สวัสดีนะทุกคน ที่ตั้งกระทู้นี้มาก็แบบบ
อยากระบายความรู้สึกมากกว่า แล้วก็อยากรู้ว่า ที่เราพยายามอยู่ทุกวันนี้มันมากไปมั้ย หรือว่าอะไรยังไง มาเริ่มเลยดีกว่าาาาา.......
บอกก่อนว่าเรื่องมันต้องย้อนอดีตไปถึงตอนม.1กันเลยทีเดียวเชียว (ซึ่งตอนนี้ม.6แล้ว) เราเป็นเด็กต่างจังหวัดนะะะ
เราเรียนห้องเรียนพิเศษที่คนในโรงเรียนเขาขนานนามว่า 'กะทิน้ำหนึ่งของโรงเรียน' ตอนม.1 กลุ่มเรามีสมาชิก6คน เพศเดียวกันหมดเลย #ขออุบนะว่าเพศอะไร
ก็คบกันมาเรื่อยๆ สนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง เฮไหนเฮนั่น เที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน สนุกสนานแฮปปี้มากกกก
ก็ใช้ชีวิตแบบเด็กม.ต้นตลกๆทั่วไปนั่นแหล่ะ ชีวิตและมิตรภาพของคำว่าเพื่อนมันก็ดี้ดีมาเรื่อยๆนะ จนมาถึงตอนขึ้นม.4นี่แหล่ะ...จุดกำเนิดของความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เลย
ตอนจบม.3 แน่นอนว่าช่วงเวลาแห่งการเตรียมสอบเข้าม.4ก็ตามมาติดๆ คือ 6คนของเราอ่ะมันก็ไม่ได้เก่งเลิศไปซ่ะทุกคนหรอกนะ มีแบบเก๊งงงเก่งเลยก็2คน ที่เหลือก็ลดหลั่นกันมา เป้าหมายของเราทั้ง6คนก็คือต่อห้องเรียนพิเศษสายเดิมที่โรงเรียนเดิมนั่นแหล่ะ จำได้ว่าวันสอบยังกอดกันรวมพลังกันหน้าห้องอยู่เลย แต่ก็มีเพื่อนในกลุ่มเราคนหนึ่งนะที่บอกว่าเรียนเก่งน่ะ เขาได้โควต้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พอพูดชื่อโรงเรียนเนี้ยะ ทุกคนจะนึกถึงเด็กเนิร์ดแว่นหนา 555555 #นึกไม่ออกกันล่ะสิ #หรอ อ่อ เกือบลืมม ก่อนได้โควต้าอ่ะ วุ่นวายนิดนึง แต่มันจะผ่านไปไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ผู้ปกครองของอีก5คนช่วยไง้ คือเหมือนจะเว่อร์นะ แต่นี่คือความจริง เอาเป็นว่าเพื่อนก็ไปสอบ ในที่สุดก็ติดโรงเรียนใหม่นี้ (แต่ตอนที่ติดโรงเรียนใหม่ในกทม.อ่ะ ผลของห้องเรียนพิเศษโรงเรียนเก่าที่เราสอบด้วยกันก็ออกมาพอดี แล้วมันก็ติดทั้งสองที่แหล่ะ) พวกเรา5คนก็ยุยงให้ไปเรียน สนับสนุนเต็มที่ เขาใจมันเสมอว่ากดดันแน่นอน เรียนที่ดิมเกรดนี่3.9งี้ ซึ่งโรงเรียนใหม่จะถึง2.9หรือเปล่าก็ไม่รู้ -____- พ่อแม่มันก็เห็นดีด้วย ส่งมันไปเรียนที่นั่นจนในที่สุด กลุ่มเราที่เหลือ5คนอยู่โรงเรียนเดิมก็มีอีก2คนที่แยกกลุ่มออกไป จนเหลืออยู่3คนที่เป็นฐานของกลุ่มเรา แต่เราก็ไม่ได้ลืมไอ่คนที่ไปเรียนกทม.นะ ติดต่อกันเสมอ ทวิตไม่เคยขาด ไลน์ไม่เคยหาย
