เขียนถึงลิเวอร์พูลทีมรัก 2 ฤดูกาลครั้ง
เคยเขียนไปทีนึงเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ตอนที่เข้าใกล้โอกาสแชมป์มากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา (คล้ายๆ New Horizon เข้าใกล้ดาวพลูโตยังไงยังงั้น)
ก่อนจะพูดถึงฟอร์มฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูลในความเห็นของผม (ส่วนตัวนะครับ ออกตัวไว้ก่อน)
ขอพูดถึงฤดูกาลที่แล้วก่อนนิดนึง
จริงๆ แล้วที่ผ่านมาในฤดูกาลก่อน ผมไม่เคยด่าว่ารอดเจอร์เลยนะครับ ยังรู้สึกว่าทีมน่าจะยังให้โอกาสแกต่อไป
เพราะผมมองว่าฤดูกาลก่อนในความแย่ก็ยังมีความดี ในความห่วยก็ยังมีเหตุผลอยู่
คือแน่นอนฟอร์มของทีมในสมัยที่ซัวเรสจับคู่แดนหน้ากับริดจ์ และคูตินโญ่กับสเตอริ่งฉายแววโดดเด่นขึ้นมานี่ มันสุดยอดระดับฉลอง ภักดีวิจิตรมาก
เกมส์บุกของเรานี่ ยิงภูเขาเผากระท่อม ชนะโดยละม่อม ย่างไก่กินกันอเร็ดอร่อยมาก
เป็นฟอร์มลิเวอร์พูลที่ดูแล้ว คือมันฟิน มันแฮปปี้ มันรู้ว่าทุกเกมส์มีโอกาสชนะ ประตูไหลมาเทมา และเล่นเอนเตอร์เทนอีกต่างหาก
ผมยกให้เหนือกว่าฤดูกาลรองแชมป์ของเบนิเตสอีกด้วยซ้ำ
แต่พอซัวเรสจากไป สเตอริดจ์เจ็บแทบทั้งฤดูกาล และกองหน้าที่เรามีสามคนคือ บาโล แลมเบิร์ต บอรินี่ ไม่มีใครพึ่งพาได้เลย
บวกกับฟอร์มที่หลุดแล้วหลุดอีกของ ลอฟเรน และมินโญ่เลต์ช่วงนึงอีก
ทำให้ฤดูกาลก่อน เรามีปัญหาคือเสียประตูง่าย และยิงประตูไม่ได้
ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่าลิเวอร์พูลฤดูก่อนสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง แล้วดึงความเชื่อมั่นกลับมาไม่ค่อยได้
ฟุตบอลเวลาเล่นเนี่ย มันมีเรื่องความมั่นใจของนักเตะ ที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ ว่านักเตะบางคนสูญเสียความมั่นใจแล้วฟอร์มแย่ลง
ถ้าใครเล่น CM FM มาก่อนจะรู้เลยว่าค่าพวกนี้มีผลต่อฟอร์มการเล่นมาก และลิเวอร์พูลเป็นอย่างนี้เมื่อฤดูกาลก่อน
คือหลายนัดเล่นดีครองเกมส์ได้ แต่ยิงไม่ได้ แล้วดันเสียประตูเพราะแผงหลังหลุด เป็นบ่อย ก็เริ่มเฟล มันมีผลต่อฟอร์ม
และถ้าสังเกตอีกจะเห็นว่า สเตอร์ลิ่งและคูตินโญ่ บ้าเลี้ยงบ้ายิงมากๆ นั่นมันส่วนนึงเพราะขาดความมั่นใจในเพื่อนร่วมทีม และคิดเอาเองว่าจะแบกทีมเอาไว้ด้วยตัวเอง สิ่งนี้มันมีในตัวนักเตะแทบทุกคน ลองนึกภาพดูเวลาเราเล่นบอล แล้วทีมเราเล่นไม่ดี จ่ายบอลไปเสีย ยิงไม่ได้ เราจะเริ่มเก็บลูกไว้กับตัว เลี้ยงๆ และยิงเอง หวังจะกอบกู้ทีม
ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำไม่ได้ มันเป็นกับดักทางจิตใจอย่างนึง
ฤดูกาลก่อนพอไม่มีซัวเรส สเตอริดจ์ กองหน้ายิงทิ้งยิงขว้าง ไม่วิ่งทำทาง รอจังหวะบอล วิ่งผิดช่อง ยิงไม่คม เลยกลับกลายเป็นคูตินโญ่กับสเตอร์ริ่งพยายามจะยิงเองตลอด จังหวะการเล่นบอลมันเลยเสียไปเลย
จากหน้ามือเป็นหลังเท้า
จากทีมที่ต่อบอลทะลุช่อง สร้างโอกาสการยิง หลุดเข้าเขตโทษ จ่ายหลุดกับดักล้ำหน้า จ่ายตัดแบ็ค เคาะบอลในเขตโทษและจบที่การยิงแบบฤดูกาลก่อน
ไม่เหลืออะไรเลย
เกมส์รุกเน่า เกมส์รับกาก
ส่วนนึงต้องโทษการซื้อตัว ที่ลิเวอร์พูลที่เคยมีระบบการเล่นแบบนึงอยู่ พอซัวเรสออกไปดันซื้อตัวใหม่มาไม่ได้ทดแทนตัวเดิม
ไม่ต้องเอาความเก่งก็ได้ เอาสไตล์ที่ทดแทนกันได้ แต่ลิเวอร์พูลดันซื้อตัวใหม่ที่สไตล์การเล่นคนละแบบ มันเลยไม่เข้าระบบเดิม และส่งผลเป็นปัญหาการเล่นต่อมา
แต่ที่ผมยังไว้ใจและให้โอกาสรอดเจอร์อยู่ก็เพราะ
การกล้าตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเล่นมาเป็น 3-5-1-1 หรือจะ 5-4-1 อะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่แม่นระบบว่ามันเรียกอะไร
รู้แต่ว่า เปลี่ยนมาเล่น CB 3 ตัว มีวิงแบ็กและหน้าตัวเดียวเป็นสเตอร์ริ่ง
เป็นแผนที่พาลิเวอร์พูลเอาตัวรอดจนไปเล่นยูโรป้าลีคได้ ทั้งที่ถ้าดูสถิติแล้วการยิงประตูลิเวอร์พูลห่วยมาก แต่มาได้ถึงอันดับ 7
ผมโอเค
ฤดูกาลที่แล้วผมจึงยังคิดให้โอกาสรอดเจอร์ เพราะยังคิดว่าฤดูกาลก่อนนั้นการสร้างระบบการเล่นบอลบนพื้น จ่ายตามช่อง การเล่นเกมส์บุกเต็มสูบทุกเกมส์ ทั้งในบ้านนอกบ้าน และการให้โอกาสเด็กได้มีที่แจ้งเกิดของรอดเจอร์นั้นไม่น่าจะใช่ฟลุ๊ค
ฤดูกาลที่แล้วมันห่วยแบบยังพอมีเหตุผล
พอมาฤดูกาลนี้ ก็ตั้งความหวังใหม่กัน
แน่นอนว่าโดนแซวแน่ๆ ว่าเดอะค๊อปไซเคิล มีความหวังใหม่ทุกต้นฤดูกาล
ก็จะให้ทำยังไงหล่ะครับ เราแฟนทีมนี้ เรารักทีมนี้ เราเชียร์ทีมนี้ จะให้ไปมีความหวังกับเรจจิน่า กาลาตาซาราย หรือหนองคายยูไนเต็ดหรือยังไง
ก็ต้องหวังกับทีมนี้นี่แหละ เพราะมันทีมเรา
เพียงแค่กรอบของความหวังมันขีดไว้แค่ว่า Top 4 ก็พอใจแล้ว
ว่าจะไม่พูดฤดูกาลก่อนเยอะ แต่มันมีเหตุที่ควรอ้างอิง
มาว่ากันที่ฤดูกาลนี้
เสริมตัวดีมั้ย ส่วนตัวผม กลางๆ ค่อนไปทางพอใจ เทียบกับปีก่อน
เบนเทเก้ ตอนแรกผมหวั่นๆ ว่าซ้ำรอยปีก่อนคือกลัวจะเสริมกองหน้ามาไม่เข้าระบบทีม
อิงค์ ยังไม่ค่อยแน่ใจ
โอริกี้ ไม่มั่นใจ คืออยู่กับลีลล์ก็ไม่เปรี้ยงปร้าง มาพรีเมียร์จะไหวมั้ย
ฟิร์เมียโน่ ดูฮือฮา แต่ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และตัวนี้ตอนแรกผมเข้าใจผิดนึกว่าเป็นปีก มีความเร็ว แต่ดูมาซักพักแล้วไม่ใช่และ (เข้าใจผิดเอง)
ไคลน์ อันนี้โอเค
มิลเนอร์ ไม่หวือหวาแต่ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์
โกเมซ ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นตัวจริงหลายนัด
โดยภาพรวมการเสริมตัว ดูมีความหวังอยู่บ้าง
การออกไปของสเตอร์ลิ่งไม่ได้น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ผมคิดว่าเราตัวทดแทนได้ และที่หวังไว้มากคือกองหน้าจะฝากความหวังได้มากกว่าฤดูกาลก่อน และลิเวอร์พูลจะกลับมาเล่นบอลเป็นทรงเหมือนก่อนและจบสกอร์ได้
แต่
แต่
แต่
ตั้งแต่ต้นฤดูกาลมาจนเมื่อวานซืน ผมบอกได้เลยว่าทุกนัดที่ดูลิเวอร์พูลเซ็งเป็ดมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว)
ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ขี้กลัว เล่นบอลปลอดภัยไว้ก่อน เซฟตี้เฟิร์ส คือนี่เล่นบอลหรือโรงงานมาตรฐาน iso
จะเล่นปลอดภัยไปไหน
เคาะบอลไปมา ไปถึงแดนหน้าเคาะขวางไปมา เคาะคืนหลัง
อ๊ะ มินโญ่เล่ต์เหงา เคาะคืนให้ซักหน่อย เซ็ทเกมส์ใหม่
ขวางบอลไปมา อ้าวตาย...่า เขาตัดบอลได้สวน เคาะบอลกัน 4-5 ที โดนยิงเลย
อึดอัดมากบอกเลย นี่คือสิ่งที่เห็นในลิเวอร์พูล 7 นัดที่ผ่านมา
เล่นบอลช้า ไม่กล้าจ่ายบอล
ไม่มีตัวเข้าไปเล่นบอลในเขตโทษ และพาบอลเข้าเขตโทษด้วย เอ้า
เล่นกันอยู่หน้าเขตโทษนั่นแหละ
บ่อยครั้งที่พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษแล้วไม่ได้ยิง จนกองหน้าจะยิงกันไม่เป็นอยู่แล้ว
และเกมส์โต้กลับที่เป็นจุดเด่นของเราเมื่อสองฤดูกาลก่อน หรือแม้แต่ฤดูกาลที่แล้วก็ยังมีเกมส์โต้กลับเร็วๆ อยู่บ่อย เพียงแต่ยิงกันห่วยเอง
ฤดูกาลนี้คืออัลไล
เล่นเพื่อสุขภาพชัดๆ ค่อยเคาะบอล เอาชัวร์ไว้ก่อน
ถ้าช่องไม่ใหญ่เท่าประตูห้าง ไม่กล้าจ่าย เล่นแต่ทางกว้างๆ ตลอด
โดยเฉพาะนัดที่เล่นกับบอร์นมัธและเวสต์แฮม ผมนั่งดูด้วยความหงุดหงิดจนอยากกัดเล็บเท้าตัวเองเลย
ทีมเราเคาะบอลมาอย่างเชื่องช้า มาถึงหน้าเขตโทษจ่ายบอลขวางไปขวางมา
ผมคิดในใจว่า เดี๋ยวคอยดู มันไม่เอาบอลเข้าเขตโทษแน่ๆ และคอยดูต่อนะ ถ้าคู่แข่งตัดบอลได้นะ แปปเดี๋ยวบอลถึงเขตโทษและได้ยิง และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอคู่แข่งตัดบอลได้ แปปเดี๋ยวเขาพาบอลไปถึงในเขตโทษแล้ว และได้ยิงจริงๆ ด้วย
และเป็นงี้ทั้งเกมส์
บอกตามตรง 7 นัด ผมหมดหวังกับรอดเจอร์แล้ว
ผมเริ่มรู้สึกว่ารอดเจอร์กลายเป็นร่างทรงของเบนิเตสในฤดูกาลสุดท้าย
คือยึดมั่นถือมั่นในบางอย่างมากเกินไป
แฟนบอล คอมเม้นเตเตอร์ทั้งโลกเห็นตรงกันหมดว่า เล่นหน้าตัวเดียว มันไม่รอด
เบนเทเก้ไม่ใช่ซัวเรส
จริงๆ ผมว่าเบนเทเก้สอบผ่านนะ ตอนแรกกลัวจะมาแนวแคโรลล์ แต่ปรากฏว่าแม้ไม่เร็วปรี๊ดปร๊าด แต่ก็ไม่ช้า เคลื่อนไหวตัว ทำทาง บังบอล และที่สำคัญเก็บบอลได้ตลอด
และจ่ายให้เพื่อนทำเกมส์ต่อได้ จังหวะยิงก็ไม่ขี้เหร่
แต่มันไม่มีโอกาสยิงเท่านั้นเอง
เพราะอะไร ใครๆ ก็รู้ เพราะไม่มีคนคอยประสานงานในแดนหน้า
ตรงเนี้ย ผมด่ารอดเจอร์เต็มๆ
ฤดูกาลก่อนไม่ด่าเพราะมีเหตุผลอื่น แต่อันนี้นี่ความผิดพี่เต็มๆ ที่ดึงดันเล่นแผนนี้
4 นัดแรก 7 คะแนน ยิงได้แค่สองประตูแต่ได้ 7 คะแนน นี่ภาพลวงตาชัดๆ
ส่วนตัวผมยังไม่รู้สึกว่าฤดูกาลนี้ลอฟเรนเล่นแย่ เพราะยังไม่ถึงขนาดพลาดหนักๆ แบบต้นฤดูกาลก่อน และที่เล่นดีก็มีให้เห็น เลยเฉยๆ จะลอฟเรนหรือซาโก้ก็ได้
ผมจึงมองว่าปัญหาของลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้อยู่ที่ผจก.ทีมเท่านั้น ที่เลือกแผนการเล่นที่ไม่เหมาะสมกับตัวนักเตะ และไม่กล้าเล่นเกมส์รุกมากพอ
คือถ้าพี่จะเสริมตัวมาแบบนี้ พี่ไม่เล่นเกมส์รุก ชีวิตพี่ลักลั่นย้อนแย้งแล้วหล่ะ
จะหมดความอดทนอยู่แล้ว
จนมานัดเมื่อวานซืน
จริงอยู่ว่าผลเสมอ และหลายคนบอกเป็นไงหล่ะเสมอในบ้านกับนอร์ริช รอดเจอร์ทำได้
แต่ผมขอมองต่างด้วยใจเป็นธรรม
เมื่อวานซืนเป็นฟอร์มที่น่าพึงพอใจ
เหตุผลคือ
รอดเจอร์เปลี่ยนกลับมาเล่นหลัง 3 วิงแบ็ค และหน้าคู่
ซึ่งผมรู้สึกว่านี่คือระบบที่เหมาะกับลิเวอร์พูลที่สุดในตอนนี้ ขณะที่ขุมกำลังเรามีแบบนี้
ชาน เล่นกลางไม่ดีครับ
ใครจะชื่นชมยังไงกับชานก็แล้วแต่ แต่ผมดูแล้วหลายนัด ชานเล่นไม่ดี
ชานเก่ง ครองบอลดี ตัวใหญ่ไปกับบอลได้ แต่ชานติดมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ออกบอลช้า ทำเกมส์เสียจังหวะหลายครั้ง และชอบเล่นเกมส์บุก ไม่ค่อยกลับมาไล่บอล
ถ้ายังเปลี่ยนจุดนี้ไม่ได้ ผมว่าชาน เล่นระบบหลังสาม และขึ้นไปเติมนานๆ ครั้งเหมาะกว่า
