[CR][SR] แบกเป้ขึ้นภูสอยดาว กับ ผู้หญิงแบกเป้

ปล. เราเดินทางโดยรถประจำทาง ขาไปเรานั่งรถ "นครชัยแอร์" ราคาไม่แพงมาก แต่นั่งสบายฝุด บอกเลยว่าขับรถดีมาก แหละเป็นที่ประทับใจมาก
  เราเดินทาง เวลา 21:45 - 03:20
  ต่อรถ แท๊กซี่ : ราคา 3200 บาท ราคาไป - กลับ ถึงตีนภูสอยดาว ( เราเร่งรีบเวลา ให้ทันขึ้นเช้า ก่อน 08:00น)
มีรถ ประจำทาง ที่ไปถึงชาติตระการ ในราคา 92 บาท ไปต่อ อีกครั้งที่ ตลาด แต่อาจไม่ทันรอบเช้า ถึงบ่ายเลย แต่ถ้า บ่าย2 ไม่ทัน นอนด้านล่างค่ะ เช้าถึงจะขึ้นไปได้
ค่าลูกหาบ 35 บาทต่อกิโล ( ลูกหาบได้30 บาท อุทยาน 5 บาท) ชั่งทั้งไป - กลับ
มีค่ามัดจำ ขยะ100 บาท
เต้นท์ ราคา 800 /2 คน
การเตรียมตัว
ต้องเตรียมน้ำให้พร้อม เพราะระยะทางไกลพอสมควร แหละชันมาก
รองเท้าแนะนำ รองเท้าการเกษตร หรือ ที่มีดอกเยอะๆ จะติดดินดี
เสื้อกันฝน
อาหาร
   .......จ้างบนไม่มีไฟ มีน้ำให้ใช้ลำธาร มีอุปกรณ์ให้เช่า
เตรียมให้พร้อม นะค่ะ


     ..." ภูสอยดาว จ.พิษณุโลก "
เวลา:15.34
.หากจะให้เอ่ยถึง 6.5 กิโลแม้วละก็ มันโครตจะโหดสุดๆ ทุกก้าวย่านทำเวลา นาทีมีค่ามาก ความกดดันสูงปรี๊ดเฉียดฟ้ากันเลยทีเดียว
ก่อนขึ้นภูส้อยดาว ความตื่นเต้น แรงและพลังสูงมาก เล่นเอาว่า พลังช้างก็ฉุดไม่อยู่ตรงตีนเขาไม่ได้ การผจญภัยเริ่มสนุก เริ่มมีโมเม้นของคำว่า " slow life"กันเต็มที่ กว่าจะถึงยอดเขา มันดูดพลังออกจากร่างตั้งแต่ "เนินส่งญาติ" 1,200 เมตร แค่ชื่อก็สะดุดซะแล้ว
เรี่ยวแรงเริ่มหมดตั้งวินาที ก้าวขาขั้นสุดท้าย ของเนินส่งญาติ ก็ทำเอาไปนั่งกองกับพื้นกันเป็นแถว น้ำที่เตรียมมา1 ลิตร หมดไปในพริบตาเดียว มันเริ่มท้าทายเราอีก 7 ลูกหลัง กว่าจะถึงเนินมรณะ ที่โหดที่สุด มันก็แทบจะคลานขึ้นไป
ขาเริ่มก้าวทีละขั้นเหงื่อออกท่วมตัว ชีวิตแสนโครตจะเหนื่อย เมื่อขึ้น"เนินปราบเซียน" 1700 ม. แค่ชื่อก็ปราบเราซะแล้ว เมื่อหงายหน้าขึ้นไปดู
อยากจะตะโกนดังๆ โครตจะชันเลย...
กว่าจะผ่านเนินนี้ไปได้ ชีวิตเหมือนจะขาดใจ ทางชัน สลับทาง ราบ บวกกับมือที่ต้องสัมผัสกับหินทุกก้อน เพื่อไม่ให้ การพยุงตัวของเราเสียป่าว น้ำหนักตัว ของที่หิ้วขึ้นมา มันเหมือนภาระอันหนักอึ้ง
โอ้....ชีวิต กูมาทำไรที่นี่..??
