เตือนคนที่จะกู้ซื้อบ้านกับธนาคารสีเขียว...ระวังโดนหลอกให้กู้เงินหลักแสนจ่ายประกันโดยไม่รู้ตัว!!!หมกเม็ดไม่บอกความจริง

สวัสดีค่ะ นานาสวัสดี  ยาวหน่อยนะคะ แต่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่จะต้องกู้ซื้อบ้าน และต้องเข้าไปติดต่อกับธนาคารเพื่อให้เราไม่เสียรู้เค้าค่ะ พาพันขยัน
( เคยทำแต่กระทู้ท่องเที่ยว...ไม่เคยทำกระทู้แนวนี้มาก่อน) เพี้ยนเพลีย

เนื่องจากเราไปกู้ซื้อบ้านมือสองกับธนาคารสีเขียวค่ะ
ส่งเอกสารเรื่องกู้ไปตั้งแต่วันที่ 29 กรกฏาคม 58

ตอนแรกตั้งใจจะยื่นกู้กับหลายธนาคารค่ะ เตรียมเอกสารมาพร้อมหมดละ ... แต่เราเข้าไปยื่นที่ธนาคารสีเขียวก่อนเป็นธนาคารแรก เราคุยกับน้องจนท.ที่รับเรื่อง น้องพูดจาดีมาก เราบอกกับน้องที่ธนาคารเลยว่า งั้นพี่ไม่ไปแบงค์อื่นละ ยื่นที่นี่ที่เดียวเลยละกัน น้องดูให้พี่ด้วยละกันนะ..(ไว้ใจเลย วางใจทันทีเลย ) นานาโอเค

ผ่านไปประมาณเดือนนึง น้องจนทกับผจก.ธนาคาร นัดมาเจอเราที่ร้าน (เราทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ)
บอกว่าต้องมาถ่ายรูปกิจการของเราเพิ่มเติม แล้วก็นั่งคุยกันนานนะ เป็นชั่วโมง สักพักผจก.ธนาคารก็หยิบรายละเอียดกรมธรรม์ประกันชีวิตมาเสนอ!! เบี้ยประกันหลายแสนบาทมากๆ (ถ้าจำไม่ผิดเบี้ยประมาณ6แสนบาทค่ะ)

เราเลยบอกไปว่า ยังงัยๆเราก็ไม่ทำประกันชีวิตค่ะ (คือเราไม่ไหวส่งแน่ๆค่ะ)
ผจก.กับน้องที่มาพยายามพูดจะให้เราซื้อให้ได้ หารมาเป็นรายวันตามเสต็ปขายประกัน ...
เราก็ยังคงยืนยันว่าเราไม่ทำค่ะ เราไม่อยากทำ เราไม่ไหวส่งเบี้ย เรารู้กำลังตัวเอง

ผจก.บอกว่า โอเคงั้นก็ไม่เป็นไร เอาที่เราสบายใจ ไม่ทำก็ไม่ทำ (เราเลยคิดว่าเค้าเข้าใจเจตนาเราแล้วแหละว่าไม่ทำประกันชีวิตเนอะ!!)

แต่ผจก.บอกเราว่า การกู้ซื้อบ้านมีประกันตัวนึงนะที่บังคับทำเมื่อกู้ซื้อบ้าน เป็นประกันตัวบ้านเผื่อไฟไหม้อะไรแบบนี้
(โอเค ถ้าไม่ใช่ประกันชีวิต แล้วมันเป็นประกันอีกแบบที่บังคับทำ มันก็ต้องทำเนอะ)
เราเลยบอกถ้าเป็นประกันที่ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เรายินดีทำอยู่แล้วค่ะ อันนั้นไม่ใช่ปัญหา

แล้วก็บอกกับผจก.ธนาคารว่า เราไม่มีความรู้เรื่องกู้เลย นี่เป็นครั้งแรก มีอะไรบอกเราละกันนะ เราเป็นคนพูดตรงๆ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ ถ้ามีอะไรที่บังคับเราต้องทำก็บอกกันก่อน จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย (ซื่องัย..ไม่คิดว่าจะเจอคนคิดไม่ดี พาพันอาบน้ำ

