สำหรับชาวจักรยานกำลังหาสถานที่ปั่นลัดเลาะ ไปชมวิถีชีวิต ชุมชนแบบไม่เร่งรีบ ไม่รีบร้อน
วันนี้มีทริปปั่นแบบหลงๆ มาครบทุกรูปแบบ ปั่น เข็น แบก จูง แล้วจับยานพุ่งลงเรือ ละ พาลุยโคลน
ทริปนี้เรียกว่าทริปบุกเบิกเส้นทางสำหรับคนไม่เคยไปวัดขุนสมุทรจีน
เริ่มต้นหาข้อมูลจากPantipเลยค่ะ จากนั้นก็ลาก Route ไปแบบมั่วมั่ว
เรื่องเล่าของเส้นทาง
เริ่มออกตัวที่สามเสนค่ะ เส้นทางปั่นไปเรื่อย หิวก็หยุด ตามสไตล์ ทัวร์รุ่งริ่งสายแหลกกกก
( สามเสน > สะพานพุทธ > วงเวียนใหญ่ > มไหศวรรย์ > พระราม2 > สุขสวัสดิ์ > พระประแดง > ป้อมพระจุล > วัดขุนสมุทรจีน)
จากนั้นกลับเส้นเดิม ไปกลับก็ราวๆ 99.9 กิโล อย่าถามนะคะว่าทำไมไม่ 100โล ไปเลย เอาที่สบายใจค่ะ


ระหว่างทางไปป้อมพระจุลจอมเกล้า ภาพจริงสวยมาก บางครั้งมือถือก็เก็บภาพไม่หมดจริงๆ
ทริปนี้เราเตรียมล้อ และยานไปอย่างดีค่ะ (Full Service อย่างดีที่ร้าน 904 บนถนนสุโขทัย)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เตรียมสมบุกสมบันนิดหน่อยตามที่หาข้อมูลมา เอาน่ายานเราคงไม่เละหรอกและนี่คือจุดเริ่มต้น
เมื่อปั่นจักรยานไปถึงสามแยกเจดีย์(แก้ไขค่ะเดิมเป็นสามแยกพระแดง) เจอไฟแดงเลี้ยวขวา จะพบเส้นทางมหาโหด
(มิน่าจักรยานที่สวนไปมามีแต่เสือภูเขา) ล้อเล็ก ล้อบาง
ไปเส้นนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการขับขี่เลยทีเดียว ขนาดสายทัวรริ่ง ล้อหนา ยังมีสะพรึง
หลบหลุ่มซ้าย เจอหลุมขวา ฝึกทักษะการปั่นวิบากไปในตัว จากนั้นปั่นยาวไปเรื่อยๆ
เจอร้านค้าชุมชนก็หยุดโหลดน้ำกันเยอะๆ นี่แค่ 30กิโลยังไม่ถึงครึ่งทางอย่างที่ใจหวังเล้ยยยยย

เริ่ม CP1และแล้วก็มาถึง ป้อมพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว( ตั้งแต่เริ่มปั่นไม่คิดว่าจะมาถึงได้ไกล๊ไกล)
    ปั่นยาวยิงตรงฝึกทักษะการหลบหลุมขั้นเทพ มาเรื่อยๆ ผ่านซุ้มประตูอบต.แหลมฟ้าผ่า อ๊ะอ๊ะ
อย่าเพิ่งเลี้ยวเข้าไปนะ ยิงตรงไปที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าก่อน ปั่นยาวไปเรื่อยๆมีป้ายบอกตลอดทาง
มาถึงแล้วขอทำตามธรรมเนียม ถ่ายภาพ

ทางเข้าป้อมพระจุลจอมเกล้า

อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เรือรบหลวงแม่กลอง เรือปลดประจำการ

