อาจารย์จากสถานศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ร้องเรียนเข้ามายังรายการ"ยกทัพข่าวเช้า"สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ว่ามีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ออกใบสั่งค่าปรับ แต่ไม่ยอมระบุจำนวนเงินในใบเสร็จ
โดยอาจารย์เอก(นามสมมติ) ได้เล่าให้ทางรายการยกทัพข่าวเช้าฟังว่า ใบเสร็จรับเงินค่าปรับใบนี้นั้น เป็นของลูกศิษย์คนหนึ่งในชั้นเรียนของตนเอง โดยลูกศิษย์ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมาขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางมาสอบที่สถาบันการศึกษา ได้ถูกตำรวจจราจรจับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่พกสมุดคู่มือทะเบียนรถ ปรากฎว่าทางตำรวจระบุต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินถึง 1,300 บาท ซึ่งถึงแม้ว่ายอดค่าปรับจะค่อนข้างสูง แต่เพราะทางฝั่งตนก็ทำผิดจริง จึงยอมรับได้ในการลงโทษที่เกิดขึ้น โดยได้จ่ายค่าปรับที่เรียบร้อยที่ด่านตรวจจราจรจุดดังกล่าว แต่สิ่งที่ อ.เอก และลูกศิษย์รู้สึกติดใจมากที่สุด คือการที่บนใบเสร็จนั้นไม่ได้ระบุจำนวนเงินค่าปรับลงไป และเว้นช่องว่างไว้ จึงนำมาสู่การร้องเรียนในครั้งนี้
รายการยกทัพข่าวเช้าพยายามติดต่อนายตำรวจหลายท่านในจังหวัดภูเก็ตเพื่อสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น ทั้ง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ซึ่งปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์สดในรายการแต่ได้แจ้งกับทางทีมงานของรายการว่าให้ผู้ร้องเรียนเข้าไปพบได้เลย แล้วจะตรวจสอบให้ หากพบว่าเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ก็จะสั่งให้ออกจากราชการทันที
ส่วนพ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รอง ผกก.จร.สภ.เมืองภูเก็ต บอกกับทีมงานรายการว่าฝ่ายจราจรเป็นผู้ดูแลเรื่องการจับกุมผู้กระทำความผิด ส่วนเรื่องเปรียบเทียบปรับนั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายสอบสวนเป็นคนดูแล ตอนนี้ตนยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นเอกสาร และได้บอกว่าให้ผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนได้เลย แล้วจะช่วยให้ความเป็นธรรมให้
ด้านพ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวน(สบ4)สภ.เมืองภูเก็ต บอกว่าอยากดูเอกสารก่อน เพื่อที่จะได้นำไปตรวจสอบกับต้นขั้วให้ ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอเคสร้องเรียนแบบนี้ แต่การทุจริตใบเสร็จค่าปรับนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะใบเสร็จค่าปรับนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชุด คือ ต้นฉบับที่ให้คนที่มาเสียค่าปรับ, และสำเนาอีก 2 ฉบับที่ทางตำรวจต้องส่งฝ่ายการเงิน ซึ่งเอกสาร 3 ใบนี้ต้องตรงกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เพิ่งมีข่าวเรื่องกองบังคับการตำรวจจราจร ให้ตำรวจ 5 นาย ออกจากราชการ เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่านายตำรวจทั้ง 5 นั้นทำความผิดจริงในหลายกระทง ทั้งเบิกใบสั่งไม่ลงวันที่ ลงจำนวนเงินค่าปรับในใบสั่งไม่ตรงกับใบเสร็จ ฯลฯ จนทำให้ขณะนี้สำนักงานตรวจสอบภายใน (ตส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบความถูกต้องระบบการเบิกจ่ายเงินภายในกองบังคับ การตำรวจจราจรทุกกองกำกับ ที่เกี่ยวข้องกับเงินค่าปรับจราจรอย่างละเอียด จากเดิมใช้วิธีสุ่มตรวจบางกองกำกับเท่านั้น

เครดิต:รายการยกทัพข่าวเช้า ช่อง PPTV
อาจารย์ภูเก็ต..แฉ!! ตร.ภูเก็ตออกใบเสร็จค่าปรับลูกศิษย์ไม่ระบุยอด สงสัยว่าทำได้หรือไม่?