เวลาผ่านไปหลายวันจนแบงค์อนุมัติว่า สินเชื่อกู้บ้านเราผ่านแล้ว น้องที่ธนาคารไลน์มาบอกเรา แล้วนัดวันให้เราเข้าไปเซนต์เอกสารที่ธนาคาร

จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา!!! (21/9/15)
น้องที่ธนาคารนัดเราเข้าไปเซนต์สัญญาเงินกู้ ก่อนวันที่นัดโอนที่กรมที่ดิน2วัน ให้เซนต์เอกสาร หนาประมาณ20กว่าหน้า ทั้งหมด3ชุด

เราอ่านใบแรกเป็นสัญญาเงินกู้
-ยอดแรกเป็นเงินกู้ตัวบ้านยอด 4.5ล้านบาท
-ยอดที่2 เป็นยอดกู้ตบแต่ง 550,000บาท ( จริงๆยอดนี้เราไม่ได้ให้ทำ น้องที่ธนาคารบอกว่า หนูยื่นไปให้แล้ว ถ้าพี่มีเงินเอาไปโปะได้เลย ไม่เสียอะไร *** กู้ให้เราเองเลยอ่ะ งง มาก  )
-ยอดที่3 ยอดสุดท้ายคือยอดปัญหาที่ตัดสินใจตั้งกระทู้ pantip ค่ะ!! เพี้ยนไฟลุก

มันเป็นยอดประกันชีวิต 369,000 บาท พิมพ์รวมมาในใบสัญญาเงินกู้
เราถามผจก.ธนาคารว่า "ยอดนี้มันคือยอดอะไร"
ผจก.บอกว่า "เป็นยอดประกันที่เคยบอกเราวันที่เข้าไปที่ร้านเราเพื่อถ่ายรูปร้าน คือเป็นประกันที่ผู้กู้ซื้อบ้านต้องทำ!!" (บอกเราว่าต้องทำ ทั้งๆที่มันเป็นประกันชีวิต เห็นเราไม่รู้เรื่องงัยคะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้เรื่องจริงๆแหละค่ะ )

เราถามว่า "ธนาคารบังคับต้องทำเหรอคะ ยอดมันสูงมากเลยนะ (เราหน้าเสีย)"

ผจกบอกว่า "ใช่ครับ ต้องทำ" (แน่ะ กล้าย้ำด้วยนะคะคุณผจก.)

น้องที่ธนาคารเดินมาบอกว่า ผ่อนชำระได้ค่ะพี่ เดือนละ 2,600 รวมไปในงวดที่ต้องจ่ายค่าบ้านเลย

ซึ่งในความเข้าใจแบบชาวบ้านอย่างเราคือผ่อนเดือนละ 2,600 บาท ผ่อนไปจนกว่าจะครบยอด369,000งิ (ยอมรับค่ะว่าเราโง่จริงๆ คิดว่าแบ่งจ่ายง่ายๆ ไม่ได้คิดเรื่องดอกเบี้ยอะไรเล้ย)

แต่ในความเป็นจริงที่มารู้ทีหลังก็คือ...

-ธนาคารไม่มีสิทธิ์บังคับเราให้ทำประกันตัวนี้ค่ะ

-ยอดเงิน369,000 ที่ให้ผ่อนชำระเดือนละ 2,600บาทนี้ ธนาคารทำเรื่องกู้เพื่อเอาเงินตัวนี้ไปให้บริษัทประกัน
โดยไม่แจกแจงรายละเอียดเลยว่ายอดเงิน 369,000 บาท แท้จริงแล้วคือยอดเงินที่กู้มาเพื่อจ่ายเบี้ยประกันค่ะ ที่เราต้องผ่อน เดือนละ 2,600 บาท ระยะเวลา 336 เดือน ซึ่งกลายเป็นว่ายอดเงินที่เราต้องจ่ายธนาคารทั้งหมดรวมเป็นเงิน 873,600 บาท!!!

