"แม่ลูกจันทร์" ขอสนองนโยบายของท่านนายกฯ

กระทู้คำถาม
https://www.thairath.co.th/content/526973
"แม่ลูกจันทร์" 23 ก.ย.2558


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศกร้าวจะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันให้สิ้นซากสูญพันธุ์
โดยเฉพาะการงาบเก๋าเจี๊ยะในการประมูลจัดซื้อจัดจ้างทางราชการ ถือเป็นมะเร็งร้ายของประเทศไทย จะต้องไม่มีอย่างเด็ดขาดในยุค คสช.!!
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลจะออกกฎหมายเพิ่มโทษ
ผู้เกี่ยวข้องการทุจริตให้หนักยิ่งกว่าเดิม
คือจะเอาผิดทั้งผู้ให้สินบน และเอาผิดผู้รับสินบน แบบทูอินวัน
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ใครที่พบว่ามีการทุจริต หรือส่อไปทางทุจริต ขอให้รีบมาบอก ตนจะสั่งสอบสวนลงโทษให้จั๋งหนับบุเรงนอง

“แม่ลูกจันทร์” จึงขอร่วมสนองนโยบายรัฐบาลทันที
ด้วยการเสนอกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดประมูลจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ลอตใหญ่ 7 ขบวน จำนวน 28 คัน ซึ่งพบว่า มีความผิดปกติ 4 ประการ ดังนี้คือ

1,การประมูลครั้งนี้มีบริษัทเอกชนแจ้งความประสงค์ขอร่วมประมูลรวมทั้งสิ้น 4 ราย
แต่มีบริษัทซางซุนจากประเทศจีนรายเดียวที่ยื่นซองเสนอราคา

2,เหตุที่บริษัทเอกชนอีก 3 ราย ไม่ร่วมประมูลเสนอราคา เพราะมีการกำหนดสเปกบางข้อที่บริษัทอื่นไม่สามารถทำได้
แม้แต่บริษัทซีเมนต์ของเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เจ้าเดิม...ยังไม่มีสิทธิ์เข้าประมูล

3,โดยหลักธรรมาภิบาล ถ้าหากมีบริษัทเอกชนยื่นประมูลเสนอราคาเพียงรายเดียว
รฟท.ควรต้องเปิดประมูลรอบใหม่ เพื่อให้มีผู้แข่งขันเสนอราคามากกว่า 1 รายขึ้นไป
แต่ รฟท.กลับเลือกวิธีเจรจาต่อรองราคากับบริษัทจีนรายเดียวแบบม้วนเดียวจบเลย

4,มีเสียงวิจารณ์กันให้แซ่ดว่าราคารถไฟฟ้าผลิตจากประเทศจีนแพง เกินควร
แพงกว่ารถไฟฟ้าเยอรมันที่มีคุณภาพแข็งแรงทนทาน ทนมือทนตีนเป็นที่ยอมรับในระดับอินเตอร์
เป็นไปได้อย่างไร รถไฟจีนแพงกว่ารถไฟเยอรมัน???

“แม่ลูกจันทร์” ไม่กล้ากล่าวหาว่า การประมูลซื้อรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน 28 คัน มีเบื้องหลังพิลึกกึกกืออย่างที่มีเสียงวิจารณ์กันอื้ออึง
แต่รู้สึกแปลกใจที่บอร์ด รฟท.รีบอนุมัติให้ดำเนินการจัดซื้อรถไฟที่ผลิตจากประเทศจีนรวดเร็วเหลือเกิน
โดยอ้างว่าสามารถเจรจาต่อรองราคาลงได้อีก 13 ล้านบาท จากจำนวนเงิน 4,400 ล้านบาท ที่ฝ่ายจีนเสนอราคา
ถ้ารวมการจัดซื้ออะไหล่สำรองอีก 400 ล้านบาท จะเป็นยอดเงิน รวมทั้งสิ้น 4,800 ล้านบาทขาดตัว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 4,800 ล้านบาท ลดได้แค่ 13 ล้านบาทเท่านั้นเอง

ป.ล. ต้นเหตุที่บริษัทเอกชนอีก 3 รายหมดสิทธิ์ยื่นซองประมูล เพราะมีการกำหนดสเปกให้พื้นที่ 1 ตารางเมตร ต้องรองรับผู้โดยสารได้ 10 คน
เป็นไปได้ยังไงพื้นที่แค่ 1 ตารางเมตร สามารถรับผู้โดยสาร (ผู้ใหญ่) ได้ 10 คน??
เบียดกันยังไงก็ไม่พอ นอกจากต้องขี่คอกันเอง.

"แม่ลูกจันทร์"

......................................................................................................................