ซาโก้ลงมาแทนลอฟเรน ทำได้ดีกว่าในลูกโหม่ง จังหวะดักบอล อ่านทาง ทำได้ดี แต่ซาโก้มีปัญหาเรื่องการออกบอลช้า ถ้าเจอหน้าคล่อง ๆ ไล่บีบบอล บอกตรงๆ ผมเสียวทุกครั้งที่แกเก็บบอลไว้กับตัว จังหวะแบบนี้ตัดสินเกมส์ได้เลย ถ้ากองหน้าระดับโลก
โมเรโน่คือแมนออฟเดอะแมทช์สำหรับผมในนัดนี้
ลิเวอร์พูลมีแบ็คที่เหมาะกับตำแหน่งวิงแบ็คมาก คือโมเรโน่ และไคลน์ก็พอเล่นได้ (แม้ว่าถ้าเป็นวิงแบ็ค ผมคิดว่าจอห์นสันดูดีกว่านิดๆ แต่ถ้าแบ็ค ไคลน์ดีกว่าเยอะ)
เมื่อวานซืน โมเรโน่ทำเกมส์บุกดีที่สุดในทีม มีจังหวะเปิดบอลเข้ากลางหลายที และน่าจะเป็นประตูได้ด้วย ถ้ายิงกันคม
สเตอร์ริดจ์ลงมาเล่นหน้าคู่กับเบนเทเก้ ทำให้มิติในเกมส์รุกดูดีขึ้นจมหู มีโอกาส มีความหลากหลาย มีจังหวะให้พลิกบอล ต่อเกมส์เข้าเขตโทษ
เมื่อวานซืนลิเวอร์พูลเล่นนัดเดียว พาบอลเข้าในเขตโทษได้มากกว่าทุกนัดในฤดูกาลนี้รวมกันอีกมั้ง
ถ้าจะสังเกตจะเห็นว่าในเขตโทษเบนเทเก้ สเตอร์ริดจ์พากันสลับกันเข้าไปรับบอล วิ่งตัดทำทาง
นัดนี้ผมจึงได้เห็นเกมส์รุกลิเวอร์พูลเหมือนเมื่อสองฤดูกาลก่อนกลับมาจริงๆ จังๆ
มีลูกจ่ายตัดหลังแบ็คและวิ่งขึ้นไปรับ เคาะบอลในเขตโทษ
และที่สำคัญคือการลำเลียงบอลขึ้นไปบุกรวดเร็ว จ่ายบอลทะลุช่องในที่แคบๆ
จากที่ผ่านมาไม่กล้าจ่ายบอลไปหน้า แต่นัดนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามีตัวรอบอลอยู่ แม้มีช่องแคบก็กล้าจ่าย กล้ากระแทกบอลขึ้นหน้า
ผลทำให้มีโอกาสในการยิง ในการจบสกอร์มากขึ้น
แดนนี่ อิงคส์ที่ลงมา ก็ป่วนทำให้เกมส์รุกในเขตโทษน่ากลัวมาขึ้น เพราะมีตัววิ่ง ตัวสอดตลอดเวลา
จนอดคิดไม่ได้ว่า มันไปไหนมาเมื่อ 5-6 นัดที่ผ่านมา อันนี้อีกเหตุผลที่รอดเจอร์ต้องโดนด่า
นัดนี้ผมพูดเต็มปากเต็มคำว่า “เล่นดี” ใครจะบ่นผลเสมอก็เข้าใจ แต่ผมว่าเล่นดี แต่ยิงไม่ได้เองหลายจังหวะ
จะโทษคูตินโญ่ก็โทษไม่ได้เต็มปาก เพราะเขาก็เล่นแบบนี้ปกติ คือถ้ามีจังหวะยิงได้เขาก็ยิง
ส่วนมิลเนอร์นัดนี้มีบางจังหวะที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ และน่าจะจบสกอร์ได้ด้วย แต่โดยรวมผมไม่คิดว่าเขาแย่ แต่อย่าเอาไปเทียบกับเจอร์ราร์ดเลยครับ ขอร้อง
ลิเวอร์พูลไม่มีปีกที่ไว้ใจได้เหลือเท่าไหร่นัก มีไอบ์คนเดียว
ถ้ารอดเจอร์จะดันให้เล่น 4-4-2 แล้วจับฟีร์เมียโน่หรือคูตินโญ่ไปยืนปีก ผมเสียดายของ
ดังนั้นคหสต. ณ เวลานี้ ลิเวอร์พูลเหมาะจะกลับไป เล่นหลังสาม วิงแบ็ค และหน้าคู่แบบนัดที่ผ่านมามากที่สุด เพราะเรามีวิงแบ็คที่เติมเกมส์บุกได้ดีอยู่ในทีม และนาทีนี้กองหน้าสามคน เบนเทเก้ อิงคส์ สเตอริดจ์ ผมว่าไม่ขี้เหร่
โอริกี้อาจจะต้องรอพิสูจน์ตัวในบอลถ้วยไปก่อน
และขอให้เล่นแบบนัดที่แล้ว คือกล้าจ่าย กล้าจบ ไม่ใช่เล่นกันแบบโรงงานมาตรฐาน iso แบบที่ผ่านมา
ถ้าทำได้แบบนี้ยังมีหวังว่าจะกลับมาได้
และผมจะยอมเชียร์รอดเจอร์ต่อไป
แต่ไม่ว่ายังไง จะแพ้จะชนะ
ลิเวอร์พูลก็จะถูกเชียร์จากผมต่อไปแน่นอน
#SaveLiverpool
ปล. คนที่ผมว่าฟอร์มดีที่สุดในบรรดาทั้งหมด โดยเฉพาะที่เสริมทัพเข้ามาและไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไหร่นัก คือ ไคลน์ครับ
