ผมว่า คำสอนในพุทธศาสนาครอบคลุมมากๆ จะเรียกได้ว่า ตั้งแต่เกิด ยันตาย ก็ว่าได้นะครับ คือสงสัยเรื่องอะไร ค้นได้เลย เจอคำตอบเกือบทุกเรื่อง (ยกเว้นเรื่องโลกเที่ยงหรือไม่เที่ยง ที่พระพุทธเจ้าไม่พูดถึง) ที่น่าเศร้า ก็ตรงที่ชาวพุทธ ไม่ได้นำเอาคำสอนมาใช้นี้แหละ ที่น่าเสียดาย มีของดี แต่ไม่นำเอามาใช้ พอเกิดความทุกข์ ก็วิ่งไปหาหมอดู ร่างทรง พระพุทธเจ้าก็สอน "คนที่รู้กรรมที่ดีที่สุด ก็ตัวเรานี้แหละ คนที่แก้กรรมได้ดีที่สุดก็ตัวเรานี้แหละ แก้กรรมง่ายที่สุด เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรม แต่ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรม"
ลองประมวลคำสอนแบบหว่านแหนะครับ
1.เรื่องปากเรื่องท้องหรือ
อุ อา กะ สะหมายถึง
อุฎฐานสัมปทนา ให้ขยันหา
อารักขสัมปทา ให้มีเก็บ
กัลยาณมิตร คบเพื่อน อย่าคบพวกชอบอบายมุข
สมชีวิตา ใช้ชีวิตให้สมดุลกับรายรับรายจ่าย
"บุคคลจะล่วงความทุกข์ยากลำบากได้ เพราะอาศัยความเพียรพยายาม" ไม่ใช่รอให้รวยจากหวย
2.เรื่องเพื่อนหรือ
หากแสวงหาไม่พบเพื่อนที่ดีกว่าตน หรือเพื่อนที่เสมอกับตน ก็พึงเที่ยวไปคนเดียว เพราะมิตรภาพ ไม่มีในหมู่คนพาล
และมีอีกเยอะ....มิตรเทียม ๔ ประเภท
ทรงแสดงมิตรเทียม ( มิตตปฏิรูปกะ) ๔ ประเภท คือ
๑. มิตรปอกลอก
๒. มิตรดีแต่พูด
๓. มิตรหัวประจบ
๔. มิตรชวนในทางเสียหาย
พร้อมทั้งแสดงลักษณะของมิตรเทียมทั้งสี่ประเภทนั้น ประเภทละ ๔ ประการ.
มิตรแท้ ๔ ประเภท
ทรงแสดงมิตรแท้ ๔ ประเภท คือ
๑. มิตรมีอุปการะ
๒. มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข
๓. มิตรแนะประโยชน์
๔. มิตรอนุเคราะห์ ( อนุกัมปกะ )
พร้อมทั้งแสดงลักษณะของมิตรแท้ทั้งสี่ประเภทนั้น ประเภทละ ๔ ประการ.
