สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ทูกก คน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ขอกรี๊ดดก่อน กระทู้แรกคลอดแล้ว อยากเขียนมานานแล้ว แต่ก็ไม่คดว่าจะมารีวิว การท่องเที่ยวเลย แต่ช่างเหอะ ถ้าเขียนผิดพลาดอะไรไป ต้องกราบขอประทานอภัยอย่างสุดซึ้งด้วยนะค่ะ เอาล่ะ แนะนำตัวก่อน เจ้าของกระทู้มีนามว่าเฟิน ขอแทนตัวเองชื่อนี้ไปเลยละกันเนอะ จะได้ไม่ต้องใช้สรรพนามแทนตัวเองอันแสนยาวว่าเจ้าของกระทู้ มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าคะ
คือเรื่องราวมันเป็นงี้ คือเคยไหมค่ะ เวลาที่เราเจอปัญหาชีวิต ปัญหาสังคม ปัญหาต่างๆมากมาย มารุมเร้า ละแบบมาทีเดียวไม่ได้ค่ะ ชอบทะลักเข้ามายังกับคลื่นยักษ์สึนามิ แล้วเราก็แบบ พอๆ พอกันที ไม่อยากรับรู้หรือแก้ปัญหาอะไรแล้ว มันเหนื่อย มันท้อ มันแบบ อยากจะลืมๆ ลืมๆไปให้หมด ทุกสิ่งทุกอย่าง อยากจะหนีไปเลย นั่นไง คีย์เวิร์ดมาละค่ะ อยากหนีไปเลย ก็หนี

