ศาสนา ดั่งผ้าเช็ดใจ

กระทู้สนทนา
นานๆจะขอตั้งกระทู้ซักที ใครว่างๆเชิญร่วมสนทนากันนะครับ
    ***กระทู้นี้ไม่เหมาะกับผู้นับถือศาสนาที่ใช้แต่ความเชื่อนะครับ*** ขอให้เว้นไปครับ
    ขอบอกกล่าวกันก่อนนะครับว่า นี่เป็นมุมมองส่วนตัวนะครับและไม่ขอเอ่ยชื่อหรือพาดพิงถึงศาสนาใดๆนะครับ เพียงแต่จะยกตัวอย่างกว้างๆในบางครั้ง ถ้ากระทบกระเทือนเพื่อนๆท่านใด ก็รบกวนชี้แจงและขออภัยกันล่วงหน้านะครับ
     เริ่มเลยละกันครับ
         ช่วงนี้พอมีเวลาก็เลยได้เข้ามาห้องศาสนาในพันธ์ทิพย์หลังจากเว้นไปเสียหลายเดือน  ผมได้อ่านกระทู้ต่างๆแล้วก็ยังคงเห็นคำถามในเรื่องเดิมๆ(ส่วนมาก) ที่มีทั้งประโยชน์มาก ประโยชน์น้อย และ(แทบ)ไม่มีประโยชน์(ต่อผู้ถาม/ผู้ตั้ง) บางกระทู้กลายเป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้งระหว่างความเชื่อที่ต่างกันทางศาสนา  และก็มักจะเป็นหัวเรื่องเดิมๆแต่เปลี่ยนสถานการณ์ เปลี่ยนวาระ
     การอธิบาย โต้ตอบกันในกระทู้ประเภทนี้ จะมีผู้เล่นขาประจำอยู่ในช่วงแรก แต่ยิ่งนานไปก็จะมีผู้เล่นหน้าใหม่(หรือหน้าเก่าที่ถูกยึดlog in)เข้ามาร่วมบ้างเป็นครั้งคราว วนเวียนกันไป
     อันนี้เกริ่นไว้เผื่อน้องใหม่ๆเข้ามาอ่านกระทู้นี้ จะได้ไม่ไปเสียเวลาตามสิ่งที่ให้ประโยชน์น้อยนะครับ เอาเวลาไปศึกษากระทู้ที่มุ่งเน้นสิ่งที่ศาสดาแต่ละท่านสอนดีกว่านะครับ  จะได้ถึงประโยชน์ครับ
     เริ่มจริงๆละครับ
        จากกระทู้โต้เถียงกันที่ผมเกริ่นมา ประโยชน์ที่ผมได้คือผมได้เห็นว่า "ศาสนา ดั่งผ้าเช็ดใจ"นี่แหละ เพราะผมตั้งคำถามว่า ศาสนามีประโยชน์อย่างไรกับผมและมนุษย์ พูดกันตามแบบมนุษย์ที่เห็นตามจริงก่อนนะครับ มีเงื่อนไข คือ ต้องเข้าใจได้ว่า
    1.มนุษย์เกิดมาจริง ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด
    2.มนุษย์เมื่อเกิดมาแล้ว ถ้าไม่ตายเดี๋ยวนั้น ก็ต้องตายในวันหนึ่ง ตายคือหมดชีวิต
    3.ระหว่างที่ยังไม่ตายหรือยังมีชีวิต มนุษย์มีการกระทำมีกิริยาจริง ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่เจตนา ตัวอย่างพื้นๆเช่น ล่าสัตว์ กินข้าว ขับรถ ตด เขียน/อ่านกระทู้ เป็นต้น
    4.การกระทำนั้นมีผลต่อตัวเองและ/หรือมนุษย์รอบข้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ยกตัวอย่าง  เช่น กินข้าวก็ได้พลังงาน มีพลังเหลือก็เลยไปชกต่อยแย่งผู้หญิงกัน ก็เลยเกิดความแค้น.....เลยเกิด....คือ มีผลต่อมนุษย์รอบข้างแล้วกระทบกลับไปกลับมา เป็นต้น หรือ การอ่านตำราทำให้ตัวเองได้ความรู้ เลยได้สอนคนรอบข้าง เลยได้รับการสรรเสริญ....ก็เลย....    
     จะเห็นว่า ทุกการกระทำมี"ผล" ที่เกิดจาก"เหตุ" วนกันไปวนกันมาหาจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดไม่ได้
     5."ผล"ของการกระทำใดๆ มนุษย์เราสามารถบันทึกไว้ในสมองได้ เรียกว่า "ความจำ" มนุษย์อาจจะจำได้เป็นบางเรื่อง แต่มนุษย์ไม่สามารถลืมได้ทุกเรื่อง เราสั่งสมองให้จำได้ แต่เราสั่งสมองให้ลืมไม่ได้(ด้วยวิธีการปรกติ)
    6.เมื่อมนุษย์ไม่สามารถสั่งให้ลืมได้ ความทรงจำบางเรื่องจะติดตัวไปจนวันตาย
    7.นอกจากความทรงจำแล้ว มนุษย์ยังมี"ความรู้สึก" ซึ่งเป็นผลโดยตรงที่เกิดกับตัวจากการกระทำใดๆ ความรู้สึกนี้ พูดกว้างๆก็ เช่น ดีใจ เสียใจ ความรู้สึกผิด และอื่นๆ ซึ่งจำแนกเป็น ความรู้สึกบวก ลบ ไม่บวกไม่ลบ ความรู้สึกนี้ก็ถูกบันทึกไว้ได้เช่นกัน
    8.นอกนั้นก็มีสิ่งที่เรียกว่า"อาการ" เช่น หิว อิ่ม ง่วง งง ...อื่นๆ ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดความรู้สึก เช่น เมื่อหิวจัดจะเกิดความรู้สึกเป็นลบ เมื่ออิ่มพอดีก็จะเกิดความรู้สึกเป็นบวก เป็นต้น
     ถ้าเข้าใจตรงกันข้างต้น ก็มาต่อกันที่"ความลืม"ครับ

     เดี๋ยวค่อยมาต่อกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่