3.เรื่องการบริหาร
ดูทศพิธราชธรรม
สังควัตถุ 4 คือ การให้ทาน การให้อภัย ปิยวาจา การพูดเพราะ อัตถจริยา การทำตนให้มีประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่นๆ สมานตัตตา การวางตนให้เหมาะสมกับหน้าที่การงาน ความรู้
4.เรื่องฤกษ์ยาม
"ภิกษุทั้งหลาย บุคคลใด คิดดีในตอนเช้า ตอนเช้านั้นแหละ คือฤกษ์ดี บุคคลใด พูดดีในเวลาใด เวลานั้นแหละ คือฤกษ์ดี ยามดี บุคคลใด กระทำดีในเวลาใด เวลานั้นแหละคือฤกษ์ดียามดี ฤกษ์ก็ดี ดวงดาวก็มี จะมีอิทธิพลต่อการกระทำของมนุษย์ได้อย่างไรเล่า"
5.คุณสมบัติของพ่อค้า ๓ ประการ คือ
1.จักขุมา เป็นคนตาดี หมายถึง รู้จักสินค้า ดูของเป็น
มีความรู้ในการค้าขาย รู้จักต้นทุน รู้จักกำไร
2.วิธุโร เป็นคนฉลาด หมายความว่า จัดเจนธุรกิจรู้แหล่งซื้อขาย รู้ความเคลื่อนไหว
ความต้องการของตลาด สามารถในการจัดซื้อจัดจำหน่ายรู้ใจและรู้จักเอาใจลูกค้า
รู้จักทำเลที่เหมาะสม รู้จักว่าที่ไหนควรขายสิ่งใด ไม่ทอดธุระหน้าที่ของตน
3.นิสสยสัมปันโน หมายถึง พร้อมด้วยแหล่งทุนเป็นที่อาศัย เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจในหมู่แหล่งทุนใหญ่ๆหาเงินมาลงทุนหรือดำเนินกิจการโดยง่าย
มีนิสัยเหมาะสมแก่การค้าขาย มีไมตรีจิตมิตรภาพกับลูกค้าทั่วไป มีมิตรสหายมาก
รู้จักสร้างความนิยมให้แก่ตนเอง เป็นที่เชื่อถือของคนทั่วไป
จริงๆ มีเยอะมาก แทบจะว่า สงสัยเรื่องอะไร ค้นส่วนมากจะเจอหมด แม้แต่คุณธรรมของโจร
6. โจรสูตร
[๑๙๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘
ประการ ย่อมพลันเสื่อม ตั้งอยู่ไม่นาน องค์ ๘ ประการเป็นไฉน
คือ ประหารคนที่ไม่ประหารตอบ ๑ ถือเอาสิ่งของไม่เหลือ ๑
ลักพาสตรี ๑ ประทุษร้ายกุมารี ๑ ปล้นบรรพชิต ๑ ปล้นราชทรัพย์ ๑
ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป ๑ ไม่ฉลาดในการเก็บ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล ย่อมพลันเสื่อม ตั้งอยู่
ไม่นาน.
[๑๙๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘
ประการ ย่อมไม่เสื่อมเร็ว ตั้งอยู่ได้นาน ๘ ประการเป็นไฉน คือ
ไม่ประหารคนที่ประหาร ๑ ไม่ถือเอาของจนไม่เหลือ ๑ ไม่ลักพา
สตรี ๑ ไม่ประทุษร้ายกุมารี ๑ ไม่ปล้นบรรพชิต ๑ ไม่ปล้น
ราชทรัพย์ ๑ ไม่ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป ๑ ฉลาดในการเก็บ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล
ไม่เสื่อมเร็ว ตั้งอยู่ได้นาน
ส่วนเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย และการตาย เยอะมากๆๆๆ
มีอะไรบ้าง ที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน
ลองประมวลคำสอนแบบหว่านแหนะครับ
1.เรื่องปากเรื่องท้องหรือ
อุ อา กะ สะหมายถึง
อุฎฐานสัมปทนา ให้ขยันหา
อารักขสัมปทา ให้มีเก็บ
กัลยาณมิตร คบเพื่อน อย่าคบพวกชอบอบายมุข
สมชีวิตา ใช้ชีวิตให้สมดุลกับรายรับรายจ่าย
"บุคคลจะล่วงความทุกข์ยากลำบากได้ เพราะอาศัยความเพียรพยายาม" ไม่ใช่รอให้รวยจากหวย
2.เรื่องเพื่อนหรือ
หากแสวงหาไม่พบเพื่อนที่ดีกว่าตน หรือเพื่อนที่เสมอกับตน ก็พึงเที่ยวไปคนเดียว เพราะมิตรภาพ ไม่มีในหมู่คนพาล
และมีอีกเยอะ....มิตรเทียม ๔ ประเภท
ทรงแสดงมิตรเทียม ( มิตตปฏิรูปกะ) ๔ ประเภท คือ
๑. มิตรปอกลอก
๒. มิตรดีแต่พูด
๓. มิตรหัวประจบ
๔. มิตรชวนในทางเสียหาย
พร้อมทั้งแสดงลักษณะของมิตรเทียมทั้งสี่ประเภทนั้น ประเภทละ ๔ ประการ.
