เกิดอะไรขึ้นกับฤดูฝนของภาคเหนือปีนี้

ผมติดตามและสนใจเรื่องสภาพอากาศมาตลอดและได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในช่วง10กว่าปีที่ผ่านมาว่าอากาศบ้านเราเปลี่ยนไปจริง
ที่น่าสนใจคือเหตุใดปีนี้ภาคเหนือถึงมีฝนตกน้อยมาก จนทำให้น้ำในเขื่อนหลักทั้งสองเขื่อนไม่ถึงครึ่งทั้งที่จะเข้าปลายฤดูฝนแล้ว
อีกไม่กี่วันจะเข้าเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่ภาคเหนือโอกาสฝนตกชุกจะไม่มีแล้ว เพราะร่องฝนจะเคลื่อนลงมาภาคกลางตามแรงดันของความกดอากาศสูง
หรือลมหนาวจากประเทศจีนซึ่งเริ่มแผ่ลงมาแล้ว สังเกตในช่วงที่ร่องฝนพาดผ่านภาคเหนือ ร่องฝนกลับไม่ทำให้เกิดฝนตกเท่าที่ควรแต่พอเลื่อนลงมาภาคกลางกับมีเมฆฝนเกิดขึ้นมากมาย แม้กระทั่งในช่วงพายุหว่ามก๋อ พายุลูกแรกของปีขณะที่หลายภาคได้น้ำฝนมหาศาล ภาคเหนือกลับได้ฝนน้อยมาก ได้รับฝนแค่วันสุดท้ายตอนที่พายุกำลังเคลื่อนออกจากประเทศไทยเท่านั้น ตอนนี้ปลายฤดูฝนแล้ว ถ้ามีพายุก่อตัวเข้ามาในช่วงนี้ทิศทางก็คงไม่ไปภาคเหนือแล้ว
ท่านผู้เชี่ยวชาญหรือท่านที่สนใจมาคุยกันหน่อยครับว่าหน้าฝนภาคเหนือปีนี้เกิดอะไรขึ้น??
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ผม ขอพูดในขอบเขตของภาคเหนือตอนบนนะครับ

1. ปีนี้ นับได้ว่าเป็นปีที่ฝนน้อยจริงๆ จะว่าในรอบ 20 ปีก็ว่าได้
ดูจากปริมาณน้ำในเขื่อนสองเขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิต
มีไม่ถึง 50 % ของที่จุได้ ทั้งที่ อีก 15 วัน ฝนหนักจะหมดจากภาคเหนือแล้ว

2. ดูข่าว และดูภาพจาก web ฝรั่ง เขาบอกว่า อุณภูมิของทะเลทางเรา  ส่วนชิดขอบคาบสมุทร
น้อยกว่า ทางฝั่งอเมริกาใต้ไป 2 - 3 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปรากฎการณ์ เอลนินโน
คือ มีไอน้ำน้อย มีเมฆน้อย การก่อตัวของพายุ หรือ ความรุนแรงที่เข้ามาให้ฝั่ง
คาบสมุทรอินโดจีนก็น้อยตามไปด้วย

3. ร่องฝน ลอยอยู่เหนือ ส่วนบนของภาคเหนือ คือทางจีนตอนใต้ อยู่นาน เป็นเดือน
จากนั้นลงมาที่ภาคเหนือ ประมาณกลางๆ เดือนกันยายน แป๊บเดียว  3-4 วัน
พอปลายเดือน ก็วนกลับขึ้นไปใหม่ แล้วก็เลื่อนลงไปภาคกลางตนบน

เวลานี้ ร่องฝนอยู่ภาคกลางตอนบน – กลาง กำลังเลื่อนลง กทม.
น่าจะประมาณ เดือน ตุลาคม ร่องฝนจะพาด กทม. ครับ

