CR คุณรเมศ ณ บ่วงหงส์ : สมดุลย์ระหว่าง logic และ illogic

น้ำตาเม็ดโต ๆ ร่วงเผาะลงบนเข็มกลัดหงส์คาเทียร์แสนรักของพิมพ์ลภัส เข็มกลัดที่พ่อคนที่เธอรักยิ่งกว่าใครในโลกได้สั่งทำให้ไว้ เข็ดกลัดหงส์จากแบรนด์ยี่ห้อหรูดัง หงส์ที่เธอเคยคิดว่าเธอเป็นเช่นนั้นตลอดมา จนกระทั่งวันที่เธอเห็นประกายน้ำตาของเธอเองที่ล้อเหลี่ยมเพชรแวววับ วินาทีนั้นเองที่เธอได้สำเหนียก

ไม่มีนายพรานเลวร้ายคนไหนมาวางบ่วงวางแร้วดัก...
เธอเองทั้งนั้นที่โง่เอาตัวเองลงไปพันธนาการกับปัญหา
เมื่อดิ้นไม่หลุดก็มาคร่ำครวญหลอกตัวเองว่าหลงกลนายพราน


เธอนั้นหรือคือหงส์โสภา ... ไม่ใช่เลย เธอเองอย่างมากก็เป็นได้แค่ห่านขาวที่หลงเชิดชูคอหลงตัวเองที่สะท้อนเงาบิดเบี้ยวในน้ำ เห็นขนขาวคอยาวก็หลงนึกว่าตัวเองเป็นพญานก ซ้ำร้ายยังถักทอบ่วงจากความทะยานอยาก เหลาะแหละ ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย เอาแต่ใจตน และจมไม่ลงมาร้อยรัดตัวเองไว้ และ เขานั่นเองที่ทำให้เธอเห็น ... ว่าแท้ที่จริงแล้ว "พิมพ์ลภัส" คนนี้เป็นอย่างไร

คุณรเมศแห่งโรงแรมเชียงรายจารวีย์ต้อนรับพิมพ์ลภัสอย่างดีด้วยเห็นว่าเป็นลูกค้าระดับวีไอพี และ ความสวยคมดีกรีนางแบบของเธอนั้น เป็นที่ถูกตาต้องใจเขาไม่น้อย หากด้วยประสบการณ์รวมถึงงานข่าวระดับผู้บริหารโรงแรมผนวกกับความอ่อนหัดของพิมพ์ลภัส รเมศใช้เวลาไม่นานเลยที่จะรู้ว่าพิมพ์ลภัสเข้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร  และ จากเหตุการณ์ที่เกิด เขาไม่ควรจะสนใจ หรือ ใส่ใจอะไรกับเธออีก เมื่อเขาระงับความเสียหายได้ก่อนที่มันจะเกิด ส่วนเธอก็เป็นเพียงแค่ปลาซิวปลาสร้อย

ค่าห้องเรือนหมื่นเพียงเท่านั้นไม่ได้ครณาอะไรกับโรงแรมใหญ่โตเช่นนี้ หากมีปัญหามากนักก็แจ้งตำรวจไป ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ท่าทางแสนหวงในหงส์คาเทียร์ กับ ใบหน้าคมงามที่เชิดตรง ทำให้รเมศละทิ้งความเป็นผู้บริหารโรงแรมและให้หัวใจนำทางไปชั่วขณะ ถึงพิมพ์ลภัสจะดูจับจดปากคอจัดจ้านโวยวายตลอดเวลา แต่บ่าไหล่ของเธอไม่เคยลู่ลง ทั้งยังทะนงในศักดิ์ศรียิ่งนัก

