ศึกษา เรียนรู้ อิสลาม (เพื่อความเข้าใจสำหรับชาวต่างศาสนิกมากขึ้น) ตอน 4

กระทู้สนทนา
หลังจากที่ได้กล่าวถึงเรื่องหลักการศรัทธาพื้นฐานทั้ง 6 ประการ การมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า อัลกุรอาน และซุนนะห์นบี
ในตอนนี้จึงขอนำเสนอเสาหลักทั้ง 5 ประการของศาสนาอิสลามครับ หรืออาจเรียกว่า หลักปฏิบัติ 5 นั่นเอง
ดังที่ได้มีกล่าวไว้ในส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน ซูเราะห์อัลมุอฺมินูน(บท:ผู้ศรัทธา) เช่นในเรื่องของการดำรงละหมาด การจ่ายซะกาต ดังนี้ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เสาหลักทั้งห้าของศาสนาอิสลามถือเป็นโครงสร้างชีวิตของชาวมุสลิม เสาหลักเหล่านั้นถือเป็นการปฏิญาณตนในเรื่องความศรัทธา การละหมาด การให้ ซะกาต (ช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้) การถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน และการไปแสวงบุญยังนครเมกกะห์สักครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับผู้ที่สามารถทำได้. ดังรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้ครับ

๑. การปฏิญาณตน เป็นการประกาศตนยอมรับด้วยความศรัทธาและความบริสุทธิ์ใจว่า อัลเลาะฮ์(ซ.บ)เป็นพระเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียวเท่านั้น และยอมรับว่าท่านนบีมุฮัมมัด(ซ.ล.)เป็นศาสนทูตของพระเจ้า

๒. การละหมาด เป็นการนมัสการพระเจ้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยปฏิบัติวันละ ๕ เวลา
ซึ่งแต่ละเวลาก็จะมีชื่อเรียกต่างกันไปครับ ได้แก่
      เวลาย่ำรุ่ง เรียกว่า ละหมาด ซุบหฺ (มี 2 ร็อกอัต)
      เวลาเที่ยงวัน เรียกว่า ละหมาด ดุฮฺริอฺ (มี 4 ร็อกอัต)
      เวลาเย็น เรียกว่า ละหมาด อัสริ (มี 4 ร็อกอัต)
      เวลาพลบค่ำ เรียกว่า ละหมาด มัฆริบ (มี 3 ร็อกอัต)
      เวลากลางคืน เรียกว่า ละหมาด อิชาอ์ (มี 4 ร็อกอัต)
ซึ่งปกติแล้วจะดูการเข้าหรือหมดเวลาละหมาดตามปฏิทินเวลาละหมาด(ปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม)
หรือสามารถเสริชจาก google ตามเว็ปไซต์ต่างๆ http://www.muslimthai.com/services/falak_ipt/
โดยการละหมาดนั้น จะหันไปทางกิบละห์ซึ่งเป็นที่ตั้งของอัลกะอฺบะห์(ณ นครมักกะฮฺประเทศซาอุดิอารเบีย)เป็นจุดศูนย์กลาง สำหรับประเทศไทยคือหันไปทางทิศตะวันตก ตัวอย่างวิธีการละหมาดมีดังนี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=QsGEWn21mL8
ซึ่งอาจมีรายละเอียด(ทัศนะ)ของนักวิชาการอิสลามแต่ละท่านที่แตกต่างกันบ้างในคำอ่านหรือแต่ละอิริยาบถ ที่สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้
สำหรับคุณประโยชน์ที่แฝงเร้นไว้จากบทบัญญัติการละหมาดหรือประโยชน์ในเชิงสุขภาพต่างๆที่นักวิทยาศาสตร์มีการค้นพบ
ก็สามารถศึกษาตามเว็ปไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้เช่นกันครับ
- https://plusyourlife.wordpress.com/
- http://ansorimas200.blogspot.com/2014/09/blog-post.html


