ช่วงนี้มีเวลาว่างก็เลยหาหนังมาดูแก้เบื่อแก้เซ็งค่ะ
แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราเป็นคนประเภทชอบดูหนังซ้ำๆ ดูบ่อยมากๆ จนคนที่บ้านเริ่มเอือม
ส่วนใหญ่จะเป็นหนังรักโรแมนติก รองลงมาก็จะเป็นหนังแอ๊คชั่น หนังสงคราม
ถ้าให้จัดอันดับจากหนังที่ชอบที่สุดตามความรู้สึกของเรานะคะ มี 20 อันดับด้วยกัน
(ไม่ขอเรียงอันดับความชอบนะคะ และจริงๆ ก็มีมากกว่านั้น แต่มันยกมาไม่หวาดไม่ไหว)
1. She's all that สาวเอ๋อสุดหัวใจ 1999
เนื้อเรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพยนตร์กุ๊กกิ๊กคอเมดี้เรื่องนี้ มีฉากหลังอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแฮร์ริสันในแอล.เอ.
ซึ่งหนุ่มสาวคู่ป๊อบสุดของที่นี่คือ แซค และ เทย์เลอร์
คู่รักซีเนียร์ไฮโซที่เป็นแฟนกันมาตั้งแต่ปีแรก จนทุกคนคิดว่ายังไงคู่นี้ก็ต้องตกร่องปล่องชิ้นกันแน่
แต่หลังจากปิดเทอมย่อย เทย์เลอร์ก็ทิ้งเขาไปควงสุดหล่อ บร็อค ฮัดสัน ดาราทีวีจอมหลงตัวเอง
แน่นอนว่ามันช่างเป็นข่าวที่บั่นทอนชื่อเสียงระดับประธานรุ่น นักเรียนเกียรตินิยมและกัปตันทีมฟุตบอลโรงเรียนของแซคเป็นอย่างมาก
เขาตัดสินใจรักษาเชิงชายด้วยการพนันกับ ดีน คู่แข่งเพื่อนซี้ว่าเขาสามารถใช้เสน่ห์หนุ่มชุบตัวสาวเอ๋อ
ที่สนใจแต่เรื่องการเมืองในบอสเนียและ อาหารชีวจิตอย่าง เลนีย์ บอกก์สให้เป็นดาวโรงเรียนได้ภายใน 6 สัปดาห์
โดยหารู้ไม่ว่าเธอจะทำให้เขาไม่สนใจในเรื่องชื่อเสียงอีกต่อไป
ขอสารภาพเลยค่ะว่าเป็นหนังรักโรแมนติกเรื่องแรกที่ได้ดู ตอนนั้นเพิ่งเข้าเมืองกรุงใหม่ๆ ยังเข้าโรงหนังไม่เป็น
แม่ก็เลยไปเช่าหนังที่ร้านแมงป่องมาให้ดูค่ะ ไม่รู้ทำไมถึงชอบ แต่ดูไปแล้วก็อมยิ้มแทบทุกฉาก
ตอนนั้นจำได้แม่นเลยว่าเพิ่งอยู่ ป.6 ดูครั้งแรกแล้วหลงรักพระ-นางเรื่องนี้มาก
ดูซ้ำเป็นสิบๆ รอบ ขนาดผ่านมาแล้ว 11 ปี เราก็ยังกลับมาดูอีกจนได้ เป็นหนังรักวัยรุ่นที่ชื่นชอบมาก
นอกจากตัวบทหนังแล้ว เรายังชื่นชอบเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ชื่อเพลง Kiss me สมัยมัธยมก็เอาเพลงนี้ไปประกวดโฟล์คซอง
ถือว่าเป็นหนังขึ้นหิ้งประจำใจเราไปแล้วล่ะค่ะ ถ้าอยู่ช่วงวัย 20 อัพขึ้นไปก็น่าจะเคยดูกันนะคะ
2. Armageddon วันโลกาวินาศ 1998
เนื้อเรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สุดยอดภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัย ที่จะทำให้คุณระทึกจนลืมหายใจ! เมื่อแดน ทรูแมน ผู้อำนวยการองค์การนาซาพบว่า
โลกมีเวลาเหลือเพียง 18 วันก่อนถูกทำลายล้างด้วยดาวหางขนาดเท่ารัฐเท็กซัสที่กำลังพุ่งตรงลงมา