-ธนาคารจัดการกู้เงินก้อนนี้แทนเราเลย โดยที่เราไม่รู้เรื่อง เพราะทางธนาคารไม่เคยคุยกันกับเรามาก่อนถึงรายละเอียดการทำประกันนี้ มันคือการมัดมือชกค่ะ!! ให้เราเซนต์ในสัญญาชุดเดียวกันกับวงเงินกู้บ้านไปเลย พอถามก็พูดคำเดียวว่าธนาคารบังคับว่าต้องทำ ไม่มีการอธิบายใดๆทั้งสิ้นว่าคุ้มครองอะไร ยังไง ส่งกี่ปี จะได้เงินคืนมั๊ย ได้เมื่อไหร่ ไม่มีพูดคุยเรื่องรายละเอียดกรมธรรม์369,000บาทเลยซักนิดค่ะ

เราถามผจก.ย้ำก่อนจะเซนต์สัญญาหลายรอบมาก ว่าธนาคารบังคับต้องทำประกันตัวนี้ใช่มั๊ย ผจก.บอกว่าต้องทำ!!

อ่ะๆ ต้องทำใช่มั๊ย คำว่าต้องคือเท่ากับบังคับ ไม่ทำไม่ได้ เซนต์ก็เซนต์!!!! ผจก.ธนาคารคือใหญ่สุดในธนาคารนี้แล้วนี่!!! ยื่นคำขาดมาต้องทำ ก็คือต้องทำ!!

หลังจากเซนต์เอกสารเสร็จ กำลังจะกลับ ผจก.บอกว่าเราต้องจ่ายเงินอีก6900บาท เป็นค่าประกันอีกตัว!!!
เราก็งงว่าอ้าว แล้วเมื่อกี้มันจ่ายประกันอะไรตั้ง 369,000บาท!!!
ผจก.บอกเมื่อกี้เป็นประกันชีวิต ส่วนอันนี้เป็นประกันอัคคีภัย บังคับทำเหมือนกัน
( เราเดินออกมาจากธนาคารแบบมึนๆ งงๆ ว่าบังคับหลายตัวจัง ข้องใจมาก คิดในใจว่า เดี๋ยวเลิกงานจะกลับไปอ่านสัญญาให้เข้าใจให้จงได้ แล้วลองหาข้อมูลในอินเตอร์เนตอีกที)

วันที่ไปเซนต์เอกสาร...มีเวลาให้เราอ่านที่ธนาคารไม่ได้มาก ...
สมาธิในการทำความเข้าใจในภาษาหนังสือสัญญากับเวลาที่เรานั่งอยู่ในธนาคารคงไม่พอ พาพันขยัน

กลับมาจากธนาคารเรามานั่งอ่านสัญญาต่อที่บ้าน ยังอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมาก หลายชั่วโมงด้วยสิ ( คือใครอ่านภาษากฎหมายในหนังสือสัญญาแล้วเข้าใจง่ายเหมือนอ่านนิยายรักนี่เรายกนิ้วให้เลยนะ ) แถมเรายังนั่งเสิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เนตไปด้วย เพราะไม่เข้าใจ

จนตอนเช้า 9 โมงของวันอังคาร (ก่อนหน้าวันโอน1วัน) เราโทรถาม call center เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้จนท.ฟัง
ทางจนท.บอกว่า ทางธนาคารไม่มีนโยบายบังคับลูกค้าให้ทำประกัน กู้ส่วนกู้ ประกันส่วนประกัน (งานเข้า!! เอาแล้วงัย  เราเลยขอชื่อจนท.ไว้เผื่อต้องยืนยัน) เราถามว่า แล้วเราต้องทำยังไงต่อไป

จนท.บอกว่าให้เราโทรหาผจก.ธนาคารแล้วบอกยกเลิกสัญญาประกันได้เลย

เราโทรหาผจก.บอกจะยกเลิกประกัน เพราะจริงๆแล้วธนาคารไม่ได้บังคับให้ทำ แต่คุณบอกเราว่าธนาคารบังคับต้องทำ

ผจก.บอกว่าถ้าจะยกเลิกประกัน พรุ่งนี้ที่นัดโอนที่กรมที่ดิน คงต้องเลื่อนออกไป เพราะถ้าไม่ทำประกัน คงต้องทำเรื่องกู้ใหม่ทั้งหมด (โอ้ววว ขู่เราว่าต้องทำใหม่หมดด้วยนะจ๊ะ) พาพันเศร้า

เราเลยบอกว่า เราถามข้อมูลมาหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องยื่นกู้ใหม่ทั้งหมด เพราะถึงไปโอนแล้วก็ยกเลิกประกันได้นี่คะ ถ้าเราไม่ยินยอมจะทำ หรือทำเพราะถูกบังคับโดยที่จนท.ไม่แจ้งรายละเอียดหรือบอกข้อมูลแบบปิดบัง!!