๓. การถือศีลอด เป็นการงดการบริโภคอาหาร เครื่องดืม และการมีเพศสัมพันธ์(ระหว่างสามีภรรยา) รวมทั้งพยายามยับยั้งตัวเองจากสิ่งไม่ดีงามต่างๆ ตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนถึงตะวันตกดินเป็นเวลา ๑ เดือน ตามกำหนด ซึ่งจะมีในเดือน ๙ เรียกว่า เดือนรอมาฏอน ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งจะมีความดีงามต่างๆที่สนับสนุนให้กระทำในเดือนนี้มากมาย เนื่องด้วยผลตอบแทนอันมากล้นที่พระองค์จะทรงมอบให้สำหรับเดือนนี้เป็นพิเศษ เช่น การซิเกร(รำลึก) การขออภัยโทษต่อพระองค์ การอ่านอัลกุรอาน การเลี้ยงอาหารละศีลอดให้แก่ผู้ถือบวช การละหมาดยามค่ำคืนร่วมกันที่เรียกว่า การละหมาดตะรอเวียะฮฺ เป็นต้น การถือศีลอดนี้เป็นการฝึกฝนร่างกาย และจิตใจให้มีความยำเกรง อดทน รวมทั้งประโยชน์ในเชิงสังคม สุขภาพ อื่นๆ
- https://www.gotoknow.org/posts/383103
- https://www.youtube.com/watch?v=kyCL3EVPu9E

ตัวอย่างหลักฐานจากอัลกุรอานที่บัญญัติถึงการถือศีลอด
คำตรัสของอัลลอฮฺตะอาลา ในซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 183
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ  كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
ความว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย การถือศีลอดได้ถูกบัญญัติขึ้นแก่พวกเจ้า ดังเช่นที่ได้เคยถูกบัญญัติแก่ประชาชาติก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้ว เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง" (2/183)

และคำตรัสของพระองค์ในซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺในอายะฮฺที่ 184
وَأَن تَصُومُواْ خَيْرٌ لَّكُمْ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ
ความว่า “และการถือศีลอดของพวกเจ้าเป็นการดียิ่งแก่พวกเจ้าหากพวกเจ้ารู้” (2:184)

ตัวอย่างหลักฐานจากซุนนะห์
ท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวไว้ว่า
إِذَا جَاءَ رَمَضَانُ فُتِّحَتْ أَبْوَابُ الْجَنَّة  وَأُغْلِقَتْ أَبْوَابُ النَّارِ وَصُفِّدَتِ الشَّيَاطِيْنُ .
ความว่า : “เมื่อเดือนรอมฎอนมาถึง ประตูต่างๆของสวรรค์จะถูกเปิด ประตูต่างๆของนรกถูกปิด และบรรดาชัยฏอนจะถูกพันธนาการไว้”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺและมุสลิม)

มีรายงานจากอัมรฺ อิบนุลอ๊าศ แจ้งว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
(فصل مابين صيامنا وصيام أهل الكتاب أكلة السحر) رواه مسلم
ความว่า “ข้อแตกต่างระหว่างการถือศีลอดของเรากับการถือศีลอดของพวกอะฮฺลุลกิตาบ(ชาวคัมภีร์อื่น)
คือการกินสะฮูร(ตื่นมาทานก่อนแสงอรุณขึ้น)”  บันทึกโดย : มุสลิม

มีรายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนิลฮาริซ จากชายคนหนึ่งที่เป็นสาวกของท่านนบี  กล่าวว่าฉันได้เข้าไปหาท่านนะบี ในขณะที่ท่านกำลังกินสะฮูรอยู่ ท่านได้กล่าวว่า  إن السحور بركة أعطاكموها الله عزّ وجل فلا تدعوها
ความว่า “แท้จริงสะฮูรนั้นเป็นความจำเริญ (บะร่อกะฮฺ) อัลลอฮฺได้ประทานให้แก่พวกท่านโดยเฉพาะ
ดังนั้นพวกท่านอย่าละเว้นการกินสะฮูร”   บันทึกโดย : อะหมัดและอันนะซาอียฺ

ซึ่งหลังจากถือศีลอดจบครบเดือนรอมฎอนก็จะมีการจ่ายซะกาตฟิตเราะห์ (สำหรับประเทศไทยมักเป็นข้าวสาร คนละประมาณ 2.8 กิโลกรัม) และต่อเนื่องด้วยวันแห่งการเฉลิมฉลองเนื่องจากการทำความดีที่ได้ผ่านมาตลอดช่วงเดือนรอมฏอน เรียกว่าวันตรุษอีดิ้ลฟิฏรี่ หรือวันอีด นับเป็นวันรื่นเริงแห่งอิสลาม จะมีการกล่าวตักบีร https://www.youtube.com/watch?v=iczpfN3WjBc พร้อมกันถ้วนหน้าทั่วทุกมุมโลก มีการละหมาดอีดร่วมกันและคุตบะห์วันอีด(ตัวแทนผู้รู้ทางศาสนาจะให้คำสอนคำตักเตือนต่างๆ) พร้อมขออภัยโทษ(มะอัฟ)กันและกัน รับประทานอาหารร่วมกัน เฉลิมฉลองแสดงความยินดี จัดกิจกรรมต่างๆให้เด็กๆ เป็นต้น

ตัวอย่างภาพบรรยากาศการถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอนในประเทศต่างๆที่น่าสนใจครับ
chinese muslim : https://www.youtube.com/watch?v=o28L7VJVLZU
Korea : https://www.youtube.com/watch?v=rMA37FUPECc
japan : https://www.youtube.com/watch?v=sAbyBOtdwVc
Russia : https://www.youtube.com/watch?v=U-khWPHtCq8
france,Paris : https://www.youtube.com/watch?v=m0Cu3fMxWXM
Istanbul,Turkey : https://www.youtube.com/watch?v=rOcWUzF8a-4
UK,London : https://www.youtube.com/watch?v=Gl-NXk_6CQM
USA : https://www.youtube.com/watch?v=nbjT-oc5iwY
Italy : https://www.youtube.com/watch?v=HHWo6vTU3jI
Germany : https://www.youtube.com/watch?v=vmXIpm1XFI0
Australia : https://www.youtube.com/watch?v=06MFHHphGpY
Spain : https://www.youtube.com/watch?v=p_3wPQ9URi8
Brazil : https://www.youtube.com/watch?v=9T5spSd8zdI
Argentina : https://www.youtube.com/watch?v=_sujzsoe-xA
Denmark : https://www.youtube.com/watch?v=yeO8ohyqmE0
Canada : https://www.youtube.com/watch?v=XLiDRRNi3qw
south africa : https://www.youtube.com/watch?v=NY3P9IFTWBU
morocco : https://www.youtube.com/watch?v=t9QV8HZE6SM
india : https://www.youtube.com/watch?v=JLu94_a7qhk
Palestine : https://www.youtube.com/watch?v=AlCsGMa-6GM
Dubai : https://www.youtube.com/watch?v=h_TBPgnHJ2U
Jordan : https://www.youtube.com/watch?v=ImeQJvvcdTc
Alexandria,Egypt : https://www.youtube.com/watch?v=VBMaaN599Zk
Saudi arabia : https://www.youtube.com/watch?v=FF1bVUE1jpU
Bosnia : https://www.youtube.com/watch?v=Z1ImKNdsU1E
Philippines : https://www.youtube.com/watch?v=2x1QhoqIdGs
Singapore : https://www.youtube.com/watch?v=7QbOSdrCdV8
indonesia : https://www.youtube.com/watch?v=cXWAXYbT6ww
cambodia : https://www.youtube.com/watch?v=EfxSBf_Gz6A
Thai : https://www.youtube.com/watch?v=RABVDo2X7u8


๔. การบริจาคซะกาต เป็นการบริจาคทรัพย์หรือให้ทานแก่คนที่เหมาะสมตามที่ศาสนากำหนด เช่น เด็กกำพร้า คนที่ขัดสน เพื่อเป็นการขัดเกลาจิตใจให้สะอาดลดความเห็นแก่ตัวลง และเป็นการลดช่องว่างในสังคม ซึ่งสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีกำลังทรัพย์ถึงชั้นที่ศาสนากำหนดนั้นโดยทั่วๆไปก็จะมีซะกาตบังคับเพียงซะกาตฟิตเราะห์ ซึ่งเป็นซะกาตที่ให้หลังจากถือศีลอดจบครบเดือนรอมฎอนในทุกๆปีก่อนวันตรุษอีดิ้ลฟิฏรีนั่นเองครับ

