โอกาสไปคว้าออสการ์? 'วิสูตร GTH' วิสัยทัศน์จากหัวใจ ทำหนังเพื่อคนไทย!
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ย. 2558 07:30
เจ้าพ่อหนังไทยผู้มากบารมี เจ้าพ่อค่ายหนังฮอตฮิต GTH ผู้ทรงอิทธิพลในวงการหนังไทย ผู้บริหารที่เก่งกาจมีวิสัยทัศน์เฉียบแหลม ผู้บริหารที่ขยันทำหนังดีมีคุณภาพ แล้วแต่จะเรียกจะนิยามเยินยอกันไป ไม่เกินจริงหรอกเนอะ เพราะผลงานหนังคุณภาพหลายเรื่องหลากรสหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ชัดแจ้งแจ่มแจ๋วแล้ว
วันนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยแหลกคุ้ยในทุกแง่มุมมองกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมจีทีเอช GTH และประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ "สสภช." (The National Federation of Motion Pictures and Contents Associations) ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ คิด! แล้วคุณรู้ซึ้งรู้อึ้งเกี่ยวกับวงการหนัง
ทุ่มทุนสร้าง-เทงบโปรโมตมหาศาล
ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ลงทุนไปกว่า 16 ล้าน? “ไม่ใช่ 16 ล้าน มันก็เป็นหนังสเกล (scale) ทั่วไปของ GTH นะฮะที่ลงทุน มันไม่ใช่หนังทุนน้อยแน่ๆ คือ GTH จะมีลงทุนตั้งแต่ 20, 30, 40 ล้าน เพราะฉะนั้น ฟรีแลนซ์ฯ ก็โอเวอร์ 20 มากกว่า 20 ล้านอยู่แล้ว ยังไม่รวมโปรโมต หนังเรื่องหนึ่งรวมโปรโมตก็ต้อง 15-16 ล้านอยู่แล้วเป็นอย่างต่ำ เฉพาะก๊อกแรกนะครับ ถ้าจะทำโปรโมตต่ออีก ก็ต้องเพิ่มงบเข้าไปอีก อย่างพี่มากพระโขนง เฉพาะลงทุนโปรโมตอย่างเดียว 40-50 ล้าน”
ฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของ GTH สามารถชักจูงใจคนดู ทำให้อยากไปดูหนังได้ มีวิธีเคี่ยวข้นทีมงานกันยังไง? “ผมว่ามาร์เก็ตติ้งเป็นการเรียนรู้ บวกกับความใส่ใจของน้องๆ แรกๆ ที่เริ่มเข้ามาทำงาน ก็อาจจะไม่ชำนาญมาก อาจจะไม่คล่องมากอาจจะมีถูกผิด แต่พอได้ทำบ่อยๆ เขาได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เขาจะเก่งขึ้นๆ ทุกวัน จนปัจจุบันผมคิดว่าทีมนี้เป็นทีมที่เก่งมาก คือเขาเข้าใจหนังมาก และสามารถที่จะนำมาดัดแปลงใช้ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ”
หลายคนบ่นว่าดูแล้วฟรีแลนซ์ฯ ไม่ค่อยแพง ลงทุนสร้างเยอะแยะขนาดนั้น จริงเหรอ? “มันดูที่โลเกชั่นไงครับ แต่ว่าเราไม่ได้ไปบีบอะไรเลย มันเป็นสเกลทั่วๆ ไป” กับรายได้ที่โกยไปมากขนาดนี้? “เกินคาดครับ ส่วนหนึ่งผมว่าหน้าหนังมีความใหม่ อาชีพฟรีแลนซ์พูดง่ายๆ มันยังไม่เคยเอามาพูดถึงในหนังไทย ซึ่งจริงๆ มันอยู่ใกล้ตัวเรามากเลยนะ อาชีพอิสระเนี่ย เราจะเห็นคนทำอาชีพฟรีแลนซ์เยอะแยะ แต่เราไม่คิดจะเอาเรื่องราวของเขามาทำเป็นภาพยนตร์ พอดีเรื่องฟรีแลนซ์ฯ คนนี้ป่วยแล้วไปรู้จักกับหมอ ทำให้ตัวเองมีความรู้สึกแอบชอบหมอ เป็นโรแมนติกและไม่จำเจสำหรับหนังไทย”
เรื่องไทอิน (Tie in) ขายสินค้าเนียนๆ ในหนัง ให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน? “สำคัญครับ แต่ว่าการไทอิน เราก็ดูนะว่าอะไรคือความเหมาะสม อะไรคือจุดที่ว่า ในฐานะเราผู้ทำหนังเรารับได้ และในฐานะจุดคนดู อะไรที่คนดูรับได้ มันจะมีอยู่หลายครั้งที่เรียกว่า ไทอินน่าเกลียดอ่ะ ซึ่งเราจะไม่ทำแบบนั้น”
จริงหรือไม่ ที่หนังของ GTH แต่ละเรื่องไม่มีทางขาดทุน เพราะมีสปอนเซอร์ครอบคลุมต้นทุนสร้างหมดแล้วตั้งแต่เริ่มออกฉาย? “มันเป็นไปไม่ได้ แนวคิดนี้ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้ หนังยังไงมันก็มีต้นทุนของมัน และเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงด้วย ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะหาสปอนเซอร์อย่างไร มันก็ต้องมีคอสต์ (cost) การลงทุนที่สูงกว่าอยู่ดี คือบ้านเรามันไม่ได้หาสปอนเซอร์แบบ 50 ล้านหรือ 100 ล้าน สปอนเซอร์อย่างมากก็เป็นหลัก 10 กว่าล้าน มันเป็นไปไม่ได้ หนังเรื่องหนึ่งลงทุน 30-40 ล้าน ยังไงมันก็ต้องมีการหารายได้จากทางอื่นเข้ามา เช่นจากการฉายตามโรงภาพยนตร์”
'ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ' ชอบก็เยอะ! ไม่ชอบก็แยะ!
