สวัสดีครับ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากได้วางแผนท่องเที่ยวในจังหวัดสระเเก้ว ในแผนที่วางเอาไว้มี 5 สถานที่ครับ
- เขื่อนพระปรง
- นานาธรรมสถาน
- ถ้าทะลุเขาฉกรรจ์
- น้ำตกเขาตะกรุบ
- ถ้าน้ำ / ถ้ำเขาศิวะ
น้ำตกเขาตะกรุบปิดเนื่องจากมีการป้องกันน้ำหลาก(ขับรถมาเกือบชั่วโมง ไม่ได้โทรเช็คกับอุทยานก่อนเพราะเห็นว่าอากาศแจ่มใจ T_T)
ถ้ำน้ำไปถึงช่วงเย็นเเล้วประมาณ 16:30 จึงจอดรถถามชาวบ้านระเเวกนั้น พวกเขาบอกว่าเย็นเเล้วในถ้ำจะมืดและมีเวลาเยี่ยมชมน้อย
ไว้มาวันหลังช่วงเช้าหรือกลางวันจะดีกว่า เลยตัดสินใจเลี้ยวรถกลับ
ออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ทำให้เรามีเวลามากขึ้นเยอะจริงๆครับ ขับรถสบาย อากาศดี และรถไม่พลุกพล่านมาก ผมออกเดินทางตั้งเเต่ 07:00
ถึงสถานที่แรกนั้นคือ เขื่อนพระปรง อใวัฒนานคร ขับรถใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากอ.อรัญประเทศ
บริเวณตรงนี้จะมีเรือหางยาวที่ชาวบ้านระเเวกนี้ไว้ใช้หาปลาครับ ผมถามคนแถวนี้เขาบอกว่าปริมาณน้ำปีนี้ค่อนข้างน้อยกว่าทุกปี
สามารถลงเล่นน้ำได้ครับ จะมีห่วงยางและเสื้อชูชีพให้นักท่องเที่ยวเช่า
มีเเพไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยวรอบละ 500 เหมาเป็นชั่วโมงแล่นรอบเขื่อน สามารถสั่งอาหารขึ้นไปทานได้ด้วย เสน่ห์ของอ่างเก็บน้ำพระปรงอยู่ที่ การได้นั่งเรือ ล่องแพชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ตกปลา ดูนกป่า นกทุ่ง นกน้ำนานาชนิด
ซุ้มที่เห็นนั้น เป็นซุ้มสำหรับนั้งทานอาหารที่สามารถสั่งได้จากริมเขื่อน จะมีเป็นอาหารตามสั่งและทีเด็ดของที่นี่คือส้มตำกับปลาเขื่อนเผา มีร้านค้าประมาณ 4-5 ร้าน ( ไม่ได้สั่งมาทานเพราะมาคนเดียวกลัวทานไม่หมด ) ถ้าปีไหนที่มีปริมาณน้ำมากเราจะไม่เห็นซุ้มพวกนี้เลย นักท่องเที่ยวสามารถขับรถลงไปจอดด้านล่างได้ครับ
“นกอ้ายงั่วหรือนกงู” ที่มีรายงานการพบนกชนิดนี้มากถึง 70-100 ตัว ถือเป็นแหล่งหากินของนกงูที่ใหญ่ที่สุดของไทย
วิวจากด้านบนครับ บรรยากาศวันนั้นดีมากๆครับ ไม่ร้อนและมีลมเย็นๆ
เพราะปริมาณน้ำที่ไม่มากในปีนี้ ทำให้สามารถนั้งบนหินท่ามกลางน้ำในเขื่อนได้
แอบเสียดายครับที่มาถึงช่วงเช้าจึงยังมีคนที่มาเที่ยวยังไม่มากและมาคนเดียวไม่มีเพื่อนล่องเรือเที่ยวชมรอบเขื่อน เอาไว้คราวหน้ามากับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวคงไม่พลาดแน่ๆ ฮ่าๆๆ
หลังการพักผ่อนรับลมชมเขื่อนก็ออกเดินทางออกจากเขื่อนพระปรงเวลา 10:30 มุ่งหน้าสู่ แผนต่อไปคือ นานาธรรมสถาน อใ วัฒนานคร และถ้ำทะลุเขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ วิ่งเส้นทางเข้า อ.วัฒนานคร ระหว่างขับรถไปสังเกตด้านซ้ายมือจะพบ "นานาธรรมสถาน" วันที่ผมเข้าไปเยี่ยมชมนั้นเหมือนสถานที่เเห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเท่าไหร่นัก เพราะซุ้มประตูทางเข้ายังก่อสร้างไมาเร็จ และทางที่เข้าไปยังเป็นดินลูกรังอยู่ ตามภาพครับ