จากบทความของ"แม่ลูกจันทร์"
รฟท.กำหนดสเปก พื้นที่ 1 ตรม.ต้องรองรับผู้โดยสารได้ 10 คน......ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ทำให้ 3 บริษัทใหญ่เข้าร่วมประมูลไม่ได้ จีนจึงได้ไป


ในเมื่อใคร ๆ ก็ไม่สามารถทำได้ตามสเปกดังว่าแม้แต่จีนเองก็เถอะ......แล้วทำไมจีนถึงเสนอราคาประมูลได้
3 บริษัทที่ไม่สามารถเสนอราคาเพราะติดสเปกข้อนี้.....เขาก็คงมีสิทธิ์ฟ้อง รฟท.ได้

ดังนั้นด้วยเจตนารมณ์ที่แข็งกร้าวของท่านนายกฯ ในการที่จะปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจัง
จึงคิดว่าเรื่องนี้ท่านนายกฯ คงจะสนใจไม่ใช่น้อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณSongvit เว๊ปประชาทอล์ค


การรถไฟฯ พบหลักฐานตั้งราคาจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ใหม่สูงถึง 4,400 ล้านบาท
ทั้ง ๆ ที่ผู้ผลิตรายนี้ขายให้มาเลเซียเพียง 1,508 ล้านบาท

วันที่ 23 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ใหม่จำนวน 7 ขบวน จากแหล่งข่าวระดับสูงจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ตามที่ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีคำสั่งให้ฝ่ายบริหารรถไฟ ชี้แจงกรณีจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ใหม่จำนวน 7 ขบวน หลังมีกระแสข่าวว่า เป็นการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใส เนื่องจากคาดว่ามีการล็อกสเปคให้เอกชนบางรายนั้น เบื้องต้น การรถไฟฯ ได้เร่งตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาอีกครั้ง อาทิ  

          - ประเด็นที่ถูกครหาว่า การไปกำหนดให้มีที่ยืนได้ 10 คนต่อตารางเมตร ทั้ง ๆ ที่ตามมาตรฐานทั่วไปจะอยู่ที่ 6-8 คนต่อตารางเมตร ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการกำหนดคุณสมบัติเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายเท่านั้น

          - ประเด็นที่มีการกำหนดให้มีระบบขับเคลื่อน 8 ชุดต่อขบวน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ ยังคงสามารถวิ่งให้บริการได้ตามปกติ แม้ระบบขับเคลื่อนหลักจะชำรุดหรือเสีย ซึ่งในเรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด เพราะระบบรถไฟฟ้านั้นปกติจะมีเฉพาะส่วนหัว-ท้ายเท่านั้น และในทุกวันจะมีการตรวจสอบระบบเป็นรายวัน อีกทั้ง การรถไฟฯ ยังมีการสำรองอะไหล่อีกกว่า 400 ล้านบาท รวมอยู่ในโครงการอยู่แล้ว

          นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากการรถไฟฯ ยังระบุถึงประเด็นเรื่องราคาในการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ ว่า จากการสืบค้นเรื่องราคาตามช่องทางต่าง ๆ อาทิ การสืบค้นเว็บไซต์ของ CNR ประเทศจีน พบว่า ราคาที่บริษัท ฉางชุน-ซีเอ็นอาร์ ได้เซ็นสัญญาซื้อขายรถไฟฟ้ากัวลาลัมเปอร์แอร์พอร์ตลิ้งก์ 6 ขบวน 24 คัน มูลค่า 267 ล้านหยวน หรือประมาณ 1,508 ล้านบาท คิดเป็นราคาต่อหน่วยคือ 62.5 ล้านบาท ขณะที่การจัดซื้อของการรถไฟฯ จำนวน 7 ขบวน 28 คัน ตั้งวงเงินไว้สูงถึง 122 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4,400 ล้านบาท ราคาต่อหน่วยคือ 157 ล้านบาท ทำให้ราคาที่บริษัท ฉางชุน-ซีเอ็นอาร์ ขายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ให้การรถไฟฯ สูงกว่าที่ขายให้มาเลเซียถึงกว่า 2,000 ล้านบาท

          และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับราคาขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) จัดซื้อจากแหล่งผลิตเดียวกัน คือ บริษัท ฉางชุน-ซีเอ็นอาร์ พบว่า ราคารถไฟฟ้าที่บีทีเอสจัดซื้อ 12 ขบวน จำนวน 48 ตู้ ซึ่งมีการส่งมอบเมื่อปี 2556 มีราคาเพียง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,100 ล้านบาท หรือตกตู้ละ 43 ล้านบาทเท่านั้น จนโครงการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ใหม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในโลกออนไลน์

.............................................................................
สรุป บริษัทเดียวกัน (บริษัท ฉางชุน-ซีเอ็นอาร์)
ขายให้มาเลเซีย  ขบวนละ 62.5 ล้านบาท
ขายให้ BTS ไทย ในปี 56  ขบวนละ 43 ล้านบาท
ขายให้การรถไฟ ขบวนละ 157 ล้านบาท

รบกวนท่านนายกฯ ช่วยตรวจสอบด่วน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่