บทเรียนของความรักของนักเขียนการ์ตูน

สวัสดีครับ ผมอายุ28ปี เป็นนักศิลป์ที่ไม่มีชื่อเสียงนัก(ขอไม่เปิดเผยตัวนะครับ)

วันนี้อยากมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักในอดีตของผม ขอให้เป็นเรื่องที่สามารถเตือนใจเพื่อนๆได้นะครับ
และขอบอกไว้เลยว่า เรื่องนี้ ผมก็มีส่วนผิด ไม่ได้โทษใครคนใดคนหนึ่ง

5ปีก่อน ผมได้คบกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอน่ารักดีเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แต่เธอจริงใจมากๆเลยครับ
และทำให้โลกที่อ้างว้างของผมสดใสขึ้นมา ผมเป็นคนดวงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งเรื่องรัก เรื่องเพื่อน

เราคบกันมารู้ข้อเสียของกันเเละกัน ผมเองก็เป็นคนใจร้อนเเละในบางครั้งก็ไม่มีเหตุผล และยังขี้หึงมาก เธอก็ยังรับผมได้
และเธอเองก็มีข้อเสีย คือเธอค่อนข้างชอบพูดเรื่องม่ดีให้ผมฟังบ่อย โดยเฉพาะเรื่องที่ผมไม่ชอบฟังพวก เรื่องผู้ชายคนอื่นที่เธอเจอ

เราก็คบกันมา โวยวายใส่กันบ้าง หลายครั้ง แต่เธอก็ยังรับผมได้ อาจเพราะผมเป็นคนจริงใจไม่เจ้าชู้ และพูดจริงทำจริงคำไหนคำนั้น

เรามีความสุขกันมาก ยอมรับว่าเราเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน (โดยที่ป้องกัน)มันเกิดมาจากความรักจริงๆ

และเธอก็ได้ไปทำงานของเธอซึ่งเธอเครียดมาก และมีเวลาให้ผมน้อยลง
แต่นั้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมาก ผมยังรักเธอ (ผมยอมรับเลยว่าชอบวีนใส่เธอ)
และก็รู้สึกผิด ก็ขอโทษเธอไป เราก็ยังดีๆกันอยู่

แต่คบกันมาปีที่5 เธอก็ได้พาผมไปเจอกับแม่ของเธอ ผมรับแม่เธอไม่ไหวครับ แม่เธอชอบังคับให้ผมไปพบญาติๆ ไปโน้นมานี่(เหมือนจะเอาผมไปอวด)
อีกทั้งที่รับไม่ได้เลยก็คือ เเม่เธอบังคับให้ผมเรียนขับรถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปมของผมมาตลอด เพราะผมใจร้อนมาก ผมให้สัญญากับพ่อและแม่ ว่าจะไม่ขับรถตลอดชีวิต ผมเลยม่พอใจเเม่ของเธอมากๆครับ และไปวีนใส่เธอหลังจากเจอแม่กับพ่อเธอ

ไปเจอแม่เธออีกรอบ
ผมเก็บเงินซื้อเสื้อผ้าที่เเม่เธอชอบให้ เเต่ม่มีอะไรเปลี่ยน เเม่เธอก็ยังบังคับผมเหมือนเดิม

หลังจากนั้นความสัมพันธ์ก็เเย่ลงเรื่อยๆ ทั้งที่ผมทำงานหาเงินเพื่อไปขอเธอ แต่เธอกลับชอบพูดให้ผมไปเปลี่ยนงานที่มีเงินเยอะๆ

ผมไม่ได้มีอีโก้อะไรมากมายหรอกครับ แต่ผมเป็นคนไม่ฉลาด มากนักแถมยัง ขี้โมโหอีก(อันนี้ต้องยอมรับตัวเองครับ)ผมจึงม่สามารถทำงานอื่นได้
และเธอยังชอบพูดเปรียบเทียบ กับเเฟนเพื่อนว่า เเฟนเพื่อนให้ดอกไม้ช่อใหญ่ ในวันวาเลนทาย ส่วนผมช้อเล็กนิดเดียว

เธอไม่ให้กำลังใจอะไรผมเลย  และยังชอบให้ผมซื้อของไปให้เธอบ่อยๆ ถึงจะของเล็กน้อยๆ แต่ผมไม่ได้รวยนี่ครับ