ภายในบริเวณมีพระพุทธรูปสีขาว องค์ใหญ่เรียงรายกันกว่า 320 องค์ โดยมีพระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่อีก 3 องค์
ถ้าตัดหญ้าให้โล่งเตียนและสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ทั้งทางเข้าด้านหน้าและภายในแห่งนี้ สถานที่แห่งนี้จะสวยงามขึ้นอีกมากครับ
หลังจากถ่ายรูปเเล้วก็มุ่งหน้าสู่ อ.เขาฉกรรจ์ แผนต่อไปคือ ถ้ำทะลุครับ
ภูเขาโดดเด่นเห็นแต่ไกล ตั้งตระหง่านอย่างเห็นได้ชัด และความสูงชันที่ทำแนวเกือบจะตั้งฉากกับพื้นดิน พื้นผิวของหน้าผาที่มีลักษณะคล้ายผ้าม่าน ว่ากันว่าภูเขาหินปูนแห่งนี้ยังเป็นภูเขาดึกดำบรรพ์ที่มีอายุราวๆ 2-4 พันปี
สองข้างทางมีต้นไม้เรียงกันหนาเเน่น เเต่มุมตรงข้างหน้าคือเขาฉกรรจ์
“วัดถ้ำเขาฉกรรจ์”

จุดสำคัญเมื่อมาถึงแล้วห้ามพลาดเลยก็คือ การขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาจาก “ถ้ำเขาทะลุ” ซึ่งต้องอาศัยความกล้าและความอึด เพราะเราต้องขึ้นบันไดพญานาคเป็นจำนวนกว่า 300 ขั้นและมีลิงน้อย ลิงตัวเเม่ จ่าฝูง พ่อลิง ลูกลิง เพียบครับ ณ จุดๆนี้ ถ้าได้ยินจำนวนขั้นบันไดแล้วอย่าเพิ่งท้อกันนะครับ เพราะบันไดแต่ละขั้นไม่ชันซักเท่าไหร่ เดินกันไปเรื่อยๆ สลับกับหยุดพักดูลิงบ้างให้อาหารลิงบ้าง เช่น กล้วย ผลไม้ ถั่วลิสง ซึ่งมีขายอยู่ด้านล่างครับ ถ้ำเขาทะลุจะมีลักษณะเป็นช่องเขาโหว่กลางเขา ทะลุข้ามไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากด้านล่าง พอขึ้นไปด้านบนแล้วจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลถึง 180 องศา และมีลมพัดเย็นสบาย ( บันไดที่ขึ้นไปชมวิวนั้นทำจากไม้ค่อนข้างชันแต่มีจุดพักและราวจับครับ บางทีอาจจะโดนลิงจับน่องได้เหมือนที่ผมโดน ตกใจเลยครับ ฮ่าๆๆๆ ) ภายในถ้ำจะประดิษฐานพระพุทธรูป พระพุทธบาทจำลอง และรูปปั้นฤาษี เจ้าลิงตัวน้อยพวกนี้ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่เคยเจอในหลายๆที่ แต่ก็อย่างเพิ่งวางใจว่ามันจะเชื่องนะครับ เพราะยังไงก็ยังได้ชื่อว่าเป็นลิงป่าอยู่ดี เพียงแต่ลิงที่นี่อาจจะสุภาพหน่อยตรงนี้ไม่วิ่งตรงเข้ามาแย่งของกินจากมือเราเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรแล้วระมัดระวังกันหน่อยเวลาให้อาหารลิงก็ดีนะครับ

ผมซื้อกล้วยจากร้านค้าบริเวณนั้น หวีละ 10 บาท เมื่อพวกมันรู้ว่าผมมีกล้วยในมือมาเพียบเลยครับทีนี้แต่ไม่เข้ามาเเย่งจากมือ ให้เเทบไม่ทันเลยครับ
จบเเล้วครับสำหรับการเดินทางทริปนี้ ขอขอบคุณชาวสระเเก้วทุกคนที่คอยบอกทางการเดินทางให้ทริปนี้ราบรื่นตลอดเส้นทาง ขอบคุณรถที่ให้เราเดินทางไปในที่ต่างๆได้ตลอดวัน ขอบคุณสภาพอากาศที่แจ่มใสตลอดทั้งวัน ขอบคุณมื้ออาหารที่ให้เราได้กินอิ่มตลอดทั้งสามมื้อ และขอบคุณผู้ชมทุกคนครับ






