สวัสดีครับ ตามปกติ ผมเองก็ชอบมาแอบส่องกระทู้รีวิวร้านอาหารของคนอื่นอยู่นานแล้ว
เคยไปชิมตามร้านที่แนะนำอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็มีทั้งที่ถูกปากบ้างไม่ถูกปากบ้างคละเคล้ากันไป
ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติครับ เรื่องกินเนี่ย มันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม และรสชาติที่ถูกลิ้นแต่ละคนด้วย
ส่วนตัวผมเอง พอเริ่มเบื่อร้านอาหารตามศูนย์การค้าเมื่อไหร่ ก็จะออกไปเสาะแสวงหาร้านอาหารใหม่ๆ ลองชิมดูบ้าง
และหลายครั้งเลยที่ตัดสินใจ ลองเลือกนั่งร้านที่ไปเจอเข้าโดยบังเอิญ ประมาณว่า ขับรถผ่าน พอเหลือบเห็นแว๊บแรก
ถ้าบรรยากาศถูกใจก็จะลองแวะดู ส่วนรสชาติอาหารจะอร่อยหรือไม่ ก็ต้องไปลุ้นกันอีกที และหลังจากที่ไปลองมาหลายร้าน
ก็เลยอยากลองทำรีวิวดูบ้าง
สำหรับร้านแรกที่ผมเลือกนำมารีวิว ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่บังเอิญไปเจอเข้าเหมือนกันครับ เผอิญว่า วันนั้นมีธุระไปแถวๆ เสาชิงช้าจนถึงช่วงเย็นๆ
และกำลังหิวอยู่พอดี ตอนที่เดินกลับมาเอารถ สายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อร้าน “Swayday” ที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมศรีกรุงเทพ มองๆ ดู
เห็นบรรยากาศเข้าท่า คิดว่าคงจะพอฝากท้องมื้อเย็นไว้กับร้านนี้ได้
ป้ายร้านเด่น มองเห็นแต่ไกล
ร้านเป็นสไตล์ผับแอนด์เรสทัวรองท์นี่แหละครับ ส่วนตัวถือว่า บรรยากาศผ่าน ทีนี้ไปลุ้นเรื่องความอร่อยของเมนูอาหารกัน
พอเข้ามาในร้าน น้องพนักงานก็ออกมาต้อนรับ แต่ตอนนั้นชั้น 1 โต๊ะจองเต็มหมดแล้ว แต่มีโต๊ะว่างบนชั้น 2
ไม่ซีเรียสครับ ชั้น 2 ก็น่าจะชิลและเป็นส่วนตัวดี
บรรยากาศของชั้น 1 ตกแต่งด้วยบรรยากาศที่ดูเป็นกันเอง มีพื้นที่ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor แล้วแต่จะเลือกตามอัธยาศัย
นี่คือ ภายนอก (ขออภัยด้วยที่ถ่ายรูปไม่สวยครับ)
ป้ายบอร์ดติดแบช เก๋ๆ หน้าร้าน
ส่วนภายในร้านชั้นล่าง ก็ดูเป็นกันเองดีครับ
ช่วงค่ำแบบนี้ จะมีวงดนตรีสดด้วย ถ้าใครนั่งตรงชั้นหนึ่งด้านใน ก็จะได้ใกล้ชิดกับนักร้องพอสมควร
(นักดนตรีมีมารยาทมาก เป็นหวัดก็ใส่ผ้าปิดปาก จะได้ไม่จามใส่อาหารลูกค้า อิอิ)
พอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง จะมีลักษณะเหมือนดาดฟ้าอาคารที่เปิดโล่งรับลม มีที่นั่งทั้งแบบโซฟาและโต๊ะคู่ให้เลือกครับ