ลิเวอร์พูลที่อดทนดูมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล จนถึงเมื่อวานซืนนี้
เคยเขียนไปทีนึงเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ตอนที่เข้าใกล้โอกาสแชมป์มากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา (คล้ายๆ New Horizon เข้าใกล้ดาวพลูโตยังไงยังงั้น)
ก่อนจะพูดถึงฟอร์มฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูลในความเห็นของผม (ส่วนตัวนะครับ ออกตัวไว้ก่อน)
ขอพูดถึงฤดูกาลที่แล้วก่อนนิดนึง
จริงๆ แล้วที่ผ่านมาในฤดูกาลก่อน ผมไม่เคยด่าว่ารอดเจอร์เลยนะครับ ยังรู้สึกว่าทีมน่าจะยังให้โอกาสแกต่อไป
เพราะผมมองว่าฤดูกาลก่อนในความแย่ก็ยังมีความดี ในความห่วยก็ยังมีเหตุผลอยู่
คือแน่นอนฟอร์มของทีมในสมัยที่ซัวเรสจับคู่แดนหน้ากับริดจ์ และคูตินโญ่กับสเตอริ่งฉายแววโดดเด่นขึ้นมานี่ มันสุดยอดระดับฉลอง ภักดีวิจิตรมาก
เกมส์บุกของเรานี่ ยิงภูเขาเผากระท่อม ชนะโดยละม่อม ย่างไก่กินกันอเร็ดอร่อยมาก
เป็นฟอร์มลิเวอร์พูลที่ดูแล้ว คือมันฟิน มันแฮปปี้ มันรู้ว่าทุกเกมส์มีโอกาสชนะ ประตูไหลมาเทมา และเล่นเอนเตอร์เทนอีกต่างหาก
ผมยกให้เหนือกว่าฤดูกาลรองแชมป์ของเบนิเตสอีกด้วยซ้ำ
แต่พอซัวเรสจากไป สเตอริดจ์เจ็บแทบทั้งฤดูกาล และกองหน้าที่เรามีสามคนคือ บาโล แลมเบิร์ต บอรินี่ ไม่มีใครพึ่งพาได้เลย
บวกกับฟอร์มที่หลุดแล้วหลุดอีกของ ลอฟเรน และมินโญ่เลต์ช่วงนึงอีก
ทำให้ฤดูกาลก่อน เรามีปัญหาคือเสียประตูง่าย และยิงประตูไม่ได้
ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่าลิเวอร์พูลฤดูก่อนสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง แล้วดึงความเชื่อมั่นกลับมาไม่ค่อยได้
ฟุตบอลเวลาเล่นเนี่ย มันมีเรื่องความมั่นใจของนักเตะ ที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ ว่านักเตะบางคนสูญเสียความมั่นใจแล้วฟอร์มแย่ลง
ถ้าใครเล่น CM FM มาก่อนจะรู้เลยว่าค่าพวกนี้มีผลต่อฟอร์มการเล่นมาก และลิเวอร์พูลเป็นอย่างนี้เมื่อฤดูกาลก่อน
คือหลายนัดเล่นดีครองเกมส์ได้ แต่ยิงไม่ได้ แล้วดันเสียประตูเพราะแผงหลังหลุด เป็นบ่อย ก็เริ่มเฟล มันมีผลต่อฟอร์ม
และถ้าสังเกตอีกจะเห็นว่า สเตอร์ลิ่งและคูตินโญ่ บ้าเลี้ยงบ้ายิงมากๆ นั่นมันส่วนนึงเพราะขาดความมั่นใจในเพื่อนร่วมทีม และคิดเอาเองว่าจะแบกทีมเอาไว้ด้วยตัวเอง สิ่งนี้มันมีในตัวนักเตะแทบทุกคน ลองนึกภาพดูเวลาเราเล่นบอล แล้วทีมเราเล่นไม่ดี จ่ายบอลไปเสีย ยิงไม่ได้ เราจะเริ่มเก็บลูกไว้กับตัว เลี้ยงๆ และยิงเอง หวังจะกอบกู้ทีม
ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำไม่ได้ มันเป็นกับดักทางจิตใจอย่างนึง
ฤดูกาลก่อนพอไม่มีซัวเรส สเตอริดจ์ กองหน้ายิงทิ้งยิงขว้าง ไม่วิ่งทำทาง รอจังหวะบอล วิ่งผิดช่อง ยิงไม่คม เลยกลับกลายเป็นคูตินโญ่กับสเตอร์ริ่งพยายามจะยิงเองตลอด จังหวะการเล่นบอลมันเลยเสียไปเลย
จากหน้ามือเป็นหลังเท้า
จากทีมที่ต่อบอลทะลุช่อง สร้างโอกาสการยิง หลุดเข้าเขตโทษ จ่ายหลุดกับดักล้ำหน้า จ่ายตัดแบ็ค เคาะบอลในเขตโทษและจบที่การยิงแบบฤดูกาลก่อน
ไม่เหลืออะไรเลย
เกมส์รุกเน่า เกมส์รับกาก
ส่วนนึงต้องโทษการซื้อตัว ที่ลิเวอร์พูลที่เคยมีระบบการเล่นแบบนึงอยู่ พอซัวเรสออกไปดันซื้อตัวใหม่มาไม่ได้ทดแทนตัวเดิม