ช่วงม.4ใหม่ๆนี่โทรมาร้องไห้ตั้งแต่วันแรกเล้ยยยย เครียดมาก กดดันมาก ก็ให้กำลังใจกันไปในตอนนั้น ก็มีโทรมาร้องไห้ให้ฟังบ้างล่ะ โวยวายให้ฟังบ้างล่ะ บ่นครูบ่นเพื่อนให้ฟังบ้างล่ะ เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆนะ พักหลังๆก็ต่างคนต่างยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน แต่ก็ไม่ได้ลืมกัน ยังคงติดต่อกันบ้างเล็กน้อย วันไหนที่มันกลับบ้านก็ชอบนัดเจอกัน แต่แล้วแผนก็ต้องเป็นอันล่มทุกครั้งไป แรกๆก็ขำๆนะ จะเจอทั้งที่ทำไมอุปสรรคมากมาย หลังๆมาช่วงใกล้สอบม.4ขึ้นม.5 จะได้เจอกันตอนวันเกิดใครสักคนในกลุ่ม ไม่ก็วันที่เราสอบ แล้วมันาอบเสร็จแล้ว เราก็จะไปฉลองพร้อมกัน โคตรมีความสุขเลยนะตอนนั้นอ่ะ
พอมาม.5 .... จากที่หนึ่งปีเจอกัน2ครั้ง (วันเกิดใครสักคนในกลุ่ม กับ วันสอบเสร็จ) ก็กลายเป็นปีละครั้ง ซึ่งเราเองอยู่ทางนี้เรียนโคตรหนัก งานอย่างเยอะ ทำได้แค่ให้กำลังใจกันห่างๆ คอยเตือนกันว่าให้ตั้งใจเรียน เรา3คนนี่ก็มีแบบว่าเตือนๆมัน อย่าใช้ฟุ่มเฟือยนะเว้ย พ่อแม่ลำบากไรงี้ ตั้งใจเรียน อย่าเอาแต่กินแต่เที่ยว อย่ากลับหอดึก ก็ห่วงมันแบบห่วงมากอ่ะ เพราะมันไปอยู่ไกล อยู่ตัวคนเดียว ก็คิดว่ามันคงอยากได้กำลังใจ อยากได้อะไรดีๆ บ่อยครั้งที่แหย่มันว่า เหงาก็มาหาสิ พูดบ่อยมาก แต่มันก็บ่ายเบี่ยงตลอด เลี่ยงได้เป็นเลี่ยงเลยนะ ขนาดมันกลับบ้าน บ้านใกล้กัน มันกลับมาทีมันยังไม่บอกเลย ถ้าไม่บังเอิญไปเจอแถวท่ารถตู้เองก็คงโดนหลอกอีกนาน เรา3คนก็สัยว่า อะไรคือสาเหตุที่มันไม่ยอมบอก มันไม่อยากเจอมากขนาดนี้ มีอะไรทำไมไม่พูด ช่วงนั้นนอยด์มาก แต่ก็ยังรักมันไง เลยทำเฉยๆไป รอมันพูดเอง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากการโกหกและบ่ายเบี่ยงไปวันๆ จนไม่ได้เจอกันเลยช่วงนึง
