การที่หนังประเภทผู้ถูกกดขี่ หรือผู้ถูกจับมาเป็นหนูทดลองรวมตัวกันลุกขึ้นสู้กับองค์กรใหญ่ มันเป็น concept ที่ค่อนข้างเหมือนกันในหลายๆ เรื่อง เอาชัดๆ เลยที่เห็นเหมือนๆ กัน ก็จะมี The Hunger Game, Divergent, แล้วก็เรื่องนี้ Maze Runner ที่มาแนวคล้ายๆ กัน อยู่ที่ว่าเรื่องไหนจะขยายความออกไปได้สนุกมากกว่ากัน ซึ่งผมว่าแต่ละอันก็มีข้อดีต่างกัน สองเรื่องแรกลอยตัวไปแล้ว The Hunger Game ก็ทำ Mockingjay ออกมาได้ดี Divergent: Insurgent ก็ถือว่าโอเคในระดับนึง แล้วเรื่องนี้ล่ะ
เรื่องราวการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ Maze Runner โธมัส และเพื่อนชาวทุ่งของเขายังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ เช่น การตามหาเบาะแสแห่งความลึกลับและองค์กรที่มีอำนาจในนาม WCKD การผจญภัยครั้งนี้ได้พาพวกเขาไปที่ Scorch พื้นที่ว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยอุปสรรคที่คาดไม่ถึง พวกเขาต้องร่วมทีมกับนักต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ชาวทุ่งได้เข้ายึดอำนาจอันยิ่งใหญ่ของ WCKD และได้พบกับแผนการที่ทำให้ทุกคนถึงกับช็อค
ตอนดูภาคแรกจบ ความน่าสนใจของมันคือคำถามที่ว่า แล้วหนังจะไปต่อยังไง เพราะภาคแรกทำไว้ได้ค่อนข้างดีกับการที่แก๊งค์พระเอกต้องแก้ปริศนาของเขาวงกตให้ได้ คราวนี้พอแก้ได้แล้วจะยังไงต่อล่ะ มาภาคสองหนังเปิดมาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งกันสนุกเลยทีเดียว ภาคนี้จัดฉากแอ็คชั่นมาเต็มมากกว่าภาคที่แล้วที่เน้นวิ่งอย่างเดียว หนังดูโตและ real ขึ้น มีความน่าติดตามมากขึ้น บทพลิกไปได้แบบเดาไม่ออก ไม่ใช่แค่การวิ่งอย่างเดียว ที่สำคัญมันไม่ใช่การเน้นความเก่งขั้นเทพของพระเอกคนเดียวอีกต่อไปแล้วด้วย
ในภาคนี้เราจะได้เห็นฉากสวยๆ ดูสมจริงหลายฉากเลย ฉากที่ผมชอบน่าจะเป็นฉากที่พอพ้นจาก Scorch แล้วมาเจอตึกร้างทั้งเมือง ฉากดูสวยสมจริงมากๆ ทั้งๆ ที่ก็ดูไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมาย แต่ดูมันเจ๋งอย่างบอกไม่ถูก
ภาคนี้ตัวละครไม่ได้มีตัวไหนเด่นเลย แม้กระทั่งตัว โทมัส เองก็ไม่ได้ถือว่าเด่นเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เป็นตัวเดินเรื่องด้วยซ้ำ บท เทรีซ่า ที่ภาคที่แล้วออกมากระชากใจหนุ่มๆ ภาคนี้แทบจะดับไปเลยทีเดียว ดูไม่มีบทบาทและไม่ได้มีความเด่นอะไร แต่คิดว่าภาคต่อไปน่าจะเป็นตัวหลัก เพราะบทส่งท้ายตอนจบมันพาไปเป็นแบบนั้น ซึ่งก็ต้องติดตามกันไป
บทตอนจบทิ้งไว้ให้ติดตามภาคต่อได้ดีเลยล่ะ บิ๊วอารมณ์ให้มันพีคขึ้นเรื่อยๆ และตัดจบ สร้างความอยากดูภาคต่อได้อย่างดี ซึ่งคาดว่าภาคสุดท้ายน่าจะจัดเต็มกันเลยทีเดียว ก็ต้องรอดูกันว่าจะมาแนวไหนเพื่อให้น่าจดจำนะครับ
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] Maze Runner: The Scorch Trails - ตัวบทที่โตขึ้น และน่าติดตามขึ้นกว่าภาคแรก แต่มันก็ยังซ้ำๆ อยู่รึเปล่า