เลย เราก็เลยรับภาระหน้าที่หนีเรียนไป ส่วนอีกคนคือแฟนของเฟินเอง เค้าก็เจอปัญหาที่ทำงานมาเยอะ เราเลยตัดสินใจกัน คุยกัน ละหนีไปเที่ยวหาความสงบสุขซะ พระบิดา กับพระมารดาก็ใจดี มีบุตรอันประเสริฐเหลือเกิน ก็เลยไปเลยลูก ไปแล้วไม่ต้องกลับมานะลูก ขี้เกียจเลี้ยงละลูก เฮ้ยยยย ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านก็อนุญาตให้ไป เราก็เลยหาที่เที่ยวกัน แฟนเสนอมาสองที่ คือเกาะพะงัน กับเขื่อนเชี่ยวหลาน เลือกไม่ยากเลย คือเฟินอยากไปเขื่อนเชี่ยวหลานมานานละ แต่หาคนไปด้วยไม่ได้สักที แต่แล้วฤกษ์งามยามดีก็ประจวบเหมาะเข้ากันได้ดีสุดๆ ทุกอย่างเป็นใจให้ชั้นได้ไปเขื่อนเชี่ยวหลานจนได้ เฟินก็เลยมาอ่านรีวิวในพันทิปนี่แหละ หาสถานที่พัก หาทุกสิ่งทุกอย่าง อ่านจนตาลายเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม และทริปนี่จะเกิดขึ้นในอีก 1 สัปดาห์ แล้วเราก็ได้ที่พักจนได้ ว่างห้องสุดท้าย เราเลือกพักกันที่แพภูตะวันค่ะ
การเดินทางวันแรก เราตื่นเช้ามาก เพราะนั่งรถตู้ทุ่งสง-สุราษฎร์ฯไป นัดกับแพไว้ตอนก่อนเที่ยง ระหว่างทางก็แวะซื้อของกินที่ 7-11 พอถึงสุราษฎร์ เราก็ต้องมาต่อรถตู้ สุราษฏร์-ตาขุน-เขื่อน ซึ่งคิวรถตู้ทั้งสองคิวจะอยู่ ณ สถานที่เดียวกัน นั่นก็คือ ตลาดเกษตร 2 ค่ะ การเดินทางไม่ลำบากเลย แต่อย่าถามว่าปลอดภัยไหม ก็อารมณ์คนขับรถตู้ทั่วไป แต่น่ากลัวกว่านี้เฟินก็นั่งมาแล้ว ห้าๆ เลยหลับได้สบาย ฝันฟินๆถึงสถานที่ในอนาคต
อันนี้เป็นภาพของตลาดเกษตร 2 เดินตรงๆไปสุดทาง จะเป็นคิวรถตู้ไปเขื่อนนะค่ะ พี่มอไซต์รับจ้างใจดีมาก บอกทางให้ด้วยแหละ
***ภาพช่วงก่อนเดินทาง ไปจนถึงเขาสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย เนื่องจากไฟล์กล้องมีปัญหา การ์ดเลยถูกฟอร์แมตท์ไป เฟินยังโศกเศร้าเสียใจอยู่จนถึงตอนนี้เลย ภาพเลย เป็นช่วงครึ่งหลังนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ภาพที่เห็นนี่ถ่ายขากลับทั้งนั้น เอามาขึ้นโชว์ก่อนเลยละกันนะคะ
จากนั้นเราก็นั่งรถตู้มาเรื่อยๆ สรุปแล้วเราถึงท่าเรือเวลาประมาณ 11:45 นาที โดยที่มีพี่พนักงานรอรับอยู่แล้วค่ะ ตะโกนเสียงดังหลังจากเท้าเราเหยียบย่างลงบนพื้นพสุธาท่าเรือเชี่ยวหลานว่า "ภูตะวันทางนี้ค่าาาาาาาา" หน้าผมนี่หันขวับเลยครับ ของก็ไม่ยก ปล่อยให้ชายชาตรีที่มีร่างกายอันยิ่งใหญ่ดุจดั่งทศกัณฑ์จนกระเป่าลงมาเลยครับ ไอเราก็เดินดุ่มๆไป หาพี่เค้า พร้อมกับคนที่นั่งมาในรถตู้คันเดียวกันด้วยอีก 7 คน เอ้า แพเดียวกันนี่หว่า ห้าๆ ก็โลกกลมไป
จากนั้นก็จัดแจงจ่ายเงินที่เหลือให้เรียบร้อย ทางแพภูตะวันก็จะให้ใบเสร็จมา ซึ่งใบเสร็จนี้สำคัญมาก ห้ามทิ้งเลยนะ เพราะพอถึงแพที่พัก เราต้องยื่นใบเสร็จนี้เพื่อเป็นการเช็คอินจ้า (แฟนเฟินก็เกือบเผลอลืมทิ้งไป ห้าๆ ไม่งั้นนะ หนูนี่ร้องไห้เพราะกระดาษใบเดียวเลยครัช แต่ก็ไม่เคยลองนะว่าถ้าทิ้งไปแล้วพี่เค้าจะให้พักหรือต้องต่อรองอะไรยังไง เพราะมาครั้งแรก อิอิ นี่หนูไม่ได้กวนตีนเลยนะ ^^)
บรรยากาศที่ท่าเรือจ้า

