ศาลอาญาออกหมายจับ ‘ชัจจ์ กุลดิลก’เบี้ยวฟังคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาท พ.ต.อ.สมยศ อ้างป่วยแต่ส่งทนายมาแทน ศาลนัดอีกครั้ง 11 พ.ย.นี้
วันที่ 28 ก.ย. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
ดย พล.ต.อ.สมยศ โจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2556 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อ ระหว่างวันที่ 20 – 25 ม.ค.2556 พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยมีเจตนาให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี และใช้อำนาจในทางที่ผิดและข้อความอื่นอันล้วนเป็นเท็จ และนสพ.คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 25 ม.ค.2556 นำไปตีพิมพ์ ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงนำคดีมาฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด และให้โฆษณาคำพิพากษาลงใน นสพ.คม ชัด ลึก และ นสพ.ผู้จัดการด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล แต่มอบอำนาจให้ทนายความ นำใบรับรองแพทย์ของ รพ.กรุงเทพ สนามจันทร์ จ.นครปฐม มาแสดง เพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยซึ่งป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ยังมีอาการวิงเวียนศรีษะ มึนงง อ่อนเพลีย อาการไม่ทุเลา แพทย์แนะนำให้ไปรักษากับแพทย์ประจำตัว ใน กทม.
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลได้เคยกำชับให้จำเลยมาศาลตามนัด ซึ่งจำเลยอ้างเหตุป่วย แม้จะมีใบรับรองแพทย์มาแสดง แต่ก็เป็นพฤติการณ์เดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยอ้างเหตุป่วยมาโดยตลอด ซึ่งก็มิได้เป็นเหตุที่จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด จนไม่สามารถมาศาลได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จำเลยจงใจจะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ปรับนายประกันเป็นเงินสดจำนวน 50,000 บาท ที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการปล่อยชั่วคราว และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 11 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชน
ออกหมายจับ ‘ชัจจ์ กุลดิลก’ อดีต รมช มหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เบี้ยวฟังตัดสินคดีหมิ่น ‘สมยศ '
วันที่ 28 ก.ย. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
ดย พล.ต.อ.สมยศ โจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2556 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อ ระหว่างวันที่ 20 – 25 ม.ค.2556 พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยมีเจตนาให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี และใช้อำนาจในทางที่ผิดและข้อความอื่นอันล้วนเป็นเท็จ และนสพ.คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 25 ม.ค.2556 นำไปตีพิมพ์ ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงนำคดีมาฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด และให้โฆษณาคำพิพากษาลงใน นสพ.คม ชัด ลึก และ นสพ.ผู้จัดการด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล แต่มอบอำนาจให้ทนายความ นำใบรับรองแพทย์ของ รพ.กรุงเทพ สนามจันทร์ จ.นครปฐม มาแสดง เพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยซึ่งป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ยังมีอาการวิงเวียนศรีษะ มึนงง อ่อนเพลีย อาการไม่ทุเลา แพทย์แนะนำให้ไปรักษากับแพทย์ประจำตัว ใน กทม.
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลได้เคยกำชับให้จำเลยมาศาลตามนัด ซึ่งจำเลยอ้างเหตุป่วย แม้จะมีใบรับรองแพทย์มาแสดง แต่ก็เป็นพฤติการณ์เดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยอ้างเหตุป่วยมาโดยตลอด ซึ่งก็มิได้เป็นเหตุที่จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด จนไม่สามารถมาศาลได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จำเลยจงใจจะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ปรับนายประกันเป็นเงินสดจำนวน 50,000 บาท ที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการปล่อยชั่วคราว และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 11 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชน