แชร์ประสบการณ์ความรักของผู้ชายห่วยๆอย่างผมครับ

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป ผมยืมแอคเค้าท์เพื่อน(ผู้หญิง)มาใช้ตั้งกระทู้นะครับ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของผมผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับผม
        เริ่มเข้าเรื่องเลยนะครับ เมื่อหลายปีก่อนผมไปเที่ยวกับเพื่อนๆและเจอผู้หญิงคนหนึ่งเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที เธอน่ารักครับ ตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาตี่ๆเหมือนเด็กญี่ปุ่นครับ ส่วนตัวผมนั้นหน้าตาไม่ได้ดีมาก แต่ตัวสูง ผิวสีคล้ำ คารมดีนี่เป็นที่หนึ่งเลยครับ ตอนนั้นผมเพิ่งอกหักจากคนรักเก่าครับผมเลยเข้าไปจีบเธอเพราะเห็นน่ารักดี แต่...เธอดูเหมือนจะหยิ่งๆนิ่งๆเงียบๆและที่สำคัญจีบยากมากครับ ผมตามตื้อ ตื้อทั้งคืนเลยบวกกับให้เพื่อนที่เป็นผู้หญิงช่วยอีกแรงเพื่อจะขอเบอร์โทรเธอให้ได้ สงสัยเธอคงรำคาญผมครับก็เลยให้(แหะๆๆ) หลังจากนั้นผมก็โทรหาเธอเรื่อยๆ ตอนแรกที่เห็นคิดว่าเธอคงจะเจ้าชู้ไม่ใช่เล่นแต่ที่ไหนได้พอได้คุยจนรู้นิสัยใจคอกันในระดับหนึ่งถึงรู้ว่า “ผมเป็นแฟนคนแรกของเธอ” ครับ พอคบกันได้ประมาณเดือนกว่าๆก็ถึงวันวาเลนไทม์เธอเอาดอกกุหลาบมาเซอร์ไพร์ผมถึงบ้านเลยครับ โดยที่ผมไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้เธอเลยแต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับแค่ยิ้มๆ ทั้งผมและเธอเราแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลยในแต่ละเดือนเวลาเจอกันต่างคนต่างก็อายกันครับ แต่ไม่ใช่อายถึงขนาดไม่พูดไม่จากันเลยนะครับ แต่พอในโทรศัพท์คุยเก่งทั้งคู่เผลอๆแทบแย่งกันพูดอีก5555(อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแฮะ) หลังจากเรียนรู้กันมาระยะหนึ่งก็รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีมากครับ ไม่งี่เง่า ไม่ขี้หึง โกธรง่ายหายเร็ว เรียบร้อย เรียนเก่ง พูดเพราะ ฐานะดี เสน่ห์อีกอย่างของเธอคือยิ้มเก่งครับ(บางทีก็เหมือนคนบ้า อุ๊บ!!) ซึ่งต่างจากผมโดยสิ้นเชิง เวลาไม่เข้าใจกันทั้งเธอและผมไม่เคยทะเลาะกันถึงขั้นรุนแรงและไม่เคยพูดคำหยาบใส่กันสักคำแม้กระทั่งกูก็ไม่มี ส่วนเรื่องเซ็กซ์ไม่มีเลยครับเธอขอผมไว้ “ถ้ารักเธออย่าทำร้ายเธอเพราะถ้าผมทำร้ายเธอก็เท่ากับผมทำลายชีวิตเธอ อย่างน้อยๆก็ขอให้เธอเรียนให้จบก่อน” ผมก็ทำตามที่เธอขอทุกประการ ให้เกียรติเธอ ถึงแม้เพื่อนๆจะยุให้ผมทำเรื่องอย่างว่าก็ตามแต่ผมก็ทำไม่ลงหรอกครับ จนวันหนึ่งเราห่างกันผมเข้ามาทำงานในกทม. ส่วนเธอเรียนอยู่ตจว.แต่เราก็ยังโทรคุยกันทุกวันหลังๆมานี้เธอจะเป็นคนโทรหาผมก่อน
