หลายคนคงผง่ะกับหัวข้อที่ตั้งแล้วคงสงสัยว่า...เห้ยไปอยู่ทำอะไรตั้ง 7 วันวะที่ "สิงคโปร์"
ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเล็กๆ ขนาดไม่ต่างอะไรกับกรุงเทพมหานครของเรา
ขออนุญาติเกริ่นนำเล็กๆกับทริป Backpack 6 วัน 7 คืนคนเดียวลำพังกับประเทศนี้ว่า
ตั้งใจและอยากจะไปมานานมากๆแล้วหลังจากเที่ยววนเวียนรอบๆ ASEAN มาหลายที่
และนี่จะเป็นรีวิวแรกกับการเดินทางอันแสนยาวนานจากบ้านพร้อมคำถาม ความอยากรู้อยากเห็น
และข้อมูลมากมายกับการเตรียมตัว พร้อมทั้งความโชคดีที่มันเกิดตั้งแต่เรายังไม่เริ่มการเดินทาง...........
ออกตัวก่อนเลยว่าคงไม่มารีวิวการเดินทางจากต้นทางไปปลายทางหรือวิธีเบื้องต้นในการอยู่กินในประเทศนี้
เพราะมีรีวิวและข้อมูลแบบนั้นมากมายเกินพอแล้วบนโลกใบนี้
แต่รีวิวนี้จะเป็นข้อมูลอีกด้าน ภาพอีกแบบ ส่วนเสริม คำแนะนำและความรู้สึกของทริปนี้
(เครดิตข้อมูลการเดินทางของผมจาก singaporefanclub, singapore-guides.blogspot, go2singapore, pantip, etc.)
"เชื่อว่าหลายคนคงมีความฝันกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปคนเดียว ไปกับเพื่อนหรือไปกับครอบครัว
จุดหมายก็คงแตกต่างกันออกไปฉะนั้นแล้ว มีฝัน สร้างโอกาสและลงมือทำมันในตอนที่คุณยังมีชีวิตอยู่"
สาธยายมามากว่าแล้วก็เริ่มเลยแล้วกัน
พนักงาบริษัทจะเที่ยวทั้งทีก็ยากเหลือเกิน ต้องรอวันหยุดยาวหรือลาพักร้อน ส่วนตัวผมลาพักร้อนสิครับ
แผนแรกก็เที่ยวทั่วไป 3 วัน 2 คืนตามสูตรปกติเราก็เริ่มดำเนินการจองตั๋วจองที่พักเสร็จเรียบร้อยล่วงหน้า 3 เดือน
แต่เมื่อทุกอย่างถูกจองเสร็จ ไม่รู้ว่าสมองส่วนใดมันถึงทำให้เรานึกขึ้นมาได้ว่า "สิงคโปร์มันเป็นประเทศที่จัด F1 สนามกลางคืนนิ"
ทันใดนั้นเมื่อพิมเข้าไปถามอากู๋ ความซวยก็บังเกิด มันตรงกับแผนวันที่เราเดินทางพอดีเป๊ะ ไม่คิดมากเลย รีบโทรไปขยับตั๋วเครื่องบินและเพิ่มวันที่พักทันทีหลังจากรู้ว่ามีแข่ง F1 ทั้งๆที่ยังไม่ได้หาข้อมูลว่าจะซื้อตั๋วจากไหน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทริปนี้
ด้วยสูตรของมนุษย์เงินเดือนพ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยต้องเก็บเงินเที่ยวเองก็หนีไม่พ้นตั๋วโปรถูกๆ พร้อม Hostel แบบพอซุกหัวนอน
เลยออกมาเป็น Flyscoot ไฟท์ดึกสุดวันพฤหัสถึง สนามบินฉางชี เที่ยงคืน กับโรงแรม CozieeLodge ย่านเกลัง
สรุปค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน 4,950 บาท (ไม่โหลดกระเป๋า) ที่พัก 2,530 บาท ห้องรวม 10 คน
รีวิวสายการบิน สำหรับ Scoot เครื่องใหญ่นั่งสบาย ไม่มีอาหาร แอร์เป็นต่างชาติ สายการบินร่วมทุนกับ Nok Air บินตรงลง Terminal 2