[CR] จากเขื่อนพระปรง สู่ถ้ำทะลุเขาฉกรรจ์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากได้วางแผนท่องเที่ยวในจังหวัดสระเเก้ว ในแผนที่วางเอาไว้มี 5 สถานที่ครับ
- เขื่อนพระปรง
- นานาธรรมสถาน
- ถ้าทะลุเขาฉกรรจ์
- น้ำตกเขาตะกรุบ
- ถ้าน้ำ / ถ้ำเขาศิวะ
น้ำตกเขาตะกรุบปิดเนื่องจากมีการป้องกันน้ำหลาก(ขับรถมาเกือบชั่วโมง ไม่ได้โทรเช็คกับอุทยานก่อนเพราะเห็นว่าอากาศแจ่มใจ T_T)
ถ้ำน้ำไปถึงช่วงเย็นเเล้วประมาณ 16:30 จึงจอดรถถามชาวบ้านระเเวกนั้น พวกเขาบอกว่าเย็นเเล้วในถ้ำจะมืดและมีเวลาเยี่ยมชมน้อย
ไว้มาวันหลังช่วงเช้าหรือกลางวันจะดีกว่า เลยตัดสินใจเลี้ยวรถกลับ
ออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ทำให้เรามีเวลามากขึ้นเยอะจริงๆครับ ขับรถสบาย อากาศดี และรถไม่พลุกพล่านมาก ผมออกเดินทางตั้งเเต่ 07:00
ถึงสถานที่แรกนั้นคือ เขื่อนพระปรง อใวัฒนานคร ขับรถใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากอ.อรัญประเทศ
บริเวณตรงนี้จะมีเรือหางยาวที่ชาวบ้านระเเวกนี้ไว้ใช้หาปลาครับ ผมถามคนแถวนี้เขาบอกว่าปริมาณน้ำปีนี้ค่อนข้างน้อยกว่าทุกปี
สามารถลงเล่นน้ำได้ครับ จะมีห่วงยางและเสื้อชูชีพให้นักท่องเที่ยวเช่า
มีเเพไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยวรอบละ 500 เหมาเป็นชั่วโมงแล่นรอบเขื่อน สามารถสั่งอาหารขึ้นไปทานได้ด้วย เสน่ห์ของอ่างเก็บน้ำพระปรงอยู่ที่ การได้นั่งเรือ ล่องแพชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ตกปลา ดูนกป่า นกทุ่ง นกน้ำนานาชนิด
ซุ้มที่เห็นนั้น เป็นซุ้มสำหรับนั้งทานอาหารที่สามารถสั่งได้จากริมเขื่อน จะมีเป็นอาหารตามสั่งและทีเด็ดของที่นี่คือส้มตำกับปลาเขื่อนเผา มีร้านค้าประมาณ 4-5 ร้าน ( ไม่ได้สั่งมาทานเพราะมาคนเดียวกลัวทานไม่หมด ) ถ้าปีไหนที่มีปริมาณน้ำมากเราจะไม่เห็นซุ้มพวกนี้เลย นักท่องเที่ยวสามารถขับรถลงไปจอดด้านล่างได้ครับ
“นกอ้ายงั่วหรือนกงู” ที่มีรายงานการพบนกชนิดนี้มากถึง 70-100 ตัว ถือเป็นแหล่งหากินของนกงูที่ใหญ่ที่สุดของไทย
วิวจากด้านบนครับ บรรยากาศวันนั้นดีมากๆครับ ไม่ร้อนและมีลมเย็นๆ
เพราะปริมาณน้ำที่ไม่มากในปีนี้ ทำให้สามารถนั้งบนหินท่ามกลางน้ำในเขื่อนได้
แอบเสียดายครับที่มาถึงช่วงเช้าจึงยังมีคนที่มาเที่ยวยังไม่มากและมาคนเดียวไม่มีเพื่อนล่องเรือเที่ยวชมรอบเขื่อน เอาไว้คราวหน้ามากับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวคงไม่พลาดแน่ๆ ฮ่าๆๆ
หลังการพักผ่อนรับลมชมเขื่อนก็ออกเดินทางออกจากเขื่อนพระปรงเวลา 10:30 มุ่งหน้าสู่ แผนต่อไปคือ นานาธรรมสถาน อใ วัฒนานคร และถ้ำทะลุเขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ วิ่งเส้นทางเข้า อ.วัฒนานคร ระหว่างขับรถไปสังเกตด้านซ้ายมือจะพบ "นานาธรรมสถาน" วันที่ผมเข้าไปเยี่ยมชมนั้นเหมือนสถานที่เเห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเท่าไหร่นัก เพราะซุ้มประตูทางเข้ายังก่อสร้างไมาเร็จ และทางที่เข้าไปยังเป็นดินลูกรังอยู่ ตามภาพครับ