        และแล้ววันหนึ่งรักแท้ก็แพ้ใกล้ชิดครับ ผมทำผิดอย่างมหันต์กับเธอ ผมแอบไปมีอะไรกับเพื่อนร่วมงานของผมอีกคน ซึ่งทั้งผมและเธอเราต่างเวอร์จิ้นกันทั้งคู่แต่แล้วผมกลับมอบความบริสุทธิ์ของผมให้กับผู้หญิงคนอื่น  ตอนนั้นเป็นช่วงวัยอยากรู้อยากลองครับ นึกสนุก คึกคะนองไปตามวัย แอบทำแบบนี้ไปเรื่อยๆโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวหรอกครับ และวันหายนะของผมก็มาถึงครับเมื่อเธอมาเยี่ยมผมถึงที่โดยไม่ได้บอกกล่าวอะไรล่วงหน้า เมื่อรถไฟชนกันอย่างจัง!!!! โชคดีที่ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น นาทีที่ผู้หญิง 2 คนปะทะกัน มารู้ตัวอีกทีตอนที่เธอหนีกลับตจว.โดยที่ยังไม่เจอหน้าผมด้วยซ้ำ และโทรมาถามผมว่า “คบซ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมนี่จุกเลยครับขึ้นคำถามแรก ผมก็ตอบกลับว่า “สักพักใหญ่ๆแล้ว แล้วเจอกันแล้วเหรอ มีเรื่องกันหรือเปล่า” เธอตอบกลับมาแบบนิ่งๆน้ำเสียงสั่นๆครับว่า “เจอแล้ว เราไปถามหาเธอแต่พี่เค้าบอกว่าเธอไม่อยู่ มีอะไรฝากกับเค้าได้เค้าเป็นแฟนเธอ...” นาทีนั้นผมพูดไม่ออกครับ รู้สึกกลัวโดนด่าขึ้นมาทันที แต่เธอก็พูดนิ่งๆจนผมรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ “ไม่ต้องกลัวนะ เราไม่ได้บอกพี่เค้าว่าเราเป็นอะไรกับเธอ บอกแค่ว่าเป็นเพื่อน เธอสบายใจได้” สุดท้ายเราก็ตกลงจากกันด้วยดี แต่ก่อนไปผมขอเธออย่างหนึ่งว่า “เลิกกันแล้ว จะคบกับใครไม่ว่า แต่ขออย่างเดียวอย่าคบกับเพื่อนสนิทของเรา” เธอก็รับปากครับแต่ผมกลับลืมบอกชื่อเพื่อนของผมคนนั้น
        เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนผมก็รู้ซึ้งถึงคำว่า “เวรกรรมมีจริง!!” ผมหญิงที่ผมคบอยู่เธอมีแฟนอยู่แล้วและแฟนเธอก็ตามมาหาเรื่องผม หาว่าผมแย่งแฟนชาวบ้านบ้างรัยบ้าง ซึ่งผมก็ไม่รู้มาก่อนนะครับว่าผู้หญิงคนนั้นมีแฟนแล้วเพราะเธอบอกผมว่าเธอไม่มีแฟน งานนี้เล่นเอาผมไปไม่ถูกเลยครับ ความรู้สึกหลายๆอย่างประเดประดังเข้ามา และที่หนักกว่านั้น เหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บแสนสาหัสคือ...ผมไปขอคืนดีกับเธอคนนั้นและพบว่าเธอได้ตกลงเป็นแฟนกับเพื่อนสนิทของผมไปแล้ว เธอบอกว่าเธอไม่รู้ว่าคนนี้คือเพื่อนของผม ส่วนเพื่อนของผมก็ไม่รู้ว่าผมคือแฟนเก่าของเธอ (เหอะๆเริ่มออกแนวนิยายน้ำเน่าเข้าไปทุกทีแต่ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานี้คือเรื่องจริงของผมทั้งนั้นนะครับ) แต่ผมก็ไม่ได้เลวถึงขนาดจะทำลายความรักของเค้าทั้งคู่หรอกนะครับ แต่ผมขอเค้าแค่ว่า “ถ้าเลิกกันเมื่อไหร่ขอโอกาสให้ผมสักครั้งได้ไหม” เธอก็ไม่ได้พูดอะไรนะครับ และแล้ววันนั้นของทั้งคู่ก็มาถึงเพื่อนผมไปนอกใจเธอครับ อย่างว่าความลับไม่มีในโลกจริงๆเธอรู้ของเธอเองหมดเลยครับ เพราะเธอเป็นคนสร้างเฟชให้เพื่อนผมแต่เพื่อนผมมันเอาไปใช้จีบสาวครับ เป็นการชี้โพรงให้กระรอกดีๆนี่เอง ต่อมาเพื่อนผมมันก็รู้ซึ้งถึงคำว่าเวรกรรม!!เหมือนกับผมเลยครับหลังจากที่มันมีเมีย เมียมันก็ด่าเช้าด่าเย็น ไปไหนมาไหนไม่ได้อย่างว่านะครับมีเมียเด็กก็ต้องตามใจกันหน่อย มีวันหนึ่งผมกับเพื่อนๆมานั่งปรับทุกข์กันในวงเหล้าผมเล่าเรื่องของเธอให้เพื่อนๆฟัง (ไม่ได้พูดให้เธอเสียหายนะครับ) และเพื่อนสนิทของผมที่เคยคบกับเธอก็พูดตรงกันประโยคแรกของการเลิกคือ “เธอดีเกินไป” ส่วนประโยคหลังต่อมาก็คือคำว่า “เสียดาย” นั่นเองครับ