มีทั้งคนชอบและไม่ชอบหนังฟรีแลนซ์ฯ? “เป็นเรื่องปกติ จริงๆ มันอยู่ที่ทาร์เก็ต (target)” เรื่องนี้มันแบ่งเป็นสองกลุ่มที่ชอบ และไม่ชอบชัดเจนมากๆ ไม่เหมือนหนังของ GTH ที่ผ่านมาที่คนดูจะโปรดปรานมากกว่า? “กลุ่มคนที่ชอบมากๆ ก็เยอะนะครับ ส่วนฝั่งที่ไม่ค่อยชอบผมว่า น่าจะเป็นพวกชาวบ้านมากกว่า คือจะเป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับการดูหนังแมส (mass) ดูหนังจะต้องบันเทิงมากๆ ไม่ใช่ว่าจะต้องมานั่งคิดนิดหนึ่ง หนังจะต้องไดนามิกตลอดเวลา เดินเรื่องคือรวดเร็ว จะต้องมีซีนที่ให้เขาเอ็นเตอร์เทนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นกลุ่มคนตรงนี้จะไม่ค่อยสมหวังตรงที่ว่า เออ มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด”
ในช่วงของการทำงาน มีการบอก เต๋อ นวพล ผู้กำกับมั้ยว่า ต้องทำอย่างนี้ๆ อย่าทำอย่างนั้นๆ? “อ๋อ ไม่เลยครับ เราถือว่าให้อิสระ เรารู้ว่าเต๋อคือใคร แล้วก็เต๋อทำอะไร เพราะฉะนั้นในเรื่องตัวบทภาพยนตร์หรือสตอรี่ (story) พูดง่ายๆ คือเราไว้ใจเขาเลย ให้เต๋อเป็นคิดเรื่องผูกเรื่อง เรามั่นใจว่าถ้าให้เขาเป็นทางของตัวเขาเอง มันจะออกมาแล้วดีที่สุด มากกว่าที่เราจะไปบอกว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ ซึ่งผมคิดว่าอย่างนี้จะไม่ดี” ให้อิสระเต๋อ นวพล ผู้กำกับในการทำ 100% ไปเลย? “ก็เกือบครับ แน่นอนว่าในความเป็นโปรดิวเซอร์ ก็มีส่วนไปเกี่ยวข้องบ้าง แต่ว่ามันก็คือเต๋อแหละ มันคือตัวตนของเต๋อแหละ”
หนังฟรีแลนซ์ฯ ประสบความสำเร็จแบบนี้จะให้ เต๋อ นวพล ทำหนังต่อไปอีก สักเรื่องสองเรื่อง? “ก็คงต้องคุยกับเขาต่อ ส่วนเขาจะพร้อมเมื่อไหร่อย่างไร ก็ต้องให้เวลาเขานิดหนึ่ง ปีนี้เรามีจะมี 2 เรื่องเข้า 1 ตุลาคม เรื่องเมย์ไหนไฟแรงเฟร่อ ของหมู (ชยนพ บุญประกอบ ผู้กำกับหนัง ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ) ก็เป็นทางของเขา"”
เน้นขำ
วัยโจ๋น่าจะโปรดเรื่องนี้
คู่จิ้นแตก
ไม่ธรรมดากับ ฟรีแลนซ์ฯ โกยรายได้เกินคาด
GTH ไม่เสี่ยงทำหนัง ที่ไม่ถนัดจริงๆ
แฟนๆ GTH อยากจะดูหนังแนวอื่นๆ บ้าง เช่น แอ็กชั่นระห่ำจอ? “หนังแอ็กชั่นเป็นเรื่องของตัวบุคคลค่อนข้างสูง ผมพูดเสมอว่า ถ้าเราไม่มีคนที่โดดเด่นจริงๆ อย่าง จา พนม ความคิดสำหรับผมนะ ถ้าไม่มีอย่างนั้นก็ไม่น่าทำ ถ้าไม่มีนักแสดงที่มีความสามารถรอบตัวขนาดนั้นจริงๆ คือยุคนี้หนังแอ็กชั่นของไทย ไม่ใช่แค่ว่า หาคนหน้าตาดีแล้วก็เอามาบอกว่า คุณต้องเตะอย่างนั้น ต่อยอย่างงี้ อาศัยคิวบู๊และอาศัยหน้าตา ผมว่าไปไม่ได้สำหรับหนังแอ็กชั่น เพราะถ้าทำแบบนั้นหนังฮอลลีวูดทำดีกว่าเยอะแยะ ถ่ายทำดีกว่า ลงทุนสูงกว่าด้วย ฉะนั้นหนังแอ็กชั่นไทยจะอยู่ได้ มันต้องเป็นตัวจริง”