น้ำขึ้นมาเลย

นักท่องเที่ยวเดินลุยน้ำมาเลยจ้า

เรือแล่นๆ
จากนั้นเราก็มาขึ้นเรือกัน เพื่อไปที่แพจ้า และอากาศก็เป็นใจมากๆ คือก่อนหน้านี่ฝนตกไง หนักมากเลยด้วยไง เราก็ทำใจไว้แล้วว่า เออ ยังไงก็คงไปพักผ่อนแบบฝนๆละกัน จะได้ไปตามทริปไหมก็ช่าง แต่เราหนีความทุกข์มา ขอให้สงบสุขพอ แต่อากาศดีมาก ยินดีต้อนรับหนูมาก ไม่ร้อนเท่าไหร่ ลมพัดเย็นสบาย เที่ยงกว่าเเล้ว หมอกยังตรึม หนูนี่ก็นึกว่าควันจากอินโดยังไม่หมดไป พี่เค้าก็บอกว่าฝนเพิ่งมาแล้งเอาวันนี้แหละ ที่ท่าเรือน้ำก็ขึ้นเจิ่งนองเลย นั่งเรือไปก็ถ่ายรูปไป โชคดีขาไปถ่ายกับกล้องไอโฟนห้าเอสของแฟนอยู่บ้าง เพราะกลัวน้ำกระเซ็นเข้ากล้อง เลยยังพอมีรูปให้ผู้อ่านได้เชยชม
งานไข่ก็มา เห็นเลยว่าต้องได้กินเมนูไข่ชัวร์ๆ
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แพภูตะวันนี่อยู่ใกล้ท่าเรือละนะ ถ้าเป็นแพอื่นนี่คงนั่งนานกว่านี้ พอถึงที่พักเราก็เช็กอินค่ะ เราพักเรือนไม้งาม นอนกันสองคนฟรุ้งฟริ้ง พักหลังที่ 7 จากทั้งหมดสิบหลัง เดินไกลหน่อย แต่ถือว่าโอเคเลยนะ เพราะว่าบ้านหลังแรกๆนี่ คนต้องเดินผ่านบ่อยไง ไม่ค่อยจะสงบเท่าไหร่ ความรู้สึกแรกที่เห็นแพภูตะวัน บ้านแคปซูลนี่แลดูเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่มาก เพราะลักษณะต่างจากแพอื่นจริงๆ ยอมรับเลยที่เลือกแพนี่เพราะบ้านแคปซูลสวย แต่เราว่าพักเรือนไม่งามสบายกว่าเพราะเป็นเตียง แต่แคปซูลเป็นเบาะ นอนได้หลายคนเลย เป็นห้องพัดลม บรรยากาศสบายๆ ข้อเสียคือบ้านทุกหลังไม่มีห้องน้ำในตัวนะค่ะ เป็นห้องน้ำรวมหมด แต่ห้องน้ำกว้างและสะอาดดี เลยไม่เป็นปัญหาเลย
แพภูตะวันจ้า

