เรื่องเศร้าปนฮา(รึปล่าว?)
ต่อจากตอนแรกนะ หลังจากเราใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมากับครอบครัวของป้าเรามาสักระยะนึง พ่อเราซึ่งก่อนน่านั้นแกบวชเป็นพระมาได้หลายพรรษาก็มีอันต้องสึกออกมาเพราะจากจดหมายน้อยๆของเราที่บรรยายเขียนเรื่องราวชีวิตที่ได้ประสบพบเจอแบบทรหดอดทนตอนอยู่กับป้า(พี่สาวของพ่อเรา)ส่งถึงแก พอพ่อได้อ่านจดหมายเราแกก็อดรนทนไม่ไหวจำเป็นต้องสึกออกมาเพราะเป็นห่วงและสงสารลูกสาวอย่างเรา หลังจากย้ายออกมาจากครอบครัวของป้าและมาอยู่พ่อแล้ว สักพักนึงพ่อก็มีครอบครัวใหม่มีเมียใหม่ ซึ่งตอนนั้นนิสัยส่วนตัวเราไม่ค่อยถูกกับเมียใหม่ของพ่อเราสักเท่าไร ไม่ใช่ว่าแกเป็นคนไม่ดีนะ แต่ก็ไม่ใช่คนที่เพอร์เฟค บวกด้วยความรู้สึกที่ว่าแกไม่ใช่แม่เรา และเป็นคนอื่นที่จะมาแบ่งความรักไปจากพ่อเรานั้นเอง แต่ทำไงได้ก็ต้องทนอยู่เพราะไม่มีที่ไป นั้นคือประเด็นที่ทำให้เราเป็นเด็กกร้าวร้าว ดื้อด้าน ไม่ฟังใครและเริ่มหัดดื่มเหล้า!!!พอเหล้าเข้าปากทีไรเป็นต้องทะเลาะกับพ่อแบบบ้านแยกแผ่นดินไหวกันเลยเชียว ปล.พ่อเราก็นักดื่มตัวยงเรียกได้ว่าแทบจะดื่มแทนน้ำได้เลยแหละ พ่อเราอะน่ะถ้าไม่ดื่มจะเป็นคนใจเย็นและใจดีมีน้ำใจมากใครใช้ให้ทำงานอะไรกูทำหมดถึงแม้ค่าตอบแทนจะเป็นเงินอันน้อยนิด รึ บางทีแค่เหล้ากั๊กเดียวกูก็เอา แต่พอเมานี่สิ หึๆคงไม่ต้องให้อธิบายนะ มีอยู่วันหนึ่งจำได้มาจนถึงทุกวันนี้คือ...วันนั้นเราและพ่อดื่มเหล้ากันเมามากจนมีปากเสียงกันเรื่องแม่เลี้ยง(อันนี้คือพฤติกรรมไม่ดีเอาเสียมากๆ ต้องขอโทษด้วย)เราเถียงพ่อไปคำนึงแล้วอยู่ๆสายตาเราเห็นขวานลอยมา!!!พอขวานลอยมาใกล้ๆกับหัวเรา เแต่ไวกว่าหักหลบเอาตัวรอดได้ทัน และทันทีที่เสียงขวานหล่นลงกระเเทกกับพื้น!!!รู้ใหมว่าเกิดอะไรขึ้น???......วิ่งสิครับ จะอยู่เพื่อ?....พอวิ่งออกมาจากบ้านได้ประมาณ100เมตร เราหันไปเห็นพ่อเราวิ่งตามมาแบบกระชั้นชิด หน้าพ่อดูโมโหและน่ากลัวมากในความรู้สึกตอนนั้นนะ วิ่งไล่กันรอบหมู่บ้านประมาณ3รอบ แหม่!!เหมือนวิ่งผลัด 4×100 เมตรกันเลยทีเดียว แหะๆ จนมีชาวบ้านแถวๆนั้นโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาและว่ากล่าวตักเตือนกันไปตามระเบียบดีนะที่พี่ตำรวจแกใจดีที่ไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน หลังจากนั้นเรากับพ่อก็ต่างคนต่างสงบเสงี่ยมเดินคอตกเข้าบ้านนอน.....แต่พอเช้ามานี่สิ เรื่องมหากาพย์ของเราและพ่อก็ดังไปทั่วหมู่บ้านและดังไปเป็นอาทิตย์ ถามว่าอายใหม? ตอบเลยว่า อายมากกกก แต่รู้สึกผิดกับพ่อและเรื่องที่เกิดขึ้นมากกว่าเพราะขาดสติกันทั้งคู่ เราก็หวังว่าอย่าให้ใครรึลูกคนใหนมีพฤติกรรมเช่นเราเลย เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิดพลาดและที่สำคัญมันจะเป็นปาบติดตัวไปตลอดชีวิต