รีวิวโรงแรม สำหรับ CozieeLodge สะอาดปลอดภัยดี ผู้หญิงพักได้สบาย Wifi แรง มีขนมปังกาแฟตอนเช้า เตียงนุ่ม น้ำอุ่นแรงดี ตู้เย็นไมโครเวฟ ล้อคเกอร์ มัดจำ 20GSD (ส่วนตัวแล้วให้ 8/10 แนะนำไม่ผิดหวัง คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ)
คืนแรก....สนามบินฉางชี
ลงมาไฟลท์ดึกขนาดนั้นรภไฟหมดสิครับ รถแท็กซี่มีให้บริการแต่จะชาร์ทเพิ่ม 20% ใครจะมาไฟลท์แบบนี้ไม่นอนสนามบินก็นั่งแท็กซี่เข้าเมืองหรือจะเลือกนอนโรงแรมใกล้ๆสนามบินก็แล้วแต่สะดวก ส่วนผมเตรียมตัวมานอนสนามบิน หลังจากลงเครื่องผ่าน ตม.เข้ามาก็สังเกตุได้ว่า คนไทยเพียบที่มาไฟท์นี้และมานอนสนามบินเหมือนกัน แต่อยากจะบอกว่าขนาดผมเตรียมตัวมาอย่างดียังขอยอมแพ้ มันไม่ได้สบายไม่สนุกไม่เท่ห์แบบที่คุณคิดหรอก
มันทั้งหนาวเย็น ไม่มีที่นุ่มๆอุ่นๆให้คุณได้ชารทพลังก่อนตื่นมาเที่ยวในเมืองแน่นอน ถ้าอยากจะนอนจริงๆแนะนำแผ่นปูรองนอนหรือถุงนอนหนาๆพร้อมผ้าห่มเท่านั้นที่จะทำให้คุณหลับอย่างสนิทและพอจะมีพลัง
ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาชี้เป้าให้ว่าตรงไหน ฝากไว้สำหรับรูป Immigration ตรวจคนเข้าเมืองก็แล้วกัน

ผมเริ่มจากหาที่เงียบสงบๆนอนกับพื้นกระเบื้องบนชั้น 3 โซนออฟฟิศแถวๆห้องน้ำ
เอากระดาษแผนที่ที่หยิบติดมือมาปูรองนอนบรรเทาความเย็นจากพื้นซึ่งเย็นจนปวดกระดูก ข่มตาหลับสักพักได้ครึ่งชั่วโมงก็เจอ 2 ลุงมาจากไหนไม่รู้มานั่งเล่นโทรสับเสียงดังมาก (แกเตรียมชุดเครื่องนอนมาชุดใหญ่นอนสบายไม่หนาวแน่ๆ) เราก็รำคาญว่าจะลุกไปด่า แต่ช่างเหอะเราหนีเองดีกว่า เดินไปหาจุดใหม่กว่าครึ่งชั่วโมง ว่าจะนอนตามร้านอาหารที่มีโซฟาแต่ก็คงไม่ได้เพราะเราไม่ได้ซื้อกินและบางร้านก็ปิดหมดแล้ว สุดท้ายมาเจอลิฟท์ก่อนถึงขาออก Arrival กดลิฟท์มาชั้น 4 Auditorium เลี้ยวขวาผ่านประตูอัตโนมัติ ทันใดนั้นก็เจอเข้ากับพรมอุ่นๆ ขอบอกว่าโชคดีมากๆ ดีกว่านอนกับกระเบื้องเย็นๆหลายเท่าตัว (ขอให้จดใส่สมุดไว้เลยว่านี่คือทริคสำหรับการนอนสนามบินฉางชี ที่นอนที่ดีที่สุดคือทางเดินที่ลงจากเครื่องบินมาจะเป็นพรมที่เพิ่มปูใหม่ แต่อาจจะเสี่ยงกับ รปภ. ที่จะมาไล่ได้ แนะนำให้นอนตรงนี้ก่อนสงบเงียบ เพราะไฟลทดึกจะน้อยหรือแทบไม่มีฉะนั้นจะไม่มีคนเดินผ่านและไฟส่วนใหญ่จะปิดแล้ว แต่ถ้าพลาดแนะนำใหเกดลิฟท์ขึ้นมานอนชั้น 4 ตามที่ผมบอก รับรองเงียบสบาย อุ่น มีปลั๊กแบบไม่มีฝาล็อค สามารถชารทแบตมือถือได้เต็มอิ่ม นอนหลับได้ดีกว่าไปนอนกับเก้าอี้หรือนอนกับพื้นกระเบื้องแน่นอน) หลังจากได้แหล่งสงบพื้นอุ่นๆแล้วก็ตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 เพื่อเตรียมตัวเข้าเมืองในตอนเช้า
หันมองเวลานี่มันตี 2 แล้ว (เวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) คืนแรกกำลังจะผ่านไป ตอนนี้ยังตื่นเต้นกับทริปนี้เพราะยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปไหน แผนการเดินทางที่เตรียมไว้ก็เต็มหัวมากมาย......