ปิดเทอมม.5จนถึงช่วงม.6เทอม1 (ปัจจุบัน) เป็นช่วงที่โคตรแยยยยยยยยย่สำหรับกลุ่มเรา คือตัวเราเอง เจ้าของกระทู้ เดินทางเข้ากทมบ่อยมากกกกกกกถึงมากที่สุด นัดมันมาหาที่ท่ารถบ้างล่ะ นัดไปหาที่สยามบ้างล่ะ นัด100ครั้ง เจอ1ครั้ง เป็นแบบนี้จริงๆ คือจำได้ว่าช่วงนั้นเจอมัน2ครั้ง พีคสุดคือวันนั้นไปยืนหน้าหอมันเลยนะ บอกให้ออกมาหาหน่อย กะเซอร์ไพร้แต่ยามไม่ให้เขา แผนเลยพัง(นี่ไปคนเดียว เพื่อนอีก2คนไม่ได้มาด้วย) แต่ช่วงนั้นกทม.ฝนตก มันพูดเสียงงัวเงียประมาณว่า 'ไม่สบาย ลงไปหาไม่ได้ ขอโทษนะ' ไอ้เราก็เอ้อห่วง

เป็นไรมั้ยว่ะน้ะ เลยไปเที่ยวประตูน้ำต่อ จนตกเย็น จะกลับบ้านที่ตจว. ผ่านหอมันเลยโทรหา ... เอ้า!! อีนี่อยู่วรรณสรเฉยเลย เสียงแบบเริงร่ามาก ทำอะไรได้นอกจะเงิบแล้วบอกมันว่า ให้กินยาแล้วดูแลตัวเองดีๆ โกรธที่มันเลี่ยงไม่มาหาทุกครั้ง โกรธมันที่ไม่ยอมลงไปหาเราที่โรงเรียนเก่าบ้าง ขนาดมาหาถึงที่ยังหนีกูเลยย ปี๊ดหนักขนาดบล็อกไลน์มันอ่ะ พอช่วงใกล้เปิดเทอมม.6ก็กะว่าจะเข้าไปหามันอีกสักที ไลน์ไปหากะให้มันพาเที่ยว มันดันไม่ตอบไลน์จนมาถึงเช้าวันนัดกัน แล้วอีนี่จะทำไงได้นอกจากเงิบเงิบ คือจะไม่อะไรเลยที่มันไม่ตอบไลน์ แต่คิดดูดิ มันไม่ตอบไลน์แต่มันมาไลค์ไอจีทุกรูป ลงไม่ถึง10นาทีก็ขึ้นมาล่ะว่ามันไลค์ ที่นี้นี่น้อยใจมันแรงมาก คือไลน์ไม่ตอบแต่ไลค์ไอจีคืออะไร
เมื่อก่อนจำได้ว่าคุยกับมันบ่อยมาก เฟซไทม์บ่อย ถึงหลังๆจะเข้าใจว่ามันยุ่ง และเราเองก็ยุ่งแต่ก็ยังได้คอล ได้เฟซไทม์กันบ้าง แต่

หลังๆมานี่คือแค่ทักไลน์ไปก็แทบจะไม่ได้ตอบเลยอะ แต่เราก็คิดในแง่ดีนะว่ามันคงอ่านสือหนัก เรียนหนักไรงี้ เพราะมันจะเป็นหมอนี่นา ก็เลยโอเคๆเข้าใจ
แต่มีเรื่องที่ไม่เคยเข้าใจมันเลยอะ คือเรื่องที่มันทำเหมือนจะหลบ เหมือนจะไม่มาเจอ คือแบบกลับมาบ้านแล้วไม่บอกคือ? เวลามาหาก็บอกต้องรีบกลับ แต่พอยื้อเข้ามากๆๆๆๆ ก็เลยอยู่ต่อได้คือ? คือไม่ได้อยากจะมาหาอยู่แล้วใช่มั้ยว่ะ.. ไม่ได้คิดถึง.. ไม่ได้อยากเจอพวกกู.. เหมือนที่กูอยากเจอใช่มั้ยว้ะ.. แล้วไอ้เรื่องที่แบบ เวลาใกล้ๆสอบเสร็จ ที่บอกว่าจะมาหา จะไปกิน จะไปฉลองสอบเสร็จด้วยกัน ที่พูดขึ้นมาเองโดยที่กูนี่ยังไม่ได้ชวน ที่พูดเหมือนตัวเองกะตือรือร้นว่าจะมา แต่จริงๆแล้วคือไม่ใช่อะ พูดแบบนั้นทีไรมาจริงๆไม่กี่ครั้ง พูดร้อยครั้งมาจริง3ครั้ง ทางนี้นี่ดีใจกันมากแค่ไหนรู้มั้ยตอนที่บอกว่าจะมา..
