สวัสดีค่ะ.. วันนี้มีเรื่องหนักใจและเป็นปัญหามากในตอนนี้ จนกลายเป็นปัญหาครอบครัวไปซะแล้ว ครอบครัวเราอยู่กันแค่3คน มีแม่,พี่สาวและตัวเรา จนวันนึงเราคบหากับผช.คนนึงจนตอนนี้อยู่กินด้วยกันแล้วค่ะ สามีย้ายมาอยู่ในบ้านเราแล้ว เรื่องที่เป็นปัญหาตอนนี้คือ.. ก่อนหน้านี้ประมาณ2เดือนที่แล้วของในบ้านหายเยอะมากค่ะ เงินของพี่สาวและแม่หายบ่อยและเยอะมาก พอต่อมากลายเป็นสร้องทองหาย รวมมูลค่าเกือบครึ่งแสนเห็นจะได้ ต่อมาเป็นเหรียญพระมีทั้งพระเก่าพระใหม่ ทั้งที่อยู่ในกระเป๋าพกในห้องแม่ที่อยู่ชั้นล่างและในห้องพระที่อยู่บนบ้านรวมๆเกือบ30เหรียญ ที่บ้านจะไปวัดกันบ่อยและจะได้เหรียญกลับมาบูชาแทบทุกครั้ง จนกลายเป็นของสะสมของบ้านไปแล้ว แต่มันหายไปหมด.. ประเด็นมันอยู่ที่สามีเราเป็นคนขโมยไป ตัวเราเองไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเฉยๆค่ะ สามีทำงานโรงงานเงินเดือนต่อวิคไม่ค่อยพอใช้เท่าไหร่ บางทีก็โทรไปยืมแม่เขาบ่อยๆ ของที่หาตัวเราคิดว่าสามีเราเป็นคนขโมยไปแต่ก็ยังปลอบตัวเองอยู่ว่าเขาไม่ได้ขโมย เราก็แอบไปคุยกันที่อื่นเพราะตัวเราไม่ชอบพูดเรื่องอะไรให้คนที่บ้านได้ยินค่ะ ก็แอบไปคุยกันถามเขาว่าได้เอาไปรึเปล่า เอาเรื่องเกี่ยวกับบาปบุญเล่าให้เขาฟัง เหมือนเราสอนเด็กอ่ะค่ะว่าบาปบุญมันเป็นยังไง เขาบอกว่าไม่ได้เอาไป ไม่รู้เรื่องเลย เราก็พยายามเชื่อ ตอนนั้นสมองแยกออกเป็น2ความคิด กลุ้มมาก เพราะที่บ้านของไม่เคยหายแบบนี้เลย จนมาวันนี้..ป้าเราเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟัง บอกว่าก่อนที่พระจะหายมีคนข้างบ้านเห็นสามีเราแอบงัดหน้าต่างห้องแม่ แร้วเขาก็มาเห็นพอดีก็เลยถามว่าทำอะไร สามีเราบอกว่าจะเข้าไปหาของให้เรา เรื่องนี้เรายังไม่รู้ เพิ่งรู้ตอนหัวค่ำวันนี้เพราะป้าแอบเล่าให้ฟัง ก็คิดดูสิคะว่าครั้งแรกหายเป็นเพราะสามีเรา แล้วครั้งที่2จะหาเพราะใคร? เรารู้วันนี้รู้สึกว่าตัวเองโง่เหลือเกิน เลือกคนผิดเหลือเกิน สงสารแม่ก็สงสาร รักสามีก็รัก แม่พูดให้แค่ป้าฟังแต่แกไม่พูดกะเรา ป้าบอกว่าเหตุผลเดียวที่แม่เงียบปากคือ"เพราะเรารักเขามาก" แม่เราตอนนี้ไม่ค่อยคุยกับสามี วันนี้เราไม่กล้ามองหน้าใครในบ้านเลย รู้สึกว่าตัวเองทำผิดมากๆ เราทำอะไรไม่ได้เลยตอนนี้ อยากคุยกับเขาให้รู้เรื่องแต่เราเป็นคนอารมณ์ร้อน กลัวมันจะกลายเป็นไม่ใช่การแก้ปัญหา..
สามีเป็นคนชอบขโมยของในบ้านไปขาย