จริง ๆ มันก็ไม่ใช่กงการอะไรของเขา
จริง ๆ การที่เอาเธอไว้คงไม่ก่ออะไรนอกจากปัญหา


แต่ลึก ๆ แล้วเขาเชื่อว่าพิมพ์ลภัสไม่ได้เป็นพวกหลอกลวง blackmail อย่างที่คนอื่นเชื่อ เมื่อพิเคราะห์แล้วว่ารักศักดิ์ศรีแถมหน้าบางแบบนั้นคงพอใจจะกลืนเลือดให้ตายดีกว่าเสียชื่อ จากเหตุและผลส่วนตรรกะจึงนำไปสู่ในส่วนที่ไม่เป็นตรรกะ เอาล่ะ ... รเมศตัดสินใจรั้งพิมพ์ไว้ตามที่ใจอยาก แต่ในส่วนที่ใจอยากก็เอาส่วนที่เป็นเหตุผลประกบเข้าไว้ ผิดก็ต้องว่ากันตามผิด

หนี้ที่มีก็ต้องชดใช้ ถ้าไม่ขายหงส์มาใช้หนี้ งานนี้ต้องมีดัดสันดาน


การที่รเมศให้พิมพ์ทำงานในส่วนที่เป็นงานบริการ เพราะมองทะลุลงไปว่า ... ภายใต้คราบลูกเป็ดขี้เหร่จริง ๆ แล้วก็ยังคงมีความผิดชอบชั่วดีซ่อนอยู่ และ วิธีการของรเมศก็เหมือนเอากระจกเนื้อใสเที่ยงตรงส่องให้พิมพ์ได้เห็นเงาของตัวเองชัดขึ้น หมากทุกตาย่อมมีเป้าหมาย รเมศทุกครั้งมีแต่ตำหนิและท้าทายพิมพ์ เพราะเห็นทะลุปรุโปร่งว่ารายนี้ยิ่งโดนยิ่งฮึด อาจจะสำอางค์แต่ไม่สำออย

พิมพ์ลภัสเริ่มดีขึ้นทุกวัน ผิดกับรเมศซึ่งก็ต้องฝืนขึ้นทุกวันเหมือนกัน


จากตอนแรกที่คิดว่าเอาอยู่ ... ในส่วนสัมพันธ์ระหว่างสมองกับอารมณ์ แต่กลายเป็นว่ารเมศก็เริ่มรักษาสมดุลย์ระหว่างการคิดแบบตรรกะและไร้ตรรกะได้ยากขึ้นทุกที เขาไม่สบายใจนักหรอกที่ต้องคอยตำหนิพิมพ์อยู่แบบนั้น ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าพิมพ์ดีขึ้นแล้วหลายส่วน เมื่อเขาเองเป็นถึงผู้บริหารที่ต้องดูแลคนทั้งโรงแรม จะ favor ใครเป็นพิเศษได้อย่างไร ทำได้แต่เพียงคอยไต่ถามความเรียบร้อย ให้คนอื่นคิดว่ากลัวพิมพ์จะก่อปัญหา หลายครั้งที่เขารู้ว่าพิมพ์ทั้งน้อยใจและเสียใจในการกระทำของเขา หากจะทำอย่างไรได้ ?

จะรักให้จัดเต็มก็ค้านกับเหตุผล
แต่จะวางเฉยก็ค้านกับหัวใจ


ในฐานะผู้ใหญ่เขาจำเป็นที่ต้องเล่นบทครูไหวใจร้ายอยู่เรื่อย ๆ ในฐานะคน(แอบ)รักก็อยากให้คนที่(แอบ)รักได้เดินไปในทิศทางที่ดีที่ถูกและที่ควร จึงต้องมาแนวใช้อำนาจเหนือตลอด พิมพ์ที่ทั้งเด็กว่าและทั้งเป็นลูกจ้างสุดท้ายยังต้องรู้จักกิ่งก้อยหัวแม่มือ แล้วลงท้ายก็เริ่มอยากจะเป็นคนดีคนที่คู่ควร อยากให้เขาชมขึ้นมาทีละหน่อยแต่ด้วยปัจจัยอะไรต่าง ๆ มันก็ไม่ลงตัวให้รเมศแสดงออกถึงการยอมรับและชื่นชมพิมพ์เอาเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วที่มันคาราคาซังจนเจียนจะสายก็เพราะ

การอยู่ระหว่างทางหาสมดุลย์ระหว่างโลกแห่งสมอง (ตรรกะ) และ เส้นทางสายหัวใจ (ไม่มีตรรกะใด ๆ) ในใจของผู้ชายชื่อรเมศนั่นเองแหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่