รางวัลสูงสุดที่ยิ่งใหญ่อลังการของโลกภาพยนตร์ ที่ได้รับการยอมรับนับถือมาอย่างยาวนาน ก็คือ รางวัลออสการ์ (The Academy Awards Oscar) ความขลังของออสการ์คือ เรามั่นใจได้ว่าเป็นหนังดีมีคุณค่าควรแก่การเสียเวลาดู
ปีนี้ประเทศไทยก็ยังคงส่งหนังคุณภาพ ไปเข้าชิงออสการ์ใน สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film) แน่นอนว่าถ้าหนังไทยติด 1 ใน 5 เรื่องสุดท้าย จนทะลุเข้าไปคว้ารางวัลหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมมาได้ ย่อมจะสร้างชื่อเสียงให้กับวงการหนังไทยและประเทศไทย และน่าจะมีผลพลอยได้ ที่มีประโยชน์อย่างมหาศาล ต่ออุตสาหกรรมหนังไทยและประเทศไทยต่อไปได้ในอนาคต
โดยปีนี้มีหนัง 6 เรื่องสุดท้าย ที่จะให้คณะกรรมการคัดเลือก เพื่อจะส่งไปชิงรางวัลออสการ์
1. ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ
2. พี่ชาย My Hero (How to Win at Checkers - Every Time)
3. อนธการ (The Blue Hour)
4. อัลเทอร์มาจีบ
5. ฟ.ฮีแลร์
6. แม่เบี้ย
มีคณะกรรมการ 8 ท่าน ที่จะคัดเลือกภาพยนตร์ไทย เพื่อไปเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ ดังนี้
1. คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ประธานคณะกรรมการ
2. คุณชัยยงค์ มั่นฤทัย นายกสมาคมด้านจัดจำหน่ายภาพยนตร์
3. คุณบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์
4. คุณเกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร ผู้แทนสมาคมผู้อำนวยการสร้าง
5. พลเอกธันวาคม ทิพยจันทร์ ผู้แทนสมาคมดารานักแสดง
6. คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์
7. คุณนคร วีระประวัติ ผู้แทนด้านสื่อมวลชน
8. คุณโชคชัย ชยวัฑโฒ ผู้อำนวยการสมาพันธ์ฯ
หนังที่เข้าชิงทั้ง 6 เรื่อง มีมาจากทั้งค่ายใหญ่และค่ายเล็ก จะมีเกณฑ์มาตรฐานอย่างไร เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม และคณะกรรมการจะได้คัดเลือกกันอย่างอิสระ และเป็นธรรมกับหนังทุกๆ เรื่อง โดยเราจะได้หนังที่ดีจริงๆ และมีคุณภาพจริงๆ เพื่อเป็นตัวแทนหนังจากไทย จะไปแข่งขันสู้ๆ กับหนังจากประเทศอื่นๆ ได้ ประเด็นนี้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการคัดเลือกภาพยนตร์ไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ ได้กล่าวอย่างช้าๆ ชัดๆ เลยว่า
"เราดูที่ภาพรวมของหนังเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร อย่างการประกวดนางงามจะมาพิจารณาแขนสวย ขาสวย ดูกันเฉพาะส่วน แต่ภาพรวมดูแล้วไม่สวย มันก็จะค้านสายตาคนดู คณะกรรมการของเราก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล อย่างการคัดเลือกหนังในปีที่ผ่านๆ มา ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านหนัง ผมเพิ่งเข้ามาเป็นประธาน ผมก็ต้องสอบถามหาข้อมูลกับผู้รู้ด้านหนังจริงๆ แต่ที่เข้ามาก็เพื่อพูดคุยกับรัฐบาล ผมเป็นนักกฎหมาย ผมเข้ามาช่วยตรงนี้เพื่อจะดูว่า กฎกติกาเราจะวางกันยังไงสำหรับปีต่อๆ ไป จะปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร"
น่าจับตา!!! น่าจะเป็นการชิงชัยของหนัง 3 เรื่องคือ อนธการ (The Blue Hour) ผลงานกำกับของ นุชชี่ อนุชา มีการถ่ายทำและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจในระดับหนึ่ง , ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ผลงานกำกับของ เต๋อ นวพล หลายคนชอบแต่หลายคนก็บ่นเบื่อไม่ชอบเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ ยังเดินหน้าโกยเงินสนั่นโรงอยู่ และเรื่อง พี่ชาย My Hero หรือ (How to Win at Checkers - Every Time) ผลงานกำกับของ จอช คิม หนังกระชากต่อมคิด ที่เสียดสีสังคมไทยได้อย่างเจ็บแสบ! ไปคว้ามาแล้ว 7 รางวัล จากเทศกาลหนังที่ต่างประเทศ เช่น
1. Los Angeles Asian Pacific Film Festival - Audience Award for Best Narrative
2. Torino LGBT Film Festival - Special Jury Mention
3. Toronto LGBT Film Festival - Best First Feature
4. Film Out San Diego - Best International Feature
5. Tel Aviv LGBT Film Festival - Audience Award
6. Long Beach QFilm Festival - Best Narrative Feature
7. Oslo Fusion International Film Festival - Youth Jury Award fo Best Film
วันอังคารที่ 22 กันยายนนี้แล้ว หลังเวลาเที่ยง เราจะได้รู้ผลกันว่า หนังเรื่องไหนจะเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเพื่อไปชิงชัยรางวัลออสการ์ สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film) รอลุ้น!!! ระทึกกันได้
http://www.thairath.co.th/content/526806