ในขณะเดียวกัน เราเจอ สองสาว ที่เดินสวนทางลงมา ด้วยความที่เหนื่อยละเริ่มล้า เต็มที กับเพียงเดินทางสองเนินเขา เราจึงมีบทสนทนาต่อกัน
เรา: อีกไกลไหมค่ะ
เขา: ยังไม่ได้ครึ่งทางเลยค่ะ มีโหดกว่านี้ ชันกว่านี้ แหละสูงกว่านี้ อีก5-6 ลูก
คำตอบนี้อาจบันทอนเราสุดๆ แค่สองเนิน ชีวิตแทบจะคลานขึ้น แต่ก็ผ่านเนินปราบเซียน ไปได้อย่าทุลักทุเลกันไป
ลานสน 5.5 กม. ในใจแทบสลาย เดินมาไกลจนแทบอยากสละของออกจากหลัง เราเดินมาเพียว กิโลเดียวเอง แต่ถึงอย่างไร เราต้องไปถึงให้ได้
" เนินป่ากอ" 3,700 เนินนี้อาจเป็นทางเรียบ สลับกับทางชัน มันก็ไม่สามารถเรียกพลังอันมหาศาลกลับมาได้ ในขณะเดียวกัน ใจอยากย้อนกลับไป แต่มาถึงขนาดนี้ถ้ากลับได้ เราคงต้องนอนอยู่ด้านล่าง หรือไม่ อ่จนอนตรงป่าสักจุดหนึ่งของ เส้นทางเขา
เราเริ่มหยุดพักกันถี่ขึ้น น้ำเริ่มเหลือเพียงก้นขวด เสียงหอบเริ่มบวกกับเสียงบ่นพลางๆ ความเหนื่อยล้าเริ่มทวีคูณเป็นสิบเท่า ความโหยหาเป้าหมายเริ่มมา หน้าตาเปื้อนไปด้วยเหงื่อไหลย้อย กลิ่นกายเริ่มปรากฎ
ปุ๊ก...เฮ้อ ชายร่างใหญ่ กำยำ ชุ่มเหงื่อ
เสียงลูกห่าม วางสิ่งของที่แบกมากระแทงลงกับที่นั่งไม้ไผ่ แล้วเดินไปก่อกองไฟ เพื่อพักกินข้าว
ทันใดนั้นเอง การสนทนาเริ่มเกิดขึ้น ระหว่างลูกหาบ กับ ลูกค้ามาใช้บริการ เพื่อข้ามเวลา
เรา : ของที่แบก กี่ กิโลค่ะ
ลูกหาบ: 31 - 50 กิโล
เราถึงกับร้องเสียงหลงกันเลย เพราะเราแบกมาเพียง 8-10 กิโลเราก็แทบ ล้มทั้งยืน
เรา: ได้ค่าหาบเท่าไรหรอค่ะ ต่อเที่ยว ต่อวัน
ลูกหาบ: 30บาท อุทยาน 5 บาท 1-2 เที่ยวต่อวัน
เสียงลูกหาบแทรกขึ้นมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย " ถ้าไม่ทำ เราคงไม่มีกิน เราได้จากลูกทัวร์ ที่ใช้บริการ" ตามมาด้วยเสียง ขอบคุณครับ ที่ใช้บริการ ก่อนที่ลูกหาบจะใช้มือทั้งสองผูกเชือกกระสอบน้ำหนักเกือบห้าสิบกิโล สะพายขึ้นหลัง แล้วเดินหน้าต่อตามเส้นทางหุบเขา
เราเดินกันต่อ " เนินเสือโคร่ง" 4,400 ม.