ใครมีพ่อเหมือนอย่างเราบ้าง?😅
ต่อจากตอนแรกนะ หลังจากเราใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมากับครอบครัวของป้าเรามาสักระยะนึง พ่อเราซึ่งก่อนน่านั้นแกบวชเป็นพระมาได้หลายพรรษาก็มีอันต้องสึกออกมาเพราะจากจดหมายน้อยๆของเราที่บรรยายเขียนเรื่องราวชีวิตที่ได้ประสบพบเจอแบบทรหดอดทนตอนอยู่กับป้า(พี่สาวของพ่อเรา)ส่งถึงแก พอพ่อได้อ่านจดหมายเราแกก็อดรนทนไม่ไหวจำเป็นต้องสึกออกมาเพราะเป็นห่วงและสงสารลูกสาวอย่างเรา หลังจากย้ายออกมาจากครอบครัวของป้าและมาอยู่พ่อแล้ว สักพักนึงพ่อก็มีครอบครัวใหม่มีเมียใหม่ ซึ่งตอนนั้นนิสัยส่วนตัวเราไม่ค่อยถูกกับเมียใหม่ของพ่อเราสักเท่าไร ไม่ใช่ว่าแกเป็นคนไม่ดีนะ แต่ก็ไม่ใช่คนที่เพอร์เฟค บวกด้วยความรู้สึกที่ว่าแกไม่ใช่แม่เรา และเป็นคนอื่นที่จะมาแบ่งความรักไปจากพ่อเรานั้นเอง แต่ทำไงได้ก็ต้องทนอยู่เพราะไม่มีที่ไป นั้นคือประเด็นที่ทำให้เราเป็นเด็กกร้าวร้าว ดื้อด้าน ไม่ฟังใครและเริ่มหัดดื่มเหล้า!!!พอเหล้าเข้าปากทีไรเป็นต้องทะเลาะกับพ่อแบบบ้านแยกแผ่นดินไหวกันเลยเชียว ปล.พ่อเราก็นักดื่มตัวยงเรียกได้ว่าแทบจะดื่มแทนน้ำได้เลยแหละ พ่อเราอะน่ะถ้าไม่ดื่มจะเป็นคนใจเย็นและใจดีมีน้ำใจมากใครใช้ให้ทำงานอะไรกูทำหมดถึงแม้ค่าตอบแทนจะเป็นเงินอันน้อยนิด รึ บางทีแค่เหล้ากั๊กเดียวกูก็เอา แต่พอเมานี่สิ หึๆคงไม่ต้องให้อธิบายนะ มีอยู่วันหนึ่งจำได้มาจนถึงทุกวันนี้คือ...วันนั้นเราและพ่อดื่มเหล้ากันเมามากจนมีปากเสียงกันเรื่องแม่เลี้ยง(อันนี้คือพฤติกรรมไม่ดีเอาเสียมากๆ ต้องขอโทษด้วย)เราเถียงพ่อไปคำนึงแล้วอยู่ๆสายตาเราเห็นขวานลอยมา!!!พอขวานลอยมาใกล้ๆกับหัวเรา เแต่ไวกว่าหักหลบเอาตัวรอดได้ทัน และทันทีที่เสียงขวานหล่นลงกระเเทกกับพื้น!!!รู้ใหมว่าเกิดอะไรขึ้น???......วิ่งสิครับ จะอยู่เพื่อ?....พอวิ่งออกมาจากบ้านได้ประมาณ100เมตร เราหันไปเห็นพ่อเราวิ่งตามมาแบบกระชั้นชิด หน้าพ่อดูโมโหและน่ากลัวมากในความรู้สึกตอนนั้นนะ วิ่งไล่กันรอบหมู่บ้านประมาณ3รอบ แหม่!!เหมือนวิ่งผลัด 4×100 เมตรกันเลยทีเดียว แหะๆ จนมีชาวบ้านแถวๆนั้นโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาและว่ากล่าวตักเตือนกันไปตามระเบียบดีนะที่พี่ตำรวจแกใจดีที่ไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน หลังจากนั้นเรากับพ่อก็ต่างคนต่างสงบเสงี่ยมเดินคอตกเข้าบ้านนอน.....แต่พอเช้ามานี่สิ เรื่องมหากาพย์ของเราและพ่อก็ดังไปทั่วหมู่บ้านและดังไปเป็นอาทิตย์ ถามว่าอายใหม? ตอบเลยว่า อายมากกกก แต่รู้สึกผิดกับพ่อและเรื่องที่เกิดขึ้นมากกว่าเพราะขาดสติกันทั้งคู่ เราก็หวังว่าอย่าให้ใครรึลูกคนใหนมีพฤติกรรมเช่นเราเลย เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิดพลาดและที่สำคัญมันจะเป็นปาบติดตัวไปตลอดชีวิต