วันนี้ขอมาตั้งกระทู้มินิรีวิว War Remnants Museum (พิพิธภัณฑ์สงคราม) ที่กรุงโฮจิมินทน์ เวียดนามครับ ความจริงผมมีโอกาสมาแวะอยู่เนืองๆแต่ไม่ได้เข้าเมืองเลย

แต่ว่าพอดีปีที่แล้วมีจังหวะประจวบเหมาะได้เข้าไปนอนเล่นในเมือง 1 คืน เลยว่างๆเดินๆหาอะไรดูไปเรื่อยๆครับ มาถึงเวียดนามก็ต้องนึกถึงสงครามเวียดนามอยู่แล้ว วันนี้เลยจะพาไปดูภาพ และสิ่งจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์สงครามกันเลยครับ
*ต้องขอเกริ่นก่อนเลยครับว่าคุณภาพรูปอาจจะไม่ใช่อย่างมือโปรเพราะแค่พกกล้อง compact ไป และฝีมือผมก็ไม่ได้ดีอะไรเลยครับ บวกทั้งสิ่งจัดแสดงหลายอย่างก็อยู่ในตู้กระจกทำให้มีแสงสะท้อนพอสมควรครับ
ก่อนอื่นต้องถ่ายป้ายหน้าทางเข้าก่อนครับ ตามธรรมเนียม
สิ่งจัดแสดงกลางแจ้งครับ
CH-47A Chinook ม้าใช้งานของกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามครับ
UH-1 Huey ม้างานหลักอีกตัวครับ สหรัฐทิ้งไว้ในเวียดนามเยอะมากๆ ปัจจุบัน ทอ.เวียดนามยังใช้อยู่เลยครับ อะไหล่เยอะมากๆซ่อมกินตัวได้อีกนาน ผมเห็นล่าสุดที่สนามบิน Thon San Nat โฮจิมินทน์ ยังเอามา Hover ขึ้นๆลงๆอยู่เลย
Cessna 185 ครับ เอามาตั้งโชว์ในบทบาทเครื่องบิน Forward Air Control (FAC) ในตำนาน (ปกติจะใช้เครื่อง O-1 Bird Dog)
F-5A ที่เรารู้จักกันดีครับ สหรัฐทิ้งเครื่องตระกูล F-5 ไว้ในเวียดนามเยอะมากๆเช่นเดียวกับ ฮ ฮิวอี้ ทอ.เวียดนามเอามายำเครื่องใช้ได้นานโขเลยครับ ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าปลดไปหมดแล้วหรือยัง
มาดูที่รถถังและยานเกราะกันบ้างครับ ตัวแรกครับ M-48 ติด ปืนขนาด 90 มม. ครับ ตัวติดปืน 90 มม. เป็นรุ่นแรกๆถึงกลางๆครับ รุ่นหลังๆแบบที่ ทบ.เราใช้ติดปืน 105 มม. แล้วครับ
คุณปู่ M-41 Walker Bulldog ติดปืน 76 มม. ครับ ใช้ดีใช้ทนขนาด ทบ.เรายังใช้อยู่เลยครับ
รสพ. M-113 ติดปืน 76 มม. ครับ รุ่นใช้ดีใช้ทนเช่นเดียวกันครับ
ปืนใหญ่ M101 ขนาด 105 มม.ครับ
เดินเลี้ยวเข้ามาทางซ้ายจะเป็นส่วนที่แสดงการคุมขังนักโทษครับ ต้อนรับกันด้วยกิโยตินเลย
กรงที่ใช้ทรมาณเชลยครับ เป็นลวดหนามขนาดประมาณคนขดตัวคุดคู้เข้าไปได้ แต่ถ้ายืดเส้นยืดสายล่ะก็โดนลวดหนามเต็มๆครับ
แผ่นเหล็กปูพื้นครับ ปกติใช้เตรียมพื้นผิวแบบรีบด่วนในกรณีที่ต้องการให้เครื่องร่อนลงแต่ผิวสนามไม่เอื้ออำนวย พรรคพวกเอามากลับด้านแล้วให้เชลยกลิ้งม้วนตัวลงไปครับ (วิธีใช้ตามรูป)
ระเบิดแบบต่างๆที่ใช้กันครับ ลูกใหญ่สุดเอาไว้เคลียร์พื้นที่ลงจอดให้ ฮ.กลางป่าคัรบ เอาทิ้งลงไปแล้วต้นไม้จะโล่งโดยไม่เป็นหลุม ฮ ลงได้เลยครับ
ย้ายเข้ามาด้านในครับ มีส่วนจัดแสดงถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะ 3 ชั้นครับ แต่พอดีผมถ่ายมาแต่พวกอาวุธต่างๆครับ
