บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ร่วมกับ สิงคโปร์ โพสต์ (Singapore Post) จัดทำตราไปรษณียากรชุดพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ โดยเลือกเอา “ขนมหวาน” เป็นสื่อสัญลักษณ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของแต่ละฝ่ายเป็นทูตวัฒนธรรมในครั้งนี้ ซึ่งนั่นก็คือ ข้าวเหนียวมะม่วง จากไทย และ ไอศกรีมแซนด์วิช ของสิงคโปร์
นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ นางฉั่ว ซิว ซาน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นางฉั่ว ซิว ซาน กล่าวถึงความพิเศษของวาระการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ ว่าเป็นสิ่งที่เตือนให้รำลึกถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรอันใกล้ชิดและหยั่งรากลึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ 50 ปีก่อน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศลำดับแรก ๆ ที่ให้การยอมรับและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสิงคโปร์
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2508 เพียงระยะเวลาราวเดือนกว่าหลังดินแดนสิงคโปร์ได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2508 ซึ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมา มิตรภาพระหว่างกันก็ได้พัฒนาขยายไปสู่ความร่วมมือในหลากหลายภาคส่วน สิงคโปร์เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่ลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ 1 และยังเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียนด้วย
ไม่เพียงแต่ในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ในปีที่ผ่านมา มีชาวไทยราว 500,000 คน เดินทางไปยังสิงคโปร์ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายของนักเดินทางชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันนี้อยู่ที่ราว 800,000 คน
นอกจากความร่วมมือในระดับทวิภาคีที่เติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว ไทยและสิงคโปร์ยังนับเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งอาเซียน เช่นเดียวกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะยกระดับความร่วมมือกับ ไทยอันจะเป็นกุญแจสำคัญ สำหรับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อัตลักษณ์ของภูมิภาคอาเซียน เพื่อนำไปสู่ศักยภาพด้านการแข่งขันในเวทีระดับโลก
ในส่วนของความร่วมมือในการจัดทำตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ชุดพิเศษนี้ นางปริษา ปานะนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการตลาดของ ปณท กล่าวว่า ได้มีการหารือและเตรียมการก่อนหน้านี้มาเป็นเวลาหลายปี โดยมองว่า แม้ปัจจุบันบทบาทของแสตมป์ในฐานะค่าใช้จ่ายในการฝากส่งไปรษณียภัณฑ์จะลดลงไป แต่ในอีกด้านหนึ่ง พื้นที่เล็ก ๆ บนดวงตราไปรษณียากรนี้สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้มากมาย จึงทำให้มันกลายเป็นอีกสิ่งที่ช่วยบันทึกประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น ๆ ได้
การเลือกใช้ “ของหวาน” เป็นตัวแทนในครั้งนี้ เนื่องจากอาหารการกินเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตและความเป็นตัวตนของคนในชาตินั้นได้เป็นอย่างดี สำหรับประเทศไทย ของหวานที่เลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักในระดับสากลมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างรสชาติหอมหวานของมะม่วงสุกสีเหลืองทอง กับข้าวเหนียวมูนหวานมันกลมกล่อม ขณะที่ไอศกรีมแซนด์วิชสีสันสดใสของสิงคโปร์ ก็เป็นการประยุกต์เอาลักษณะของขนมปังแซนด์วิช รวมเข้ากับความหวานเย็นของไอศกรีม เกิดเป็นเมนูสร้างสรรค์ที่สร้างความรู้สึกและรสชาติใหม่ ๆ ให้แก่นักชิม นอกจากนี้ ผู้จัดทำยังต้องการสื่อถึงความหอมหวานในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน และจะยังคงเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ แสตมป์ชุดนี้มี 2 ดวง ได้ออกวางจำหน่ายพร้อมกันทั้งไทยและสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยบริษัทไปรษณีย์ไทยและสิงคโปร์ โพสต์ ได้มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนแสตมป์ชุดนี้ระหว่างกันด้วย ราคาหน้าดวงของแสตมป์ไทยอยู่ที่ 3 บาท ราคาจำหน่าย 1 ชุด ประกอบไปด้วยแสตมป์ 2 ดวง พร้อมซอง อยู่ที่ 14 บาท ส่วนแสตมป์สิงคโปร์มี 2 ชนิดราคา คือ 0.30 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 7.50 บาท) และ 2 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 50 บาท).“
ขอบคุณข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์
http://www.dailynews.co.th/article/351096
ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวแสตมป์‘ขนมหวาน’ ฉลองมิตรภาพ 50 ปีไทย - สิงคโปร์
บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ร่วมกับ สิงคโปร์ โพสต์ (Singapore Post) จัดทำตราไปรษณียากรชุดพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ โดยเลือกเอา “ขนมหวาน” เป็นสื่อสัญลักษณ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของแต่ละฝ่ายเป็นทูตวัฒนธรรมในครั้งนี้ ซึ่งนั่นก็คือ ข้าวเหนียวมะม่วง จากไทย และ ไอศกรีมแซนด์วิช ของสิงคโปร์
นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ นางฉั่ว ซิว ซาน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นางฉั่ว ซิว ซาน กล่าวถึงความพิเศษของวาระการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ ว่าเป็นสิ่งที่เตือนให้รำลึกถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรอันใกล้ชิดและหยั่งรากลึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ 50 ปีก่อน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศลำดับแรก ๆ ที่ให้การยอมรับและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสิงคโปร์
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2508 เพียงระยะเวลาราวเดือนกว่าหลังดินแดนสิงคโปร์ได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2508 ซึ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมา มิตรภาพระหว่างกันก็ได้พัฒนาขยายไปสู่ความร่วมมือในหลากหลายภาคส่วน สิงคโปร์เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่ลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ 1 และยังเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียนด้วย
ไม่เพียงแต่ในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ในปีที่ผ่านมา มีชาวไทยราว 500,000 คน เดินทางไปยังสิงคโปร์ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายของนักเดินทางชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันนี้อยู่ที่ราว 800,000 คน
นอกจากความร่วมมือในระดับทวิภาคีที่เติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว ไทยและสิงคโปร์ยังนับเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งอาเซียน เช่นเดียวกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะยกระดับความร่วมมือกับ ไทยอันจะเป็นกุญแจสำคัญ สำหรับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อัตลักษณ์ของภูมิภาคอาเซียน เพื่อนำไปสู่ศักยภาพด้านการแข่งขันในเวทีระดับโลก
ในส่วนของความร่วมมือในการจัดทำตราไปรษณียากรหรือแสตมป์ชุดพิเศษนี้ นางปริษา ปานะนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการตลาดของ ปณท กล่าวว่า ได้มีการหารือและเตรียมการก่อนหน้านี้มาเป็นเวลาหลายปี โดยมองว่า แม้ปัจจุบันบทบาทของแสตมป์ในฐานะค่าใช้จ่ายในการฝากส่งไปรษณียภัณฑ์จะลดลงไป แต่ในอีกด้านหนึ่ง พื้นที่เล็ก ๆ บนดวงตราไปรษณียากรนี้สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้มากมาย จึงทำให้มันกลายเป็นอีกสิ่งที่ช่วยบันทึกประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น ๆ ได้
การเลือกใช้ “ของหวาน” เป็นตัวแทนในครั้งนี้ เนื่องจากอาหารการกินเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตและความเป็นตัวตนของคนในชาตินั้นได้เป็นอย่างดี สำหรับประเทศไทย ของหวานที่เลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักในระดับสากลมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างรสชาติหอมหวานของมะม่วงสุกสีเหลืองทอง กับข้าวเหนียวมูนหวานมันกลมกล่อม ขณะที่ไอศกรีมแซนด์วิชสีสันสดใสของสิงคโปร์ ก็เป็นการประยุกต์เอาลักษณะของขนมปังแซนด์วิช รวมเข้ากับความหวานเย็นของไอศกรีม เกิดเป็นเมนูสร้างสรรค์ที่สร้างความรู้สึกและรสชาติใหม่ ๆ ให้แก่นักชิม นอกจากนี้ ผู้จัดทำยังต้องการสื่อถึงความหอมหวานในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน และจะยังคงเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ แสตมป์ชุดนี้มี 2 ดวง ได้ออกวางจำหน่ายพร้อมกันทั้งไทยและสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยบริษัทไปรษณีย์ไทยและสิงคโปร์ โพสต์ ได้มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนแสตมป์ชุดนี้ระหว่างกันด้วย ราคาหน้าดวงของแสตมป์ไทยอยู่ที่ 3 บาท ราคาจำหน่าย 1 ชุด ประกอบไปด้วยแสตมป์ 2 ดวง พร้อมซอง อยู่ที่ 14 บาท ส่วนแสตมป์สิงคโปร์มี 2 ชนิดราคา คือ 0.30 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 7.50 บาท) และ 2 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 50 บาท).“
ขอบคุณข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์
http://www.dailynews.co.th/article/351096