“ทรูวิชั่นส์” คว้าลิขสิทธิ์ไทยลีกเพิ่มอีก 4 ปี มูลค่าสูงถึง 4,200 ล้านบาท ยิงถ่ายทอดสด 4 รายใหญ่ตลอดปี 2560-2563 ฟาก TRUE เตรียมเทรดพาร์ใหม่ 4 บาท ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้
รายงานจากบริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ระบุว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้ขยายสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยทั้ง 4 รายการ ได้แก่ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีก วัน, ช้าง เอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีก คัพ ออกไปอีก 4 ปี ในช่วงปี 2560-2563 พร้อมกับเพิ่มค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดออกไปสูงถึง 4,200 ล้านบาท จากเดิมมีสัญญายาว 3 ปี ระหว่างปี 2557-2559 ปีละ 600 ล้านบาท
โดยการถ่ายทอดสดของทรูวิชั่นส์ กรุ๊ปฯ ประจำปี 2560-2563 คิดเป็นเวลา 4 ปี รวม 4,200 ล้านบาท เท่ากับเฉลี่ยปีละ 1,050 ล้านบาท จะมีการถ่ายทอดสดใน 1 ฤดูกาล ทั้งโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก ครบ 306 แมตช์, ยามาฮ่าลีกวัน 306 แมตช์ , โตโยต้า ลีก คัพ 114 แมตช์ และช้าง เอฟเอ คัพ 85 แมตช์
ดังนั้น การขยายสัญญาออกไปของทรูวิชั่นส์พร้อมกับค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่สูงขึ้นจะทำให้แต่ละทีมในไทยพรีเมียร์ลีกรวมถึงสโมสรในลีกอาชีพอื่นได้รับเงินจากค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีการแบ่งให้กับสโมสรต่างๆ ใน 3 ช่วง ได้แก่ ก่อนเปิดฤดูกาล, หลังจบเลกแรก และหลังจบเลกสอง
สำหรับการเซ็นสัญญาได้เกิดขึ้นในวานนี้ (29 ก.ย. 2558) โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และนายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SPORT รวมถึงเซอร์เดวิด เจอรัล ริชาร์ด ประธาน Kynsman LTD. และอดีตประธาน The FA Premier League รวมถึงนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ร่วมในงาน
ขณะที่ TRUE รายงานล่าสุดว่า บริษัทได้มีการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว โดยจะใช้มูลค่าที่ตราไว้ใหม่ (พาร์) เป็น 4 บาท จากเดิมพาร์ระดับ 10 บาท ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TRUE ล่าสุดในวานนี้ ปิดการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 9.55 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า โดยทำราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 9.70 บาท ต่ำสุดของวันที่ระดับ 9.40 บาท และมีมูลค่าการซื้อขายรวมตลอดวันทั้งสิ้น 565 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 58,911 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 2,931 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2557 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 117,659 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,425 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 (หน้า 1, 27)
TRUE คว้าลิขสิทธิ์ไทยลีก 4รายการ 4ปี 4.2 พันล้าน
“ทรูวิชั่นส์” คว้าลิขสิทธิ์ไทยลีกเพิ่มอีก 4 ปี มูลค่าสูงถึง 4,200 ล้านบาท ยิงถ่ายทอดสด 4 รายใหญ่ตลอดปี 2560-2563 ฟาก TRUE เตรียมเทรดพาร์ใหม่ 4 บาท ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้
รายงานจากบริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ระบุว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้ขยายสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยทั้ง 4 รายการ ได้แก่ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีก วัน, ช้าง เอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีก คัพ ออกไปอีก 4 ปี ในช่วงปี 2560-2563 พร้อมกับเพิ่มค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดออกไปสูงถึง 4,200 ล้านบาท จากเดิมมีสัญญายาว 3 ปี ระหว่างปี 2557-2559 ปีละ 600 ล้านบาท
โดยการถ่ายทอดสดของทรูวิชั่นส์ กรุ๊ปฯ ประจำปี 2560-2563 คิดเป็นเวลา 4 ปี รวม 4,200 ล้านบาท เท่ากับเฉลี่ยปีละ 1,050 ล้านบาท จะมีการถ่ายทอดสดใน 1 ฤดูกาล ทั้งโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก ครบ 306 แมตช์, ยามาฮ่าลีกวัน 306 แมตช์ , โตโยต้า ลีก คัพ 114 แมตช์ และช้าง เอฟเอ คัพ 85 แมตช์
ดังนั้น การขยายสัญญาออกไปของทรูวิชั่นส์พร้อมกับค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่สูงขึ้นจะทำให้แต่ละทีมในไทยพรีเมียร์ลีกรวมถึงสโมสรในลีกอาชีพอื่นได้รับเงินจากค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีการแบ่งให้กับสโมสรต่างๆ ใน 3 ช่วง ได้แก่ ก่อนเปิดฤดูกาล, หลังจบเลกแรก และหลังจบเลกสอง
สำหรับการเซ็นสัญญาได้เกิดขึ้นในวานนี้ (29 ก.ย. 2558) โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และนายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SPORT รวมถึงเซอร์เดวิด เจอรัล ริชาร์ด ประธาน Kynsman LTD. และอดีตประธาน The FA Premier League รวมถึงนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ร่วมในงาน
ขณะที่ TRUE รายงานล่าสุดว่า บริษัทได้มีการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว โดยจะใช้มูลค่าที่ตราไว้ใหม่ (พาร์) เป็น 4 บาท จากเดิมพาร์ระดับ 10 บาท ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TRUE ล่าสุดในวานนี้ ปิดการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 9.55 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า โดยทำราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 9.70 บาท ต่ำสุดของวันที่ระดับ 9.40 บาท และมีมูลค่าการซื้อขายรวมตลอดวันทั้งสิ้น 565 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 58,911 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 2,931 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2557 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 117,659 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,425 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 (หน้า 1, 27)