ที่นั่งทานข้าวครับผม

บรรยากาศห้องโถง ในแพ อิอิ

ริมทางเดินไปเรือนไม้งามจ้า

แพแคปซูลแปลกตา

แพแคปซูลมองจากเรือนไม้งาม

ทางเดินไปห้องน้ำค่ะ

อันนี้น่าจะเป็นห้องน้ำชาย แต่ว่าน้ำมันขึ้นท่วมไปแล้ว ตอนไปห้องน้ำหญิงเลยรวมร่างเป็นห้องน้ำรวมไปแล้วค่ะ (ลืมถ่ายห้องน้ำรวม)
แต่ว่าห้องน้ำรวมมีที่แพแคปซูลอีกหนึ่งอาคารด้วยนะคะ แต่เฟินขี้เกียจเดินไปถ่ายรูปอ่ะ แหะๆ
จากนั้นเราก็มากินข้าวมื้อแรกกัน เฟินจ่ายแบบทริปมา เดี๋ยวจะชี้แจงด้านล่างเนอะว่ารายละเอียดเป็นไง ราคาเท่าไหร่
อยากบอกว่า กับข้าวมื้อเที่ยงเยอะมากกกกกก คือเฟินกับแฟนเป็นคน-เยอะไง มันเยอะจนกินไม่หมดอ่ะ มื้อเที่ยงก้จะเป็น แกงจืด แกงป่าไก่ ไก่ทอด(อร่อยมากนุ่มมาก) ผัดผักไก่ ข้าวโถนึง คือทั้งหมดนี่ กินกันสองคน โอ้วววแม่เจ้า กินหมดก็ยักษ์แล้วค่ะ
(ภาพโดนการ์ดฟอร์แมตท์ไป อดโชว์ของกินเลย คือมันพีคตรงของกินนี่แหละ T^T)
จากนั้นพอบ่ายโมง เค้าก็จะให้เราขึ้นเรือ ประเดิมการเดินทางเลย นั่งเรือเลย น้องเฟินนั่งหน้าเลย บรรยากาศบอกเลยว่าฟินมากก คือแบบบ่ายๆละไอหมอกตรึม หาที่ไหนได้อ่ะ ใช่ไหมละ นั่งเรือชิวๆกับก๊วนเดิมเลยสนุกสนานเฮฮามาก เฟินกับแฟนนี่นั่งด้วยกัน แต่สมองและสายตาอยู่กันคนละโลกแล้ว ธรรมชาติได้พรากจากเราไปแล้วจริงๆ ว่ะฮ่าๆ น้องคนขับเรือก็ซิ่งซะพี่ไม่ต้องใส่หมวกเลย ไม่งั้นหมวกพี่ปลิวแน่ๆ มือพี่นี่กดชัตเตอร์รัวๆเลยครับ (แล้วทำไมต้องฟอร์แมตช์ภาพครึ่งแรกหนูด้วยอ่ะ บ่นๆยันจบกระทู้นู้นนนน) อารมณ์ฟินนาเล่มากๆ
น้องเค้าพาไปที่กุ้ยหลินเมืองไทย หยุดถ่ายภาพสักพัก หลอกให้เรากินน้ำด้วย น้องบอกว่ารสชาติจะต่างจากน้ำธรรมดาทั่วไปนะ ไอ้เรากับคนในเรื่อก็เชื่อคนง่ายไง ตักมา-ซะเลย แฟนหนูนี่ล้างหน้าเลย แล้วมันก็หันมาหัวเราะ พร้อมกับพูดว่า "นี่-จริงหรอ -ผิวน้ำ ก็มีแต่น้ำมันเครื่องของเรือสิ" เอ้า

ละเพิ่งบอกกู นี่คิดในใจนะ ถ้าเผลอพูดออกไป คนที่-เหมือนเฟินก็คงจะถีบแฟนลงเรือไปพร้อมๆกัน มันน่าถีบตกเรือจริงๆ แต่ชาตินี่กลัวหาผัวไม่ได้ไง เลยเงียบเอาไว้ กว่ามันจะหลงมา หาไม่ได้ง่ายๆเลยนะ ผู้ชายเนี่ย อย่าให้บ่นเรื่องผู้ชาย เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้ดราม่า ว่าแล้วไปดูรูปกันเถอะ หลังจากนี้การ์ดกับกล้องปกติดี ละ อิอิ สบายใจละครับพี่น้องง ครับ
เรือแล่นผ่านเลยไป ชิวๆ

แหงนมองขึ้นไป เจอแต่ยอดเขา ไม่ใช่ยอดของเรา ห้าๆ นี่เล่นมุกอัลไลล

มีเขาอีกมากมายให้เธอได้ชื่นชม

วิวเราก็จะประมาณนี้

มีเรือแล่นผ่านเราไปด้วย

ระหว่างทางเจอต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ เรือ เจอยอดไม้ด้วย เยอะมากๆ