ผจก.ธนาคารอ้ำอึ้งไป .... แล้วบอกว่า จริงๆทำแบบที่เราบอกก็ได้ มันทำได้ทั้ง2วิธี!!

เราเลยบอกว่า ถ้ามี2ทาง คือทางที่ง่ายกับทางที่ยากให้ผจก.เลือก  แล้วทำไมผจก.ถึงเลือกทางที่ยากกว่าล่ะคะ (พี่จะเลือกให้ทำเรื่องใหม่หมดให้ยากทำไมค๊าาา)

ผจก.เลยขอวางสาย แล้วบอกเดี๋ยวจะติดต่อเรากลับมาใหม่

สักพักใหญ่ ผจก.ติดต่อกลับมา แล้วบอกว่าต้องขอโทษที่บอกไม่หมดเกี่ยวกับประกัน เอาเป็นว่า จะทำเรื่องยกเลิกให้เราแล้วกัน

จนถึงเมื่อวาน วันพุธเป็นวันที่นัดโอนที่ หลังจากทำเรื่องที่กรมที่ดินเสร็จ

เราเลยโทรหา call center ของธนาคารอีกครั้ง  
จนท.เลยบอกให้เราแจ้งเรื่องไปทางบริษัทประกันภัยโดยตรงอีกทีพร้อมให้เบอร์ติดต่อ เพื่อยืนยันว่าเราขอยกเลิกไม่ทำประกัน แล้วก็แจ้งเหตุผลกับทางบริษัทประกันไป

ตอนนี้เราโทรแจ้งบริษัทประกันโดยตรงไปแล้วค่ะ รอทางจนท.เค้าติดต่อมาอีกที

ถ้ายกเลิกสำเร็จ เงินก้อนที่ธนาคารกู้ไปเพื่อจ่ายประกัน ... ยอดจะโอนมาเข้าบัญชีเพื่อลบยอดหนี้ 369,000 บาทค่ะ

ตอนนี้ก็รออย่างเดียวเลย ถ้ามีความคืบหน้าหรือได้เงินกลับมากลบยอดหนี้ที่เราโดนบังคับกู้เมื่อไหร่ จะมาแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ

แค่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายธนาคารจากการกู้เพื่อซื้อบ้าน ลูกค้าก็ต้องหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยให้คุณไม่ใช่น้อยแล้ว
นี่ยังจะยัดเยียด หมกเม็ดขายประกันชีวิตแบบนี้อีก การที่ลูกค้าจะควักเงินจ่ายค่าอะไรก็ตาม มันควรมาจากความสมัครใจนะคะ ทำงานแบบนี้มีความสุขกันจริงๆหรอคะ

ที่มาเล่าก็เพื่อมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ ดีว่าครั้งนี้เราไหวตัวทัน เลยยังรีบเดินเรื่องเพื่อยกเลิกได้
(แต่ก็ยังคงต้องตามเรื่องต่อค่ะ)

เลยอยากให้เพื่อนๆที่จะกู้ซื้อบ้านท่านอื่นๆรู้ไว้นะคะ ว่าอย่าเชื่อสิ่งที่จนท.แบงค์พูดทั้งหมดค่ะ แม้ตำแหน่งเค้าจะเป็นถึงผจก.และรองผจก.ก็ตาม พยายามค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนะคะ กระทู้พันทิพนี่แหละค่ะที่ช่วยได้อย่างดี เหมือนอย่างที่ช่วยให้เราไหวตัวทันในครั้งนี้ค่ะ


         _____________________________________________________________________________________________

อัพเดท วันที่ 25 กันยายน 58 ความคืบหน้าในการตามเรื่อง การยกเลิกกรมธรรม์

เมื่อคืน : ทางธนาคารมีติดต่อขอรายละเอียดข้อมูลทางหลังไมค์ แจ้งว่าจะดำเนินการตามเรื่องให้ค่ะ