3.1 ขณะเดียวกันมีพายุ เกิดขึ้นสามลูกใหญ่ๆ และลูกกลางๆลูกหนึ่ง
สามลูกแทนที่จะเข้าทางคาบสมุทรอินโดจีน แต่ไม่เข้า ดันหมุนขึ้นเหนือ
ทั้งนี้ เนื่องจาก ความชื้นใกล้คาบสมุทรมีน้อย ประกอบกับ บนฝั่งมี H เลื่อนลงมาด้วย
สุดท้ายพายุ ไปเข้าจีนฝั่งตะวันออก ไปเข้าญี่ปุ่น
และเพิ่ง ถล่มไต้หวันเมื่อ 28/9/2558 นี่เอง บ้านคนไร้ที่อยู่ 1.8 ล้านหลัง
  
3.2 มีลูกเดียวเข้าไทย แต่เข้าทางอีสานใต้ ทำให้อีสานใต้พอชุ่มช่ำบ้าง
รวมถึง ลพบุรี สระบุรี และเพชรบูรณ์ บางส่วน  
ถ้าไม่มีลูกนี้นะครับ ปีนี้ พืชไร่ แพงหูฉี่แน่นอน

3.3 จากที่ว่ามา ไม่มีสักลูกที่เข้าทางเหนือ หรือเฉียดๆ จึงทำให้ปริมาณฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย
โดยประมาณ 30 % ทั้งจำนวนวันที่ฝนตก และปริมาณฝนตกสะสม
โดยเฉพาะ พื้นที่เหนือเขื่อนหลักสองเขื่อนที่ว่ามา

4. ก็หวังว่า แม้นภาคเหนือ จะมีฝนน้อย ก็ขออย่าให้ภาคกลางมีฝนน้อยตามไปด้วย
ไม่งั้น เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนาจะแย่ครับ

5. เรื่องฝนน้อยนี้ อธิบดีกรมชลท่านได้ออกมาประกาศตั้งแต่ เดือน มิถุนายน หรือ ประมาณนั้นแล้ว
ว่า ฝนจะน้อยนะ ขอพี่น้องอย่าเพิ่งลงมือทำนา ส่วนที่จะทำนาปรังกัน ขอให้งด
ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของเขาที่จะต้องออกมาประกาศเตือนทุกปี หากมีภาวะไม่ปกติ
เช่นเดียวกับอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาที่จะออกประกาศเตือน หากจะมีพายุเข้า
มักจะประกาศล่วงหน้า  3 วัน เป็นอย่างน้อย หรือไม่ก็  5 วัน จะมีประกาศให้เฝ้าระวังพายุ

5.1 จากที่อธิบดีกรมชล ได้ออกประกาศมา แต่แล้วไม่กี่วันหลังจากนั้น
ก็ถูกต่อว่า ว่า "เฮ้ยยย มาประกาศแบบนี้ได้อย่างไร ไม่บอกกันก่อน ไม่พูดคุยกัน
ถ้าฝนมันจะแล้ง ก็หาทางแก้ไขเอาดิ มาประกาศแบบนี้ ชาวบ้านชาวช่องไม่ต้องทำนากันแล้ว"

และถูกตำหนิว่ากล่าวไปหลายคำ เวลานี้ ก็ไม่รู้ว่า อธิบดี ท่านยังอยู่ดีไหม
ส่วนคนที่ ว่ากล่าว ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

6. ภาวะการณ์เช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อ ภูมิอากาศทางภาคเหนือ คือ
ปีนี้ จะแล้งมาก ถึงมากที่สุด น้ำจะน้อย ส่วนที่น่านที่บอกว่าน้ำแรงนั้น
เดี๋ยว ปลายเดือน ตุลาคม ขอเรียนเชิญไปที่เดิมอีกนะครับ
แล้วจะตกใจ ว่า มันทำไมถึงต่างกันได้เพียงนี้