เขามีทางเลือกทางเดียวคือ ระดมนักเจาะน้ำมันทีมแกร่ง ส่งไปบนดาวหางเพื่อฝังหัวรบนิวเคลียร์ในแกนกลางของมัน
องค์การนาซ่าและคนทั้งโลกฝากความหวังเดียวไว้กับแฮร์รี่ สแตมป์เพอร์และลูกทีม ไม่มีพื้นที่ใดบนโลกที่พวกเขาเจาะไม่สำเร็จ
พวกเขามีเวลา 12 วันในการฝึกหลักสูตรนักบินอวกาศเพื่อขึ้นไปทำภารกิจสุดระทึก ถ้าพวกเขาพลาดหมายถึงหายนะของโลก
ดูหนังเรื่องนี้เพราะชอบ เบน แอฟเฟล็ก โดยเฉพาะเลยค่ะ ตามมาจากเรื่อง Pearl Harbor
เรื่องนี้ออกแนวดราม่า-ไซไฟ เห็นหน้าปกครั้งแรกบอกเลยว่ามองผ่านมาหลายปีมาก
แต่พอลองดูจริงๆ ลองกลั้นใจดูสักครั้ง จะบอกว่าตัวเองมองผ่านหนังดีๆ อย่างนี้ไปได้ไง
มีทั้งฉากซึ้งระหว่างเพื่อน ฉากระลุ้นระทึกว่าจะเจาะแกนดาวหางได้ไหม
ไหนจะฉากเรียกน้ำตาระหว่างแฮร์รี่กับเอเจ หรือจะเป็นฉากแฮร์รี่พูดสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายกับลูกสาว
ดูทีไรน้ำตาไหลพลากทุกที ใครที่ชื่นชอบแนวนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
3. Pearl Harbor เพิร์ล ฮาร์เบอร์ 2001
เนื้อเรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพเหตุการณ์ครั้งสำคัญของวันที่ 7 ธันวาคม 1941 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
สงครามทำลายล้างในครั้งนั้นได้ส่งผลกระทบต่อ สองนักบินหนุ่มและนางพยาบาลอาสาสมัครคนสวย
นี่คือภาพยนตร์เกี่ยวกับหายนะจากความพ่ายแพ้ ชัยชนะของวีรบุรุษ ความหาญกล้าส่วนบุคคล
และส่วนที่สำคัญที่สุดในหนังก็คือ อารมณ์รักโรแมนติค ที่เกิดขึ้นท่ามกลางฉากหลังอันรุนแรงจากการสู้ศึกสงคราม
หนังเรื่องเพิร์ล ฮาร์เบอร์ เป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้เราชื่นชอบเบน แอฟเฟล็ก และหลังจากนั้นก็ตามดูเรื่องที่เขาแสดงนำมาตลอด
แค่เห็นโปสเตอร์ก็รู้เลยทันทีว่าต้องเป็นหนังสงครามแน่ๆ และเป็นหนังที่ทำให้เราเลือกเรียนวิชาสังคมศึกษา เพราะชอบประวัติศาสตร์
ถ้าถามว่ามันสนุกมากไหม สำหรับเราสนุกมากค่ะ และชอบตรงที่มีฉากซาบซึ้งตรึงใจมิตรภาพระหว่างเพื่อนด้วยค่ะ
มันทำให้เราเสียน้ำตาไปหลายปี๊บมาก ไม่อยากให้ใครคนใดคนหนึ่งตายเลย แต่สุดท้ายแดนนี่ก็ไม่รอด
จริงๆ เราเคยได้ยิน(มากับหู) ช่วงที่ไปเข้าคลอร์สอบรมนักเขียน ว่าหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จะใช่เรื่องจริงเหรอเปล่าเราก็ไม่รู้นะคะ แต่ บ.ก พูดมาแบบนั้นจริงๆ
ท่ามกลางไฟสงครามก็ยังมีเรื่องรักสามเส้าเข้ามาเกี่ยวข้อง มันสนุกตรงที่ได้ลุ้นว่านางเอกจะเลือกใครด้วยค่ะ
