มหัศจรรย์ดินแดนแห่งเวทมนต์

มหัศจรรย์ดินแดนแห่งเวทมนต์

    `บทที่ 1'


                อาราเลียเนียคือดินแดนแห่งหุบเขาท้องทุ่งที่มีหญ้าเขียวขจีปกคลุมไปทั่ว เป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิดที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกต่าง สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในดินแดนอาราเลียเนีย พืชพันธุ์เหล่านี้ออกดอกออกผลให้ชาวเมืองได้เก็บเกี่ยวกลับไปกินได้อย่างไม่มีวันหมดสิ้น ไม่ว่าจะต้นแอปเปิลจากยุโรปที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ออกผลสีแดงสีเขียวตลอดทั้งปี มะม่วงหลายพันธุ์ที่ได้มาจากเอเชีย กล้วย แตงโม ผลกีวี เมลอน ส้ม องุ่น สตอเบอรี่และอีกหลากหลายมากมายเกินบรรยาย ให้ฟังหมดเอาเป็นว่าเมืองอาราเลียเนียขึ้นชื่อว่าเมืองแห่งผลไม้ที่น่ารับประทานที่สุดในไซตรัซทาเฟียเนีย

ไซตรัซทาเฟียเนียคืออาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อีกอาณาจักรหนึ่งในโลกแห่งเวทมนต์สมัยเก่าที่พยายามจะกลมกลืนให้เข้ากับยุคสมัยใหม่แบบลงตัว ไซตรัซทาเฟียเนียมีเจ้าขนกฟ้าปานทองเป็นผู้ปกครองเมือง ครอบคลุมเมืองทั้งสี่ประกอบไปด้วย เมืองนาเมียเซียเป็นเมืองที่ถูกปกคุลมไปด้วยหิมะตลอดทั่วทุกพื้นที่อยู่ใกล้กับเมืองอาราเลียเนียซึ่งเป็นเมืองที่ทำการขายค้ากันมาอย่างยาวนาน และถือว่าเป็นเมืองพี่เมืองน้องที่รักใคร่ปรองดองกันเป็นอย่างดี

เมืองทาเมียราเนีย เป็นเมืองที่ถูกทะเลล้อมรอบอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเล และเมืองสุดท้ายไซตรัซทาเฟียเนียเมืองหลวงที่มีทุกสรรพสิ่งที่เราต้องการ และเป็นเมืองที่สามารถเดินทางไปยังโลกที่ไม่มีเวทมนต์ได้อย่างถูกต้อง คือไม่ผิดกฎหมายตามกฎบ้านกฎเมือง

แต่อย่าได้สนใจหรือใส่ใจเมืองต่างๆเหล่านี้มากนักจะไม่เอ่ยถึงเรื่องราววุ่นวายของการบ้านการเมืองหรือพวกผู้ใหญ่ที่ชอบทำตัวมีปัญหากับเด็กน้อยอย่างมามาร่า หรืออาจจะเรียกอีกอย่างว่า    มามาร่าเนี่ยล่ะที่ชอบทำตัวมีปัญหากับผู้ใหญ่

มามาร่าเป็นแม่มดน้อยที่เติบโตในดินแดนที่เรียกกันว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนหรือบ้านนอกอย่างที่คนในเมืองชอบเรียกกัน และออกจะล้าสมัยไปหน่อยอย่างอาราเลียเนีย มีการชีวิตอย่างมนุษย์ หรือพวกพ่อมดแม่มดที่อยากทำตัวเป็นมนุษย์ให้ปกติที่สุด เท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้

“ผลแอปเปิล ดอกทิวลิปและโลกสวนแมลงสวยจงเปลี่ยนใบไม้แห้งนี้เป็นตุ๊กตาหมี….วู้วู้”

เด็กหญิงตัวน้อยใบหน้ากลมคล้ายลูกซาลาเปาสองลูกมาประกบกัน ใบหน้าเปื้อนโคลนทั้งสองแก้ม ผมหยิกฟูสีแดงเพลิงตกมาปิดใบหน้าของเธอไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งก็ยังเผยให้เห็นใบหน้าที่บูดบึ้งเมื่อคาถาที่พี่ชายของเธอสอนมามันใช้ไม่ได้ผล

“น้องร่ายคาถาผิดนะจ้ะมามาร่าน้องรัก”
  
