The Moon 6



The Moon 6

เช้าวันใหม่ อลิซตื่นขึ้นมาที่ห้องของตัวเอง เธอถอนหายใจยาวที่สุดเท่าที่เคยทำมา  และนึกทบทวนเหตุกาณ์เมื่อคืนที่ห้องบอส

อลิสเล่าทุกอย่างให้คริสฟังแต่คริสไม่เชื่อและยังปักใจว่าเธอลักลอบเข้ามาเองซะงั้น เขาพยายามคาดคั้นความจริงจากเธอ

“คุณเข้ามาห้องผมได้ยังไง “คริสถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และดูเบื่อหน่าย อาจเป็นเพราะว่าเขาถามคำถามนี้หลายครั้งมากแล้วแต่คำตอบที่ได้คือ

“ ฉัน ไม่ทราบค่ะ ฉันซื้อสร้อยเส้นหนึ่งมาจากคุณยาย แล้วฉันก็หมุน  “ อลิซยังไม่ทันอธิบายต่อ ได้เพียงอ้าปากค้าง คริสก็ตัดบทซะก่อน

“พอแล้ว ผมไม่อยากฟังแล้ว วันนี้พอแค่นี้ เธอกลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะโทรไปเคลียร์กับไบรอันเอง “  คริสหงุดหงิด และเข้าใจว่าไบรอันส่งอลิซมาตาม

ตัวเขากลับประเทศไทย นี่เขาก็หยุดงานมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่เขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าหญิงสาวเข้ามายังไง

“ บอสคะ ฉันไม่มีที่ไป “ อลิซทำเสียงเศร้า กระพริบตาปริบๆ หวังให้เจ้านายเห็นใจ ยิ่งอธิบายไปก็ไม่เชื่อ ขอแค่นอนหลับซักตื่น

เธอก็น่าจะกลับไปที่ห้องของเธอได้ หญิงสาวสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับมาให้เรื่องมันวุ่นวายแบบนี้อีกแน่นอน

“’งั้นคืนนี้ก็นอนที่นี่ ไปแล้วกัน ผมจะไปนอนอีกห้อง  “ คริส ขยี้ผมหงุดหงิด เดินออกไป

อลิซ นั่งตัวแข็งอยู่ตั้งนาน พอชายหนุ่มเดินออกไป เธอถึงกับทิ้งตัวลงนอนเลยโครมใหญ่เลยทีเดียว แต่ยังไม่ทันได้ผ่อนคลาย ชายหนุ่มก็เปิดประตูพรวด

เข้ามาอีกรอบ อลิซกระเด้งอัตโนมัติมาอยู่ในท่าเดิมในตอนแรก

“ ทำไมไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา ล่ะคะ “ อลิซพูดลอยหน้าลอยตา แต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่ม

“ ผมจะมาเอาเสื้อผ้า “คริสเดินเข้ามาหยิบเสื้อและกางเกงลำลอง ในตู้ พลันหันไปมองหญิงสาวนั่งตัวแข็งมองเขาอยู่

“ เธอไม่อาบน้ำรึไง “ คริสถามพลางหยิบนู่นนี่

“ไม่ค่ะ ฉัน   ไม่อาบ หนาวจะตาย “ อลิซส่ายหน้า โบกมือ ยิ้มเหย ๆ

คริสเดินเข้ามาใกล้อลิซที่นั่งอยู่ ใกล้แค่ชิดขอบเตียง หญิงสาวแอนหลังหนีเพื่อทิ้งระยะห่างให้ไกลเขามากขึ้น

“ อะ ชุดถ้าอยากจะอาบน้ำ “ คริสยื่นชุดนอนของเขาให้อลิส และเดินออกไป

อลิซ รับชุดมา ฝันค้างว่าชายหนุ่มจะยื่นหน้ามา กู้ดไนท์คิส เธอกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้ตื่นจากภวังค์ของตัวเอง อลิซนึกในใจ ว่าคริสก็เป็นผู้ชายที่อ่อนโยนอยู่เหมือนกัน แต่อาจเพราะหน้าที่ เขาเลยไม่มีมุมแบบนี้กับเธอเอาเสียเลย

อลิซ นอนนึกถึงเพลง จูบ ในละครหนึ่งในทรวง ♫คิดถึงรอยจูบ ฮู้ว ฮู ฮู้ว จูบ ไม่รู้เธอจะเป็นแบบฉันไหมบอกที♬ มโนว่าตัวเองเป็นปุ้ม นางเอกของเรื่อง

ที่ถูกพระเอกช่วยผายปอดตอนจมน้ำ

“บ้า คิดอะไรเนี่ย เค้าก็แค่หอม “ อลิซเขินกลิ้งไปมา ไม่นานเธอก็ผลอยหลับไป

*************************************************************************************    
คริสตื่นแต่เช้า เค้ากำลังจะเปิดประตูห้องที่อลิซนอนอยู่ นึกขึ้นได้ว่าควรเคาะประตูเดี๋ยวยายเลขาตัวแสบจะว่าเขาได้อีก

คริสเคาะประตูอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับ เค้าจึงตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไป แต่เค้ากลับเห็นเพียงห้องที่ว่างเปล่ามีเพียงร่องรอยของคนนอนเท่านั้น

คริสแปลกใจ เดินเข้าไปดูที่ห้องน้ำก็ไม่พบ เขารีบเดินออกไปดูที่ห้องรับแขก ก็ไม่พบหญิงสาว คริสหาอลิซจนทั่วจนมั่นใจว่าไม่อยู่แล้วจริงๆ เขาจึงกลับมาที่ห้องนอนอีกครั้ง

คริสนั่งลงบนที่นอนครุ่นคิด เรื่องราวและความเป็นไปได้ที่หญิงสาวจะเข้ามาและออกไปโดยที่ไม่มีใครรู้เลย มันเป็นไปได้อย่างไรกัน พลันมือก็ไปปัดสิ่งของ

บางอย่าง คริสหันมาดูและพบว่าเป็นสร้อยเส้นหนึ่ง

“ นี่มันสร้อยของใครกัน “ คริสนึกเรื่องราวที่อลิซพยายามจะอธิบายและพูดถึงสร้อยเส้นหนึ่ง

“ สร้อยพระจันทร์ “ คริสพึมพำไม่อยากเชื่อความคิดในแวบแรกของตัวเอง

คริสรีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรเข้าบริษัท เพื่อพิสูจน์บางอย่างทันที

“ดิเซ็มเบอร์ คอมพานี สวัสดีค่ะ”  โอเปอร์เรเตอร์เสียงหวานรับสาย

“ผมคริส ขอสายไบรอัน เอ่อ ไม่ใช่ครับขอสายอลิซ “ ชายหนุ่มลังเล แต่ตัดสินใจได้

“ขอโทษค่ะคุณคริส วันนี้อลิซเข้ามา แล้วก็ออกไปพบลูกค้ากับคุณไบรอันแล้วค่ะ” โอเปอร์เรเตอร์ พยายามอธิบาย

“เอ่อ ครับ ขอบคุณครับ “ คริสวางสายทั้งที่ยังสับสน การเดินทางระหว่างอังกฤษกรุงเทพใช้เวลา 14 ชั่วโมงขึ้นไป เป็นไปไม่ได้แน่นอน

อลิซที่อยู่กรุงเทพและคนที่มาอยู่ในห้องเขาจะเป็นคนคนเดียวกัน

***************************************************************************************
อลิซนั่งรอไบรอันอยู่ในรถ ตอนนี้คริสไม่อยู่ไบรอันเจ้านายใหญ่จึงต้องออกตลาดด้วยตัวเอง ซึ่งอลิซเองก็เริ่มคุ้นเคยกับไบรอันมากขึ้น

ปกติแล้วไบรอันไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิศ แต่เมื่อคริสไม่อยู่ เขาเลยต้องเข้ามาดูแลเอง  แต่แปลกตรงที่เขาไม่บ่นหรือโทรหาคริสเลย อลิซก็ยังแอบสงสัยอยู่

ไม่น้อย อลิซสะดุ้งเมื่อเสียงประตูรถเปิดออก

“อลิซ กาแฟครับ “ ไบรอันยื่นกาแฟให้อลิซและส่งให้พนักงานขับรถคนละ 1 แก้ว

“ขอบคุณค่ะ แล้วของคุณล่ะคะ “ อลิซสงสัย

“ผมเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อกี้เจอลูกค้าที่อังกฤษเลยคุยกันนานไปหน่อย “ ไบรอันดูเป็นกันเองจนอลิซยิ้มแก้มแทบปริ พลันคิดถึงคริสขึ้นมาตะหงิด ๆ  

“เอ่อ เห็นพนักงานโทรมาว่า คริสโทรหาคุณด้วย “ ไบรอัน บอกอลิซด้วยสีหน้างงๆ

“ หรอค่ะ เอ่อ สงสัยจะสั่งงานมั้งคะ “ อลิซหน้าเหวอ

“เขาบอกมั้ยว่าจะบินมาวันไหน “ ไบรอันถามเหมือนอยากรู้ ข้อมูลเพิ่มเติม

“ไม่ได้บอกอะไรเลยค่ะ แล้วปกติคุณคริสก็ไม่โทรหาอลิซนะคะ ใช้เมลสั่งงานค่ะ “ อลิซกระวนกระวายกลัวความจะแตกเรื่องที่เธอไปมาระหว่างแมนเชส

เตอร์กับกรุงเทพเป็นว่าเล่น แต่เธอตั้งใจแล้วจริง ๆ ว่าจะไม่ไปอีก แต่ก็อีกแหล่ะ น่าเสียดายที่ไม่ได้ชมบรรยากาศด้านนอกเลย หลายวันมานี้เธอได้แค่อยู่ใน

ห้องของคริสเท่านั้นเอง

อลิซกลับมาถึงบ้าน เธอรีบวิ่งขึ้นบันไดไปด้วยความรีบร้อน เผลอเหยียบพลาดจึงไถลลงมา2 ขั้นบันได

“โอ๊ย “ หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บปวด จนผู้เป็นแม่วิ่งเข้ามาดู