๕.การประกอบพิธีฮัจญ์ (สำหรับบุคคลที่มีกำลังทรัพทย์และความสามารถ) เป็นการเดินทางไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย จุดมุ่งหมายเพื่อให้ชาวมุสลิมระลึกถึงพระเจ้า ระลึกถึงประวัติศาสตร์อิสลามจากเหตุการณ์ต่างๆของบรรดานบี (ได้ไปในสถานที่ประวัติศาสตร์จริงนั้นๆ) ได้ขอพรจากพระองค์ในเรื่องต่างๆตามปรารถนา และได้พบปะพี่น้องมุสลิมจากทั่วโลก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตัวอย่างส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับบริเวณสถานที่ที่เราไปประกอบพิธีฮัจญ์ ดังนี้ครับ
- ท่านนบีอิบรอมฮีม(ต้นกำเนิดบิดาร่วมกันของทั้งยิว คริสต์ อิสลาม) มีภรรยาคือ พระนางซาเราะฮฺ  นางซาเราะฮฺไม่สามารถมีบุตรให้ได้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว จึงให้ท่านนบีอิบรอฮีมแต่งกับพระนางฮาญัร ต่อมาพระนางฮายัรได้คลอดลูกออกมา ชื่ออิสมาอีล แต่พระนางนาเซาะห์กลับรู้สึกเริ่มทนไม่ค่อยไหว(ด้วยความหึงหวง) และด้วยพระบัญชาของพระเจ้า ท่านนบีอิบรอฮีมจึงต้องพาพระนางฮาญัรไปยังดินแดนมักกะห์ ซึ่งในขณะนั้นมักกะห์ยังเป็นดินแดนว่างเปล่า ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เป็นเพียงแค่ทุ่งทะเลทรายและภูเขาโล่งๆ ไม่มีต้นไม้ อีกทั้งยังไม่มีตาน้ำ เหตุการณ์ที่นางฮาญัรวิ่งกลับไปกลับมาระหว่างเนินเขาซอฟาและมัรวะห์เพื่อหาน้ำให้ทารกอิสมาอีล  (และสุดท้ายพระองค์จึงทรงให้ตาน้ำซัมซัมพวยพุ่งออกมา) เป็นขั้นตอนหนึ่งของการทำฮัจญ์
- ประวัติศาสตร์ของท่านนบีอิบรอฮีม ที่กำลังจะเชือดพลีท่านนบีอิสมาอีลลูกชายของตนเนื่องด้วยความฝันที่เป็นคำสั่งใช้ดลใจจากพระเจ้า(เพื่อลองทดสอบศรัทธา) ซึ่งท่านนบีอิสมาอีลเองเมื่อรู้เช่นนั้นก็ยอมรับและจะให้พ่อทำตามที่อัลลอฮฺทรงบัญชา ด้วยหากเป็นพระประสงค์ของพระองค์ ท่านนบีอิบรอฮีมจึงพาอิสมาอีลไปยังสถานที่ที่ที่จะเชือดพลี ระหว่างทางชัยฏอนได้มาพยายามชักชวนนบีอิบรอฮีมไม่ให้ปฏิบัติตามที่ท่านฝัน เมื่อท่านนึกถึงอัลลอฮฺขึ้นมาได้ ท่านจึงเอาก้อนหินขว้างมันจนหนีไป และสักครู่ก็กลับมาชักชวนท่านอีก ท่านก็เอาก้อนหินขว้างอีก มันก็หลบหนีไปอีก แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นครั้งที่สาม และท่านก็เอาหินขว้างมันอีก หลังจากนั้นมันก็ไม่กลับมาหลอกลวงนบีอิบรอฮีมอีกต่อไป (การขว้างเสาหินทั้งสามต้น ก็เป็นหนึ่งในการประกอบพิธีฮัจย์) และสุดท้ายท่านนบีอิบรอฮีมให้ท่านนบีอิสมาอีลนอนลง ก่อนจะลงมือเชือด พระองค์จึงกลับทรงมีบัญชามอบสัตว์พลีมาให้ท่านเชือดแทน
- หลังจากนั้นท่านนบีอิบรอฮีม และท่านนบีอิสมาอีลจึงได้ช่วยกันสร้างวิหารกะบะฮฺหลังแรกขึ้นมา
ทั้งนี้ อัลลอฮฺได้แจ้งข่าวดี ผ่านมลาอิกะฮฺที่มาหาท่านนบีอิบรอฮีม(ก่อนเดินทางไปเมืองโซดอมเพื่อหานบีลูฏ)แล้วให้ฝั่งนางซาเราะฮฺก็ได้มีบุตรชื่อ อิสฮาก โดยนบีอิสมาอีล เป็นต้นตระกูลอาหรับ ทางสายนบีมูฮำหมัด ซล. ส่วนท่านนบีอิสฮากเป็นต้นตระกูลของ "อิสรออีล" ลูกหลานของอิสรออีล เรียกว่า "บนีอิสรออีล" และ ถูกเรียกว่าอิสราเอลในปัจจุบัน
- นอกจากนี้ดินแดนมักกะห์ ยังเป็นสถานที่เกิดของท่านศาสดามูฮำหมัด(ซ.ล) เป็นสถานที่แรกของการเผยแพร่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นจุดศูนย์รวมของศาสนาอิสลาม เป็นสถานที่ประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นทิศกิบลัตที่มุสลิมทั่วทุกมุมโลกต้องหันมาเวลาทำการละหมาด ซึ่งประกอบกับในปัจจุบันกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ได้แล้วว่าจุดศูนย์กลางของโลกที่แท้จริงอยู่ที่นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาราเบีย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่