แล้วก็มีที่ผ่านมาไม่กี่เดือนนี้เอง เราเข้ากทม.กัน3คนเลย ก็บอกมันก่อน นานมากนะว่าจะเข้าไปวันที่เท่าไหร่ ละก็เตือนมันอยู่เรื่อยๆ มันก็พูดเลยว่า เดี๋ยวกูไปหา เที่ยวกันๆ 'เดี๋ยวโดดวันนึงเลย' ไอ่เรากับเพื่อนก็เห้ยยยโอเคเลย แถมมันยังชวนไปดูหนังด้วยนะ นี่แบบดีใจ้ดีใจ รีบตอบตกลงเลย จะได้เจอกันแล้ว คิดถึง

อะ แล้วพอถึงวันเป็นไง .... เป็นไปตามคาดการณ์555555555 ตลกชิบ! โทรหามันตอนอยู่หน้าหอ ดังตืดครั้งครึ่ง ละแม่มก็รับโทรศัพท์ ละบอกอยู่ห้างแถวบ้านที่ตจว. อีเหหหหห้~ น้ำตาไหลกลางบีทีเอสเลยท่านผู้ชม 5555555555
จะจบและกับบทความนี้....
ขอเล่าความพีคสุดที่เพิ่งเกิดเมื่อวันศุกร์นี้ยยยยย คุยกับมัน มันเอ่ยปากมาเองเลยว่า สอบเสร็จจะมาหา ถามวันสอบของเราไป กะหาเวลาตรงกันมาเจอกัน แบบบ ยังไงก็ได้เจออ่ะคราวนี้ แต่มีหวั่นๆบ้าง เพราะบทเรียนที่ผ่านมามันช่างโหดร้ายเหลือเกิน
พอวันสอบวันแรกเลยทักมันไป ละมันตอบมั้ย...... ไม่ มันตอบวันที่ใกล้สอบเสร็จแล้วอะ ว่ามาหาไม่ได้แล้ว ติดเรียน โดดไม่ได้... ดูเหมือนเเอกซิเดนนะ แต่มองอีกแง่นึง... บ่อยเลยนะ บ่อยมากไปมั้ย ดวงจะซวยไม่ได้เจอกันบ่อยขนาดนี้เลยหรอ...
คือบางทีเราสามคนก็มานั่งคุยกันว่า เราขวนขวายในการจะเจอมันมากไปมั้ย เราตื้อ เราทุ่มเทให้ใันมากไปมั้ย ทำไมมันทำกับเราแบบนี้ ทำไมเปลี่ยนไป กูไม่ดีหรอว้ะ กูทำไรให้ไม่พอใจป้ะว้ะ เออสงสัย แต่ไม่ถาม แบบนี้

เหมือนพวกกูรักมากเกินไปอ่ะ เหนื่อยเหลือเกิน โคตรอยากให้เห็นกระทู้นี้เลย แงงงง พิมพ์ไปน้ำตาก็ไหลไป เพื่ออะไรกันเนี่ยะะะะ
อยากรู้ว่าที่พยายามให้มัน พยายามจะเจอกัน มันผิดมั้ย น่ารำคาญหรอ? ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป
เรารักใคร เราก็อยากเตือนเขา อยากให้เขาได้ดี
เรารักใคร เราก็อยากอยู่กับเขา อยากใช้เวลากันเขานานๆ
เรารักใคร เราก็อยากอยู่ข้างๆ อยากให้กำลังใจ
แต่ทำไม...... #เง้อออออ
__>> ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ <<__
ทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะ ไม่ต้องการเพื่อนแบบกูแล้วหรอ ?