ลุ้นหนังไทย 6 เรื่องสุดท้ายชิงชัยไปออสการ์ ใครดูครบทั้ง 6 เรื่องแล้วบ้าง คิดว่าเรื่องไหนสมควรไปชิงออสการ์มากกว่ากัน
รางวัลสูงสุดที่ยิ่งใหญ่อลังการของโลกภาพยนตร์ ที่ได้รับการยอมรับนับถือมาอย่างยาวนาน ก็คือ รางวัลออสการ์ (The Academy Awards Oscar) ความขลังของออสการ์คือ เรามั่นใจได้ว่าเป็นหนังดีมีคุณค่าควรแก่การเสียเวลาดู
ปีนี้ประเทศไทยก็ยังคงส่งหนังคุณภาพ ไปเข้าชิงออสการ์ใน สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film) แน่นอนว่าถ้าหนังไทยติด 1 ใน 5 เรื่องสุดท้าย จนทะลุเข้าไปคว้ารางวัลหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมมาได้ ย่อมจะสร้างชื่อเสียงให้กับวงการหนังไทยและประเทศไทย และน่าจะมีผลพลอยได้ ที่มีประโยชน์อย่างมหาศาล ต่ออุตสาหกรรมหนังไทยและประเทศไทยต่อไปได้ในอนาคต
โดยปีนี้มีหนัง 6 เรื่องสุดท้าย ที่จะให้คณะกรรมการคัดเลือก เพื่อจะส่งไปชิงรางวัลออสการ์
1. ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ
2. พี่ชาย My Hero (How to Win at Checkers - Every Time)
3. อนธการ (The Blue Hour)
4. อัลเทอร์มาจีบ
5. ฟ.ฮีแลร์
6. แม่เบี้ย
มีคณะกรรมการ 8 ท่าน ที่จะคัดเลือกภาพยนตร์ไทย เพื่อไปเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ ดังนี้
1. คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ประธานคณะกรรมการ
2. คุณชัยยงค์ มั่นฤทัย นายกสมาคมด้านจัดจำหน่ายภาพยนตร์
3. คุณบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์
4. คุณเกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร ผู้แทนสมาคมผู้อำนวยการสร้าง
5. พลเอกธันวาคม ทิพยจันทร์ ผู้แทนสมาคมดารานักแสดง
6. คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์
7. คุณนคร วีระประวัติ ผู้แทนด้านสื่อมวลชน
8. คุณโชคชัย ชยวัฑโฒ ผู้อำนวยการสมาพันธ์ฯ
หนังที่เข้าชิงทั้ง 6 เรื่อง มีมาจากทั้งค่ายใหญ่และค่ายเล็ก จะมีเกณฑ์มาตรฐานอย่างไร เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม และคณะกรรมการจะได้คัดเลือกกันอย่างอิสระ และเป็นธรรมกับหนังทุกๆ เรื่อง โดยเราจะได้หนังที่ดีจริงๆ และมีคุณภาพจริงๆ เพื่อเป็นตัวแทนหนังจากไทย จะไปแข่งขันสู้ๆ กับหนังจากประเทศอื่นๆ ได้ ประเด็นนี้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการคัดเลือกภาพยนตร์ไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ ได้กล่าวอย่างช้าๆ ชัดๆ เลยว่า
"เราดูที่ภาพรวมของหนังเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร อย่างการประกวดนางงามจะมาพิจารณาแขนสวย ขาสวย ดูกันเฉพาะส่วน แต่ภาพรวมดูแล้วไม่สวย มันก็จะค้านสายตาคนดู คณะกรรมการของเราก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล อย่างการคัดเลือกหนังในปีที่ผ่านๆ มา ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านหนัง ผมเพิ่งเข้ามาเป็นประธาน ผมก็ต้องสอบถามหาข้อมูลกับผู้รู้ด้านหนังจริงๆ แต่ที่เข้ามาก็เพื่อพูดคุยกับรัฐบาล ผมเป็นนักกฎหมาย ผมเข้ามาช่วยตรงนี้เพื่อจะดูว่า กฎกติกาเราจะวางกันยังไงสำหรับปีต่อๆ ไป จะปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร"
น่าจับตา!!! น่าจะเป็นการชิงชัยของหนัง 3 เรื่องคือ อนธการ (The Blue Hour) ผลงานกำกับของ นุชชี่ อนุชา มีการถ่ายทำและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจในระดับหนึ่ง , ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ผลงานกำกับของ เต๋อ นวพล หลายคนชอบแต่หลายคนก็บ่นเบื่อไม่ชอบเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ ยังเดินหน้าโกยเงินสนั่นโรงอยู่ และเรื่อง พี่ชาย My Hero หรือ (How to Win at Checkers - Every Time) ผลงานกำกับของ จอช คิม หนังกระชากต่อมคิด ที่เสียดสีสังคมไทยได้อย่างเจ็บแสบ! ไปคว้ามาแล้ว 7 รางวัล จากเทศกาลหนังที่ต่างประเทศ เช่น
1. Los Angeles Asian Pacific Film Festival - Audience Award for Best Narrative
2. Torino LGBT Film Festival - Special Jury Mention
3. Toronto LGBT Film Festival - Best First Feature
4. Film Out San Diego - Best International Feature
5. Tel Aviv LGBT Film Festival - Audience Award
6. Long Beach QFilm Festival - Best Narrative Feature
7. Oslo Fusion International Film Festival - Youth Jury Award fo Best Film
วันอังคารที่ 22 กันยายนนี้แล้ว หลังเวลาเที่ยง เราจะได้รู้ผลกันว่า หนังเรื่องไหนจะเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเพื่อไปชิงชัยรางวัลออสการ์ สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film) รอลุ้น!!! ระทึกกันได้
http://www.thairath.co.th/content/526806