรอบทะเลสาบเล็กแค่นั้น หลังจากออกจากป่าแห่งนี้ก็จะเป็นพื้นที่กว้างขวางและก็มีตึกรางบ้านช่อง ที่เสียหายเหมือนโดนทำลายมาแล้วที่ปล่อยทิ้งร้างเหมือนไม่มีใครอยู่มานานหลายร้อยปี และยังมีแต่ควันไฟ แม่น้ำสกปรกในน้ำเต็มไปด้วยขยะ และสิ่งโสโครก น้ำสีดำ  ท้องฟ้ามืดครึ้มมาก สถานที่นั้นช่างเหงา วังเวง และซึมเศร้า ทุกคนก็เดินไปเรื่อยๆ  จนเห็นตึกร้างใหญ่โต มังกร กะจะไปสำรวจดูว่ามีอะไรบ้าง

+++++++++++++++++++++++++
เดี๋ยวมาลงต่อครับ