ไม่ต้องเอาความเก่งก็ได้ เอาสไตล์ที่ทดแทนกันได้ แต่ลิเวอร์พูลดันซื้อตัวใหม่ที่สไตล์การเล่นคนละแบบ มันเลยไม่เข้าระบบเดิม และส่งผลเป็นปัญหาการเล่นต่อมา
แต่ที่ผมยังไว้ใจและให้โอกาสรอดเจอร์อยู่ก็เพราะ
การกล้าตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเล่นมาเป็น 3-5-1-1 หรือจะ 5-4-1 อะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่แม่นระบบว่ามันเรียกอะไร
รู้แต่ว่า เปลี่ยนมาเล่น CB 3 ตัว มีวิงแบ็กและหน้าตัวเดียวเป็นสเตอร์ริ่ง
เป็นแผนที่พาลิเวอร์พูลเอาตัวรอดจนไปเล่นยูโรป้าลีคได้ ทั้งที่ถ้าดูสถิติแล้วการยิงประตูลิเวอร์พูลห่วยมาก แต่มาได้ถึงอันดับ 7
ผมโอเค
ฤดูกาลที่แล้วผมจึงยังคิดให้โอกาสรอดเจอร์ เพราะยังคิดว่าฤดูกาลก่อนนั้นการสร้างระบบการเล่นบอลบนพื้น จ่ายตามช่อง การเล่นเกมส์บุกเต็มสูบทุกเกมส์ ทั้งในบ้านนอกบ้าน และการให้โอกาสเด็กได้มีที่แจ้งเกิดของรอดเจอร์นั้นไม่น่าจะใช่ฟลุ๊ค
ฤดูกาลที่แล้วมันห่วยแบบยังพอมีเหตุผล
พอมาฤดูกาลนี้ ก็ตั้งความหวังใหม่กัน
แน่นอนว่าโดนแซวแน่ๆ ว่าเดอะค๊อปไซเคิล มีความหวังใหม่ทุกต้นฤดูกาล
ก็จะให้ทำยังไงหล่ะครับ เราแฟนทีมนี้ เรารักทีมนี้ เราเชียร์ทีมนี้ จะให้ไปมีความหวังกับเรจจิน่า กาลาตาซาราย หรือหนองคายยูไนเต็ดหรือยังไง
ก็ต้องหวังกับทีมนี้นี่แหละ เพราะมันทีมเรา
เพียงแค่กรอบของความหวังมันขีดไว้แค่ว่า Top 4 ก็พอใจแล้ว
ว่าจะไม่พูดฤดูกาลก่อนเยอะ แต่มันมีเหตุที่ควรอ้างอิง
มาว่ากันที่ฤดูกาลนี้
เสริมตัวดีมั้ย ส่วนตัวผม กลางๆ ค่อนไปทางพอใจ เทียบกับปีก่อน
เบนเทเก้ ตอนแรกผมหวั่นๆ ว่าซ้ำรอยปีก่อนคือกลัวจะเสริมกองหน้ามาไม่เข้าระบบทีม
อิงค์ ยังไม่ค่อยแน่ใจ
โอริกี้ ไม่มั่นใจ คืออยู่กับลีลล์ก็ไม่เปรี้ยงปร้าง มาพรีเมียร์จะไหวมั้ย
ฟิร์เมียโน่ ดูฮือฮา แต่ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และตัวนี้ตอนแรกผมเข้าใจผิดนึกว่าเป็นปีก มีความเร็ว แต่ดูมาซักพักแล้วไม่ใช่และ (เข้าใจผิดเอง)
ไคลน์ อันนี้โอเค
มิลเนอร์ ไม่หวือหวาแต่ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์
โกเมซ ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นตัวจริงหลายนัด
โดยภาพรวมการเสริมตัว ดูมีความหวังอยู่บ้าง
การออกไปของสเตอร์ลิ่งไม่ได้น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ผมคิดว่าเราตัวทดแทนได้ และที่หวังไว้มากคือกองหน้าจะฝากความหวังได้มากกว่าฤดูกาลก่อน และลิเวอร์พูลจะกลับมาเล่นบอลเป็นทรงเหมือนก่อนและจบสกอร์ได้
แต่
แต่
แต่
ตั้งแต่ต้นฤดูกาลมาจนเมื่อวานซืน ผมบอกได้เลยว่าทุกนัดที่ดูลิเวอร์พูลเซ็งเป็ดมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว)
ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ขี้กลัว เล่นบอลปลอดภัยไว้ก่อน เซฟตี้เฟิร์ส คือนี่เล่นบอลหรือโรงงานมาตรฐาน iso
จะเล่นปลอดภัยไปไหน
เคาะบอลไปมา ไปถึงแดนหน้าเคาะขวางไปมา เคาะคืนหลัง
อ๊ะ มินโญ่เล่ต์เหงา เคาะคืนให้ซักหน่อย เซ็ทเกมส์ใหม่
ขวางบอลไปมา อ้าวตาย...่า เขาตัดบอลได้สวน เคาะบอลกัน 4-5 ที โดนยิงเลย
อึดอัดมากบอกเลย นี่คือสิ่งที่เห็นในลิเวอร์พูล 7 นัดที่ผ่านมา