        หลังจากจบมัธยมเธอก็ย้ายเข้ามาเรียนในกทม. เธอโสดแล้วผมก็ตามจีบ ตามหยอดเธอมาเรื่อยๆครับแต่ครั้งนี้ยากกว่าครั้งก่อน เพราะมีคู่แข่งทั้งรุ่นพี่ที่รร.เก่าเธอ เพื่อนชายของเธอ รวมทั้งรุ่นน้องของผมด้วย ผมก็พอจะรู้แหละครับว่าคนใกล้ตัวเธอทำไมถึงชอบเธอ ส่วนรุ่นน้องของผมมันก็ได้ยินเรื่องเล่าจากผมนี่แหละครับ เลยคิดอยากเอาชนะใจเธอดูบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ผ่านจุดๆนั้นมาได้เพราะเข้าถูกทางบวกกับคารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรองนั่นเองครับฮี่ฮี่ เธอให้โอกาสผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมรักเธอจริงๆครับ จากที่เคยเป็นฝ่ายนำกลับมาเป็นฝ่ายตามซะงั้น! และครั้งนี้ผมก็เป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจเธอซ้ำอีกครั้งซึ่งผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ด้วยอารมณ์แท้ๆ วันนั้นผมทะเลาะกับครอบครัวอย่างรุนแรง ผมหนีออกจากบ้าน ไม่รู้จะไปไหนด้วยซ้ำ คิดอะไรไม่ออกก็เลยโทรหาเธอ เธอเป็นห่วงผมมากเพราะได้ยินเสียงผมร้องไห้และผมก็รู้ว่าเธอร้องไห้ไปกับผม เธอคุยกับผมจนผมสบายใจ เธอกลัวว่าผมจะเตลิดไปไกลเลยบอกให้ผมมาพักที่หอก่อนก็ได้ ซึ่งผมก็รู้นะครับว่าเธอก็ไม่ไว้ใจผมเท่าไหร่หรอก แต่ด้วยความเป็นห่วงถึงพูดออกไปแบบนั้น (เธอย้ำและขอร้องผมเรื่องนี้อยู่เสมอว่าต้องให้เกียรติ) แต่แล้วผมก็พูดประโยคไม่คาดคิดขึ้นว่า “เวลาเป็นห่วงผู้ชายแล้วพูดแบบนี้กับผู้ชายทุกคนหรือเปล่า” ซึ่งมันเป็นการดูถูกเธอครับ เธอสวนกลับผมเลยครับว่า “ผิดมากเหรอที่เป็นห่วงแฟน งั้นก็เชิญไปตามทางของคุณเถอะ ไม่ยุ่งแล้ว” แล้วเธอก็วางสายไปเลย สติผมกลับมาเพราะคำพูดพวกนั้นผมพยายามโทรกลับหลายครั้งแต่ติดต่อเธอไม่ได้เลย จากที่เครียดเรื่องครอบครัวอยู่ๆก็กลับมาเครียดเรื่องเธอซะงั้นไป หาตัวเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนถึงวันขึ้นปีใหม่ผมบังเอิญเห็นเธอฉลองอยู่กับเพื่อนผมเลยลากตัวมาเคลียร์ผมขอโทษเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งตอนเธอบอกเลิกผมนะเข่าผมอ่อน แทบยืนไม่อยู่เลยครับ ยอมทำทุกอย่างเลยนาทีนั้นยอมแม้กระทั่งลั่นปากออกไปว่า “ให้กราบก็ยอม” แต่เธอก็ไม่ได้ให้ผมทำหรอกนะครับ และเธอก็ยังใจแข็งอยู่อย่างนั้น ผมก็ยังคงนั่งคุกเข่ากอดเอวเธอไว้แบบนั้นไม่ให้ไปไหน ได้แต่ร้องไห้แล้วพูดเป็นอยู่ไม่กี่คำคือ “ขอร้อง ขอโทษ ขอโอกาสอีกสักครั้ง” พูดวนมันอยู่อย่างนั้นแหละ เธอเลยขอเวลาผมคิด 3 วัน ตอนนั้นผมค่อยโล่งใจไปเปราะหนึ่งเลยยอมปล่อยตัวเธอ จากนั้นเธอก็ให้โอกาสผมอีกครั้งครับผมดีใจมากถึงมากที่สุด
