ประสบการณ์มาอยู่อเมริกาคนเดียว อายุ 19

ก่อนอื่นเราต้องขอโทษ ถ้าเกิดเราพิมพ์ผิดบ้างเพราะ คีย์บอร์ดมันมีแต่ภาษาอังกฤษ เราก็พยายามจำๆว่า อักษรไทยอยู่ตรงไหนบ้าง เราชือว่าแพต ตอนนี้อายุ 19 ปีแล้ว ตอนมาอเมริกา ก็อายุ 18 (แต่ก็ปีเดียวกันน่ะแหละ) เราเป็นคนไทยที่เกิดที่อเมริกา เราเกิดที่เมือง Worcester รัฐ Massachusetts แต่แพตอยู่เมืองนี้แค่ 3 เดือน พ่อกับแม่ก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ เมือง Springfield รัฐ Oregon อยู่กันคนละโยดเลย รัฐที่แพตเกิดนั้นอยู่ริมสุดฝั่งตะวันออก ส่วนรัฐที่ย้ายมาอยู่ริมสุดผั่งตะวันตกของเมกา เอาล่ะ แพตก็อยู่ที่เมกา ได้  6 ปี ครึ่ง พ่อกับแม่ก็ตัดสินใจ (อีกล่ะ) ย้ายไปเมืองไทย


    ตอนแพตอยู่ป. 1 กับ ป.2 แพตเรียนที่เชียงใหม่ ที่โรงเรียนนานาชาตินครพายัพ แล้วย้ายลงมาเรียนต่อที่บุรีรัมย์ โรงเรียนมารีพิทักษ์ นางรอง แพตก็ต้องเรียนป.2 ซ้ำ เนื่องจากตอนนั้นภาษาไทยของแพตไม่แข็งแรง คือพูดไทยยังไม่ค่อยได้


    อ่ะ ข้ามเหอะไอ่เรื่องตอนประถมอะไรนั่นไม่ใช่ประเด็น เราก็วางแผนกันกับแม่ตั้งแต่ม.3 ว่าพอจบม.6 จะให้แพตมาเรียนต่อที่เมกา ด้วยความที่แพตเกิดที่เมกาแพตก็มีสัญชาติเป็นคนเมกาด้วย (แพตถือสองสัญชาติ) แพตเลยไม่ต้องขอวีซ่า และแพตก็สามารถเข้าเรียนแบบคนเมกันได้เลย ไม่ต้องเข้าเป็นนักเรียนต่างชาติ แพตก็จัดการสมัครเข้ามหาลัยตั้งแต่อยู่เมืองไทย แพตก็ขอทุนจากรัฐบาลเมกาด้วย เกรดเฉลี่ยเราก็ไม่ได้ดีมาก 3.35 เอง อ้อ แล้วแพตก็ไม่ได้สอบ TOEFL TOEIC SAT เลย เพราะแพตเข้าแบบเป็นคนเมกัน และแพตเข้ามหาลัยที่เขาไม่ต้องการผลสอบพวกนี้ มหาลัยที่แพตเลือกเข้า เป็นมหาลัย 2 ปี Community college ซึ่งค่าเรียนจะไม่แพงมาก ถ้าเข้ามหาลัย 4 ปีเลย มันแพงอ่ะ ไม่มีตังพอ กระซิกๆ T_T ที่นี่ไม่ว่าจะมหาลัยไหนก็มีคุณภาพ คนที่นี้เขาไม่ค่อยแบบ เออ ต้องเข้า แสตนฟอร์ดเท่านั้นน่ะ จะดี ไม่ไช่เลย ที่นี่ค่าเรียนมีการจ่ายที่ต่างกัน มีอยู่ 3 ประเภท 1. In State คือสำหรับคนอเมริกาที่ภูมิลำเนา (ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเรียกอย่างนี้ไหม) อยู่ในรัฐเดียวกันกับที่มหาลัยนั้นอยู่ และต้องอยู่ในรัฐนั้นอย่าง น้อย 3-6 เดือน แล้วแต่มหาลัยจะกำหนด ในกรณีนี้ จะ จ่ายค่าเรียนถูกสุด อ่ะ สมมุติว่า ราคา 7,500 เหรียญ ต่อเทอมล่ะกัน  2.  Out state คือสำหรับคนเมกันที่อาศัยอยู่ ต่าง รัฐ กับที่มหาลัยอยู่ (อย่างเช่น คนที่อยู่รัฐ เท็กซัส จะมาเรียนมหาลัยที่ แคลิฟอเนีย จะต้องจ่ายค่าเทอม แบบ Out state) ในกรณีนี้ จะจ่าย ค่าเทอมแพงกว่า In state เยอะเลยล่ะ คงประมาณสัก 2 เท่ากว่า ของราคา In State 3.International Students ก็เป็นสำหรับนักเรียนต่างชาติ ก็จ่ายในราคาแพงกว่า In State แต่ถูกกว่า Out state เล็กน้อย และนี่ก็คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนเมกันไม่ค่อยย้ายรัฐเพือไปเรียนต่อที่รัฐอื่น