บอกก่อนว่าเรื่องมันต้องย้อนอดีตไปถึงตอนม.1กันเลยทีเดียวเชียว (ซึ่งตอนนี้ม.6แล้ว) เราเป็นเด็กต่างจังหวัดนะะะ
เราเรียนห้องเรียนพิเศษที่คนในโรงเรียนเขาขนานนามว่า 'กะทิน้ำหนึ่งของโรงเรียน' ตอนม.1 กลุ่มเรามีสมาชิก6คน เพศเดียวกันหมดเลย #ขออุบนะว่าเพศอะไร
ก็คบกันมาเรื่อยๆ สนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง เฮไหนเฮนั่น เที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน สนุกสนานแฮปปี้มากกกก
ก็ใช้ชีวิตแบบเด็กม.ต้นตลกๆทั่วไปนั่นแหล่ะ ชีวิตและมิตรภาพของคำว่าเพื่อนมันก็ดี้ดีมาเรื่อยๆนะ จนมาถึงตอนขึ้นม.4นี่แหล่ะ...จุดกำเนิดของความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เลย
ตอนจบม.3 แน่นอนว่าช่วงเวลาแห่งการเตรียมสอบเข้าม.4ก็ตามมาติดๆ คือ 6คนของเราอ่ะมันก็ไม่ได้เก่งเลิศไปซ่ะทุกคนหรอกนะ มีแบบเก๊งงงเก่งเลยก็2คน ที่เหลือก็ลดหลั่นกันมา เป้าหมายของเราทั้ง6คนก็คือต่อห้องเรียนพิเศษสายเดิมที่โรงเรียนเดิมนั่นแหล่ะ จำได้ว่าวันสอบยังกอดกันรวมพลังกันหน้าห้องอยู่เลย แต่ก็มีเพื่อนในกลุ่มเราคนหนึ่งนะที่บอกว่าเรียนเก่งน่ะ เขาได้โควต้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พอพูดชื่อโรงเรียนเนี้ยะ ทุกคนจะนึกถึงเด็กเนิร์ดแว่นหนา 555555 #นึกไม่ออกกันล่ะสิ #หรอ อ่อ เกือบลืมม ก่อนได้โควต้าอ่ะ วุ่นวายนิดนึง แต่มันจะผ่านไปไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ผู้ปกครองของอีก5คนช่วยไง้ คือเหมือนจะเว่อร์นะ แต่นี่คือความจริง เอาเป็นว่าเพื่อนก็ไปสอบ ในที่สุดก็ติดโรงเรียนใหม่นี้ (แต่ตอนที่ติดโรงเรียนใหม่ในกทม.อ่ะ ผลของห้องเรียนพิเศษโรงเรียนเก่าที่เราสอบด้วยกันก็ออกมาพอดี แล้วมันก็ติดทั้งสองที่แหล่ะ) พวกเรา5คนก็ยุยงให้ไปเรียน สนับสนุนเต็มที่ เขาใจมันเสมอว่ากดดันแน่นอน เรียนที่ดิมเกรดนี่3.9งี้ ซึ่งโรงเรียนใหม่จะถึง2.9หรือเปล่าก็ไม่รู้ -____- พ่อแม่มันก็เห็นดีด้วย ส่งมันไปเรียนที่นั่นจนในที่สุด กลุ่มเราที่เหลือ5คนอยู่โรงเรียนเดิมก็มีอีก2คนที่แยกกลุ่มออกไป จนเหลืออยู่3คนที่เป็นฐานของกลุ่มเรา แต่เราก็ไม่ได้ลืมไอ่คนที่ไปเรียนกทม.นะ ติดต่อกันเสมอ ทวิตไม่เคยขาด ไลน์ไม่เคยหาย