ต้นไม้ก็เจอ นี่ไงเธอ เบิ่งแน
มีต่อๆ มันยาวจนพิมพ์จะครบโควตาี่เค้ากำหนดให้ล่ะ บอกล่ะ ละเอียดจริง ^^ อวยตัวเองงานนี้หนูต้องรีบมา
ปอลิง 1 ภาพทั้งหมดถ่ายจากกล้องไอโฟนห้าเอส ไอโฟนสี่เอส และ canon 600D ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ถ่ายภาพได้ไม่เก่งเท่าไหร่ ใช้โปรแกรม LR แต่งภาพ ได้แบบกากๆ ตามใจฉันมาก เห็นได้จากโทนสีที่แตกต่างกันออกไป หนูพยายามแล้วง่ะ แต่คิดว่าแบบนี้มันสวยกว่า ต้องขอโทษมือโปรกล้องด้วยนะคะ หากดึงเอาประสิทธิภาพของกล้องและโปรแกรมออกมาใช้ได้ไม่หมด แต่จะพยายามเรียนรู้และหัดต่อไปจ้า
ปอลิง 2 สรุปค่าใช้จ่าย
-ค่าทริป 4800
-ค่ารถตู้ทุ่งสง สุราษฎร์ฯ 260
-ค่าอาหารเช้าที่เซเว่น 99
-ค่ารถตู้ เขื่อน 300
-ค่าน้ำเปล่าตอนเดินป่าสองขวด 40
-ค่าเสื้อกันฝนสองตัว 100
-ค่าน้ำ และของกินเล่นระหว่างรอรถ 60
-ค่ารถตู้ เขื่อน 340
-ค่าอาหารร้านยกเข่ง 275
-ค่าตุ๊กๆมาคิวรถตู้ 40
-ค่ารถตู้ทุ่งสง สุราษฎร์ฯ 260
รวมเป็น 6574 หาร 2 เท่ากับ 3287 ต่อคน
ปอลิง 3 เบอร์โทร
-เบอร์โทรแพภูตะวัน 0816069007
-เบอร์โทรรถตู้ ทุ่งสง สุราษฎร์ฯ 0816069739
-เบอร์โทรรถตู้ เขื่อน สุราาฎร์ 0872641493
ปอลิง 4 สนใจ สอบถามเพิ่มเติมหลังไมค์ได้นะจ๊ะ ยินดีจ้า
[CR] มามามา ชวนเธอมาหนีเที่ยว ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน (มีรีวิว แพภูตะวัน ร้านดังในสุราษฎร์ฯ รายละเอียดค่าใช้จ่าย รูปเยอะโคตร)
คือเรื่องราวมันเป็นงี้ คือเคยไหมค่ะ เวลาที่เราเจอปัญหาชีวิต ปัญหาสังคม ปัญหาต่างๆมากมาย มารุมเร้า ละแบบมาทีเดียวไม่ได้ค่ะ ชอบทะลักเข้ามายังกับคลื่นยักษ์สึนามิ แล้วเราก็แบบ พอๆ พอกันที ไม่อยากรับรู้หรือแก้ปัญหาอะไรแล้ว มันเหนื่อย มันท้อ มันแบบ อยากจะลืมๆ ลืมๆไปให้หมด ทุกสิ่งทุกอย่าง อยากจะหนีไปเลย นั่นไง คีย์เวิร์ดมาละค่ะ อยากหนีไปเลย ก็หนี
การเดินทางวันแรก เราตื่นเช้ามาก เพราะนั่งรถตู้ทุ่งสง-สุราษฎร์ฯไป นัดกับแพไว้ตอนก่อนเที่ยง ระหว่างทางก็แวะซื้อของกินที่ 7-11 พอถึงสุราษฎร์ เราก็ต้องมาต่อรถตู้ สุราษฏร์-ตาขุน-เขื่อน ซึ่งคิวรถตู้ทั้งสองคิวจะอยู่ ณ สถานที่เดียวกัน นั่นก็คือ ตลาดเกษตร 2 ค่ะ การเดินทางไม่ลำบากเลย แต่อย่าถามว่าปลอดภัยไหม ก็อารมณ์คนขับรถตู้ทั่วไป แต่น่ากลัวกว่านี้เฟินก็นั่งมาแล้ว ห้าๆ เลยหลับได้สบาย ฝันฟินๆถึงสถานที่ในอนาคต