มิตรแท้ ๔ ประเภท
ทรงแสดงมิตรแท้ ๔ ประเภท คือ
๑. มิตรมีอุปการะ
๒. มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข
๓. มิตรแนะประโยชน์
๔. มิตรอนุเคราะห์ ( อนุกัมปกะ )
พร้อมทั้งแสดงลักษณะของมิตรแท้ทั้งสี่ประเภทนั้น ประเภทละ ๔ ประการ.
3.เรื่องการบริหาร
ดูทศพิธราชธรรม
สังควัตถุ 4 คือ การให้ทาน การให้อภัย ปิยวาจา การพูดเพราะ อัตถจริยา การทำตนให้มีประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่นๆ สมานตัตตา การวางตนให้เหมาะสมกับหน้าที่การงาน ความรู้
4.เรื่องฤกษ์ยาม
"ภิกษุทั้งหลาย บุคคลใด คิดดีในตอนเช้า ตอนเช้านั้นแหละ คือฤกษ์ดี บุคคลใด พูดดีในเวลาใด เวลานั้นแหละ คือฤกษ์ดี ยามดี บุคคลใด กระทำดีในเวลาใด เวลานั้นแหละคือฤกษ์ดียามดี ฤกษ์ก็ดี ดวงดาวก็มี จะมีอิทธิพลต่อการกระทำของมนุษย์ได้อย่างไรเล่า"
5.คุณสมบัติของพ่อค้า ๓ ประการ คือ
1.จักขุมา เป็นคนตาดี หมายถึง รู้จักสินค้า ดูของเป็น
มีความรู้ในการค้าขาย รู้จักต้นทุน รู้จักกำไร
2.วิธุโร เป็นคนฉลาด หมายความว่า จัดเจนธุรกิจรู้แหล่งซื้อขาย รู้ความเคลื่อนไหว
ความต้องการของตลาด สามารถในการจัดซื้อจัดจำหน่ายรู้ใจและรู้จักเอาใจลูกค้า
รู้จักทำเลที่เหมาะสม รู้จักว่าที่ไหนควรขายสิ่งใด ไม่ทอดธุระหน้าที่ของตน
3.นิสสยสัมปันโน หมายถึง พร้อมด้วยแหล่งทุนเป็นที่อาศัย เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจในหมู่แหล่งทุนใหญ่ๆหาเงินมาลงทุนหรือดำเนินกิจการโดยง่าย
มีนิสัยเหมาะสมแก่การค้าขาย มีไมตรีจิตมิตรภาพกับลูกค้าทั่วไป มีมิตรสหายมาก
รู้จักสร้างความนิยมให้แก่ตนเอง เป็นที่เชื่อถือของคนทั่วไป
จริงๆ มีเยอะมาก แทบจะว่า สงสัยเรื่องอะไร ค้นส่วนมากจะเจอหมด แม้แต่คุณธรรมของโจร
6. โจรสูตร
[๑๙๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘
ประการ ย่อมพลันเสื่อม ตั้งอยู่ไม่นาน องค์ ๘ ประการเป็นไฉน
คือ ประหารคนที่ไม่ประหารตอบ ๑ ถือเอาสิ่งของไม่เหลือ ๑
ลักพาสตรี ๑ ประทุษร้ายกุมารี ๑ ปล้นบรรพชิต ๑ ปล้นราชทรัพย์ ๑
ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป ๑ ไม่ฉลาดในการเก็บ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล ย่อมพลันเสื่อม ตั้งอยู่
ไม่นาน.
[๑๙๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘
ประการ ย่อมไม่เสื่อมเร็ว ตั้งอยู่ได้นาน ๘ ประการเป็นไฉน คือ
ไม่ประหารคนที่ประหาร ๑ ไม่ถือเอาของจนไม่เหลือ ๑ ไม่ลักพา
สตรี ๑ ไม่ประทุษร้ายกุมารี ๑ ไม่ปล้นบรรพชิต ๑ ไม่ปล้น
ราชทรัพย์ ๑ ไม่ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป ๑ ฉลาดในการเก็บ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล
ไม่เสื่อมเร็ว ตั้งอยู่ได้นาน
ส่วนเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย และการตาย เยอะมากๆๆๆ