เล่นบอลช้า ไม่กล้าจ่ายบอล
ไม่มีตัวเข้าไปเล่นบอลในเขตโทษ และพาบอลเข้าเขตโทษด้วย เอ้า
เล่นกันอยู่หน้าเขตโทษนั่นแหละ
บ่อยครั้งที่พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษแล้วไม่ได้ยิง จนกองหน้าจะยิงกันไม่เป็นอยู่แล้ว
และเกมส์โต้กลับที่เป็นจุดเด่นของเราเมื่อสองฤดูกาลก่อน หรือแม้แต่ฤดูกาลที่แล้วก็ยังมีเกมส์โต้กลับเร็วๆ อยู่บ่อย เพียงแต่ยิงกันห่วยเอง
ฤดูกาลนี้คืออัลไล
เล่นเพื่อสุขภาพชัดๆ ค่อยเคาะบอล เอาชัวร์ไว้ก่อน
ถ้าช่องไม่ใหญ่เท่าประตูห้าง ไม่กล้าจ่าย เล่นแต่ทางกว้างๆ ตลอด
โดยเฉพาะนัดที่เล่นกับบอร์นมัธและเวสต์แฮม ผมนั่งดูด้วยความหงุดหงิดจนอยากกัดเล็บเท้าตัวเองเลย
ทีมเราเคาะบอลมาอย่างเชื่องช้า มาถึงหน้าเขตโทษจ่ายบอลขวางไปขวางมา
ผมคิดในใจว่า เดี๋ยวคอยดู มันไม่เอาบอลเข้าเขตโทษแน่ๆ และคอยดูต่อนะ ถ้าคู่แข่งตัดบอลได้นะ แปปเดี๋ยวบอลถึงเขตโทษและได้ยิง และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอคู่แข่งตัดบอลได้ แปปเดี๋ยวเขาพาบอลไปถึงในเขตโทษแล้ว และได้ยิงจริงๆ ด้วย
และเป็นงี้ทั้งเกมส์
บอกตามตรง 7 นัด ผมหมดหวังกับรอดเจอร์แล้ว
ผมเริ่มรู้สึกว่ารอดเจอร์กลายเป็นร่างทรงของเบนิเตสในฤดูกาลสุดท้าย
คือยึดมั่นถือมั่นในบางอย่างมากเกินไป
แฟนบอล คอมเม้นเตเตอร์ทั้งโลกเห็นตรงกันหมดว่า เล่นหน้าตัวเดียว มันไม่รอด
เบนเทเก้ไม่ใช่ซัวเรส
จริงๆ ผมว่าเบนเทเก้สอบผ่านนะ ตอนแรกกลัวจะมาแนวแคโรลล์ แต่ปรากฏว่าแม้ไม่เร็วปรี๊ดปร๊าด แต่ก็ไม่ช้า เคลื่อนไหวตัว ทำทาง บังบอล และที่สำคัญเก็บบอลได้ตลอด
และจ่ายให้เพื่อนทำเกมส์ต่อได้ จังหวะยิงก็ไม่ขี้เหร่
แต่มันไม่มีโอกาสยิงเท่านั้นเอง
เพราะอะไร ใครๆ ก็รู้ เพราะไม่มีคนคอยประสานงานในแดนหน้า
ตรงเนี้ย ผมด่ารอดเจอร์เต็มๆ
ฤดูกาลก่อนไม่ด่าเพราะมีเหตุผลอื่น แต่อันนี้นี่ความผิดพี่เต็มๆ ที่ดึงดันเล่นแผนนี้
4 นัดแรก 7 คะแนน ยิงได้แค่สองประตูแต่ได้ 7 คะแนน นี่ภาพลวงตาชัดๆ
ส่วนตัวผมยังไม่รู้สึกว่าฤดูกาลนี้ลอฟเรนเล่นแย่ เพราะยังไม่ถึงขนาดพลาดหนักๆ แบบต้นฤดูกาลก่อน และที่เล่นดีก็มีให้เห็น เลยเฉยๆ จะลอฟเรนหรือซาโก้ก็ได้
ผมจึงมองว่าปัญหาของลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้อยู่ที่ผจก.ทีมเท่านั้น ที่เลือกแผนการเล่นที่ไม่เหมาะสมกับตัวนักเตะ และไม่กล้าเล่นเกมส์รุกมากพอ
คือถ้าพี่จะเสริมตัวมาแบบนี้ พี่ไม่เล่นเกมส์รุก ชีวิตพี่ลักลั่นย้อนแย้งแล้วหล่ะ
จะหมดความอดทนอยู่แล้ว
จนมานัดเมื่อวานซืน
จริงอยู่ว่าผลเสมอ และหลายคนบอกเป็นไงหล่ะเสมอในบ้านกับนอร์ริช รอดเจอร์ทำได้
แต่ผมขอมองต่างด้วยใจเป็นธรรม
เมื่อวานซืนเป็นฟอร์มที่น่าพึงพอใจ
เหตุผลคือ
รอดเจอร์เปลี่ยนกลับมาเล่นหลัง 3 วิงแบ็ค และหน้าคู่
ซึ่งผมรู้สึกว่านี่คือระบบที่เหมาะกับลิเวอร์พูลที่สุดในตอนนี้ ขณะที่ขุมกำลังเรามีแบบนี้
ชาน เล่นกลางไม่ดีครับ
ใครจะชื่นชมยังไงกับชานก็แล้วแต่ แต่ผมดูแล้วหลายนัด ชานเล่นไม่ดี
ชานเก่ง ครองบอลดี ตัวใหญ่ไปกับบอลได้ แต่ชานติดมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ออกบอลช้า ทำเกมส์เสียจังหวะหลายครั้ง และชอบเล่นเกมส์บุก ไม่ค่อยกลับมาไล่บอล