“อลิซเป็นอะไรลูก เห็นไหม แม่บอกแล้วให้ค่อย ๆ เดิน “ ผู้เป็นแม่พยุงลูกสาวขึ้นห้องอย่างทุลักทุเล

“อาบน้ำเสร็จแล้วก็ลงไปกินข้าวด้วยหล่ะ “ ผู้เป็นแม่บอกก่อนเกินออกไป

“ ขอบคุณค่ะ แม่ “ หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้

เธอมองหาสร้อยพระจันทร์เป็นสิ่งแรก แต่หายังไงก็หาไม่เจอ ภาพล่าสุดที่เธอจำได้คือเธอถือสร้อยพระจันทร์และเผลอหลับไป  

หญิงสาวหาจนถอดใจล้มเลิก และคิดไปเองว่า สร้อยเส้นนั้นอาจหายไปเองเสียแล้ว

*************************************************************************************

ที่ห้องของคริส คริสทดลองหมุนนาฬิกา ตามคำพูดของอลิซ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คริสเฝ้ามองสร้อยพระจันทร์ ที่ถูกวางอยู่บนหัวเตียง แต่ก็ไม่มีปรากฎ

การณ์อะไรเกิดขึ้น นานจนคริสง่วงและหลับไป

“ สร้อยเส้นนั้นมาได้อย่างไรเจ้าคะ “ ดาวศุกร์สงสัยหันไปถามพระจันทร์

“ อ้าว ก็อยู่ด้วยกัน เธอมาถามฉันได้อย่างไรหล่ะ “ พระจันทร์ตอบยียวน

“ แล้วแม่หนูอลิซจะมาหา เจ้าชายได้หรือเจ้าคะ “ ดาวพฤหัส ยิ่งสงสัยมากขึ้น

“ มันไม่สำคัญหรอกจ้ะ ว่าใครจะเป็นคนไขลาน แต่สำคัญที่ว่าใครเป็นเจ้าของแรงปรารถณาต่างหาก “ คุณยายพระจันทร์หัวเราะเบาๆ

ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาว อลิซรู้สึกได้ว่าหนาวเหลือเกิน เธอเอามือควานหาผ้าห่ม แต่ติดอะไรสักอย่างดึงเท่าไหร่ก็ไม่มา

อลิซได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบา ใกล้ ๆ เธอหลับตาปี๋ นี่ฉันอยู่เรื่องอะไรหล่ะทีนี้  อลิซนึกหลอนตัวเองในใจ พลันก็มีมือมาสวมกอดเธอและดึงเธอเข้าไปใกล้เสียงลมหายใจนั้น

อลิซอยากกรี๊ดมาก แต่ไม่กล้า เธอค่อยๆ หรี่ตามองภาพที่อยู่ข้างหน้า และเอามือปิดปากตัวเองให้สนิท

“ บอส “ อลิซพูดแทบจะกระซิบ อลิซค่อยๆ ขยับจะหันหลังให้คริส

“ จะหนีไปไหน ยายตัวแสบ “ คริสพูดและดึงร่างหญิงสาวกลับมา

“ ผมจับได้แล้วว่าคุณมาที่นี่ได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อ “ คริสสบตาหญิงสาวอย่างพิจารณา

“ก็ฉันพยายามบอกคุณไปแล้ว” อลิซพูดเบาๆ เหมือนกลัวจะมีใครได้ยิน  

“ ก็ใครจะไปเชื่อ “ คริสหรี่เสียงเบาตามอลิซ

“ ปล่อยฉันได้แล้วค่ะ  “ อลิซพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม

“ ไม่ปล่อย  ผมจะต้องพิสูจน์เรื่องนี้   “ ชายหนุ่มพูดพลางกระซับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“คุณก็เห็นแล้วว่าฉันมายังไง แล้วเดี๋ยวฉันก็จะกลับไป ฉันสัญญา ว่าจะหาเหตุผลว่าทำไมฉันยังมาที่นี่ได้ ทั้งที่ฉันไม่มีสร้อยเส้นนั้น ...  “ อลิซหยุดคิดตรงประโยคนี้

“ หรือคุณมีสร้อยเส้นนั้น ? “ อลิซ จ้องหน้าคริสเขม็งเพื่อค้นหาคำตอบ  

คริสดื้อแกล้งหลับตาอยู่อย่างนั้น หญิงสาวพยายามดิ้นจนอ่อนแรง

"นี่ฉันต้องนอนในอ้อมกอดของเขาจนกว่าจะหลับหรือยังไงเนี่ย" อลิซถามตัวเองในใจ แต่ก็ปฎิเสธซะที่ไหนกัน ก็ใจมันเรียกร้องขนาดนี้  

ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว หนุ่มสาวก็อาจมีหวั่นไหว ชายหนุ่มนอนกอดหญิงสาวอยู่อย่างนั้น แต่ในใจ เขาคิดอย่างไร ต้องการจะพิสูจน์อะไรอย่างนั้นหรือ

นี่สิคือสิ่งที่เขาเองก็แอบสงสัย

*********************************************************************************
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่