    ในส่วนที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ราคาที่สมมุตินั้น เป็นของ Community college แต่ถ้าเป็น University ล่ะ ก็ ไอ้ราคา Out state กับ International students แพงมากๆเลยที่เดียว แพงกว่า Community college อีก  ในส่วนของ Community College เราสามารถเลือกได้ว่าจะลงเรียนแบบ เรียน  2 ปี แล้วเรียนต่อ 4 ปี ที่ University เพื่อให้ได้ Bachelor degree หรือจะเรียนแบบ 2 ปี จบ ได้ Associate degree หรือจะเรียน แบบ 1-2 ปี จบ หางานทำได้เลย one/two-year certificate แพตเลือกเรียนแบบ 1 ปีจบทำงาน แพตเลือกที่จะลงเรียน ผู้ช่วยหมอฟัน พอเรียนจบก็ทำงานเก็บเงิน แล้วค่อยเรียนต่อ อิอิอิอิอิ

    แพตก็พยายามจัดการทุกอย่างที่เมืองไทยให้เรียบร้อย ไม่อยากมีไรค้างคาอยู่ที่ไทย 555 เอกสารต่างๆที่สำคัญแพตก็เตรียมเอาไปให้พร้อม ใบเกิดไทย ใบเกิดเมกา ใบ ssn ใบเกรด และต่างนานา อ้อ ใบเกรด นี้ก็ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยความที่แพตโง่ ไม่ยอมขอฉบับภาษาอังกฤษกับโรงเรียน เลยต้องมาให้แม่แปลให้ (แม่แพตรับแปลเอกสาร และปรึกษาเรื่องขอวิซ่าอ่ะ)


    พอวันเดินทาง คือวันที่ 14 เมษายน อือหือ ได้อยู่เล่นสงกรานตั้งวันหนึ่งแหนะ แพตเดินทางมาอเมริกา “คนเดียว” จ้า Alone มากกกกกกกกกก พ่อ แม่แล้วก็น้า มาส่งที่สนามบิน บอกเลย ตอนนั้นตื่นเต้นมากกกกกกกกกกกกกกกกก กังวลที่สุด เราก็ยื่นพาสปอร์ตทั้งสองอัน ที่ Check in เราซื้อตั๋วแบบ Direct flight การบินไทย และก็พักเครื่องที่กรุงโซลเกาหลีค่ะ เราก็ Check in ก่อนถึงเวลาเครื่องออก 2 ชม. เช็กอินเสร็จก็ไปหาไรกินกับแม่กับน้า (จริงพ่อก็บินไปต่างประเทศเหมือนกัน ไปทำงานลงเรือใหญ่ พ่อบินไปวันเดียวกัน และเครื่องออกก่อนแพต) พอกินเสร็จก็จ้า ไปเลยจ้า เอากระเป๋าตรวจ จะบอกว่าตอนตรวจกระเป๋าพนักงาน บอกเราเป็นภาษาอังกฤษค่ะ 5555 แล้วก็เข้าตม. ตอนอยู่ตม.ที่ไทยก็ใช้พาสปอร์ตไทยอ่ะ คือยังไงมันก็ตื่นเต้นอ่ะ เราก็ไปนั่งรอที่เกด รอไป รอ 1 ชม. เต็มๆ 555555 เราเลือกนั่งแถวกลาง แล้วเลือก Aisle seat ในเครื่องบินที่แพตนั่ง เกาหลีเยอะมากกกกกก (ก็มันต่พักเครื่องที่เกาหลีเนาะ) แต่เสียจุยที่ไม่มีหล่อสักคน ไอ่ฝรั่งหล่อที่นั่งเครื่องเดียวกันก็เจือกนั่งไกลเราอีก เศร้าใจจุง แพตได้นั่งข้างคนเกาหลีน่ะ แต่มันไม่หล่ออะ เฟล 5555 นางก็พยายามพูดไทยกับเราน่ะ แต่คือฟังไม่รู้เรื่องเลยบอกเค้าให้ถามเป็นภาษาอังกฤษดีกว่า นางก็ไม่ได้ถามไรมาก นางก็ถามว่า เราเป็นคนไทยใช่ไหม แล้วก็ถามว่าฉันจะไปไหน ส่วนนางก็อ่ะน่ะ กลับเกาหลีค่ะ


    ตอนเครื่องลงที่เกาหลี ก็ต้องเอากระเป๋าไปตรวจอีกรอบค่ะ แต่เหยยยย พนักงานเกาหลีที่สนามบินหล่ออ่ะ 555 ก่อนขึ้นเครื่องพนักงานก็ตรวจพาสปอร์ต ตอนขึ้นเครื่องคราวนี้สบายล่ะ ที่นั่งข้างๆ โล่งคะ เหยียดตัวได้สบายเลย 5555

เดี๋ยวมาต่อน่ะฮ่ะ ที่นี่ ตี 1 กว่าแล้วขอไปนอนก่อนน่ะฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่