หนังอีโรติก สนใจจะทำออกมาบ้างหรือไม่คะ เหมือนที่หม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ทำแม่เบี้ย? “หนังอีโรติกผมว่าอยู่ที่สตอรี่ (story) ผมว่าถ้าสตอรี่น่าสนใจจริง ถ้าตัวเรื่องมันน่าทำจริงๆ ผมว่าก็ไปได้นะ จริงๆ ทางเราไม่มีรังเกียจหนังแนวหนังเลย เพียงแต่ว่าวัตถุดิบที่จะเอามาทำในแต่ละเรื่อง มันเหมาะหรือเปล่า เรื่องนั้นสตอรี่มันเหมาะมั้ย คอนเซปต์มันดี มันน่าสนใจมั้ยมากกว่า”
ลั่น! ฮอร์โมน 3 ดีพอ ลุย! ทำซีรีส์แซ่บ
ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี จึงทำหนังแค่ 2 เรื่องพอ? “เฮ้ย! ไม่ใช่ จริงๆ ก็อยากจะทำหนังให้ได้ 3 เรื่องเหมือนอย่างที่เคยทำนั่นแหละ แต่ว่าเนื่องจากปีนี้หลายอย่าง และปีนี้เราไปมุ่งซีรีส์ค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับทุกปีก็ถือว่าปีนี้มีซีรีส์มากที่สุด มีเรื่องน้ำตากามเทพ, เพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน, มาลีเพื่อนรักพลังพิสดาร และฮอร์โมน 3 ไฟนอลซีซั่น” ทำไมจึงเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้ว? “ผมว่าเด็กมันโตตามวัย คราวที่แล้วอยู่ ม.5 มันก็ต้องขึ้นมา ม.6” กะจะทำจนเข้ามหาวิทยาลัยเลย? “ก็ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ผมว่ามันอาจจะต้องเป็นอีกสตอรี่หนึ่งไป” จริงๆ แล้ว มีแนวคิดว่าจะทำฮอร์โมนภาคมหาวิทยาลัยมั้ย? “อันนี้ต้องคุยกับคุณย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) ต้องคุยกับเจ้าของโปรเจกต์ แกอาจจะมีก็ได้นะ (หัวเราะ)”
ฮอร์โมนภาคสุดท้ายแล้ว มีหลายคนคาดการณ์ไว้ว่าจะต้องแรงแน่ๆ เพราะเป็นซีซั่นสุดท้าย คุณวิสูตรมีการดูแลควบคุมอย่างไร ไม่ให้แรงจนเลยเถิด? “ไม่ใช่ฮะ ผมว่าคนที่ดูฮอร์โมน 1 ,2 มาจะรู้ฮอร์โมนคืออะไร มันพูดประเด็นอะไร จริงๆ มันก็คือชีวิตจริงของเด็กในยุคปัจจุบัน ที่เอามาถ่ายทอดนำเสนอ” จะมีการเฝ้าระวังควบคุมในเรื่องเนื้อหาอย่างไร ไม่ให้แรงจนเกินไป เพื่อจะไม่เป็นการชี้นำวัยรุ่นให้มากเกินงาม? “จริงๆ คนทำก็รู้อยู่นะ ผมว่าเขาก็มีจุดยืน มีหลักวิธีคิดของเขาว่า ฮอร์โมนมันจะต้องประมาณไหน ผมว่าเขาคุยกันเยอะนะ ทำการบ้านกันเยอะนะ เท่าที่เราอ่านบท ผมว่ามันสนุก มันก็ได้เนื้อหาสาระ มันก็ได้สิ่งที่ต้องการจะบอกครบถ้วน ส่วนมันจะแรงหรือไม่แรง ผมว่าผู้ชมเป็นคนตัดสินมากกว่านะฮะ สำหรับเรามีความรู้สึกว่าดี น่าสนใจ ประเด็นหลายๆ อย่างผมคิดว่ามันดี ถ้าเราติดตามเพื่อความบันเทิง และเพื่อให้ดูแล้วมีอะไรด้วย ผมว่าฮอร์โมนให้ครบ โดยเฉพาะซีซั่นสุดท้ายนี้ ผมว่าให้ครบ”
ค่ายอื่นๆ นิยมซื้อซีรีส์จากเมืองนอก มาทำแบบไทยๆ? “อันนี้ก็ดีนะ อย่างน้อยที่สุดเราได้ความมีเสน่ห์ในการเขียนบทของเขา วิธีการผูกเรื่องแบบมืออาชีพของเขา ผมว่าการซื้อเรื่องจากเมืองนอกมาก็ดีนะ เพียงแต่ว่าการมาแมตช์ (match) กับคนไทยให้ได้กับสตอรี่ไทยเนี่ย บางสิ่งบางอย่างอาจจะต้องดัดแปลง เพราะวัฒนธรรมอะไรบางอย่างอาจจะไม่เหมือนกัน” ทาง GTH ได้ซื้อซีรีส์นอกมาทำบ้างหรือไม่? “ไม่มีครับ อย่างกันตนาไปซื้อ ก็อซซิปเกิร์ล (Gossip Girl) ผมว่าก็เป็นแนวคิดที่ดี” ทาง GTH ไม่มีนโยบาย จะไปซื้อซีรีส์ต่างประเทศมาทำ? “ตอนนี้ยัง”