รูปนี้ 4 นัดแรกเป็นกระสุนปืนใหญ่รถถัง (ปถ.) ขนาด 90 มม.ครับ เรียงตามลำดับ 1 Canister (แบบลูกปราย ไว้ยิงทหารราบครับ)
2 +3 HE (ระเบิดแรงสูง) และ 4 HEAT (ระเบิดแรงสูงต่อต้านรถถัง) ส่วน 2 นัดทางขวาเป็น HE (ระเบิดแรงสูง) ขนาด 76 มม. ครับ
กระสุน ปถ.ขนาด 105 มม. ครับ นัดซ้ายสุดเป็น HEAT ส่วน 3 นัดถัดไปเป็นแบบ HE ครับ
ตัวนี้น่าสนใจครับ เป็นตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวรุ่นทิ้งลงมาจากเครื่องบินครับ เวลาทิ้งลงมาส่วนหัวจะฝังลงไปในดินแล้วโผล่หางที่เป็นก้านและแฉกขึ้นมาเพื่อตรวจความเคลื่อนไหวครับ ผมลองจับหางมันดูแล้วนิ่มๆเหมือนยางครับ คิดว่าเวลามันถูกทิ้งลงมาในป่า
หรือทุ่งหญ้าคงจะกลืนไปกับหมู่ต้นไม้ต้นหญ้าได้ดีครับ
ทางเวียดนาม และรัสเซียออกแคมเปญเพื่อเตือนถึงเจ้าสิ่งนี้ด้วยครับ เท่าที่ดูจากรูป (อ่านไม่ออก) ประมาณว่าถ้ามีกิจกรรมใดๆที่ตัวนี้รายงานขึ้นไปเยอะๆอาจจะทำให้ถูกทิ้งระเบิดใส่ได้ครับ ผมนึกถึงทีมเฝ้าถนนสายโฮจิมินทน์ (Ho Chi Minh Trial) เลยครับ เอาเครื่อง
พวกนี้ไปวางเพื่อตรวจนับรถบรรทุกวิ่งจากเวียดนามเหนือไปเวียดนามใต้ เจอรถจอดพักที่ไหนเรียก B-52 มาบอมบ์ทีเดียวเลย
กับระเบิด Claymore ที่เรารู้จักกันดีครับ ส่วนด้านหลังคือกับระเบิดแบบกบกระโดด ถ้าไปสะดุดเข้ามันจะลอยขึ้นมาถึงระดับศีรษะแล้วระเบิดครับ แบบว่าสะดุดคนเดียวแต่ตายครึ่งหมู่ครับ
อันนี้ระเบิดต่อต้านรถถังแบบต่างๆครับ ระเบิดพวกนี้ถ้าคนไปเหยียบจะไม่ระเบิดครับเพราะแรงกดไม่พอ แต่เวลากู้ต้องระวังครับ พรรคพวกชอบเอาระเบิดแบบสังหารบุคคลวางรองไว้ด้วย แบบว่ายกระเบิดตัวใหญ่ขึ้นมาทำให้ตัวเล็กด้านล้างกระเดื่องหลุดก็ตูมครับ
อันนี้ระเบิดลูกปรายที่แตกออกมาจากลูกปืนใหญ่หรือระเบิดที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบินครับ
ปืนขนาดต่างๆครับ มี Colt 1911 S&W Model 36 (โม่กระบอกเล็ก) และ Model 10 (โม่กระบอกใหญ่) และ M 1 Carbine ครับ
Browning BAR ครับ รุ่นสงครามโลกใช้ยันสงครามเวียดนาม
ปืนกลขนาด .30 นิ้วครับ
เครื่องยิงจรวด TOW ครับ ตัวนี้รุ่นแรกๆของแท้แน่นนอนดูจาก Serial No. ได้ครับ เบอร์สองพันกลางๆ
รายละเอียดกลองพลต่างๆของพันธมิตรที่ตั้งอยู่ในเวียดนามใต้ครับ ของไทยเรากองพลเสือดำหมายเลข 34 อยู่ใกล้ๆกับจิงโจ้ของออสเตรเลียครับ
ส่งท้ายด้วยรูป DH-4 Caribu ครับ ตัวนี้โชคร้ายมากคือกำลังแลนด์ที่สนามแต่ดันไปบินผ่านแนวยิงของปืนใหญ่เลยทำให้หางขาดและหัวปักลงมาอย่างที่เห็นครับ นักบินและลูกเรือยังอยู่ในเครื่องนะครับ RIP
พอเดินลงมาตรงทางออกจะเจอชาวเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากฝนเหลืองมานั่งขายของที่ระลึกๆเล็กๆน้อยอยู่ครับ อันนี้ก็ช่วยเหลือพวกเขากันไปครับจะซื้อของหรือช่วยเป็นเงินเล็กๆน้อยก็ตามแต่ครับ (ผมไม่กล้าถ่ายรูปมาครับ เห็นแล้วหดหู่มาก)