ถ้าใครชื่นชอบแนวสงคราวอิงประวัติศาสตร์ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้นะคะ รับรองว่าสนุกไม่แพ้หนังสงครามเรื่องอื่นๆ เลย
ที่สุดหนังรัก-ประทับใจ
แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราเป็นคนประเภทชอบดูหนังซ้ำๆ ดูบ่อยมากๆ จนคนที่บ้านเริ่มเอือม
ส่วนใหญ่จะเป็นหนังรักโรแมนติก รองลงมาก็จะเป็นหนังแอ๊คชั่น หนังสงคราม
ถ้าให้จัดอันดับจากหนังที่ชอบที่สุดตามความรู้สึกของเรานะคะ มี 20 อันดับด้วยกัน
(ไม่ขอเรียงอันดับความชอบนะคะ และจริงๆ ก็มีมากกว่านั้น แต่มันยกมาไม่หวาดไม่ไหว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แม่ก็เลยไปเช่าหนังที่ร้านแมงป่องมาให้ดูค่ะ ไม่รู้ทำไมถึงชอบ แต่ดูไปแล้วก็อมยิ้มแทบทุกฉาก
ตอนนั้นจำได้แม่นเลยว่าเพิ่งอยู่ ป.6 ดูครั้งแรกแล้วหลงรักพระ-นางเรื่องนี้มาก
ดูซ้ำเป็นสิบๆ รอบ ขนาดผ่านมาแล้ว 11 ปี เราก็ยังกลับมาดูอีกจนได้ เป็นหนังรักวัยรุ่นที่ชื่นชอบมาก
นอกจากตัวบทหนังแล้ว เรายังชื่นชอบเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ชื่อเพลง Kiss me สมัยมัธยมก็เอาเพลงนี้ไปประกวดโฟล์คซอง
ถือว่าเป็นหนังขึ้นหิ้งประจำใจเราไปแล้วล่ะค่ะ ถ้าอยู่ช่วงวัย 20 อัพขึ้นไปก็น่าจะเคยดูกันนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องนี้ออกแนวดราม่า-ไซไฟ เห็นหน้าปกครั้งแรกบอกเลยว่ามองผ่านมาหลายปีมาก
แต่พอลองดูจริงๆ ลองกลั้นใจดูสักครั้ง จะบอกว่าตัวเองมองผ่านหนังดีๆ อย่างนี้ไปได้ไง
มีทั้งฉากซึ้งระหว่างเพื่อน ฉากระลุ้นระทึกว่าจะเจาะแกนดาวหางได้ไหม
ไหนจะฉากเรียกน้ำตาระหว่างแฮร์รี่กับเอเจ หรือจะเป็นฉากแฮร์รี่พูดสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายกับลูกสาว
ดูทีไรน้ำตาไหลพลากทุกที ใครที่ชื่นชอบแนวนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
แค่เห็นโปสเตอร์ก็รู้เลยทันทีว่าต้องเป็นหนังสงครามแน่ๆ และเป็นหนังที่ทำให้เราเลือกเรียนวิชาสังคมศึกษา เพราะชอบประวัติศาสตร์
ถ้าถามว่ามันสนุกมากไหม สำหรับเราสนุกมากค่ะ และชอบตรงที่มีฉากซาบซึ้งตรึงใจมิตรภาพระหว่างเพื่อนด้วยค่ะ
มันทำให้เราเสียน้ำตาไปหลายปี๊บมาก ไม่อยากให้ใครคนใดคนหนึ่งตายเลย แต่สุดท้ายแดนนี่ก็ไม่รอด
จริงๆ เราเคยได้ยิน(มากับหู) ช่วงที่ไปเข้าคลอร์สอบรมนักเขียน ว่าหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่ามกลางไฟสงครามก็ยังมีเรื่องรักสามเส้าเข้ามาเกี่ยวข้อง มันสนุกตรงที่ได้ลุ้นว่านางเอกจะเลือกใครด้วยค่ะ
ถ้าใครชื่นชอบแนวสงคราวอิงประวัติศาสตร์ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้นะคะ รับรองว่าสนุกไม่แพ้หนังสงครามเรื่องอื่นๆ เลย