เสียงหายใจเริ่มถี่ ขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มเจ็บ ระบม ต้องใช้มือสองข้างพยุงขาขึ้นเพื่อก้าวออกไป สมองเริ่มเบลอ ตัวหนัก การหยุดพักก็ถี่ขึ้น จนแทบทรุดตัวลงกับพื้น สายตากวาดไปรอบๆ เจอป้าตั้ง ตั้งตระหง่าน อีก3.5 กิโล หัวใจแทบอยากลงไปดิ้นทุรนทุรายห้ได้ ในใจนึกถอดใจเสียแล้วว่า ถ้าเดินกลับ จะไปหยุดจุดไหน
อ้าว อีกแค่ 1.8กิโลแม้วเอง มันคงไม่ตายหรอก มั่งมี " วรรคทอง "ให้ขบคิดตลอดทาง ปลอมใจตัวเองแล้ว ตัวเองอีก
15.20 น. ชีวิตเริ่มขาดน้ำตาล ต้องการความหวานอย่างเร่งด่วน สายตาเริ่มลางๆ เหงื่อหยดลงกับพื้น เสียงหอบมาเรื่อย คอเริ่มเเห้ง น้ำที่เตรียมหมดกลางทาง เดินไปสักพัก เราเริ่มเจอลูกห่าม ที่นั่งพักกินข้าวกันอยู่ ลานกว้าง เต็มไปด้วย ป่าไผ่ แหละกอยูคา
เราไปหยุดอยู่ตรงหน้า ใจก็กลัวที่จะเอยปากขอน้ำที่เเบกมา อีกใจก็อยากเดินต่อ คอเริ่มกระหายเต็มที่ ขาก็เริ่มไม่ไหว
เรา: อีกไกลไหมค่ะลุง
ลูกหาบ : ชี้ไปที่ภูเขา ที่มีต้นไม้เล็กๆปลายเขา
เรา: โอ้โห มันสุดๆไปเลย แค่ตรงนั้นเอง
ลูกหาบ: อีกไม่นานมากหรอก เราจะถึง เพียบเหลือเขาอีกแค่ 4 ลูก
เรา: ถึงกลับร้องเสียงหลง เรามาถึงจุดนี้ ยังต้องเดินต่ออีก 4 ลูก สายตามองไปเห็น พูดขึ้นว่า 1.8 กิโล
ลูกหาบ: ถึงกับหัวเราะ เพราะความเป็นจริงแล้ว มันมากกว่านั้น ลูกหาบชี้ยอดไปอีกครั้ง หนูดูนั้นสิ มดแดงแตกออกจากรัง มันกำลังหนีขึ้นเขา
สายตาทุกคู่ที่จุดพัก เราเห็นคนที่ขึ้นไปเป็นเพียงมด เรียกได้ว่ามันเล็กมากๆ จนแทบมองไม่เห็น
ก่อนเดินจากไป ต้องใช้คำว่า" หน้าด้าน ใจกล้าสุด" ก่อนจะเอ๋ยปาก ขอน้ำ
" เราได้น้ำมาหนึ่งขวด 1,500 จากลูกหาบคนหนึ่งเพื่อประทังชีวิต แบกสู่เพื่อนร่วมทาง ให้กระหายน้ำ"
เดินไปอีกไม่ไกลมากหนัก เราจะเจอ กับหญิงสาว ที่พยุงไม้ลงมา เราอดสงสัยไม่ได้ต้องถามต่ออีกว่า
เรา: อีกไกลไหมค่ะ
สองสาว: อีก 3 ลูก ก็ถึงแล้ว เนินมรณะ จะภูเขาชันมากแหละโหดมาก ถัดไปอีกสองลูก แหละข้างหน้า ก็จะมีที่พักก่อนถึงเนินมรณะ สู้ๆ อีกไม่นานแล้ว
.. ความหวังเริ่มมา เราก้าวเท้าต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเนินมรณะ มองขึ้นไป จะเป็นภูเขาสูงสง่า เราหยุดพัก สายตาทั้งคู่จับจ้องไปที่คนปืนเขา เมื่อใครไปถึงปลายสุด เนินมรณะ ก็จะกรี๊ดร้องดีใจ เหมือนราวกับว่าได้รางวัลใหญ่
เราพักจุดนี้เพียง15 นาที ในขณะวินาทีนั้น เราต้องทำเวลากันสุดๆ
" ใจถึงยอดเขาแล้ว ตัวยังมองอยู่ด้านล่าง "
ก้าวต่อไป เนินมรณะถือว่าชันแหละน่ากลัวมาก แค่พลาดนิดเดียว คุณอาจไปนอนอยู่ตีนเขา ต้องใจสู้สุด สมาธิมา สติ ทุกอย่างต้องมาครบ
ทางขึ้นดินลื่น หินทุกก้องมีขนาดใหญ่ ต้องใช้มือแหละขาสัมผัสกับ ตัวต้องพยุงให้อยู่ อย่าเสียสมาธิ
มองไปด้านล่าง ขาสั่ง ใจสั่น เริ่มหมดแรง นั่งพักจนกระทั่งเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เกิดขึ้น
ท้องฟ้าเริ่มจับตัวเป็นกลุ่มใหญ่ เสียงฟ้าร้องเริ่มมา มองขึ้นไปข้างบนเป้าหมายข้างบน แทบจะสิ้นหวัง มันยังอีกไม่ไกลมา แต่ด้วยใจที่สู้ แต่ขาแทบจะหลุดออกไปกลับทำให้ ฝืนตัวเองเพื่อขึ้นไปสู่ยอดเขาให้ได้ ไม่งั้นฝนมาหนัก เราอาจติดฝนอยู่กลางเนินมรณะ อาจลื่นตกลงไป
ใจฮึบสู้อีกครั้ง เพราะความกลัวตาย ในขณะที่สายฝนโปรยปราย ลงมา หมอกเริ่มปกคลุมเทือกเขาทุกลูก จิตใจเริ่มสั่นไหว ขาเริ่มสั่นทวีคูณ ค่อยๆทรุดตัวลงกับก้อนหิน ดันตัว ถีบเท้าให้ถึงก้อนหินสุดท้ายให้ได้ กว่าจะผ่านเนินมรณะมาได้ มันโหดที่สุด กับการพิชิต 4,700 ม.