ขอสรุปรีวิว และจบแบบดื้อๆไว้เพียงเท่านี้ครับ ขาดตกบกพร่องอะไรก็ขออภัยด้วยครับ
พาเยี่ยมชม War Remnants Museum กรุงโฮจิมินทน์
*ต้องขอเกริ่นก่อนเลยครับว่าคุณภาพรูปอาจจะไม่ใช่อย่างมือโปรเพราะแค่พกกล้อง compact ไป และฝีมือผมก็ไม่ได้ดีอะไรเลยครับ บวกทั้งสิ่งจัดแสดงหลายอย่างก็อยู่ในตู้กระจกทำให้มีแสงสะท้อนพอสมควรครับ
ก่อนอื่นต้องถ่ายป้ายหน้าทางเข้าก่อนครับ ตามธรรมเนียม
สิ่งจัดแสดงกลางแจ้งครับ
CH-47A Chinook ม้าใช้งานของกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามครับ
UH-1 Huey ม้างานหลักอีกตัวครับ สหรัฐทิ้งไว้ในเวียดนามเยอะมากๆ ปัจจุบัน ทอ.เวียดนามยังใช้อยู่เลยครับ อะไหล่เยอะมากๆซ่อมกินตัวได้อีกนาน ผมเห็นล่าสุดที่สนามบิน Thon San Nat โฮจิมินทน์ ยังเอามา Hover ขึ้นๆลงๆอยู่เลย
Cessna 185 ครับ เอามาตั้งโชว์ในบทบาทเครื่องบิน Forward Air Control (FAC) ในตำนาน (ปกติจะใช้เครื่อง O-1 Bird Dog)
F-5A ที่เรารู้จักกันดีครับ สหรัฐทิ้งเครื่องตระกูล F-5 ไว้ในเวียดนามเยอะมากๆเช่นเดียวกับ ฮ ฮิวอี้ ทอ.เวียดนามเอามายำเครื่องใช้ได้นานโขเลยครับ ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าปลดไปหมดแล้วหรือยัง
มาดูที่รถถังและยานเกราะกันบ้างครับ ตัวแรกครับ M-48 ติด ปืนขนาด 90 มม. ครับ ตัวติดปืน 90 มม. เป็นรุ่นแรกๆถึงกลางๆครับ รุ่นหลังๆแบบที่ ทบ.เราใช้ติดปืน 105 มม. แล้วครับ
คุณปู่ M-41 Walker Bulldog ติดปืน 76 มม. ครับ ใช้ดีใช้ทนขนาด ทบ.เรายังใช้อยู่เลยครับ
รสพ. M-113 ติดปืน 76 มม. ครับ รุ่นใช้ดีใช้ทนเช่นเดียวกันครับ
ปืนใหญ่ M101 ขนาด 105 มม.ครับ
เดินเลี้ยวเข้ามาทางซ้ายจะเป็นส่วนที่แสดงการคุมขังนักโทษครับ ต้อนรับกันด้วยกิโยตินเลย
กรงที่ใช้ทรมาณเชลยครับ เป็นลวดหนามขนาดประมาณคนขดตัวคุดคู้เข้าไปได้ แต่ถ้ายืดเส้นยืดสายล่ะก็โดนลวดหนามเต็มๆครับ
แผ่นเหล็กปูพื้นครับ ปกติใช้เตรียมพื้นผิวแบบรีบด่วนในกรณีที่ต้องการให้เครื่องร่อนลงแต่ผิวสนามไม่เอื้ออำนวย พรรคพวกเอามากลับด้านแล้วให้เชลยกลิ้งม้วนตัวลงไปครับ (วิธีใช้ตามรูป)
ระเบิดแบบต่างๆที่ใช้กันครับ ลูกใหญ่สุดเอาไว้เคลียร์พื้นที่ลงจอดให้ ฮ.กลางป่าคัรบ เอาทิ้งลงไปแล้วต้นไม้จะโล่งโดยไม่เป็นหลุม ฮ ลงได้เลยครับ
ย้ายเข้ามาด้านในครับ มีส่วนจัดแสดงถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะ 3 ชั้นครับ แต่พอดีผมถ่ายมาแต่พวกอาวุธต่างๆครับ
รูปนี้ 4 นัดแรกเป็นกระสุนปืนใหญ่รถถัง (ปถ.) ขนาด 90 มม.ครับ เรียงตามลำดับ 1 Canister (แบบลูกปราย ไว้ยิงทหารราบครับ)