ออกจากป้อมพระจุล เอาละสินี่คือความจริง “ทรมานบันเทิง” ไม่หลง ไม่ใช่แนว
เส้นทางปั่นไปวัดขุนสมุทรจีน เลือกไปเส้นทาง ท่าเรือป้ารี่ (PALY PORT) ชื่อภาษาอังกฤษก็อินเตอร์แล้วววว
ออกจากป้อมพระจุลปั่นยิงยาวมาเรื่อยๆ จะเจอซุ้มประตู อบต.แหลมฟ้าผ่า เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย
ระหว่างทางมีร้านอาหารเยอะแยะ ถ้าใครหิวๆ ก็แวะ ชอป ชิม ชิล ได้เลย
หรือถ้ายังไม่หิวจะไปสนับสนุนร้านค้าชุมชน ที่วัดขุนสมุทรจีนก็ได้ มีแนะนำโปรดติดตาม

ถึงแล้ว CP2 ท่าเรือป้ารี่
เลี้ยวขวาเข็นยานลงไปที่ท่าเรือ ติดต่อเรือได้เลย


พี่เค้าคิดราคา คน+ยาน เที่ยวละ 130 บาท แถมช่วยยกยานลงเรืออีกต่างหาก

รูปดีดีไม่ถ่ายน้อง

พี่เราขี้เก็กมากกกกกก

ป.ล.ท่องเที่ยววันนี้ เตือนก่อนใครกลัวเรือ กลัวแก๊ส ใจไม่แรงพอ ไม่แนะนำ
พี่เขาออกตัวแร๊งมาก ผมนี้เกาะเรือ เกาะจักรยาน แทบไม่ถูก กลัวจักรยานคว่ำตกน้ำก็กลัว กลัวความเร็วของเรือก็กลัว ลงรูปให้ดูละกัน


ถึงแล้ววววววววท่าเรือวัดขุนสมุทรจีน ใครว่าถึงเนอะ ยกเรือขึ้นแล้วปั่นต่อไปเลยยยยย

จะเหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นแต่ท้องน้ำคันวังกุ้ง วังปู วังหอย วังปลา อันไกลโพ้นนนน
ปั่นไปตามตะวัน บุกบั่นไปตามลม สนุกสุขสมหัวใจหงายคว่ำ!!!!!
คิดว่าทริปนี้จะเป็นทริปชิวๆ ปั่นจักรยานเล่น ตามชุมชนถ้าคุณคิดว่าใช่
คุณคิดผิด
ความสนุกแรกที่เจอคือ มีรถสามล้อจากวัดขุนสมุทรจีน
ที่คอยบริการรับส่งนักท่องเที่ยว ขับขี่โดยพระในวัด เอาละไงรถสามล้อคันเดียวก็เต็มทางแล้ว
พระท่านเลยบอกโยมที่ปั่นยานอย่างเราว่า “โยมยกจักรยานได้ไหม”
คุ่นพระ !!!  ยานทัวร์ริ่ง ฟูจิ และเจ้าแม่อารยา พกกระเป๋าจัดเต็ม ทำไงได้ละเน้อ
รับคำหลวงพ่อ นับนึ่งสอง สาม ฮึบ ยกยานออกนอกรั้วฟ้า(รั้วสีฟ้าตามรูปข้างบน)
แล้วเอาตัวลอดระหว่างรั้วฟ้าและรถสามล้อ เฮือกกกกกกก
อยากได้ยานเบาๆขึ้นมาทันที วางจักรยานลง ยืนทำใจ 5 วินาที
แล้วปั่นต่อไป ถึงแล้ว “วัดขุนสมุทรจีน” ดินแดนที่เกือบสาบสูญ





ก่อนออกจากวัด ก็เวลาประมาณ 10.30แล้ว แวะซื้อน้ำกันก่อนดีกว่า ร้านค้าอยู่หน้าทางเข้าวัดเลย
    ชื่อร้าน ต๋องริมทะเล