ซีรีส์กำลังโต? “มันโต ส่วนหนึ่งมาจากช่องดิจิตอลด้วยที่มันบูมมากๆ จะละครหรือซีรีส์ก็ดี มันเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงมากๆ” อยากจะเพิ่มช่องทีวีของ GTH อีกสักช่องมั้ย? “โอ้ (หัวเราะ) เดี๋ยวขอทำช่องนี้ให้ดีที่สุดก่อน (หัวเราะ) GTH ON Air ก็เป็นช่องของเราล้วนๆ อยู่แล้ว” มีแผนจะทำช่อง GTH เพิ่มในอนาคตอีก? “ยังครับ ยังไม่มีแผน”
ร่วมก๊วน มาลีเพื่อนรักพลังพิสดาร
อ้อมกอดอันอบอุ่นเนอะๆ
หล่อวิ้งสวยใส แน่น! ซีรีส์วัยโจ๋ ฮอร์โมน 3 เดอะไฟนอลซีซั่น
หนุ่มน้อยวัยเฟี้ยวจาก Hormones วัยว้าวุ่น Season 3
เทคนิคหนังดังเจ้าพ่อ GTH ฟุ้งเรื่อยระเบิดไอเดีย
ปกติคุณวิสูตรหมั่นหาไอเดีย ให้อาหารสมองอย่างไรบ้างคะ? “ก็ดูหนังเยอะ แล้วก็สังเกตเยอะๆ เป็นคนชอบสังเกต ชอบฟุ้ง เวลาเราเดินไปโรงหนังแล้วเห็นโปสเตอร์หนังฝรั่ง เราก็จะฟุ้งว่าถ้าตั้งเป็นชื่อไทยจะตั้งเป็นชื่ออะไร เราก็เดินไปดูทีละใบ แล้วอิมเมจิน (imagine) สมมติถ้าเป็นเราจะตั้งชื่อว่าอะไร และจะขายอย่างไร มันได้ลับสมองเหมือนได้ฝึก เหมือนมีดลับบ่อยๆ ก็จะคม”
ต้องแวะไปฮอลลีวูดปีละครั้ง เพื่ออัพเดตวงการหนัง? “ไม่ๆ ผมเป็นคนไม่ชอบเดินทาง (ยิ้ม) เป็นคนที่แฮปปี้กับการอยู่บ้าน ได้ดูหนังที่บ้าน หรือไปดูหนังที่โรงหนังผมก็แฮปปี้แล้ว (ยิ้ม) คือถ้ามันจำเป็นต้องไปก็ไปได้ ไม่ได้กลัวการขึ้นเครื่องบิน แต่ถ้าแบบวางแพลนชีวิตว่า โห! ปีนี้ฉันจะต้องไปที่นั่นที่นี้ จะไม่ค่อยเป็นอย่างนั้น”
หนังร่วมทุนกับโจวซิงฉือ ไปถึงไหนแล้ว? “อย่างที่รู้กันแล้ว คือเอาเรื่องคนกอง ไปทำเป็นเดอะมูฟวี่ (โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับ) ตอนนี้ทำอยู่กับโปรเจกต์ของโจวซิงฉือ ก็ดีเวลลอป (develop) ไปเยอะแล้ว โพสเซส (process) ก็ไปเยอะแล้วนะ ทางโจวซิงฉือก็ชอบเรื่องที่เรานำไปเสนอ ผมเข้าใจว่ากระบวนการนำเรื่องเข้าไปฉายที่เมืองจีน ขั้นตอนมันค่อนข้างยุ่งยาก เพราะว่ามันมีขั้นตอนของการไปเซ็นเซอร์ หรืออะไรหลายๆ อย่าง ทำให้ตอนนี้เหมือนกับว่า ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าขั้นตอนไปถึงไหน” พระเอกนางเอกสรุปแล้วใครเล่น? “เรากะใช้ดาราจีนหมด ไม่มีดาราไทย คือเป็นหนังพูดภาษาจีน” เงินลงทุนที่ทุ่มไป? “ยังไม่สรุปเลยครับ ผมว่าอย่างต่ำนะ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผมเดานะ”
โอกาสหนังไทยไปชิงชัยออสการ์
สูงสุดของนักเตะก็คือชนะฟุตบอลโลก สูงสุดของนักกีฬาก็คือเหรียญทองโอลิมปิก สูงสุดของวงการหนังก็คือการได้รางวัลออสการ์...ปีนี้จะคัดเลือกหนังไทยไปออสการ์อย่างไร? “ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า ตามกฎที่เอาหนังไปชิงออสการ์ ปกติถ้าได้ เบสต์ พิจเจอร์ (Best Picture) ของสมาพ
บิ๊กบอส GTH หวังหนังไทยได้ออสก้า
โอกาสไปคว้าออสการ์? 'วิสูตร GTH' วิสัยทัศน์จากหัวใจ ทำหนังเพื่อคนไทย!
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ย. 2558 07:30
เจ้าพ่อหนังไทยผู้มากบารมี เจ้าพ่อค่ายหนังฮอตฮิต GTH ผู้ทรงอิทธิพลในวงการหนังไทย ผู้บริหารที่เก่งกาจมีวิสัยทัศน์เฉียบแหลม ผู้บริหารที่ขยันทำหนังดีมีคุณภาพ แล้วแต่จะเรียกจะนิยามเยินยอกันไป ไม่เกินจริงหรอกเนอะ เพราะผลงานหนังคุณภาพหลายเรื่องหลากรสหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ชัดแจ้งแจ่มแจ๋วแล้ว
วันนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยแหลกคุ้ยในทุกแง่มุมมองกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมจีทีเอช GTH และประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ "สสภช." (The National Federation of Motion Pictures and Contents Associations) ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ คิด! แล้วคุณรู้ซึ้งรู้อึ้งเกี่ยวกับวงการหนัง
ทุ่มทุนสร้าง-เทงบโปรโมตมหาศาล
ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ลงทุนไปกว่า 16 ล้าน? “ไม่ใช่ 16 ล้าน มันก็เป็นหนังสเกล (scale) ทั่วไปของ GTH นะฮะที่ลงทุน มันไม่ใช่หนังทุนน้อยแน่ๆ คือ GTH จะมีลงทุนตั้งแต่ 20, 30, 40 ล้าน เพราะฉะนั้น ฟรีแลนซ์ฯ ก็โอเวอร์ 20 มากกว่า 20 ล้านอยู่แล้ว ยังไม่รวมโปรโมต หนังเรื่องหนึ่งรวมโปรโมตก็ต้อง 15-16 ล้านอยู่แล้วเป็นอย่างต่ำ เฉพาะก๊อกแรกนะครับ ถ้าจะทำโปรโมตต่ออีก ก็ต้องเพิ่มงบเข้าไปอีก อย่างพี่มากพระโขนง เฉพาะลงทุนโปรโมตอย่างเดียว 40-50 ล้าน”
ฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของ GTH สามารถชักจูงใจคนดู ทำให้อยากไปดูหนังได้ มีวิธีเคี่ยวข้นทีมงานกันยังไง? “ผมว่ามาร์เก็ตติ้งเป็นการเรียนรู้ บวกกับความใส่ใจของน้องๆ แรกๆ ที่เริ่มเข้ามาทำงาน ก็อาจจะไม่ชำนาญมาก อาจจะไม่คล่องมากอาจจะมีถูกผิด แต่พอได้ทำบ่อยๆ เขาได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เขาจะเก่งขึ้นๆ ทุกวัน จนปัจจุบันผมคิดว่าทีมนี้เป็นทีมที่เก่งมาก คือเขาเข้าใจหนังมาก และสามารถที่จะนำมาดัดแปลงใช้ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ”
หลายคนบ่นว่าดูแล้วฟรีแลนซ์ฯ ไม่ค่อยแพง ลงทุนสร้างเยอะแยะขนาดนั้น จริงเหรอ? “มันดูที่โลเกชั่นไงครับ แต่ว่าเราไม่ได้ไปบีบอะไรเลย มันเป็นสเกลทั่วๆ ไป” กับรายได้ที่โกยไปมากขนาดนี้? “เกินคาดครับ ส่วนหนึ่งผมว่าหน้าหนังมีความใหม่ อาชีพฟรีแลนซ์พูดง่ายๆ มันยังไม่เคยเอามาพูดถึงในหนังไทย ซึ่งจริงๆ มันอยู่ใกล้ตัวเรามากเลยนะ อาชีพอิสระเนี่ย เราจะเห็นคนทำอาชีพฟรีแลนซ์เยอะแยะ แต่เราไม่คิดจะเอาเรื่องราวของเขามาทำเป็นภาพยนตร์ พอดีเรื่องฟรีแลนซ์ฯ คนนี้ป่วยแล้วไปรู้จักกับหมอ ทำให้ตัวเองมีความรู้สึกแอบชอบหมอ เป็นโรแมนติกและไม่จำเจสำหรับหนังไทย”
เรื่องไทอิน (Tie in) ขายสินค้าเนียนๆ ในหนัง ให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน? “สำคัญครับ แต่ว่าการไทอิน เราก็ดูนะว่าอะไรคือความเหมาะสม อะไรคือจุดที่ว่า ในฐานะเราผู้ทำหนังเรารับได้ และในฐานะจุดคนดู อะไรที่คนดูรับได้ มันจะมีอยู่หลายครั้งที่เรียกว่า ไทอินน่าเกลียดอ่ะ ซึ่งเราจะไม่ทำแบบนั้น”
จริงหรือไม่ ที่หนังของ GTH แต่ละเรื่องไม่มีทางขาดทุน เพราะมีสปอนเซอร์ครอบคลุมต้นทุนสร้างหมดแล้วตั้งแต่เริ่มออกฉาย? “มันเป็นไปไม่ได้ แนวคิดนี้ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้ หนังยังไงมันก็มีต้นทุนของมัน และเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงด้วย ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะหาสปอนเซอร์อย่างไร มันก็ต้องมีคอสต์ (cost) การลงทุนที่สูงกว่าอยู่ดี คือบ้านเรามันไม่ได้หาสปอนเซอร์แบบ 50 ล้านหรือ 100 ล้าน สปอนเซอร์อย่างมากก็เป็นหลัก 10 กว่าล้าน มันเป็นไปไม่ได้ หนังเรื่องหนึ่งลงทุน 30-40 ล้าน ยังไงมันก็ต้องมีการหารายได้จากทางอื่นเข้ามา เช่นจากการฉายตามโรงภาพยนตร์”
'ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ' ชอบก็เยอะ! ไม่ชอบก็แยะ!