2 +3 HE (ระเบิดแรงสูง) และ 4 HEAT (ระเบิดแรงสูงต่อต้านรถถัง) ส่วน 2 นัดทางขวาเป็น HE (ระเบิดแรงสูง) ขนาด 76 มม. ครับ
กระสุน ปถ.ขนาด 105 มม. ครับ นัดซ้ายสุดเป็น HEAT ส่วน 3 นัดถัดไปเป็นแบบ HE ครับ
ตัวนี้น่าสนใจครับ เป็นตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวรุ่นทิ้งลงมาจากเครื่องบินครับ เวลาทิ้งลงมาส่วนหัวจะฝังลงไปในดินแล้วโผล่หางที่เป็นก้านและแฉกขึ้นมาเพื่อตรวจความเคลื่อนไหวครับ ผมลองจับหางมันดูแล้วนิ่มๆเหมือนยางครับ คิดว่าเวลามันถูกทิ้งลงมาในป่า
หรือทุ่งหญ้าคงจะกลืนไปกับหมู่ต้นไม้ต้นหญ้าได้ดีครับ
ทางเวียดนาม และรัสเซียออกแคมเปญเพื่อเตือนถึงเจ้าสิ่งนี้ด้วยครับ เท่าที่ดูจากรูป (อ่านไม่ออก) ประมาณว่าถ้ามีกิจกรรมใดๆที่ตัวนี้รายงานขึ้นไปเยอะๆอาจจะทำให้ถูกทิ้งระเบิดใส่ได้ครับ ผมนึกถึงทีมเฝ้าถนนสายโฮจิมินทน์ (Ho Chi Minh Trial) เลยครับ เอาเครื่อง
พวกนี้ไปวางเพื่อตรวจนับรถบรรทุกวิ่งจากเวียดนามเหนือไปเวียดนามใต้ เจอรถจอดพักที่ไหนเรียก B-52 มาบอมบ์ทีเดียวเลย
กับระเบิด Claymore ที่เรารู้จักกันดีครับ ส่วนด้านหลังคือกับระเบิดแบบกบกระโดด ถ้าไปสะดุดเข้ามันจะลอยขึ้นมาถึงระดับศีรษะแล้วระเบิดครับ แบบว่าสะดุดคนเดียวแต่ตายครึ่งหมู่ครับ
อันนี้ระเบิดต่อต้านรถถังแบบต่างๆครับ ระเบิดพวกนี้ถ้าคนไปเหยียบจะไม่ระเบิดครับเพราะแรงกดไม่พอ แต่เวลากู้ต้องระวังครับ พรรคพวกชอบเอาระเบิดแบบสังหารบุคคลวางรองไว้ด้วย แบบว่ายกระเบิดตัวใหญ่ขึ้นมาทำให้ตัวเล็กด้านล้างกระเดื่องหลุดก็ตูมครับ
อันนี้ระเบิดลูกปรายที่แตกออกมาจากลูกปืนใหญ่หรือระเบิดที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบินครับ
ปืนขนาดต่างๆครับ มี Colt 1911 S&W Model 36 (โม่กระบอกเล็ก) และ Model 10 (โม่กระบอกใหญ่) และ M 1 Carbine ครับ
Browning BAR ครับ รุ่นสงครามโลกใช้ยันสงครามเวียดนาม
ปืนกลขนาด .30 นิ้วครับ
เครื่องยิงจรวด TOW ครับ ตัวนี้รุ่นแรกๆของแท้แน่นนอนดูจาก Serial No. ได้ครับ เบอร์สองพันกลางๆ
รายละเอียดกลองพลต่างๆของพันธมิตรที่ตั้งอยู่ในเวียดนามใต้ครับ ของไทยเรากองพลเสือดำหมายเลข 34 อยู่ใกล้ๆกับจิงโจ้ของออสเตรเลียครับ
ส่งท้ายด้วยรูป DH-4 Caribu ครับ ตัวนี้โชคร้ายมากคือกำลังแลนด์ที่สนามแต่ดันไปบินผ่านแนวยิงของปืนใหญ่เลยทำให้หางขาดและหัวปักลงมาอย่างที่เห็นครับ นักบินและลูกเรือยังอยู่ในเครื่องนะครับ RIP
พอเดินลงมาตรงทางออกจะเจอชาวเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากฝนเหลืองมานั่งขายของที่ระลึกๆเล็กๆน้อยอยู่ครับ อันนี้ก็ช่วยเหลือพวกเขากันไปครับจะซื้อของหรือช่วยเป็นเงินเล็กๆน้อยก็ตามแต่ครับ (ผมไม่กล้าถ่ายรูปมาครับ เห็นแล้วหดหู่มาก)
ขอสรุปรีวิว และจบแบบดื้อๆไว้เพียงเท่านี้ครับ ขาดตกบกพร่องอะไรก็ขออภัยด้วยครับ