ซามากัสพี่ชายใหญ่ของมามาร่า ซึ่งเขากำลังปืนป่ายเก็บผลแอปเปิล และคอยแอบดูน้องสาวตัวน้อยของตัวเองอยู่ไม่ห่างพูด

“พี่ลงมาช่วยน้องซิ อยากได้ตุ๊กตา ทำไมพี่มากัสไม่ใช้คาถาเก็บผลแอปเปิลล่ะ พี่จะปีนให้เหนื่อยทำไม ถ้ามามาร่าใช้คาถาเก่งเหมือนพวกพี่ๆนะ มามาร่าจะใช้ให้มันทำทุกอย่างเลย”

น้องสาวตัวน้อยที่นั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิลเงยหน้าตะโกนพูดกับพี่ชายด้วยใบหน้าบูดบึ้ง และเริ่มจะงอนพี่ที่ไม่ยอมลงเสกตุ๊กตาให้เธอเสียที

“มามาร่ารับนะ” ซามากัสโยนผลแอปเปิลสีแดงสดลงมา “และอีกลูก” ซามากัสยังโยนลงมาอย่างต่อเนื่อง

“น้องต้องรับผลแอปเปิลอย่าให้หลุดมือนะเดี๋ยวมันซ้ำ พี่กะว่าจะเอาไปฝากป้าจานีด้วย”

“มามาร่ารับไม่พลาดหรอก พี่ซามากัสโยนให้ดีแล้วกัน”
  
มามาร่าวิ่งกระโดดรับผลแอปเปิลอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะดังสะท้อนก้องทั่วสวนผลไม้แม้จะตัวเล็กและมือเล็กๆก็รับไม่พลาดเลยซักลูก

“ได้เยอะหรือยัง”  

ซามากัสตะโกนถามน้องสาวโดยไม่ได้หันมาดู เพราะมัวแต่จ้องมองเจ้ากระรอกน้อยที่จะแอบมาขโมยแอปเปิลลูกที่อยู่ปลายสุดของต้น

“เกินคำว่าเยอะแล้วล่ะค่ะพี่ซามากัส มันล้นตะกร้าแล้ว” มามาร่าได้แต่ยืนเอามือเท้าสะเอวตัวเองเหมือนจะเริ่มไม่พอใจที่ตะกร้าใหญ่ไม่พอสำหรับใส่แอปเปิลซะแล้ว

“ถ้าจะล้นจริงๆด้วย”  

ซามากัสกระโดดลงจากต้นแอปเปิลมายืนอยู่ข้างน้องสาว ซามากัสเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าตกกระเล็กน้อยมีแววตาที่สดใส และใบหน้าที่เหมือนกำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลามองโดยรวมเป็นคนที่หล่อเหลาเอาการ เป็นชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในอาราเลียเนีย จึงเป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคน

                อีกสองเดือนซามากัสจะอายุครบสิบแปดปีเต็มนั่น หมายถึงซามากัสสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรอการอนุญาตจากผู้ปกครอง รวมไปถึงการเดินข้ามไปยังโลกมนุษย์ที่ไร้เวทมนต์ และนี่เป็นสิ่งที่ซามากัสรอคอยมาตลอด

“พี่ทำให้ตะกร้าใหญ่กว่านี้ได้ไหมคะ”   มามาร่าเงยหน้ามองพี่ชาย เธอสูงแค่ช่วงขาของพี่ชายเท่านั่นเอง

ซามากัสล้วงมือหยิบบางอย่างในกระเป๋ากางเกงออกมามันเป็นกริชที่ทำจากกระดูดของ*ไวเวิร์น ซามากัสถอดกริชออกจากปลอก แล้วชี้กริชไปที่ตะกร้าพลางกับร่ายคาถา

“ชู พี ซาการัส”  ตะกร้าค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น สามารถรองรับผลแอ๊ปเปิ้ลได้ทุกลูก

“เย้ๆ พี่มากัสเก่งจังเลย  มามาร่าอยากทำได้บ้าง ขอลองบ้างซิ” มามาร่าดึงกริชมาจากพี่แล้วชี้ไปที่ตะกร้าทันที

“เดี๋ยวๆ ไม่เอาตะกร้าที่ใหญ่กว่านี้แล้วนะ ทำไมไม่เอาตุ๊กตา ไม่อยากได้แล้วหรือ”