ถ้ายังเปลี่ยนจุดนี้ไม่ได้ ผมว่าชาน เล่นระบบหลังสาม และขึ้นไปเติมนานๆ ครั้งเหมาะกว่า
ซาโก้ลงมาแทนลอฟเรน ทำได้ดีกว่าในลูกโหม่ง จังหวะดักบอล อ่านทาง ทำได้ดี แต่ซาโก้มีปัญหาเรื่องการออกบอลช้า ถ้าเจอหน้าคล่อง ๆ ไล่บีบบอล บอกตรงๆ ผมเสียวทุกครั้งที่แกเก็บบอลไว้กับตัว จังหวะแบบนี้ตัดสินเกมส์ได้เลย ถ้ากองหน้าระดับโลก
โมเรโน่คือแมนออฟเดอะแมทช์สำหรับผมในนัดนี้
ลิเวอร์พูลมีแบ็คที่เหมาะกับตำแหน่งวิงแบ็คมาก คือโมเรโน่ และไคลน์ก็พอเล่นได้ (แม้ว่าถ้าเป็นวิงแบ็ค ผมคิดว่าจอห์นสันดูดีกว่านิดๆ แต่ถ้าแบ็ค ไคลน์ดีกว่าเยอะ)
เมื่อวานซืน โมเรโน่ทำเกมส์บุกดีที่สุดในทีม มีจังหวะเปิดบอลเข้ากลางหลายที และน่าจะเป็นประตูได้ด้วย ถ้ายิงกันคม
สเตอร์ริดจ์ลงมาเล่นหน้าคู่กับเบนเทเก้ ทำให้มิติในเกมส์รุกดูดีขึ้นจมหู มีโอกาส มีความหลากหลาย มีจังหวะให้พลิกบอล ต่อเกมส์เข้าเขตโทษ
เมื่อวานซืนลิเวอร์พูลเล่นนัดเดียว พาบอลเข้าในเขตโทษได้มากกว่าทุกนัดในฤดูกาลนี้รวมกันอีกมั้ง
ถ้าจะสังเกตจะเห็นว่าในเขตโทษเบนเทเก้ สเตอร์ริดจ์พากันสลับกันเข้าไปรับบอล วิ่งตัดทำทาง
นัดนี้ผมจึงได้เห็นเกมส์รุกลิเวอร์พูลเหมือนเมื่อสองฤดูกาลก่อนกลับมาจริงๆ จังๆ
มีลูกจ่ายตัดหลังแบ็คและวิ่งขึ้นไปรับ เคาะบอลในเขตโทษ
และที่สำคัญคือการลำเลียงบอลขึ้นไปบุกรวดเร็ว จ่ายบอลทะลุช่องในที่แคบๆ
จากที่ผ่านมาไม่กล้าจ่ายบอลไปหน้า แต่นัดนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามีตัวรอบอลอยู่ แม้มีช่องแคบก็กล้าจ่าย กล้ากระแทกบอลขึ้นหน้า
ผลทำให้มีโอกาสในการยิง ในการจบสกอร์มากขึ้น
แดนนี่ อิงคส์ที่ลงมา ก็ป่วนทำให้เกมส์รุกในเขตโทษน่ากลัวมาขึ้น เพราะมีตัววิ่ง ตัวสอดตลอดเวลา
จนอดคิดไม่ได้ว่า มันไปไหนมาเมื่อ 5-6 นัดที่ผ่านมา อันนี้อีกเหตุผลที่รอดเจอร์ต้องโดนด่า
นัดนี้ผมพูดเต็มปากเต็มคำว่า “เล่นดี” ใครจะบ่นผลเสมอก็เข้าใจ แต่ผมว่าเล่นดี แต่ยิงไม่ได้เองหลายจังหวะ
จะโทษคูตินโญ่ก็โทษไม่ได้เต็มปาก เพราะเขาก็เล่นแบบนี้ปกติ คือถ้ามีจังหวะยิงได้เขาก็ยิง
ส่วนมิลเนอร์นัดนี้มีบางจังหวะที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ และน่าจะจบสกอร์ได้ด้วย แต่โดยรวมผมไม่คิดว่าเขาแย่ แต่อย่าเอาไปเทียบกับเจอร์ราร์ดเลยครับ ขอร้อง
ลิเวอร์พูลไม่มีปีกที่ไว้ใจได้เหลือเท่าไหร่นัก มีไอบ์คนเดียว
ถ้ารอดเจอร์จะดันให้เล่น 4-4-2 แล้วจับฟีร์เมียโน่หรือคูตินโญ่ไปยืนปีก ผมเสียดายของ
ดังนั้นคหสต. ณ เวลานี้ ลิเวอร์พูลเหมาะจะกลับไป เล่นหลังสาม วิงแบ็ค และหน้าคู่แบบนัดที่ผ่านมามากที่สุด เพราะเรามีวิงแบ็คที่เติมเกมส์บุกได้ดีอยู่ในทีม และนาทีนี้กองหน้าสามคน เบนเทเก้ อิงคส์ สเตอริดจ์ ผมว่าไม่ขี้เหร่
โอริกี้อาจจะต้องรอพิสูจน์ตัวในบอลถ้วยไปก่อน
และขอให้เล่นแบบนัดที่แล้ว คือกล้าจ่าย กล้าจบ ไม่ใช่เล่นกันแบบโรงงานมาตรฐาน iso แบบที่ผ่านมา
ถ้าทำได้แบบนี้ยังมีหวังว่าจะกลับมาได้
และผมจะยอมเชียร์รอดเจอร์ต่อไป
แต่ไม่ว่ายังไง จะแพ้จะชนะ
ลิเวอร์พูลก็จะถูกเชียร์จากผมต่อไปแน่นอน
#SaveLiverpool
ปล. คนที่ผมว่าฟอร์มดีที่สุดในบรรดาทั้งหมด โดยเฉพาะที่เสริมทัพเข้ามาและไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไหร่นัก คือ ไคลน์ครับ