อันนี้เป็นภาพของตลาดเกษตร 2 เดินตรงๆไปสุดทาง จะเป็นคิวรถตู้ไปเขื่อนนะค่ะ พี่มอไซต์รับจ้างใจดีมาก บอกทางให้ด้วยแหละ
***ภาพช่วงก่อนเดินทาง ไปจนถึงเขาสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย เนื่องจากไฟล์กล้องมีปัญหา การ์ดเลยถูกฟอร์แมตท์ไป เฟินยังโศกเศร้าเสียใจอยู่จนถึงตอนนี้เลย ภาพเลย เป็นช่วงครึ่งหลังนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ภาพที่เห็นนี่ถ่ายขากลับทั้งนั้น เอามาขึ้นโชว์ก่อนเลยละกันนะคะ
จากนั้นเราก็นั่งรถตู้มาเรื่อยๆ สรุปแล้วเราถึงท่าเรือเวลาประมาณ 11:45 นาที โดยที่มีพี่พนักงานรอรับอยู่แล้วค่ะ ตะโกนเสียงดังหลังจากเท้าเราเหยียบย่างลงบนพื้นพสุธาท่าเรือเชี่ยวหลานว่า "ภูตะวันทางนี้ค่าาาาาาาา" หน้าผมนี่หันขวับเลยครับ ของก็ไม่ยก ปล่อยให้ชายชาตรีที่มีร่างกายอันยิ่งใหญ่ดุจดั่งทศกัณฑ์จนกระเป่าลงมาเลยครับ ไอเราก็เดินดุ่มๆไป หาพี่เค้า พร้อมกับคนที่นั่งมาในรถตู้คันเดียวกันด้วยอีก 7 คน เอ้า แพเดียวกันนี่หว่า ห้าๆ ก็โลกกลมไป
จากนั้นก็จัดแจงจ่ายเงินที่เหลือให้เรียบร้อย ทางแพภูตะวันก็จะให้ใบเสร็จมา ซึ่งใบเสร็จนี้สำคัญมาก ห้ามทิ้งเลยนะ เพราะพอถึงแพที่พัก เราต้องยื่นใบเสร็จนี้เพื่อเป็นการเช็คอินจ้า (แฟนเฟินก็เกือบเผลอลืมทิ้งไป ห้าๆ ไม่งั้นนะ หนูนี่ร้องไห้เพราะกระดาษใบเดียวเลยครัช แต่ก็ไม่เคยลองนะว่าถ้าทิ้งไปแล้วพี่เค้าจะให้พักหรือต้องต่อรองอะไรยังไง เพราะมาครั้งแรก อิอิ นี่หนูไม่ได้กวนตีนเลยนะ ^^)
บรรยากาศที่ท่าเรือจ้า
น้ำขึ้นมาเลย
นักท่องเที่ยวเดินลุยน้ำมาเลยจ้า
เรือแล่นๆ
จากนั้นเราก็มาขึ้นเรือกัน เพื่อไปที่แพจ้า และอากาศก็เป็นใจมากๆ คือก่อนหน้านี่ฝนตกไง หนักมากเลยด้วยไง เราก็ทำใจไว้แล้วว่า เออ ยังไงก็คงไปพักผ่อนแบบฝนๆละกัน จะได้ไปตามทริปไหมก็ช่าง แต่เราหนีความทุกข์มา ขอให้สงบสุขพอ แต่อากาศดีมาก ยินดีต้อนรับหนูมาก ไม่ร้อนเท่าไหร่ ลมพัดเย็นสบาย เที่ยงกว่าเเล้ว หมอกยังตรึม หนูนี่ก็นึกว่าควันจากอินโดยังไม่หมดไป พี่เค้าก็บอกว่าฝนเพิ่งมาแล้งเอาวันนี้แหละ ที่ท่าเรือน้ำก็ขึ้นเจิ่งนองเลย นั่งเรือไปก็ถ่ายรูปไป โชคดีขาไปถ่ายกับกล้องไอโฟนห้าเอสของแฟนอยู่บ้าง เพราะกลัวน้ำกระเซ็นเข้ากล้อง เลยยังพอมีรูปให้ผู้อ่านได้เชยชม