ผมเริ่มวีนใส่เธอหนักขึ้นทุกวัน เเละเริ่มคิดว่า เราคบกันเพื่อผลประโยชน์ และมีอยู่วันหนึ่งเรามีอะไรกันโดยที่เธอยอมไปอย่างนั้นๆแหละไม่ได้อยากมี

วันนั้นถุงยางขาดครับ เธอกังวลมาก และผมก็รู้สึกผิด เราทะเลาะกันหนักมาก จนถึงขั่นจะเลิกกัน (ผมโวยวายใส่เธอหนักมาก)

แต่ผมบอกเธอว่า..... ถ้าเธอท้องผมจะรับผิดชอบ และผมไม่ได้เกลียดเธอ ผมยังมีความรู้สึกดีๆให้เธอ....
ผมจะเก็บเงินให้เธอใช้ ให้เธอพอมีพอกิน อาจไม่มากมาย แต่จะขยันทำงาน.... ขออย่างเดียว ไม่อยากให้เอาผมไปพ่วงกับแม่เธออีก
แต่ยังไงก็จะดูแลเธอ และจะหาเงินให้แม่เธอบ้างพอควร

ผมจำคำนี้ที่พูดกับเธอได้เลย ผมสาบานเลย ว่าคำพูดแบบนี้

แต่สุดท้ายเธอไม่ได้ท้อง ผมก็โล่งใจไปบ้าง ยอมรับว่าดีใจ เพราะหลังๆไม่ค่อยรักเธอเท่าเก่า

เธอก็กลับมาดีพักหนึ่ง และหลังจากนั้น เธอก็ชอบดูถูกงานศิลป์ของผม

ให้ผมไปทำงานอื่น ให้ผมเก็บเงินซื้อของให้เธอ ให้ผมคุยกับเเม่เธอบ้าง...

เราเริ่มห่างกัน เธอเริ่มคุยกับชายอื่นในเฟสบุค ผมรู้สึกเเย่มากครับ โวยวายใส่เธอหนักมาก คำหยาบอะไรก็ประเคนให้เธอ

จนหลังๆเราก็เลิกกัน โดยที่ผมด่าเธอ และโกรธเธอมาก ที่เธอดูถูกงานผม ดูถูกผมและยัง ชอบคุยเสน่ห์หากับชายอื่นในเฟส

เราจบกันโดยที่ผมก็รู้สึกผิด (ผมด่าเเม่เธอไปว่าขายลูกสาว) ตอนที่โทรไปบอกเลิก



ตอนนี้เราไม่ได้คุยกันอีกเลย

อยากฝากบอกเพื่อนๆทุกคนนะครับว่า ความรักคือการเข้าใจกัน และพร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน

ผมไม่ได้บอกว่าตัวเองดี ตัวเองถูก เพราะ ถ้าผมดีจริงคงไม่ไปด่าแม่เธอหยาบๆ
และผมเองก็ ยืนยันได้ว่า ถ้าหากตอนนั้นเธอท้อง ผมก็จะรับผิดชอบ ในส่วนของผม
ไม่ให้เธอลำบาก และจะทำงานมากขึ้นเพื่อลูก

บทเรียนอีกอย่างคือ พ่อ-แม่ (บางครอบครัว) มีส่วนทำให้ลูกเปลี่ยนไป ไม่มากก็น้อย
(แม่ของเธอ ชอบพูดกลอกหูเธอว่า เธอขี้เหร่ ทั้งที่เธอน่ารักมาก อีกทั้งยังชอบกดดันเธอ ให้เธอไปหางานดีๆทำ หาแฟนรวยๆ)

ดังนั้น หากคุณรักลูกของคุณ จงพูดในเรื่องที่ทำให้เขามีความสุข และจงสอน ในสิ่งที่เป็นจริง
จงทำให้เห็นว่าเธอมีค่า...และ เธอเป็นที่รักของคุณ ทำให้ครอบครัวของคุณอบอุ่น

ขอให้บทเรียนนี้ทำให้ผู้อ่านฉุกคิด ถึงความรัก...ของท่าน


ขอบพระคุณมากครับที่รับฟัง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่