ผลผลิต พวกพืชผล ที่ต้องอาศัยความชื้น อาศัยน้ำฝน น้ำค้าง จากทางเหนือ
จะขาดแคลนหรือมีราคาแพงเช่นลำไย ในปีหน้า สตรอเบอรี่ หรือ ผลไม้เมืองหนาวต่างๆ
หอมกระเทียม ที่เป็นของพื้นถิ่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง ส้มเขียวหวาน  
กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ พวกนี้ จะมีราคาสูงขึ้น จากนั้น จะกระทบมาที่เพชรบูรณ์
ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือตอนล่างก็ว่าได้ จะทำให้มีราคาสูงขึ้น

ข้าวเหนียว ปลูกกันมากที่ แอ่งแม่จัน แอ่งป่าแดด และแอ่งพะเยา ดอกคำใต้
จะมีผลลิตน้อยลง หากพี่น้องทางภาคอีสาน ได้ผลกระทบตามมาอีก จะทำให้
ข้าวเหนียวฤดูใหม่นี้ แพงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น “เหนียว หมูปิ้ง อาจขายไม่ได้ที่ราคา ถุงละ 10 บาท”
แม้นขายได้ ก็จะได้ปริมาณ น้อยลงเหมือน ไม่อยากขาย

พอต้นปีหน้า ทางเหนือ จะมีไฟป่ามากขึ้น เริ่มแต่ ปลายเดือนมกราคม
หมอกควันจะมาก อาจนานถึง เดือน เมษายนเลยทีเดียว
ทั้งนี้ จะมีตั้งแต่ ทางเหนือของกำแพงเพชรขึ้นไปถึง จีนตอนใต้

แน่นอน พอความชื้นน้อยลงมาก จะมีหนาวมาก และร้อนมากเช่นกัน
อากาศจะแปรปรวนกว่าทุกปี  เด็กและคนไม่แข็งแรง จะไม่สบาย
และเป็นโรคทางเดินหายใจเป็นจำนวนมาก

เรื่องฝนน้อย ไม่เกี่ยวอะไรกับ การทำลายป่า การทำลายป่า มีส่วนให้ป่า
ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ นานๆ น้ำจึงหลั่งทะลักลงมา แม้ว่ามีฝนตกเพียงเล็กน้อย
เห็นได้ชัดจาก ลำน้ำน่าน ที่เดี๋ยวเพิ่มเดี๋ยวลด ถ้ามีฝนตกต้นน้ำหรือในป่า

ถ้าเก็บความเห็นผมได้ ก็เก็บนะครับ แล้วมาดูกัน ว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2559 ถึง
วันที่  15 เมษายน 2559 จะเป็นไปตามที่ผมว่ามาไหม

โดยเฉพาะ จะเกิดการขาดแคลน น้ำจากสองเขื่อนนี้มาก น้ำเค็มจากทะเล
จะขึ้นมาถึง อยุธยา น้ำเค็มจะเข้าสวนแถวๆลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นบริเวณกว้าง
ซึ่งทางการต้องหาทางป้องกัน เสียแต่เนิ่นๆ   อธิบดีกรมชลไม่ต้องออกมาเตือน
กระพ้ม นี่แหละ ขอเตือนไว้ล่วงหน้า 6 เดือน ก็หวังว่า จะไม่มีใครมาเอ็ดตะโลที่ผม
ว่า ออกข่าวอันชวนให้ตื่นตระหนก แล้วให้เจ้าหน้าที่มารับตัวผม ไปปรับทัศนะคตินะคร้าบบบ

และแล้ว พี่น้อง กทม. คงจะได้ลิ้มชิมรส น้ำประปา กร่อยๆ นิด ๆ กันอีกแล้ว

คอยดูนะครับ ว่าจะเป็นจริงไหม

ปล. นี่ว่า กันตามท้องเรื่อง ของฝน และอากาศ ไม่เกี่ยวกับ หมอดูทำนายทายทักแต่ประการใด
ขอให้ท่านที่เคารพ ได้โปรด เตรียมตัวกันให้จงดีเถิดดดดด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่