อาจารย์จากสถานศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ร้องเรียนเข้ามายังรายการ"ยกทัพข่าวเช้า"สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ว่ามีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ออกใบสั่งค่าปรับ แต่ไม่ยอมระบุจำนวนเงินในใบเสร็จ
โดยอาจารย์เอก(นามสมมติ) ได้เล่าให้ทางรายการยกทัพข่าวเช้าฟังว่า ใบเสร็จรับเงินค่าปรับใบนี้นั้น เป็นของลูกศิษย์คนหนึ่งในชั้นเรียนของตนเอง โดยลูกศิษย์ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมาขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางมาสอบที่สถาบันการศึกษา ได้ถูกตำรวจจราจรจับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่พกสมุดคู่มือทะเบียนรถ ปรากฎว่าทางตำรวจระบุต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินถึง 1,300 บาท ซึ่งถึงแม้ว่ายอดค่าปรับจะค่อนข้างสูง แต่เพราะทางฝั่งตนก็ทำผิดจริง จึงยอมรับได้ในการลงโทษที่เกิดขึ้น โดยได้จ่ายค่าปรับที่เรียบร้อยที่ด่านตรวจจราจรจุดดังกล่าว แต่สิ่งที่ อ.เอก และลูกศิษย์รู้สึกติดใจมากที่สุด คือการที่บนใบเสร็จนั้นไม่ได้ระบุจำนวนเงินค่าปรับลงไป และเว้นช่องว่างไว้ จึงนำมาสู่การร้องเรียนในครั้งนี้
รายการยกทัพข่าวเช้าพยายามติดต่อนายตำรวจหลายท่านในจังหวัดภูเก็ตเพื่อสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น ทั้ง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ซึ่งปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์สดในรายการแต่ได้แจ้งกับทางทีมงานของรายการว่าให้ผู้ร้องเรียนเข้าไปพบได้เลย แล้วจะตรวจสอบให้ หากพบว่าเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ก็จะสั่งให้ออกจากราชการทันที
ส่วนพ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รอง ผกก.จร.สภ.เมืองภูเก็ต บอกกับทีมงานรายการว่าฝ่ายจราจรเป็นผู้ดูแลเรื่องการจับกุมผู้กระทำความผิด ส่วนเรื่องเปรียบเทียบปรับนั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายสอบสวนเป็นคนดูแล ตอนนี้ตนยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นเอกสาร และได้บอกว่าให้ผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนได้เลย แล้วจะช่วยให้ความเป็นธรรมให้
ด้านพ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวน(สบ4)สภ.เมืองภูเก็ต บอกว่าอยากดูเอกสารก่อน เพื่อที่จะได้นำไปตรวจสอบกับต้นขั้วให้ ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอเคสร้องเรียนแบบนี้ แต่การทุจริตใบเสร็จค่าปรับนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะใบเสร็จค่าปรับนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชุด คือ ต้นฉบับที่ให้คนที่มาเสียค่าปรับ, และสำเนาอีก 2 ฉบับที่ทางตำรวจต้องส่งฝ่ายการเงิน ซึ่งเอกสาร 3 ใบนี้ต้องตรงกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เพิ่งมีข่าวเรื่องกองบังคับการตำรวจจราจร ให้ตำรวจ 5 นาย ออกจากราชการ เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่านายตำรวจทั้ง 5 นั้นทำความผิดจริงในหลายกระทง ทั้งเบิกใบสั่งไม่ลงวันที่ ลงจำนวนเงินค่าปรับในใบสั่งไม่ตรงกับใบเสร็จ ฯลฯ จนทำให้ขณะนี้สำนักงานตรวจสอบภายใน (ตส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบความถูกต้องระบบการเบิกจ่ายเงินภายในกองบังคับ การตำรวจจราจรทุกกองกำกับ ที่เกี่ยวข้องกับเงินค่าปรับจราจรอย่างละเอียด จากเดิมใช้วิธีสุ่มตรวจบางกองกำกับเท่านั้น
เครดิต:รายการยกทัพข่าวเช้า ช่อง PPTV