ยังไงจะกลับมาต่อกับเช้าวันแรกในสิงคโปร์ตอนหน้า
Day 1
EZ-Link MRT >> Check in Coziee Lodge >> Bugis >> Little India >> China Town >> ข้าวมันไก่ Tien Tien >> Merlion >> Formula 1
[CR] ุ6 Days 7 Night in Singapore
ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเล็กๆ ขนาดไม่ต่างอะไรกับกรุงเทพมหานครของเรา
ขออนุญาติเกริ่นนำเล็กๆกับทริป Backpack 6 วัน 7 คืนคนเดียวลำพังกับประเทศนี้ว่า
ตั้งใจและอยากจะไปมานานมากๆแล้วหลังจากเที่ยววนเวียนรอบๆ ASEAN มาหลายที่
และนี่จะเป็นรีวิวแรกกับการเดินทางอันแสนยาวนานจากบ้านพร้อมคำถาม ความอยากรู้อยากเห็น
และข้อมูลมากมายกับการเตรียมตัว พร้อมทั้งความโชคดีที่มันเกิดตั้งแต่เรายังไม่เริ่มการเดินทาง...........
ออกตัวก่อนเลยว่าคงไม่มารีวิวการเดินทางจากต้นทางไปปลายทางหรือวิธีเบื้องต้นในการอยู่กินในประเทศนี้
เพราะมีรีวิวและข้อมูลแบบนั้นมากมายเกินพอแล้วบนโลกใบนี้
แต่รีวิวนี้จะเป็นข้อมูลอีกด้าน ภาพอีกแบบ ส่วนเสริม คำแนะนำและความรู้สึกของทริปนี้
(เครดิตข้อมูลการเดินทางของผมจาก singaporefanclub, singapore-guides.blogspot, go2singapore, pantip, etc.)
"เชื่อว่าหลายคนคงมีความฝันกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปคนเดียว ไปกับเพื่อนหรือไปกับครอบครัว
จุดหมายก็คงแตกต่างกันออกไปฉะนั้นแล้ว มีฝัน สร้างโอกาสและลงมือทำมันในตอนที่คุณยังมีชีวิตอยู่"
สาธยายมามากว่าแล้วก็เริ่มเลยแล้วกัน
พนักงาบริษัทจะเที่ยวทั้งทีก็ยากเหลือเกิน ต้องรอวันหยุดยาวหรือลาพักร้อน ส่วนตัวผมลาพักร้อนสิครับ
แผนแรกก็เที่ยวทั่วไป 3 วัน 2 คืนตามสูตรปกติเราก็เริ่มดำเนินการจองตั๋วจองที่พักเสร็จเรียบร้อยล่วงหน้า 3 เดือน
แต่เมื่อทุกอย่างถูกจองเสร็จ ไม่รู้ว่าสมองส่วนใดมันถึงทำให้เรานึกขึ้นมาได้ว่า "สิงคโปร์มันเป็นประเทศที่จัด F1 สนามกลางคืนนิ"
ทันใดนั้นเมื่อพิมเข้าไปถามอากู๋ ความซวยก็บังเกิด มันตรงกับแผนวันที่เราเดินทางพอดีเป๊ะ ไม่คิดมากเลย รีบโทรไปขยับตั๋วเครื่องบินและเพิ่มวันที่พักทันทีหลังจากรู้ว่ามีแข่ง F1 ทั้งๆที่ยังไม่ได้หาข้อมูลว่าจะซื้อตั๋วจากไหน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทริปนี้
ด้วยสูตรของมนุษย์เงินเดือนพ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยต้องเก็บเงินเที่ยวเองก็หนีไม่พ้นตั๋วโปรถูกๆ พร้อม Hostel แบบพอซุกหัวนอน
เลยออกมาเป็น Flyscoot ไฟท์ดึกสุดวันพฤหัสถึง สนามบินฉางชี เที่ยงคืน กับโรงแรม CozieeLodge ย่านเกลัง
สรุปค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน 4,950 บาท (ไม่โหลดกระเป๋า) ที่พัก 2,530 บาท ห้องรวม 10 คน
รีวิวสายการบิน สำหรับ Scoot เครื่องใหญ่นั่งสบาย ไม่มีอาหาร แอร์เป็นต่างชาติ สายการบินร่วมทุนกับ Nok Air บินตรงลง Terminal 2
รีวิวโรงแรม สำหรับ CozieeLodge สะอาดปลอดภัยดี ผู้หญิงพักได้สบาย Wifi แรง มีขนมปังกาแฟตอนเช้า เตียงนุ่ม น้ำอุ่นแรงดี ตู้เย็นไมโครเวฟ ล้อคเกอร์ มัดจำ 20GSD (ส่วนตัวแล้วให้ 8/10 แนะนำไม่ผิดหวัง คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ)
