รบกวนขอคำปรึกษาด้วยครับ เนื่องจากผมไม่มีความรู้ทางกฏหมายเลย แต่ผมได้ไปร่วมหุ้นเปิดบริษัทกับเพื่อนด้วยความไว้ใจแต่ตอนหลังทางผมไม่สะดวกที่จะร่วมงานกับเพื่อนด้วยแล้วจึงอยากจะถอนหุ้นคืนครับ ขอเล่าความเป็นมาดังนี้ครับ
จดทะเบียนบริษัทมาปีกว่าแล้วครับ ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร มีผู้ถือหุ้น 3 คน มีผม เพื่อนของผมและแฟนเพื่อนผม (แต่เพื่อนผมใช้ชื่อญาติมาเป็นผู้ถือหุ้นแทน) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ผมถือหุ้น 10% แต่เงินลงทุนเริ่มแรกของผมคือ 200,000 บาท (ซึ่งตอนแรกผมก็สงสัยว่าทุนจดทะเบียนน่าจะเป็น 2 ล้าน เพราะเพื่อนบอกว่าหุ้น 10% ต้องใช้เงิน 200,000 บาท แต่ทำไมทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท แต่ด้วยความไว้ใจและความไม่ฉลาดของผมเพื่อนบอกว่าทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทเพราะค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจะได้ไม่แพง ซึ่งผมก็เชื่อและไม่มีหนังสือรับรองอะไรว่าเงินอีกแสนนึงผมหายไปไหนใช้ทำอะไร)
ต่อมาบริษัทต้องเพิ่มทุนอีก 1 ล้านบาท ผมเลยต้องกู้เงินธนาคารมาลงเพิ่มอีก 1 แสนบาท ซึ่งผมมีแค่เอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อนเป็นหลักฐานเฉยๆครับ เวลาทำงานเพื่อนผมคอยพูดกับผมตลอดเวลาว่าเมื่อลงเงินน้อยก็ต้องลงแรงเยอะ ผมพยามทำงานให้ดีที่สุดตลอดเวลาแต่บางครั้งผมทำงานช้าไม่ทันใจเพื่อนๆก็มักจะพูดขู่กับผมเสมอว่าเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเค้า มันจะหาคนมาซื้อหุ้น 10% ในส่วนของผมหรือมันจะให้ผมออกแล้วคืนเงินเต็มจำนวนบวกกับค่าตอบแทนที่ทำงานมาตลอดปีกว่าที่ผ่านมาก็ได้(ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยได้เงินเดือนกันครับเพื่อนบอกว่าอยู่ในช่วงลงทุนต้องช่วยกันประหยัด ผมจึงทำงานเป็นพนักงานอีกบริษัทนึงด้วยครับเพื่อจะได้ไม่เอาเงินเดือนจากบริษัทตัวเอง ส่วนเพื่อนทำครีมนี้อย่างเดียวเท่านั้นครับแต่บางเดือนมันบอกว่าต้องขอเบิกเงินจากบริษัทไปบ้างเพราะมันไม่มีรายได้จากที่อื่นซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ) สุดท้ายผมอดทนรับระบบการทำงานของเพื่อนไม่ได้ที่ถ้ามันต้องการอะไรต้องทำให้ได้และต้องได้ทันทีและต้องโดนดูถูกตลอดเวลาว่าโง่บ้างไม่ฉลาดบ้าง พูดเอาดีเข้าตัวมันช่วยผมให้ผมหุ้นด้วยเพราะชีวิตผมบัดซบเลยสงสารผม(ประโยคนี้เป๊ะเลยครับ)
แต่ตอนผมตัดสินใจไปพูดกับเพื่อนว่าขอถอนหุ้นนะเพราะผมคงไม่เหมาะกับการทำธุรกิจใหญ่โต ผมขอแค่เงินที่ลงทุนไปทั้งหมด 300,000 บาทกับขอค่าดอกเบี้ยที่ต้องเสียให้ธนาคารจากการกู้เงินมาเท่านั้นเรื่องเงินค่าตอบแทนค่าเหนื่อยผมไม่เอาก็ได้ตามที่มันเคยพูดไว้ตอนที่มันพูดขู่ผมตลอดเวลา เพราะผมต้องการความสบายใจและสุขภาพของผมคืนมาเท่านั้นก็พอครับ แต่เพื่อนกลับพูดบอกว่าไม่สามารถคืนเงินให้ได้เต็มจำนวนเพราะบริษัทกำลังขาดทุนแต่มันจะช่วยคืนเงินให้เต็มจำนวน 300,000 บาทแต่จะจ่ายให้ครั้งแรกก่อน 100,000 บาทสิ้นเดือนตุลาคมนี้โดยบอกว่าใช้เงินส่วนตัวแล้วจะให้ผมเซ็นชื่อในเอกสาร บอจ.5 เมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 200,000 บาท จะต้องรอบริษัทจัดการเรื่องยื่นงบประมาณเรื่องภาษีก่อนจะจ่ายให้ได้ช้าสุดคือเดือนพฤษภาคม 2559 ครับ