ช่วงม.4ใหม่ๆนี่โทรมาร้องไห้ตั้งแต่วันแรกเล้ยยยย เครียดมาก กดดันมาก ก็ให้กำลังใจกันไปในตอนนั้น ก็มีโทรมาร้องไห้ให้ฟังบ้างล่ะ โวยวายให้ฟังบ้างล่ะ บ่นครูบ่นเพื่อนให้ฟังบ้างล่ะ เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆนะ พักหลังๆก็ต่างคนต่างยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน แต่ก็ไม่ได้ลืมกัน ยังคงติดต่อกันบ้างเล็กน้อย วันไหนที่มันกลับบ้านก็ชอบนัดเจอกัน แต่แล้วแผนก็ต้องเป็นอันล่มทุกครั้งไป แรกๆก็ขำๆนะ จะเจอทั้งที่ทำไมอุปสรรคมากมาย หลังๆมาช่วงใกล้สอบม.4ขึ้นม.5 จะได้เจอกันตอนวันเกิดใครสักคนในกลุ่ม ไม่ก็วันที่เราสอบ แล้วมันาอบเสร็จแล้ว เราก็จะไปฉลองพร้อมกัน โคตรมีความสุขเลยนะตอนนั้นอ่ะ
พอมาม.5 .... จากที่หนึ่งปีเจอกัน2ครั้ง (วันเกิดใครสักคนในกลุ่ม กับ วันสอบเสร็จ) ก็กลายเป็นปีละครั้ง ซึ่งเราเองอยู่ทางนี้เรียนโคตรหนัก งานอย่างเยอะ ทำได้แค่ให้กำลังใจกันห่างๆ คอยเตือนกันว่าให้ตั้งใจเรียน เรา3คนนี่ก็มีแบบว่าเตือนๆมัน อย่าใช้ฟุ่มเฟือยนะเว้ย พ่อแม่ลำบากไรงี้ ตั้งใจเรียน อย่าเอาแต่กินแต่เที่ยว อย่ากลับหอดึก ก็ห่วงมันแบบห่วงมากอ่ะ เพราะมันไปอยู่ไกล อยู่ตัวคนเดียว ก็คิดว่ามันคงอยากได้กำลังใจ อยากได้อะไรดีๆ บ่อยครั้งที่แหย่มันว่า เหงาก็มาหาสิ พูดบ่อยมาก แต่มันก็บ่ายเบี่ยงตลอด เลี่ยงได้เป็นเลี่ยงเลยนะ ขนาดมันกลับบ้าน บ้านใกล้กัน มันกลับมาทีมันยังไม่บอกเลย ถ้าไม่บังเอิญไปเจอแถวท่ารถตู้เองก็คงโดนหลอกอีกนาน เรา3คนก็สัยว่า อะไรคือสาเหตุที่มันไม่ยอมบอก มันไม่อยากเจอมากขนาดนี้ มีอะไรทำไมไม่พูด ช่วงนั้นนอยด์มาก แต่ก็ยังรักมันไง เลยทำเฉยๆไป รอมันพูดเอง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากการโกหกและบ่ายเบี่ยงไปวันๆ จนไม่ได้เจอกันเลยช่วงนึง
ปิดเทอมม.5จนถึงช่วงม.6เทอม1 (ปัจจุบัน) เป็นช่วงที่โคตรแยยยยยยยยย่สำหรับกลุ่มเรา คือตัวเราเอง เจ้าของกระทู้ เดินทางเข้ากทมบ่อยมากกกกกกกถึงมากที่สุด นัดมันมาหาที่ท่ารถบ้างล่ะ นัดไปหาที่สยามบ้างล่ะ นัด100ครั้ง เจอ1ครั้ง เป็นแบบนี้จริงๆ คือจำได้ว่าช่วงนั้นเจอมัน2ครั้ง พีคสุดคือวันนั้นไปยืนหน้าหอมันเลยนะ บอกให้ออกมาหาหน่อย กะเซอร์ไพร้แต่ยามไม่ให้เขา แผนเลยพัง(นี่ไปคนเดียว เพื่อนอีก2คนไม่ได้มาด้วย) แต่ช่วงนั้นกทม.ฝนตก มันพูดเสียงงัวเงียประมาณว่า 'ไม่สบาย ลงไปหาไม่ได้ ขอโทษนะ' ไอ้เราก็เอ้อห่วง
เมื่อก่อนจำได้ว่าคุยกับมันบ่อยมาก เฟซไทม์บ่อย ถึงหลังๆจะเข้าใจว่ามันยุ่ง และเราเองก็ยุ่งแต่ก็ยังได้คอล ได้เฟซไทม์กันบ้าง แต่