มีทั้งคนชอบและไม่ชอบหนังฟรีแลนซ์ฯ? “เป็นเรื่องปกติ จริงๆ มันอยู่ที่ทาร์เก็ต (target)” เรื่องนี้มันแบ่งเป็นสองกลุ่มที่ชอบ และไม่ชอบชัดเจนมากๆ ไม่เหมือนหนังของ GTH ที่ผ่านมาที่คนดูจะโปรดปรานมากกว่า? “กลุ่มคนที่ชอบมากๆ ก็เยอะนะครับ ส่วนฝั่งที่ไม่ค่อยชอบผมว่า น่าจะเป็นพวกชาวบ้านมากกว่า คือจะเป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับการดูหนังแมส (mass) ดูหนังจะต้องบันเทิงมากๆ ไม่ใช่ว่าจะต้องมานั่งคิดนิดหนึ่ง หนังจะต้องไดนามิกตลอดเวลา เดินเรื่องคือรวดเร็ว จะต้องมีซีนที่ให้เขาเอ็นเตอร์เทนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นกลุ่มคนตรงนี้จะไม่ค่อยสมหวังตรงที่ว่า เออ มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด”
ในช่วงของการทำงาน มีการบอก เต๋อ นวพล ผู้กำกับมั้ยว่า ต้องทำอย่างนี้ๆ อย่าทำอย่างนั้นๆ? “อ๋อ ไม่เลยครับ เราถือว่าให้อิสระ เรารู้ว่าเต๋อคือใคร แล้วก็เต๋อทำอะไร เพราะฉะนั้นในเรื่องตัวบทภาพยนตร์หรือสตอรี่ (story) พูดง่ายๆ คือเราไว้ใจเขาเลย ให้เต๋อเป็นคิดเรื่องผูกเรื่อง เรามั่นใจว่าถ้าให้เขาเป็นทางของตัวเขาเอง มันจะออกมาแล้วดีที่สุด มากกว่าที่เราจะไปบอกว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ ซึ่งผมคิดว่าอย่างนี้จะไม่ดี” ให้อิสระเต๋อ นวพล ผู้กำกับในการทำ 100% ไปเลย? “ก็เกือบครับ แน่นอนว่าในความเป็นโปรดิวเซอร์ ก็มีส่วนไปเกี่ยวข้องบ้าง แต่ว่ามันก็คือเต๋อแหละ มันคือตัวตนของเต๋อแหละ”
หนังฟรีแลนซ์ฯ ประสบความสำเร็จแบบนี้จะให้ เต๋อ นวพล ทำหนังต่อไปอีก สักเรื่องสองเรื่อง? “ก็คงต้องคุยกับเขาต่อ ส่วนเขาจะพร้อมเมื่อไหร่อย่างไร ก็ต้องให้เวลาเขานิดหนึ่ง ปีนี้เรามีจะมี 2 เรื่องเข้า 1 ตุลาคม เรื่องเมย์ไหนไฟแรงเฟร่อ ของหมู (ชยนพ บุญประกอบ ผู้กำกับหนัง ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ) ก็เป็นทางของเขา"”
เน้นขำ
วัยโจ๋น่าจะโปรดเรื่องนี้
คู่จิ้นแตก
ไม่ธรรมดากับ ฟรีแลนซ์ฯ โกยรายได้เกินคาด
GTH ไม่เสี่ยงทำหนัง ที่ไม่ถนัดจริงๆ
แฟนๆ GTH อยากจะดูหนังแนวอื่นๆ บ้าง เช่น แอ็กชั่นระห่ำจอ? “หนังแอ็กชั่นเป็นเรื่องของตัวบุคคลค่อนข้างสูง ผมพูดเสมอว่า ถ้าเราไม่มีคนที่โดดเด่นจริงๆ อย่าง จา พนม ความคิดสำหรับผมนะ ถ้าไม่มีอย่างนั้นก็ไม่น่าทำ ถ้าไม่มีนักแสดงที่มีความสามารถรอบตัวขนาดนั้นจริงๆ คือยุคนี้หนังแอ็กชั่นของไทย ไม่ใช่แค่ว่า หาคนหน้าตาดีแล้วก็เอามาบอกว่า คุณต้องเตะอย่างนั้น ต่อยอย่างงี้ อาศัยคิวบู๊และอาศัยหน้าตา ผมว่าไปไม่ได้สำหรับหนังแอ็กชั่น เพราะถ้าทำแบบนั้นหนังฮอลลีวูดทำดีกว่าเยอะแยะ ถ่ายทำดีกว่า ลงทุนสูงกว่าด้วย ฉะนั้นหนังแอ็กชั่นไทยจะอยู่ได้ มันต้องเป็นตัวจริง”