ผมก็เลยเลือกนั่งตรงมุมนี้เลย จะได้นั่งรับลมเย็นสบายๆ และมองวิวข้างล่างด้วย
หลังจากได้ที่นั่งที่ถูกใจแล้ว ก็มองหาเมนู ก่อนจะสั่งเบียร์มาประเดิม พร้อมลองสั่งอาหารจานเบาๆ มาสักจานสองจาน เรียกน้ำย่อยก่อน
พอถามพนักงานว่า มีเมนูไหนแนะนำบ้าง ก็ได้ความว่าเมนู หมูสเวย์เดย์ เป็น 1 ในเมนูจานเด็ดต้องลองของที่นี่
(ตามปกติ ผมเองก็ชอบสั่งเมนูที่มีชื่อร้านห้อยท้ายอยู่แล้ว ไม่งั้นเค้าคงไม่กล้าเอาชื่อร้านมาการันตี จริงไหมครับ)
ส่วนอีกจาน ลองสั่ง ยำเฟรนซ์ฟรายเบคอนทอด เพราะเห็นว่าชื่อเมนูมันแปลกดี
เบียร์เสิร์ฟในแก้วแช่เย็นเจี๊ยบ ได้จิบเบียร์เย็นๆ แบบนี้ มันสุโค่ยจริงๆ
นั่งเพลินๆ แป๊บเดียว อาหารจานแรกก็ถูกนำมาวางครับ แหม่ หน้าตาดีเชียว
“หมูสเวย์เดย์” หมูทอดรสเข้มข้นแต่ไม่เผ็ดจัดจ้านจนเกินไป เนื้อหมูที่คลุกเคล้าเครื่องเทศหลายๆ อย่างจนเดาไม่ออกว่ามีเครื่องเทศอะไรผสมอยู่บ้าง
แถมในจานยังมีแผ่นเกี๊ยวกรอบมาเป็นเครื่องเคียง พอลองทานหมูและเกี๊ยวไปพร้อมๆ กัน บอกเลยว่า เข้ากันมากๆ ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่จะสั่งมา
ทานเล่นเป็นกับแกล้มก็ได้ หรือจะทานเป็นกับข้าวก็ดีเหมือนกัน
จานที่สอง "ยำเฟรนฟรายด์เบค่อนทอด" เดาว่าน่าจะเป็นฟิวชั่นฟู้ดที่ผสมผสานกันแบบแปลกๆ แต่พอลองชิม เฮ้ย มันก็เข้ากันดีนี่นา
มันฝรั่งทอดพอเหลือง แต่ไม่อมน้ำมัน พอคลุกเคล้ากับเบคอนทอด ราดด้วยซอสมะเขือเทศ มะนาวสด มายองเนส กระเทียม พริก ได้อารมณ์แบบยำไทยๆ
แล้วยังมีผงสีแดงๆ โรย (คิดว่าน่าจะเป็นผงปาปริก้า) เพื่อเพิ่มความแซ่บตามสไตล์อาหารกับแกล้ม
แต่ถ้าใครหวังว่าจะแซ่บจี๊ดจ๊าด คงไม่ใช่ครับ แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบรสชาติกลางๆ แบบนี้ รู้สึกว่า มันทานง่ายดี
แต่ขอติหน่อย ตรงที่ซอสต่างๆ ถูกราดมาตั้งแต่ต้น ทำให้ตัวเฟรนฟรายด์ทอดออกจะนิ่มเร็วเกินไปสักหน่อย
หลังจากที่จัดการกับสองจานแรกแกล้มเบียร์ไปแล้ว มาลองสั่งเมนูทานกับข้าวสวยร้อนๆ ดีกว่า
ว่าแล้วก็ลองจัดมาอีก 2 เมนูครับ "คอหมูคั่วเกลือ" กับ "ไส้กรอกทอดซอสมะขาม" (จะว่าไป นี่มันอาหารกับแกล้มอีกแล้วนะเนี่ย 555)
คอหมูคั่วเกลือ ถือเป็นเมนูออฟเดอะแมทช์ของผมในวันนี้ครับ ดูเผิ่นๆ เหมือนจะธรรมดา แต่พอทานเข้าไปแล้ว มันหยุดไม่อยู่ครับ
คอหมูกรอบนอก นุ่มใน ให้รสชาติเค็มกำลังดี รู้สึกเหมือนทานเมนูของทอดที่คุ้นปาก อย่างพวกหนังไก่ทอด หรือ ไก่ไม่มีกระดูก