9โมงเช้าวันนี้ : ทางธนาคารได้ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และจะแจ้งผลความคืบหน้าให้ค่ะ

ช่วงบ่ายวันนี้ : เราจัดการ Fax สำเนาบัตรปชช. พร้อมแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรว่าต้องการยกเลิกกรมธรรม์ไปที่บริษัทประกันภัย เนื่องจากโดนจนท.ปิดบังข้อมูลและไม่บอกความจริงเกี่ยวกับการทำกรมธรรม์
พร้อม mail หนังสือสัญญาเงินกู้จากธนาคารทีใช้ในการจ่ายค่าประกันตัวนี้

**** ตอนนี้รอการติดต่อกลับจากธนาคารและบริษัทประกันภัยค่ะ


ขอขอบคุณคุณความคิดเห็นที่ 9 นะคะ



                      ________________________________________________________________

อัพเดทนะคะ

วันจันทร์ที่ 28กันยายน 2558
ผจก.ธนาคารโทรหาเรา แจ้งว่าจะทำการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยให้ หลังจากนี้ให้เรารอการติดต่อกลับ ถ้าดำเนินการเสร็จแล้วจะแจ้งเรื่อง

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2558
เราโทรไป call center ของธนาคาร สอบถามความคืบหน้า คำตอบคือไม่มีอะไรคืบหน้า ให้รอการติดต่อกลับจาก จนท.

เราโทรไป ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของบริษัทประกันภัย ทางบริษัทบอกว่ากำลังดำเนินการ

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม 2558
เราโทรไป ศูนย์รับร้องเรียนของบริษัทประกันภัยอีกครั้ง ทางจนท.บอกว่า ได้ทำการคืนเช็คจำนวนเงิน 369,000บาทเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ให้เรารอการติดต่อกลับจากธนาคาร

วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2558
จนท.ศูนย์ร้องเรียนบริษัทประกันภัยโทรมาถาม ว่าทางธนาคารมีการติดต่อมารึยัง....คำตอบคือ ยัง!!!
จนท.รับปากว่าจะตามเรื่องให้ค่ะ

วันศุกร์ 9 ตุลาคม 2558
10โมงเช้า เราโทรไปที่ศูนย์ร้องเรียนบริษัทประกัน จนท.ไม่ว่าง เลยให้โทรกลับ
เที่ยง ได้รับการติดต่อจากจนท.ธนาคาร ส่งข้อความมาว่าได้ทำการเอาเช็คคืนเข้าบัญชีเงินกู้เพื่อทำประกันเรียบร้อยแล้ว

บ่ายโมงเราเดินทางไปธนาคาร ไปสอบถามสถานะ ...
บัญชีเงินกู้ประกันตัวปัญหา ได้ปิดบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

*** ตั้งแต่ลงกระทู้ pantip ได้รับการติดต่อกลับมาจากจนท.ธนาคารสีเขียวในวันรุ่งขึ้นแค่ครั้งเดียวค่ะ!!!
หลังจากนั้นมีแต่จนท.ที่ศูนย์ร้องเรียนบริษัทประกันที่คอยติดตามเรื่องให้ตลอด จนท.ชื่อคุณวิมลมาศ ขอบคุณจากใจเลยค่ะ

ดีใจยิ่งกว่ากู้บ้านผ่านล้านเท่า!!! รู้สึกเหมือนโดนโกงเงินแล้วได้เงินกลับยังไงยังงั้นเลยจริงๆ
ฝากไปถึงจนท.ธนาคารด้วยนะคะ ว่าอย่าเอาความไม่รู้ของคน เป็นหนทางไปสู่การเอาเปรียบคนอื่นเลยค่ะ
ใช้ชีวิตแบบนี้เราว่าเหนื่อนนะ จะทำไร หรือทำอาชีพอะไร ตรงไปตรงมาดีที่สุด

ทุกคนมีปัญหาค่ะ แต่ในการแก้ปัญหา...ต้องไม่ไปสร้างปัญหาให้คนอื่น หรือ ทำให้คนอื่นเดือดร้อนจากการแก้ปัปัญหาของเราพาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่