หนังอีโรติก สนใจจะทำออกมาบ้างหรือไม่คะ เหมือนที่หม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ทำแม่เบี้ย? “หนังอีโรติกผมว่าอยู่ที่สตอรี่ (story) ผมว่าถ้าสตอรี่น่าสนใจจริง ถ้าตัวเรื่องมันน่าทำจริงๆ ผมว่าก็ไปได้นะ จริงๆ ทางเราไม่มีรังเกียจหนังแนวหนังเลย เพียงแต่ว่าวัตถุดิบที่จะเอามาทำในแต่ละเรื่อง มันเหมาะหรือเปล่า เรื่องนั้นสตอรี่มันเหมาะมั้ย คอนเซปต์มันดี มันน่าสนใจมั้ยมากกว่า”
ลั่น! ฮอร์โมน 3 ดีพอ ลุย! ทำซีรีส์แซ่บ
ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี จึงทำหนังแค่ 2 เรื่องพอ? “เฮ้ย! ไม่ใช่ จริงๆ ก็อยากจะทำหนังให้ได้ 3 เรื่องเหมือนอย่างที่เคยทำนั่นแหละ แต่ว่าเนื่องจากปีนี้หลายอย่าง และปีนี้เราไปมุ่งซีรีส์ค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับทุกปีก็ถือว่าปีนี้มีซีรีส์มากที่สุด มีเรื่องน้ำตากามเทพ, เพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน, มาลีเพื่อนรักพลังพิสดาร และฮอร์โมน 3 ไฟนอลซีซั่น” ทำไมจึงเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้ว? “ผมว่าเด็กมันโตตามวัย คราวที่แล้วอยู่ ม.5 มันก็ต้องขึ้นมา ม.6” กะจะทำจนเข้ามหาวิทยาลัยเลย? “ก็ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ผมว่ามันอาจจะต้องเป็นอีกสตอรี่หนึ่งไป” จริงๆ แล้ว มีแนวคิดว่าจะทำฮอร์โมนภาคมหาวิทยาลัยมั้ย? “อันนี้ต้องคุยกับคุณย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) ต้องคุยกับเจ้าของโปรเจกต์ แกอาจจะมีก็ได้นะ (หัวเราะ)”
ฮอร์โมนภาคสุดท้ายแล้ว มีหลายคนคาดการณ์ไว้ว่าจะต้องแรงแน่ๆ เพราะเป็นซีซั่นสุดท้าย คุณวิสูตรมีการดูแลควบคุมอย่างไร ไม่ให้แรงจนเลยเถิด? “ไม่ใช่ฮะ ผมว่าคนที่ดูฮอร์โมน 1 ,2 มาจะรู้ฮอร์โมนคืออะไร มันพูดประเด็นอะไร จริงๆ มันก็คือชีวิตจริงของเด็กในยุคปัจจุบัน ที่เอามาถ่ายทอดนำเสนอ” จะมีการเฝ้าระวังควบคุมในเรื่องเนื้อหาอย่างไร ไม่ให้แรงจนเกินไป เพื่อจะไม่เป็นการชี้นำวัยรุ่นให้มากเกินงาม? “จริงๆ คนทำก็รู้อยู่นะ ผมว่าเขาก็มีจุดยืน มีหลักวิธีคิดของเขาว่า ฮอร์โมนมันจะต้องประมาณไหน ผมว่าเขาคุยกันเยอะนะ ทำการบ้านกันเยอะนะ เท่าที่เราอ่านบท ผมว่ามันสนุก มันก็ได้เนื้อหาสาระ มันก็ได้สิ่งที่ต้องการจะบอกครบถ้วน ส่วนมันจะแรงหรือไม่แรง ผมว่าผู้ชมเป็นคนตัดสินมากกว่านะฮะ สำหรับเรามีความรู้สึกว่าดี น่าสนใจ ประเด็นหลายๆ อย่างผมคิดว่ามันดี ถ้าเราติดตามเพื่อความบันเทิง และเพื่อให้ดูแล้วมีอะไรด้วย ผมว่าฮอร์โมนให้ครบ โดยเฉพาะซีซั่นสุดท้ายนี้ ผมว่าให้ครบ”
ค่ายอื่นๆ นิยมซื้อซีรีส์จากเมืองนอก มาทำแบบไทยๆ? “อันนี้ก็ดีนะ อย่างน้อยที่สุดเราได้ความมีเสน่ห์ในการเขียนบทของเขา วิธีการผูกเรื่องแบบมืออาชีพของเขา ผมว่าการซื้อเรื่องจากเมืองนอกมาก็ดีนะ เพียงแต่ว่าการมาแมตช์ (match) กับคนไทยให้ได้กับสตอรี่ไทยเนี่ย บางสิ่งบางอย่างอาจจะต้องดัดแปลง เพราะวัฒนธรรมอะไรบางอย่างอาจจะไม่เหมือนกัน” ทาง GTH ได้ซื้อซีรีส์นอกมาทำบ้างหรือไม่? “ไม่มีครับ อย่างกันตนาไปซื้อ ก็อซซิปเกิร์ล (Gossip Girl) ผมว่าก็เป็นแนวคิดที่ดี” ทาง GTH ไม่มีนโยบาย จะไปซื้อซีรีส์ต่างประเทศมาทำ? “ตอนนี้ยัง”