แต่มีเรื่องที่ไม่เคยเข้าใจมันเลยอะ คือเรื่องที่มันทำเหมือนจะหลบ เหมือนจะไม่มาเจอ คือแบบกลับมาบ้านแล้วไม่บอกคือ? เวลามาหาก็บอกต้องรีบกลับ แต่พอยื้อเข้ามากๆๆๆๆ ก็เลยอยู่ต่อได้คือ? คือไม่ได้อยากจะมาหาอยู่แล้วใช่มั้ยว่ะ.. ไม่ได้คิดถึง.. ไม่ได้อยากเจอพวกกู.. เหมือนที่กูอยากเจอใช่มั้ยว้ะ.. แล้วไอ้เรื่องที่แบบ เวลาใกล้ๆสอบเสร็จ ที่บอกว่าจะมาหา จะไปกิน จะไปฉลองสอบเสร็จด้วยกัน ที่พูดขึ้นมาเองโดยที่กูนี่ยังไม่ได้ชวน ที่พูดเหมือนตัวเองกะตือรือร้นว่าจะมา แต่จริงๆแล้วคือไม่ใช่อะ พูดแบบนั้นทีไรมาจริงๆไม่กี่ครั้ง พูดร้อยครั้งมาจริง3ครั้ง ทางนี้นี่ดีใจกันมากแค่ไหนรู้มั้ยตอนที่บอกว่าจะมา..
แล้วก็มีที่ผ่านมาไม่กี่เดือนนี้เอง เราเข้ากทม.กัน3คนเลย ก็บอกมันก่อน นานมากนะว่าจะเข้าไปวันที่เท่าไหร่ ละก็เตือนมันอยู่เรื่อยๆ มันก็พูดเลยว่า เดี๋ยวกูไปหา เที่ยวกันๆ 'เดี๋ยวโดดวันนึงเลย' ไอ่เรากับเพื่อนก็เห้ยยยโอเคเลย แถมมันยังชวนไปดูหนังด้วยนะ นี่แบบดีใจ้ดีใจ รีบตอบตกลงเลย จะได้เจอกันแล้ว คิดถึง
จะจบและกับบทความนี้....
ขอเล่าความพีคสุดที่เพิ่งเกิดเมื่อวันศุกร์นี้ยยยยย คุยกับมัน มันเอ่ยปากมาเองเลยว่า สอบเสร็จจะมาหา ถามวันสอบของเราไป กะหาเวลาตรงกันมาเจอกัน แบบบ ยังไงก็ได้เจออ่ะคราวนี้ แต่มีหวั่นๆบ้าง เพราะบทเรียนที่ผ่านมามันช่างโหดร้ายเหลือเกิน
พอวันสอบวันแรกเลยทักมันไป ละมันตอบมั้ย...... ไม่ มันตอบวันที่ใกล้สอบเสร็จแล้วอะ ว่ามาหาไม่ได้แล้ว ติดเรียน โดดไม่ได้... ดูเหมือนเเอกซิเดนนะ แต่มองอีกแง่นึง... บ่อยเลยนะ บ่อยมากไปมั้ย ดวงจะซวยไม่ได้เจอกันบ่อยขนาดนี้เลยหรอ...
คือบางทีเราสามคนก็มานั่งคุยกันว่า เราขวนขวายในการจะเจอมันมากไปมั้ย เราตื้อ เราทุ่มเทให้ใันมากไปมั้ย ทำไมมันทำกับเราแบบนี้ ทำไมเปลี่ยนไป กูไม่ดีหรอว้ะ กูทำไรให้ไม่พอใจป้ะว้ะ เออสงสัย แต่ไม่ถาม แบบนี้
อยากรู้ว่าที่พยายามให้มัน พยายามจะเจอกัน มันผิดมั้ย น่ารำคาญหรอ? ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป
เรารักใคร เราก็อยากเตือนเขา อยากให้เขาได้ดี
เรารักใคร เราก็อยากอยู่กับเขา อยากใช้เวลากันเขานานๆ
เรารักใคร เราก็อยากอยู่ข้างๆ อยากให้กำลังใจ
แต่ทำไม...... #เง้อออออ
__>> ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ <<__