แถมยังไม่อมน้ำมันด้วย ส่วนน้ำจิ้มสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน เน้นรสจัดเพื่อให้ตัดกับความเค็มของคอหมู สรุปจานเดียวไม่พอครับ
ต้องสั่งเบิ้ลเอามาแกล้มเบียร์ต่อ
ปิดท้ายด้วย ไส้กรอกผัดซอสมะขาม นี่ก็เป็นอีกเมนูที่แปลกดี เพราะตามปกติเคยเห็นแต่เมนู “กุ้งทอดซอสมะขาม” แต่นี่กลับใช้ไส้กรอกมาปรุงแทน
ไส้กรอกรมควันเคี้ยวแล้วกรุบๆ เข้ากันดีกับหัวหอมใหญ่ และซอสมะขามเหนียวๆ รสชาติคล้ายๆ ผัดเปรี้ยวหวาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ยิ่งทำให้เจริญอาหารกันไปใหญ่
อิ่มแปล้กันไปตามระเบียบครับ มากันสองคน ทานอาหารไปซะ 5 จานจุกถึงคอเลยทีเดียว
สรุปแล้ว ค่อนข้างประทับใจเลยครับกับร้าน "SWAYDAY" ราคาอาหารอยู่ในระดับกลางๆ เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่จานค่อนข้างใหญ่
ทุกเมนูที่สั่งมาอร่อยใชัได้ บรรยากาศก็ดี เรียกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่บังเอิญผ่านมา แล้วเลือกแวะชิมร้านนี้ เย้!!!
ร้านนี้ เค้าเปิดตั้งแต่เวลา 17.00 ถึง 01.00 ครับ การเดินทางมาก็ไม่ยากครับ ถ้าเริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ขับรถวนมาเลี้ยวซ้ายเข้ามา
ทางถนนดินสอ แล้วเลี้ยวซ้ายแรกอีกที ตรงมาตามทาง จะเจอกับโรงแรมศรีกรุงเทพทางด้านขวา จะเห็นร้านอยู่ตรงนั้นพอดี
หรือลองไปติดตามที่เพจของร้านเค้าได้เลย www.facebook.com/sayswayday
โอกาสหน้า ถ้าบังเอิญไปชิมร้านไหนที่อร่อย น่านั่ง บรรยากาศดี จะนำมารีวิวให้อ่านกันอีกนะครับ ขอบคุณครับ
[CR] รีวิว บังเอิญชิม "SWAY DAY" อร่อยยามค่ำดื่มด่ำบรรยากาศแถวราชดำเนิน
เคยไปชิมตามร้านที่แนะนำอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็มีทั้งที่ถูกปากบ้างไม่ถูกปากบ้างคละเคล้ากันไป
ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติครับ เรื่องกินเนี่ย มันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม และรสชาติที่ถูกลิ้นแต่ละคนด้วย
ส่วนตัวผมเอง พอเริ่มเบื่อร้านอาหารตามศูนย์การค้าเมื่อไหร่ ก็จะออกไปเสาะแสวงหาร้านอาหารใหม่ๆ ลองชิมดูบ้าง
และหลายครั้งเลยที่ตัดสินใจ ลองเลือกนั่งร้านที่ไปเจอเข้าโดยบังเอิญ ประมาณว่า ขับรถผ่าน พอเหลือบเห็นแว๊บแรก
ถ้าบรรยากาศถูกใจก็จะลองแวะดู ส่วนรสชาติอาหารจะอร่อยหรือไม่ ก็ต้องไปลุ้นกันอีกที และหลังจากที่ไปลองมาหลายร้าน