ซามากัสหยุดน้องไว้ก่อน ก่อนที่จะได้แบกตะกร้าใบใหญ่กลับบ้าน ซามากัสจูงมือน้องสาวมานั่งพิงต้นแอปเปิลและจับมามาร่านั่งบนตักตัวเอง

“การที่จะร่ายคาถาเสกสิ่งของ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิกับสิ่งที่เราต้องทำด้วยนะ น้องเข้าใจข้อนี้ไหม”  ซามากัสก้มมองน้องสาวตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตัก

“เข้าใจค่ะ” มามาร่าพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

“และที่สำคัญเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้คาถาทุกอย่างอะไรที่เรายังพอทำได้เราต้องทำเอง ไม่งั้นคงกลายเป็นพ่อมดแม่มดที่หลงคาถาไปเลยล่ะ เห็นไหมพี่ยังปืนเก็บผลแอปเปิลเองเลย”

“พ่อมดแม่มดหลงคาถานี่เป็นแบบไหนหรือคะ มามาร่าไม่เห็นเข้าให้เลยค่ะ”  เธอเงยหน้ามองพี่ชายด้วยใบหน้างงๆ

“ก็จะกลายเป็นพ่อมดที่ใช้คาถาไม่หยุดหย่อน และก็มีโอกาสที่มนต์ดำของคาถาจะครอบงำได้ง่ายๆไงจ้ะ” ซามากัสลูบผมน้องสาว

“น่ากลัวนะคะ แล้วจะกลายเป็นพ่อมดดำใช่ไม่คะ”

มามาร่าตัวสั่นเมื่อนึกถึงพ่อมดดำที่มีแต่ความโหดร้ายหน้าตาน่าเกลียด ชอบจับเด็กเล็กๆไปต้มกินเป็นยาบำรุงร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องเล่าที่ผู้ใหญ่ หลายบ้านต่างถ่ายทอดให้ลูกๆหลานๆของตัวเองฟัง

“ก็คงจะประมาณนั้นล่ะ”  ซามากัสตอบน้อง

“งั้น..มามาร่าไม่ร่ายคาถาเสกตุ๊กตาหมีแล้วล่ะค่ะ มามาร่ากลัวจะกลายเป็นแม่มดดำ”  มามาร่าเอาหน้าตัวเองซุกไปที่อกของพี่ชาย

“มันไม่ได้เป็นง่ายขนาดนั้นหรอกนะ บางคนใช้มากแค่ไหนก็ไม่เป็น มันอยู่ที่พื้นฐานจิตใจเราด้วย พี่เชื่อว่าน้องสาวพี่ไม่มีทางเป็นแม่มดดำหรอก  จะลองหน่อยไหม”  ซามากัสยื่นกริชให้น้องสาว

“เห็นใบไม้แห้งที่อยู่ตรงหน้านั้นไหม”  ซามากัสชี้ไปที่ใบแอ๊ปเปิ้ลแห้งซึ่งกองอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง

“ทำตามที่พี่บอกนะ”

มามาร่าค่อยๆขยับตัวหันหน้ามองกองใบไม้ มือจับกริชไว้มั่น แววตากล้าๆกลัวๆแต่ก็แฝงไปด้วยความตื่นเต้น ที่จะได้ร่ายคาถาเธอใช้มือปัดปอยผมสีแดงเพลิงที่บังหน้าให้พ้นออกไปเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น

“มามาร่าพร้อมแล้วค่ะ” เธอบอกพี่ชาย

“อยากได้ตุ๊กตาหมีใช่ไหม น้องต้องตั้งจิตตัวเองให้แน่วแน่กับสิ่งที่ตัวเองคิดอยากได้ หรืออยากให้มันเป็นในสิ่งที่น้องอยากได้  และอย่าลืมที่จะใช้สายตามองใบไม้ล่ะ เอาล่ะแล้วค่อยๆพูด ใบไม้สายลม และโลกแสนสวย จงเปลี่ยนใบไม้นี้เป็นตุ๊กตาหมี เซนเทีย

มามาร่าตั้งมั่นวางท่าจะร่ายคาถาพี่ชายเพิ่งสอนมามือที่จับกริชไว้ชี้ตรงไปที่ไม้ใบ

“เอ๊ะๆ ย่ะโว้ย มามาร่าจะร่ายคาถาหรือเนี่ย ไหนๆแสดงฝีมือให้ดูหน่อยซิว่าทำได้แค่ไหนแล้ว คราวนี้จะเสกอะไรล่ะ”