งานไข่ก็มา เห็นเลยว่าต้องได้กินเมนูไข่ชัวร์ๆ
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แพภูตะวันนี่อยู่ใกล้ท่าเรือละนะ ถ้าเป็นแพอื่นนี่คงนั่งนานกว่านี้ พอถึงที่พักเราก็เช็กอินค่ะ เราพักเรือนไม้งาม นอนกันสองคนฟรุ้งฟริ้ง พักหลังที่ 7 จากทั้งหมดสิบหลัง เดินไกลหน่อย แต่ถือว่าโอเคเลยนะ เพราะว่าบ้านหลังแรกๆนี่ คนต้องเดินผ่านบ่อยไง ไม่ค่อยจะสงบเท่าไหร่ ความรู้สึกแรกที่เห็นแพภูตะวัน บ้านแคปซูลนี่แลดูเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่มาก เพราะลักษณะต่างจากแพอื่นจริงๆ ยอมรับเลยที่เลือกแพนี่เพราะบ้านแคปซูลสวย แต่เราว่าพักเรือนไม่งามสบายกว่าเพราะเป็นเตียง แต่แคปซูลเป็นเบาะ นอนได้หลายคนเลย เป็นห้องพัดลม บรรยากาศสบายๆ ข้อเสียคือบ้านทุกหลังไม่มีห้องน้ำในตัวนะค่ะ เป็นห้องน้ำรวมหมด แต่ห้องน้ำกว้างและสะอาดดี เลยไม่เป็นปัญหาเลย
แพภูตะวันจ้า
ที่นั่งทานข้าวครับผม
บรรยากาศห้องโถง ในแพ อิอิ
ริมทางเดินไปเรือนไม้งามจ้า
แพแคปซูลแปลกตา
แพแคปซูลมองจากเรือนไม้งาม
ทางเดินไปห้องน้ำค่ะ
อันนี้น่าจะเป็นห้องน้ำชาย แต่ว่าน้ำมันขึ้นท่วมไปแล้ว ตอนไปห้องน้ำหญิงเลยรวมร่างเป็นห้องน้ำรวมไปแล้วค่ะ (ลืมถ่ายห้องน้ำรวม)
แต่ว่าห้องน้ำรวมมีที่แพแคปซูลอีกหนึ่งอาคารด้วยนะคะ แต่เฟินขี้เกียจเดินไปถ่ายรูปอ่ะ แหะๆ
จากนั้นเราก็มากินข้าวมื้อแรกกัน เฟินจ่ายแบบทริปมา เดี๋ยวจะชี้แจงด้านล่างเนอะว่ารายละเอียดเป็นไง ราคาเท่าไหร่
อยากบอกว่า กับข้าวมื้อเที่ยงเยอะมากกกกกก คือเฟินกับแฟนเป็นคน-เยอะไง มันเยอะจนกินไม่หมดอ่ะ มื้อเที่ยงก้จะเป็น แกงจืด แกงป่าไก่ ไก่ทอด(อร่อยมากนุ่มมาก) ผัดผักไก่ ข้าวโถนึง คือทั้งหมดนี่ กินกันสองคน โอ้วววแม่เจ้า กินหมดก็ยักษ์แล้วค่ะ
(ภาพโดนการ์ดฟอร์แมตท์ไป อดโชว์ของกินเลย คือมันพีคตรงของกินนี่แหละ T^T)
จากนั้นพอบ่ายโมง เค้าก็จะให้เราขึ้นเรือ ประเดิมการเดินทางเลย นั่งเรือเลย น้องเฟินนั่งหน้าเลย บรรยากาศบอกเลยว่าฟินมากก คือแบบบ่ายๆละไอหมอกตรึม หาที่ไหนได้อ่ะ ใช่ไหมละ นั่งเรือชิวๆกับก๊วนเดิมเลยสนุกสนานเฮฮามาก เฟินกับแฟนนี่นั่งด้วยกัน แต่สมองและสายตาอยู่กันคนละโลกแล้ว ธรรมชาติได้พรากจากเราไปแล้วจริงๆ ว่ะฮ่าๆ น้องคนขับเรือก็ซิ่งซะพี่ไม่ต้องใส่หมวกเลย ไม่งั้นหมวกพี่ปลิวแน่ๆ มือพี่นี่กดชัตเตอร์รัวๆเลยครับ (แล้วทำไมต้องฟอร์แมตช์ภาพครึ่งแรกหนูด้วยอ่ะ บ่นๆยันจบกระทู้นู้นนนน) อารมณ์ฟินนาเล่มากๆ