คำถามคือว่า
1.จากเรื่องราวทั้งหมดผมสามารถจะเรียกร้องเงิน 300,000 บาท+ดอกเบี้ยธนาคารที่ผมกู้เงินมาลงทุนได้หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ดอกเบี้ยมาด้วยก็ไม่เป็นไร
2.ผมควรเซ็นชื่อใน บอจ 5 เลยมั้ยครับ ถ้าผมได้รับเงิน 100,000 บาทมาในเดือนตุลาคม เพราะผมรู้สึกไม่ไว้ใจและไม่เชื่อคำพูดของเพื่อนคนนี้อีกแล้วว่าจะยอมคืนเงินให้ผมอีก 200,000 บาทจริง
3.มีวิธีแนะนำให้ผมแก้ไขปัญหายังไงได้บ้างครับ ผมแค่ต้องการเงิน 300,000 บาทของผมคืนแบ่งเป็น 200,000 บาทที่เป็นเงินเก็บของผมมาทั้งชีวิตและ 100,000 บาทจะเอาไปคืนธนาคารที่กู้มาครับ
4.ถ้าในวันที่ผมไปรับเงิน 100,000 บาทคืน ผมจะทำหนังสือสัญญาว่าให้เพื่อนคืนเงินผมอีก 200,000 บาทด้วย ให้เพื่อนเซ็นจะมีประโยชน์มั้ยครับ(ถ้าเป็นไปได้รบกวนช่วยแนะนำได้มั้ยครับว่าเอาหน้งสือสัญญาได้ที่ไหนและใช้แบบไหนดีครับ)
5.ถ้าผมไม่ยอมเซ็นชื่อใน บอจ 5 จะมีผลดีผลเสียหรือจะทำให้ผมมีสิทธิ์ได้เงินคืนมากขึ้นหรือไม่ครับ
รบกวนช่วยให้คำปรึกษาผมด้วยนะครับ
จากคนซื่อหรือคนเซ่อ
ปัญหาชีวิตที่เกิดจาก"ความซื่อ หรือ โง่ กันแน่" ร่วมธุรกิจกับเพื่อนก็จงอย่าไว้ใจ จงทำอะไรให้รอบขอบอย่าติดเกรงใจ
จดทะเบียนบริษัทมาปีกว่าแล้วครับ ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร มีผู้ถือหุ้น 3 คน มีผม เพื่อนของผมและแฟนเพื่อนผม (แต่เพื่อนผมใช้ชื่อญาติมาเป็นผู้ถือหุ้นแทน) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ผมถือหุ้น 10% แต่เงินลงทุนเริ่มแรกของผมคือ 200,000 บาท (ซึ่งตอนแรกผมก็สงสัยว่าทุนจดทะเบียนน่าจะเป็น 2 ล้าน เพราะเพื่อนบอกว่าหุ้น 10% ต้องใช้เงิน 200,000 บาท แต่ทำไมทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท แต่ด้วยความไว้ใจและความไม่ฉลาดของผมเพื่อนบอกว่าทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทเพราะค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจะได้ไม่แพง ซึ่งผมก็เชื่อและไม่มีหนังสือรับรองอะไรว่าเงินอีกแสนนึงผมหายไปไหนใช้ทำอะไร)