                เสียงตะโกนอย่างตื่นเต้นแกมหยอกล้อที่ดังมาจากด้านหลังของคนทั้งสอง  จาโต้พี่ชายอีกคนของมามาร่าเดินมาหยุดอยู่ข้างๆตะกร้าแอปเปิล

จาโต้เป็นคนที่รูปร่างค่อนไปทางอวบใบหน้าจ้ำม่ำสูงกว่ามามาร่านิดเดียว เป็นพี่ชายคนรองที่ห่างจากมามาร่าเพียงปีเดียวอีกสามวันจะเป็นวันเกิดครบสิบเอ็ดปีของจาโต้ และจะเป็นปีที่จาโต้จะได้เข้าเรียนโรงเรียนประถมเวทมนตร์ศาสตร์แห่งอาราเนียเลีย

จาโต้สวมใส่ชุดบอลทีมโปรดสีส้มสดและหมวกแก๊ปสี้น้ำตาลมีรูปแมวสีฟ้าอยู่ตรงกลางหมวก เขาก้มลงไปหยิบลูกแอ๊ปเปิ้ลมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย

“หนาย  เริ่ม ..เลยสาวน้อย” จาโต้พูดอู้อี้เพราะเคี้ยวแอปเปิลไปด้วย

มามาร่าเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับร่ายคาถาอย่างตั้งใจ

“ใบไม้สายลมและโลกแสนสวยจงเปลี่ยนใบไม้นี้เป็นตุ๊กตาหมี เซนเทีย”
มามาร่าเปล่งเสียงดังร่ายคาถา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างยังเหมือนเดิม

“เซนเทีย เซนเทีย เปลี่ยนซิ เปลี่ยนเดี๋ยวนี้นะ” มามาร่าสะบัดกริชในมือไปมาอย่างหงุดหงิดเมื่อคาถาที่ร่ายออกมาไม่ได้ผล

“ไม่ผ่าน ไม่ไหว แย่หนักหนาแม่มดน้อยมามาร่า”  จาโต้ยืนส่ายหน้าไปมา ปากยังพูดและยังคงกัดกินแอปเปิลไปเรื่อย

“น้องพูดผิดนะ มามาร่าต้องเว้นวรรคตรง และโลกแสนสวย และเว้นวรรคอีกทีตรงจงเปลี่ยนใบไม้นี้เป็นตุ๊กตาหมี ก่อนจะพูว่าเซนเทียต้องค่อยสะบัดกริชเบาๆไม่ใช่แรงแบบนี้  มานี่พี่จะลองทำให้ดู”

“ใบไม้สายลม และโลกแสนสวย จงเปลี่ยนใบไม้นี้เป็นตุ๊กตาหมี เซนเทีย”  เศษใบไม้แห้งที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆกลายเป็นตุ๊กตาหมีตัวน้อยสีฟ้า

                 มามาร่ากระโดดลุกขึ้นตบมืออย่างดีใจรีบวิ่งไปหยิบตุ๊กตาหมีสีฟ้าขึ้นมากอดไว้แนบอก  และไม่ลืมที่จะหันไปเลิกคิ้วใส่จาโต้ซึ่งมีแววตาตื่นเต้นไม่แพ้น้องสาว  แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจเท่าไรนัก

                จาโต้ก็เป็นเด็กอีกคนที่เพิ่งจะเริ่มหัดเรียนการใช้คาถาก่อนที่จะเข้าโรงเรียน และจาโต้อยากที่จะเรียนรู้คาถาต่างๆจากซามากัส เกือบจะทุกวันที่สองพี่น้องจะแอบหนี มามาร่ามาเรียนคาถากันสองคนแต่วันนี้จาโต้อยากจะโชว์วิชาที่เรียนมาไปอวดเพื่อนๆจึงนัดเพื่อนอีกหลายคนไปประลองเวทกัน

การประลองเวทเป็นการแข่งขันชนิดหนึ่งของเหล่าพ่อมดแม่มด  เป็นการแสดงพลังเวทว่าใครมีความเหนือชั้นกว่ากัน ใครใช้พลังเวทได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ หรือแม้แต่เป็นการต่อสู้เพื่อความสนุกสนานก่อเกิดการพนันขันต่อ  การประลองเวทสามารถจัดขึ้นได้ทุกเวลาและได้ทุกที่เพื่อความสนุกสนาน  และเป็นการสร้างความสามัคคี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่