น้องเค้าพาไปที่กุ้ยหลินเมืองไทย หยุดถ่ายภาพสักพัก หลอกให้เรากินน้ำด้วย น้องบอกว่ารสชาติจะต่างจากน้ำธรรมดาทั่วไปนะ ไอ้เรากับคนในเรื่อก็เชื่อคนง่ายไง ตักมา-ซะเลย แฟนหนูนี่ล้างหน้าเลย แล้วมันก็หันมาหัวเราะ พร้อมกับพูดว่า "นี่-จริงหรอ -ผิวน้ำ ก็มีแต่น้ำมันเครื่องของเรือสิ" เอ้า
เรือแล่นผ่านเลยไป ชิวๆ
แหงนมองขึ้นไป เจอแต่ยอดเขา ไม่ใช่ยอดของเรา ห้าๆ นี่เล่นมุกอัลไลล
มีเขาอีกมากมายให้เธอได้ชื่นชม
วิวเราก็จะประมาณนี้
มีเรือแล่นผ่านเราไปด้วย
ระหว่างทางเจอต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ เรือ เจอยอดไม้ด้วย เยอะมากๆ
ต้นไม้ก็เจอ นี่ไงเธอ เบิ่งแน
มีต่อๆ มันยาวจนพิมพ์จะครบโควตาี่เค้ากำหนดให้ล่ะ บอกล่ะ ละเอียดจริง ^^ อวยตัวเองงานนี้หนูต้องรีบมา
ปอลิง 1 ภาพทั้งหมดถ่ายจากกล้องไอโฟนห้าเอส ไอโฟนสี่เอส และ canon 600D ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ถ่ายภาพได้ไม่เก่งเท่าไหร่ ใช้โปรแกรม LR แต่งภาพ ได้แบบกากๆ ตามใจฉันมาก เห็นได้จากโทนสีที่แตกต่างกันออกไป หนูพยายามแล้วง่ะ แต่คิดว่าแบบนี้มันสวยกว่า ต้องขอโทษมือโปรกล้องด้วยนะคะ หากดึงเอาประสิทธิภาพของกล้องและโปรแกรมออกมาใช้ได้ไม่หมด แต่จะพยายามเรียนรู้และหัดต่อไปจ้า
ปอลิง 2 สรุปค่าใช้จ่าย
-ค่าทริป 4800
-ค่ารถตู้ทุ่งสง สุราษฎร์ฯ 260
-ค่าอาหารเช้าที่เซเว่น 99
-ค่ารถตู้ เขื่อน 300
-ค่าน้ำเปล่าตอนเดินป่าสองขวด 40
-ค่าเสื้อกันฝนสองตัว 100
-ค่าน้ำ และของกินเล่นระหว่างรอรถ 60
-ค่ารถตู้ เขื่อน 340
-ค่าอาหารร้านยกเข่ง 275
-ค่าตุ๊กๆมาคิวรถตู้ 40
-ค่ารถตู้ทุ่งสง สุราษฎร์ฯ 260
รวมเป็น 6574 หาร 2 เท่ากับ 3287 ต่อคน
ปอลิง 3 เบอร์โทร
-เบอร์โทรแพภูตะวัน 0816069007
-เบอร์โทรรถตู้ ทุ่งสง สุราษฎร์ฯ 0816069739
-เบอร์โทรรถตู้ เขื่อน สุราาฎร์ 0872641493
ปอลิง 4 สนใจ สอบถามเพิ่มเติมหลังไมค์ได้นะจ๊ะ ยินดีจ้า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น