การที่หนังประเภทผู้ถูกกดขี่ หรือผู้ถูกจับมาเป็นหนูทดลองรวมตัวกันลุกขึ้นสู้กับองค์กรใหญ่ มันเป็น concept ที่ค่อนข้างเหมือนกันในหลายๆ เรื่อง เอาชัดๆ เลยที่เห็นเหมือนๆ กัน ก็จะมี The Hunger Game, Divergent, แล้วก็เรื่องนี้ Maze Runner ที่มาแนวคล้ายๆ กัน อยู่ที่ว่าเรื่องไหนจะขยายความออกไปได้สนุกมากกว่ากัน ซึ่งผมว่าแต่ละอันก็มีข้อดีต่างกัน สองเรื่องแรกลอยตัวไปแล้ว The Hunger Game ก็ทำ Mockingjay ออกมาได้ดี Divergent: Insurgent ก็ถือว่าโอเคในระดับนึง แล้วเรื่องนี้ล่ะ
เรื่องราวการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ Maze Runner โธมัส และเพื่อนชาวทุ่งของเขายังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ เช่น การตามหาเบาะแสแห่งความลึกลับและองค์กรที่มีอำนาจในนาม WCKD การผจญภัยครั้งนี้ได้พาพวกเขาไปที่ Scorch พื้นที่ว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยอุปสรรคที่คาดไม่ถึง พวกเขาต้องร่วมทีมกับนักต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ชาวทุ่งได้เข้ายึดอำนาจอันยิ่งใหญ่ของ WCKD และได้พบกับแผนการที่ทำให้ทุกคนถึงกับช็อค
ตอนดูภาคแรกจบ ความน่าสนใจของมันคือคำถามที่ว่า แล้วหนังจะไปต่อยังไง เพราะภาคแรกทำไว้ได้ค่อนข้างดีกับการที่แก๊งค์พระเอกต้องแก้ปริศนาของเขาวงกตให้ได้ คราวนี้พอแก้ได้แล้วจะยังไงต่อล่ะ มาภาคสองหนังเปิดมาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งกันสนุกเลยทีเดียว ภาคนี้จัดฉากแอ็คชั่นมาเต็มมากกว่าภาคที่แล้วที่เน้นวิ่งอย่างเดียว หนังดูโตและ real ขึ้น มีความน่าติดตามมากขึ้น บทพลิกไปได้แบบเดาไม่ออก ไม่ใช่แค่การวิ่งอย่างเดียว ที่สำคัญมันไม่ใช่การเน้นความเก่งขั้นเทพของพระเอกคนเดียวอีกต่อไปแล้วด้วย
ในภาคนี้เราจะได้เห็นฉากสวยๆ ดูสมจริงหลายฉากเลย ฉากที่ผมชอบน่าจะเป็นฉากที่พอพ้นจาก Scorch แล้วมาเจอตึกร้างทั้งเมือง ฉากดูสวยสมจริงมากๆ ทั้งๆ ที่ก็ดูไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมาย แต่ดูมันเจ๋งอย่างบอกไม่ถูก
ภาคนี้ตัวละครไม่ได้มีตัวไหนเด่นเลย แม้กระทั่งตัว โทมัส เองก็ไม่ได้ถือว่าเด่นเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เป็นตัวเดินเรื่องด้วยซ้ำ บท เทรีซ่า ที่ภาคที่แล้วออกมากระชากใจหนุ่มๆ ภาคนี้แทบจะดับไปเลยทีเดียว ดูไม่มีบทบาทและไม่ได้มีความเด่นอะไร แต่คิดว่าภาคต่อไปน่าจะเป็นตัวหลัก เพราะบทส่งท้ายตอนจบมันพาไปเป็นแบบนั้น ซึ่งก็ต้องติดตามกันไป
บทตอนจบทิ้งไว้ให้ติดตามภาคต่อได้ดีเลยล่ะ บิ๊วอารมณ์ให้มันพีคขึ้นเรื่อยๆ และตัดจบ สร้างความอยากดูภาคต่อได้อย่างดี ซึ่งคาดว่าภาคสุดท้ายน่าจะจัดเต็มกันเลยทีเดียว ก็ต้องรอดูกันว่าจะมาแนวไหนเพื่อให้น่าจดจำนะครับ
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้