ซีรีส์กำลังโต? “มันโต ส่วนหนึ่งมาจากช่องดิจิตอลด้วยที่มันบูมมากๆ จะละครหรือซีรีส์ก็ดี มันเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงมากๆ” อยากจะเพิ่มช่องทีวีของ GTH อีกสักช่องมั้ย? “โอ้ (หัวเราะ) เดี๋ยวขอทำช่องนี้ให้ดีที่สุดก่อน (หัวเราะ) GTH ON Air ก็เป็นช่องของเราล้วนๆ อยู่แล้ว” มีแผนจะทำช่อง GTH เพิ่มในอนาคตอีก? “ยังครับ ยังไม่มีแผน”
ร่วมก๊วน มาลีเพื่อนรักพลังพิสดาร
อ้อมกอดอันอบอุ่นเนอะๆ
หล่อวิ้งสวยใส แน่น! ซีรีส์วัยโจ๋ ฮอร์โมน 3 เดอะไฟนอลซีซั่น
หนุ่มน้อยวัยเฟี้ยวจาก Hormones วัยว้าวุ่น Season 3
เทคนิคหนังดังเจ้าพ่อ GTH ฟุ้งเรื่อยระเบิดไอเดีย
ปกติคุณวิสูตรหมั่นหาไอเดีย ให้อาหารสมองอย่างไรบ้างคะ? “ก็ดูหนังเยอะ แล้วก็สังเกตเยอะๆ เป็นคนชอบสังเกต ชอบฟุ้ง เวลาเราเดินไปโรงหนังแล้วเห็นโปสเตอร์หนังฝรั่ง เราก็จะฟุ้งว่าถ้าตั้งเป็นชื่อไทยจะตั้งเป็นชื่ออะไร เราก็เดินไปดูทีละใบ แล้วอิมเมจิน (imagine) สมมติถ้าเป็นเราจะตั้งชื่อว่าอะไร และจะขายอย่างไร มันได้ลับสมองเหมือนได้ฝึก เหมือนมีดลับบ่อยๆ ก็จะคม”
ต้องแวะไปฮอลลีวูดปีละครั้ง เพื่ออัพเดตวงการหนัง? “ไม่ๆ ผมเป็นคนไม่ชอบเดินทาง (ยิ้ม) เป็นคนที่แฮปปี้กับการอยู่บ้าน ได้ดูหนังที่บ้าน หรือไปดูหนังที่โรงหนังผมก็แฮปปี้แล้ว (ยิ้ม) คือถ้ามันจำเป็นต้องไปก็ไปได้ ไม่ได้กลัวการขึ้นเครื่องบิน แต่ถ้าแบบวางแพลนชีวิตว่า โห! ปีนี้ฉันจะต้องไปที่นั่นที่นี้ จะไม่ค่อยเป็นอย่างนั้น”
หนังร่วมทุนกับโจวซิงฉือ ไปถึงไหนแล้ว? “อย่างที่รู้กันแล้ว คือเอาเรื่องคนกอง ไปทำเป็นเดอะมูฟวี่ (โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับ) ตอนนี้ทำอยู่กับโปรเจกต์ของโจวซิงฉือ ก็ดีเวลลอป (develop) ไปเยอะแล้ว โพสเซส (process) ก็ไปเยอะแล้วนะ ทางโจวซิงฉือก็ชอบเรื่องที่เรานำไปเสนอ ผมเข้าใจว่ากระบวนการนำเรื่องเข้าไปฉายที่เมืองจีน ขั้นตอนมันค่อนข้างยุ่งยาก เพราะว่ามันมีขั้นตอนของการไปเซ็นเซอร์ หรืออะไรหลายๆ อย่าง ทำให้ตอนนี้เหมือนกับว่า ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าขั้นตอนไปถึงไหน” พระเอกนางเอกสรุปแล้วใครเล่น? “เรากะใช้ดาราจีนหมด ไม่มีดาราไทย คือเป็นหนังพูดภาษาจีน” เงินลงทุนที่ทุ่มไป? “ยังไม่สรุปเลยครับ ผมว่าอย่างต่ำนะ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผมเดานะ”
โอกาสหนังไทยไปชิงชัยออสการ์
สูงสุดของนักเตะก็คือชนะฟุตบอลโลก สูงสุดของนักกีฬาก็คือเหรียญทองโอลิมปิก สูงสุดของวงการหนังก็คือการได้รางวัลออสการ์...ปีนี้จะคัดเลือกหนังไทยไปออสการ์อย่างไร? “ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า ตามกฎที่เอาหนังไปชิงออสการ์ ปกติถ้าได้ เบสต์ พิจเจอร์ (Best Picture) ของสมาพ