ต่อมาบริษัทต้องเพิ่มทุนอีก 1 ล้านบาท ผมเลยต้องกู้เงินธนาคารมาลงเพิ่มอีก 1 แสนบาท ซึ่งผมมีแค่เอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อนเป็นหลักฐานเฉยๆครับ เวลาทำงานเพื่อนผมคอยพูดกับผมตลอดเวลาว่าเมื่อลงเงินน้อยก็ต้องลงแรงเยอะ ผมพยามทำงานให้ดีที่สุดตลอดเวลาแต่บางครั้งผมทำงานช้าไม่ทันใจเพื่อนๆก็มักจะพูดขู่กับผมเสมอว่าเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเค้า มันจะหาคนมาซื้อหุ้น 10% ในส่วนของผมหรือมันจะให้ผมออกแล้วคืนเงินเต็มจำนวนบวกกับค่าตอบแทนที่ทำงานมาตลอดปีกว่าที่ผ่านมาก็ได้(ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยได้เงินเดือนกันครับเพื่อนบอกว่าอยู่ในช่วงลงทุนต้องช่วยกันประหยัด ผมจึงทำงานเป็นพนักงานอีกบริษัทนึงด้วยครับเพื่อจะได้ไม่เอาเงินเดือนจากบริษัทตัวเอง ส่วนเพื่อนทำครีมนี้อย่างเดียวเท่านั้นครับแต่บางเดือนมันบอกว่าต้องขอเบิกเงินจากบริษัทไปบ้างเพราะมันไม่มีรายได้จากที่อื่นซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ) สุดท้ายผมอดทนรับระบบการทำงานของเพื่อนไม่ได้ที่ถ้ามันต้องการอะไรต้องทำให้ได้และต้องได้ทันทีและต้องโดนดูถูกตลอดเวลาว่าโง่บ้างไม่ฉลาดบ้าง พูดเอาดีเข้าตัวมันช่วยผมให้ผมหุ้นด้วยเพราะชีวิตผมบัดซบเลยสงสารผม(ประโยคนี้เป๊ะเลยครับ)
แต่ตอนผมตัดสินใจไปพูดกับเพื่อนว่าขอถอนหุ้นนะเพราะผมคงไม่เหมาะกับการทำธุรกิจใหญ่โต ผมขอแค่เงินที่ลงทุนไปทั้งหมด 300,000 บาทกับขอค่าดอกเบี้ยที่ต้องเสียให้ธนาคารจากการกู้เงินมาเท่านั้นเรื่องเงินค่าตอบแทนค่าเหนื่อยผมไม่เอาก็ได้ตามที่มันเคยพูดไว้ตอนที่มันพูดขู่ผมตลอดเวลา เพราะผมต้องการความสบายใจและสุขภาพของผมคืนมาเท่านั้นก็พอครับ แต่เพื่อนกลับพูดบอกว่าไม่สามารถคืนเงินให้ได้เต็มจำนวนเพราะบริษัทกำลังขาดทุนแต่มันจะช่วยคืนเงินให้เต็มจำนวน 300,000 บาทแต่จะจ่ายให้ครั้งแรกก่อน 100,000 บาทสิ้นเดือนตุลาคมนี้โดยบอกว่าใช้เงินส่วนตัวแล้วจะให้ผมเซ็นชื่อในเอกสาร บอจ.5 เมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 200,000 บาท จะต้องรอบริษัทจัดการเรื่องยื่นงบประมาณเรื่องภาษีก่อนจะจ่ายให้ได้ช้าสุดคือเดือนพฤษภาคม 2559 ครับ
คำถามคือว่า
1.จากเรื่องราวทั้งหมดผมสามารถจะเรียกร้องเงิน 300,000 บาท+ดอกเบี้ยธนาคารที่ผมกู้เงินมาลงทุนได้หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ดอกเบี้ยมาด้วยก็ไม่เป็นไร
2.ผมควรเซ็นชื่อใน บอจ 5 เลยมั้ยครับ ถ้าผมได้รับเงิน 100,000 บาทมาในเดือนตุลาคม เพราะผมรู้สึกไม่ไว้ใจและไม่เชื่อคำพูดของเพื่อนคนนี้อีกแล้วว่าจะยอมคืนเงินให้ผมอีก 200,000 บาทจริง
3.มีวิธีแนะนำให้ผมแก้ไขปัญหายังไงได้บ้างครับ ผมแค่ต้องการเงิน 300,000 บาทของผมคืนแบ่งเป็น 200,000 บาทที่เป็นเงินเก็บของผมมาทั้งชีวิตและ 100,000 บาทจะเอาไปคืนธนาคารที่กู้มาครับ
4.ถ้าในวันที่ผมไปรับเงิน 100,000 บาทคืน ผมจะทำหนังสือสัญญาว่าให้เพื่อนคืนเงินผมอีก 200,000 บาทด้วย ให้เพื่อนเซ็นจะมีประโยชน์มั้ยครับ(ถ้าเป็นไปได้รบกวนช่วยแนะนำได้มั้ยครับว่าเอาหน้งสือสัญญาได้ที่ไหนและใช้แบบไหนดีครับ)
5.ถ้าผมไม่ยอมเซ็นชื่อใน บอจ 5 จะมีผลดีผลเสียหรือจะทำให้ผมมีสิทธิ์ได้เงินคืนมากขึ้นหรือไม่ครับ
รบกวนช่วยให้คำปรึกษาผมด้วยนะครับ
จากคนซื่อหรือคนเซ่อ