คืนแรก....สนามบินฉางชี
ลงมาไฟลท์ดึกขนาดนั้นรภไฟหมดสิครับ รถแท็กซี่มีให้บริการแต่จะชาร์ทเพิ่ม 20% ใครจะมาไฟลท์แบบนี้ไม่นอนสนามบินก็นั่งแท็กซี่เข้าเมืองหรือจะเลือกนอนโรงแรมใกล้ๆสนามบินก็แล้วแต่สะดวก ส่วนผมเตรียมตัวมานอนสนามบิน หลังจากลงเครื่องผ่าน ตม.เข้ามาก็สังเกตุได้ว่า คนไทยเพียบที่มาไฟท์นี้และมานอนสนามบินเหมือนกัน แต่อยากจะบอกว่าขนาดผมเตรียมตัวมาอย่างดียังขอยอมแพ้ มันไม่ได้สบายไม่สนุกไม่เท่ห์แบบที่คุณคิดหรอก
มันทั้งหนาวเย็น ไม่มีที่นุ่มๆอุ่นๆให้คุณได้ชารทพลังก่อนตื่นมาเที่ยวในเมืองแน่นอน ถ้าอยากจะนอนจริงๆแนะนำแผ่นปูรองนอนหรือถุงนอนหนาๆพร้อมผ้าห่มเท่านั้นที่จะทำให้คุณหลับอย่างสนิทและพอจะมีพลัง
ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาชี้เป้าให้ว่าตรงไหน ฝากไว้สำหรับรูป Immigration ตรวจคนเข้าเมืองก็แล้วกัน
ผมเริ่มจากหาที่เงียบสงบๆนอนกับพื้นกระเบื้องบนชั้น 3 โซนออฟฟิศแถวๆห้องน้ำ
เอากระดาษแผนที่ที่หยิบติดมือมาปูรองนอนบรรเทาความเย็นจากพื้นซึ่งเย็นจนปวดกระดูก ข่มตาหลับสักพักได้ครึ่งชั่วโมงก็เจอ 2 ลุงมาจากไหนไม่รู้มานั่งเล่นโทรสับเสียงดังมาก (แกเตรียมชุดเครื่องนอนมาชุดใหญ่นอนสบายไม่หนาวแน่ๆ) เราก็รำคาญว่าจะลุกไปด่า แต่ช่างเหอะเราหนีเองดีกว่า เดินไปหาจุดใหม่กว่าครึ่งชั่วโมง ว่าจะนอนตามร้านอาหารที่มีโซฟาแต่ก็คงไม่ได้เพราะเราไม่ได้ซื้อกินและบางร้านก็ปิดหมดแล้ว สุดท้ายมาเจอลิฟท์ก่อนถึงขาออก Arrival กดลิฟท์มาชั้น 4 Auditorium เลี้ยวขวาผ่านประตูอัตโนมัติ ทันใดนั้นก็เจอเข้ากับพรมอุ่นๆ ขอบอกว่าโชคดีมากๆ ดีกว่านอนกับกระเบื้องเย็นๆหลายเท่าตัว (ขอให้จดใส่สมุดไว้เลยว่านี่คือทริคสำหรับการนอนสนามบินฉางชี ที่นอนที่ดีที่สุดคือทางเดินที่ลงจากเครื่องบินมาจะเป็นพรมที่เพิ่มปูใหม่ แต่อาจจะเสี่ยงกับ รปภ. ที่จะมาไล่ได้ แนะนำให้นอนตรงนี้ก่อนสงบเงียบ เพราะไฟลทดึกจะน้อยหรือแทบไม่มีฉะนั้นจะไม่มีคนเดินผ่านและไฟส่วนใหญ่จะปิดแล้ว แต่ถ้าพลาดแนะนำใหเกดลิฟท์ขึ้นมานอนชั้น 4 ตามที่ผมบอก รับรองเงียบสบาย อุ่น มีปลั๊กแบบไม่มีฝาล็อค สามารถชารทแบตมือถือได้เต็มอิ่ม นอนหลับได้ดีกว่าไปนอนกับเก้าอี้หรือนอนกับพื้นกระเบื้องแน่นอน) หลังจากได้แหล่งสงบพื้นอุ่นๆแล้วก็ตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 เพื่อเตรียมตัวเข้าเมืองในตอนเช้า
หันมองเวลานี่มันตี 2 แล้ว (เวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) คืนแรกกำลังจะผ่านไป ตอนนี้ยังตื่นเต้นกับทริปนี้เพราะยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปไหน แผนการเดินทางที่เตรียมไว้ก็เต็มหัวมากมาย......
ยังไงจะกลับมาต่อกับเช้าวันแรกในสิงคโปร์ตอนหน้า
Day 1
EZ-Link MRT >> Check in Coziee Lodge >> Bugis >> Little India >> China Town >> ข้าวมันไก่ Tien Tien >> Merlion >> Formula 1