        เหตุการณ์ยังคงดำเนินไปอย่างปกติจนมาถึงจุดอิ่มตัวเมื่อเรา2คนต้องห่างไกลกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีเรื่องนอกใจ ไม่มีคำพูดใดๆ แต่มันก็ยังคงผิดอยู่ที่ผมอยู่ดี โดยปกติเราจะคุยกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลายเป็นฝ่ายโทรหาผมอย่างสม่ำเสมอ และผมก็โทรหาเธอบ้างบางครั้งเพราะผมต้องทำงานหรือไม่เราก็คุยไลน์คุยเฟชกัน แต่แล้วโทรศัพท์เจ้ากรรมของผมก็เกิดหายขึ้นมา ผมไม่ได้ติดต่อใครเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนเพราะผมยังไม่มีตังค์ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ อย่างว่าผมมันจนครับ อีกทั้งวีรกรรมเดิมที่ผมเคยทำไว้กับเธอบวกกับพี่ที่รู้จักกันชงผู้หญิงอีกคนให้ผมทางเฟช ซึ่งแน่นอนเธอต้องเห็น โดยมีเนื้อความประมาณว่า “แฟนไม่มาแสดงว่าแฟนไม่มี แมวไม่อยู่หนูร่าเริง” อะไรทำนองนี้อ่ะครับ ผมมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ผมโทรมาบอกว่าเธอขึ้นสถานะว่าคบกับผู้ชายอีกคนบนหน้าวอล์ล ทั้งๆที่เรายังไม่ได้เอ่ยปากเลิกกันเลยสักคำ ผมนี่ดิ้นเลยครับ หาทางกลับกทม.ลูกเดียวทั้งๆที่ก็ไม่มีตังค์สักบาท ในหัวคิดอยู่อย่างเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น? น้ำหูน้ำตามาหมดครับ หลังจากที่หาทางติดต่อเธอได้ ผมถามเธอเลยครับว่า “เมื่อไหร่ เพราะอะไร เธอแก้แค้นเราหรือเปล่า อธิบายมา” เธอตอบผมสั้นๆเพียงว่า “ตามที่เห็น ไม่ได้แก้แค้น แค่เหนื่อยกับการวิ่งตาม จบนะ.” และต่อท้ายด้วยประโยคที่ว่า “หวังว่าเราคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะ” ผมไม่ตอบอะไรได้แต่ร้องไห้ และไม่เข้าใจว่าครั้งนี้ผมทำอะไรผิด หรือความรักของผมมันถึงจุดอิ่มตัวแล้วจริงๆ?? ปัจจุบันผมก็ไม่ได้โกธรเธอนะ ผมยังคงรักเธออยู่ แต่ก็ได้แค่สถานะ “เพื่อน”
        บางทีก็อยากจะสมน้ำหน้าตัวเองที่ดูแลเธอไม่ดีพอ เทศกาลอะไรก็มีแต่เธอที่ทำให้ผมทั้งวาเลนไทม์  ปีใหม่ สงกรานต์ แม้กระทั่งวันเกิดของผมเอง
        เธออยู่บนฟ้า ผมเป็นหมาวัด แต่เธอไม่เคยพูดตอกย้ำชีวิตห่วยๆของผมเลยสักครั้ง
        เอาล่ะครับทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามาอย่างที่บอกมันคือเรื่องจริง ไม่ได้แต่งขึ้น แต่สามารถเอาไปเขียนเป็นนิยายน้ำเน่าได้อย่างสบายๆ นี่คือ...บทเรียนความรักครั้งสำคัญของชีวิตลูกผู้ชายอย่างผมครับ บางเรื่องบางตอนผมอาจจะเขียนไม่หมด มันยาวมากจริงๆครับเพราะช่วงเวลาที่เราคบกันมันนานพอสมควรทีเดียว เศร้า ร้องไห้ Facepalm

            #อยากพูดคุยอะไร เชิญเม้นท์เลยครับ ผมจะรับฟังทุกความคิดเห็น
............................ขอขอบคุณทุกคนที่กรุณาเข้ามาอ่านจนจบ..............
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่