ภายในบริเวณมีพระพุทธรูปสีขาว องค์ใหญ่เรียงรายกันกว่า 320 องค์ โดยมีพระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่อีก 3 องค์
ถ้าตัดหญ้าให้โล่งเตียนและสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ทั้งทางเข้าด้านหน้าและภายในแห่งนี้ สถานที่แห่งนี้จะสวยงามขึ้นอีกมากครับ
หลังจากถ่ายรูปเเล้วก็มุ่งหน้าสู่ อ.เขาฉกรรจ์ แผนต่อไปคือ ถ้ำทะลุครับ
ภูเขาโดดเด่นเห็นแต่ไกล ตั้งตระหง่านอย่างเห็นได้ชัด และความสูงชันที่ทำแนวเกือบจะตั้งฉากกับพื้นดิน พื้นผิวของหน้าผาที่มีลักษณะคล้ายผ้าม่าน ว่ากันว่าภูเขาหินปูนแห่งนี้ยังเป็นภูเขาดึกดำบรรพ์ที่มีอายุราวๆ 2-4 พันปี
สองข้างทางมีต้นไม้เรียงกันหนาเเน่น เเต่มุมตรงข้างหน้าคือเขาฉกรรจ์
“วัดถ้ำเขาฉกรรจ์”
จุดสำคัญเมื่อมาถึงแล้วห้ามพลาดเลยก็คือ การขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาจาก “ถ้ำเขาทะลุ” ซึ่งต้องอาศัยความกล้าและความอึด เพราะเราต้องขึ้นบันไดพญานาคเป็นจำนวนกว่า 300 ขั้นและมีลิงน้อย ลิงตัวเเม่ จ่าฝูง พ่อลิง ลูกลิง เพียบครับ ณ จุดๆนี้ ถ้าได้ยินจำนวนขั้นบันไดแล้วอย่าเพิ่งท้อกันนะครับ เพราะบันไดแต่ละขั้นไม่ชันซักเท่าไหร่ เดินกันไปเรื่อยๆ สลับกับหยุดพักดูลิงบ้างให้อาหารลิงบ้าง เช่น กล้วย ผลไม้ ถั่วลิสง ซึ่งมีขายอยู่ด้านล่างครับ ถ้ำเขาทะลุจะมีลักษณะเป็นช่องเขาโหว่กลางเขา ทะลุข้ามไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากด้านล่าง พอขึ้นไปด้านบนแล้วจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลถึง 180 องศา และมีลมพัดเย็นสบาย ( บันไดที่ขึ้นไปชมวิวนั้นทำจากไม้ค่อนข้างชันแต่มีจุดพักและราวจับครับ บางทีอาจจะโดนลิงจับน่องได้เหมือนที่ผมโดน ตกใจเลยครับ ฮ่าๆๆๆ ) ภายในถ้ำจะประดิษฐานพระพุทธรูป พระพุทธบาทจำลอง และรูปปั้นฤาษี เจ้าลิงตัวน้อยพวกนี้ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่เคยเจอในหลายๆที่ แต่ก็อย่างเพิ่งวางใจว่ามันจะเชื่องนะครับ เพราะยังไงก็ยังได้ชื่อว่าเป็นลิงป่าอยู่ดี เพียงแต่ลิงที่นี่อาจจะสุภาพหน่อยตรงนี้ไม่วิ่งตรงเข้ามาแย่งของกินจากมือเราเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรแล้วระมัดระวังกันหน่อยเวลาให้อาหารลิงก็ดีนะครับ
ผมซื้อกล้วยจากร้านค้าบริเวณนั้น หวีละ 10 บาท เมื่อพวกมันรู้ว่าผมมีกล้วยในมือมาเพียบเลยครับทีนี้แต่ไม่เข้ามาเเย่งจากมือ ให้เเทบไม่ทันเลยครับ
จบเเล้วครับสำหรับการเดินทางทริปนี้ ขอขอบคุณชาวสระเเก้วทุกคนที่คอยบอกทางการเดินทางให้ทริปนี้ราบรื่นตลอดเส้นทาง ขอบคุณรถที่ให้เราเดินทางไปในที่ต่างๆได้ตลอดวัน ขอบคุณสภาพอากาศที่แจ่มใสตลอดทั้งวัน ขอบคุณมื้ออาหารที่ให้เราได้กินอิ่มตลอดทั้งสามมื้อ และขอบคุณผู้ชมทุกคนครับ