แรกเริ่มตั้งใจดื่มน้ำ กับ หวานเย็น ชื่นฉ่ำจับใจ คุยไปคุยมา
พี่ๆที่ร้าน ต๋องริมทะเล ก็แนะนำว่า “น้องค่ะ เมื่อวานก็มีแก๊งค์จักรยานมา กลับเย็นมาก เขาปั่นกลับกันนะ
ลำบากนิดเดียวตอนยกข้ามแหละจ๊ะ แต่มันไปถึงถนนใหญ่ได้ “
อืมในเมื่อเราตัดสินใจว่า จะปั่นเปิดเส้นทางที่ไม่ได้มีไว้ในแผน อย่างแรกที่ควรทำตามวิถีคือ “กิน”
เลยสั่งอาหารง่ายๆ ข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ น้ำเปล่าสองขวด หวานเย็นหนึ่งถ้วยจำราคาเต็มๆไม่ได้
ข้าวผัดจานละ 40บาทเอง ร ร้านนี้เขามีอาหารทะเลขายด้วย ราคาไม่แรงอย่างที่คิด
สนับสนุนชาวบ้าน แนะนำเลย ได้เวลาออกจากวัดแล้ว เลยแวะไปศาลเจ้าพ่อลอยชายก่อน
จุดนี้มีจุดถ่ายภาพในตำนานคือ หลักกิโลใหญ่  รออะไรละ ไปกันเลย
ถึงแล้วค่ะ


ปล. จุดนี้ถ้าเอาจักรยานมา แล้วฝนตกไม่แนะนำให้เข้าไปนะ อาจจะลื่น
อีกอย่างข้ามสะพานไปจะต้องดินบนคันดินเหนียว ถ้าฝนตกลื่น อันตรายไป
นี่คือทางที่ต้องเข็นข้ามค่ะ

จากจุดนี้พี่ๆที่ดูแลศาลเจ้าแนะนำ ตอกย้ำคำแนะนำจากร้านอาหารว่า เราปั่นยานออกไปได้
ความมั่นใจเพิ่มขึ้น Rider พร้อมลุยแล้ว
จากจุดนี้ขอสามคำ แบก ลุย โคลน แถมอีกประโยค ร้องไห้หนักมาก
ขอเล่าด้วยภาพและกัน (ถ้าชาวบ้านบอกว่านิดเดียวให้บวกเพิ่มไป 100%)
และนี้คือจุดเริ่มต้นของทรมานบันเทิงของวันนี้

สะพานที่ต้องเข็นผ่าน ถามว่าทำไมอบต.ไม่ปรับปรุง ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า
ตรงนี้คือที่ดินของเอกชน การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจะต้องเป็นความสมัครใจค่ะ
แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้วิธีชีวิตบนท้องเรือ ดังนั้น การท่องเที่ยวแบบเราๆ
ต้องสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างเต็มที่ อิอิ
ทริปนี้เลยได้ทำครบคือ ยกเข็น จูง ลุยโคลนจากจุดนี้เจอมาหมดแล้วตลอดเส้นทางนี้

ยกข้ามกันไป

ทัวร์ริ่งหนักมาก

ยกไปสักพัก จุดนี้สะพานโดนรื้อออก ขอเตือนว่า ระวัง!สิ้นสุดทางสะพาน
ต้องเข็นจักยานลงตามคันวัง แล้วจูงจักรยานไปตามท้องนาอันไกลโพ้น (ยุงลายเยอะมาก)

ถึงถนนดำแล้ว เลี้ยวขวาออกมาปั่นกลับมาเจอท่าเรือป้ารี่ ฝั่งตรงข้ามมีร้านขนมจากอร่อยมว๊ากกก
แล้วก็ปั่นกลับทางเดิม ขากลับปั่นยิงยาวกลับเส้นทางเดิม จบทริปโหดๆ สายทัวร์รุ่งริ่ง ที่ 99.9 กิโล
จบทริป touring ทัวร์หลงกันแล้ว พักร่างยาว1 คืน
ปล.งดดราม่า งดการเมือง แบ่งพื้นที่ให้ความโหดมันฮา ใครมีทริปปั่นสนุก
แถมทรมานเอามาแบ่งปันกันบ้าง เผื่อของลอกการบ้านบ้าง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

ปล.1 มีแก้ไขข้อความค่ะ
ปล. 2 แนบแผนที่มาให้โหลด
http://www.4shared.com/file/ImuiiyWQce/activity_911469615.html
ปล.3 ติดตามเส้นทางทัวร์ริ่ง ทัวร์หลงได้นะคะ https://www.facebook.com/LostTouringInIthailand