เมื่อมาถึงปลายยอดเขา เนินมรณะ การเดินทางไม่ได้สิ้นสุด เหลือเขาอีกสองลูกที่จะพิชิต "ภูสอยดาว "
ฝนเริ่มเทลงมา เราเริ่มกลายร่างเป็นมนุษย์เสื้อฝน สีสันบนยอดเขา สีส้ม สีแดง ฟ้า อื่นๆ
เมื่อมองไป สุดขอบเขาอีกสองลูก เห็นสีเสื้อกันฝน เดินขึ้นกันเป็นแถวๆ ราวกับจัดระเบียบแม่สี
แกนิดเดียว ทำใจสู้เสือไว้ แต่ทำไหมขาไม่ขยับสักที เริ่มออกทีละก้าว เท้าเริ่มเจ็บ ขาเริ่มปวดไปทั่วบริเวณ หลังเริ่มปวด ความทรมารทวีคูณเป็นร้อย
ทีละก้าว ทีละก้าว ตามสุภาษิตไทยเลย " เดินทีละก้าว เดินช้า เดียวมันก็ถึง"
อื่ม...!!! ใช้ได้ผล ย้ำเท้ามาเกือบถึงแล้วภูส้อยดาว ยังจะมี เนินให้ปืนอีก นิดนึ่ง เคาเรียบว่า "เก็บทุกเม็ดเลยนะเมิง" อ่าวต่อ
ในวินาทีนั้น เมื่อปืนเขาขึ้นมาสุด ป้ายที่ตั้งสง่าอยู่ข้างบน ทำให้ถึงกับตะโกนขึ้นสุดเสียงด้วยความดีใจ แต่ทำไหมเต้นท์ไม่มี...พอกวาดสายตาไป ต้องถึงบางอ้อกันเลยทีเดียว
อ้อ...!!! นี่คือป้าย ส่วนอีกลูกคือเต้นท์ สนุกกันเลยละงานนี้ ตัวถึงกลับเซลงกับพื้น
มองไปรอบๆ เป็นป่าสนขนาดใหญ่ สมคำร่ำลือป่าฝนธรรมชาติที่สวยที่สุด ดุจดังสวรรค์กลางเขา กินพื้นที่ครอบคลุมป่าป่าสงวน อยู่ในพื้นที่ สองประเทศ สองจังหวัด สองอำเภอ สองตำบล คือ ไทย-ลาว พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ชาติตระการ- น้ำปาด รักไทย-ห้วยมุ่น สูงจากลำดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ระดับ 4 ประเทศไทย จุดเด็นการได้ชมดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า" ดอกหงอนนาค" แหละดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน จะบานในฤดูฝน ที่เต็มไปด้วยอณาบริเวณกว้าง ด้านหน้าจะมีป้าย "พิชิตภูสอยดาว" เตรียมปักหมุด
เราเดินทางต่อด้วยขาที่หมดเรียวแรง แหละ ความบ้าพลัง จนมาสิ้นสุด ที่เต้นท์ ด้วยความเหนื่อยล้า ต้องนึกถึงวรรคทอง ไม่รู้ใครพูด แต่ขอใช้คำว่า" กูมาถึงจุดนี้ได้ไง" อิอิ
..... การเดินทาง ความสนุกมันเกิดจากการเดินออกไปสู่โลกอีกใบ ที่เราเเต่งเเต้มมันขึ้น จากความสุขของเรา เอาไว้เท่านี้ก่อน ไม่อยากจะพูดยาว คนอ่านเคาจะตื่นเต้น อยากจะไปพิชิตบ้าง
จ้างบนไม่มีไฟ มีน้ำให้ใช้ลำธาร มีอุปกรณ์ให้เช่า
เตรียมให้พร้อม นะค่ะ
.ซามูไร ตัวป่วน
[bb-006]
ชื่อสินค้า:   เที่ยวภูสอยดาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่