ก็เลยอยากลองทำรีวิวดูบ้าง
สำหรับร้านแรกที่ผมเลือกนำมารีวิว ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่บังเอิญไปเจอเข้าเหมือนกันครับ เผอิญว่า วันนั้นมีธุระไปแถวๆ เสาชิงช้าจนถึงช่วงเย็นๆ
และกำลังหิวอยู่พอดี ตอนที่เดินกลับมาเอารถ สายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อร้าน “Swayday” ที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมศรีกรุงเทพ มองๆ ดู
เห็นบรรยากาศเข้าท่า คิดว่าคงจะพอฝากท้องมื้อเย็นไว้กับร้านนี้ได้
ป้ายร้านเด่น มองเห็นแต่ไกล
ร้านเป็นสไตล์ผับแอนด์เรสทัวรองท์นี่แหละครับ ส่วนตัวถือว่า บรรยากาศผ่าน ทีนี้ไปลุ้นเรื่องความอร่อยของเมนูอาหารกัน
พอเข้ามาในร้าน น้องพนักงานก็ออกมาต้อนรับ แต่ตอนนั้นชั้น 1 โต๊ะจองเต็มหมดแล้ว แต่มีโต๊ะว่างบนชั้น 2
ไม่ซีเรียสครับ ชั้น 2 ก็น่าจะชิลและเป็นส่วนตัวดี
บรรยากาศของชั้น 1 ตกแต่งด้วยบรรยากาศที่ดูเป็นกันเอง มีพื้นที่ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor แล้วแต่จะเลือกตามอัธยาศัย
นี่คือ ภายนอก (ขออภัยด้วยที่ถ่ายรูปไม่สวยครับ)
ป้ายบอร์ดติดแบช เก๋ๆ หน้าร้าน
ส่วนภายในร้านชั้นล่าง ก็ดูเป็นกันเองดีครับ
ช่วงค่ำแบบนี้ จะมีวงดนตรีสดด้วย ถ้าใครนั่งตรงชั้นหนึ่งด้านใน ก็จะได้ใกล้ชิดกับนักร้องพอสมควร
(นักดนตรีมีมารยาทมาก เป็นหวัดก็ใส่ผ้าปิดปาก จะได้ไม่จามใส่อาหารลูกค้า อิอิ)
พอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง จะมีลักษณะเหมือนดาดฟ้าอาคารที่เปิดโล่งรับลม มีที่นั่งทั้งแบบโซฟาและโต๊ะคู่ให้เลือกครับ
ผมก็เลยเลือกนั่งตรงมุมนี้เลย จะได้นั่งรับลมเย็นสบายๆ และมองวิวข้างล่างด้วย
หลังจากได้ที่นั่งที่ถูกใจแล้ว ก็มองหาเมนู ก่อนจะสั่งเบียร์มาประเดิม พร้อมลองสั่งอาหารจานเบาๆ มาสักจานสองจาน เรียกน้ำย่อยก่อน
พอถามพนักงานว่า มีเมนูไหนแนะนำบ้าง ก็ได้ความว่าเมนู หมูสเวย์เดย์ เป็น 1 ในเมนูจานเด็ดต้องลองของที่นี่
(ตามปกติ ผมเองก็ชอบสั่งเมนูที่มีชื่อร้านห้อยท้ายอยู่แล้ว ไม่งั้นเค้าคงไม่กล้าเอาชื่อร้านมาการันตี จริงไหมครับ)
ส่วนอีกจาน ลองสั่ง ยำเฟรนซ์ฟรายเบคอนทอด เพราะเห็นว่าชื่อเมนูมันแปลกดี
เบียร์เสิร์ฟในแก้วแช่เย็นเจี๊ยบ ได้จิบเบียร์เย็นๆ แบบนี้ มันสุโค่ยจริงๆ
นั่งเพลินๆ แป๊บเดียว อาหารจานแรกก็ถูกนำมาวางครับ แหม่ หน้าตาดีเชียว
“หมูสเวย์เดย์” หมูทอดรสเข้มข้นแต่ไม่เผ็ดจัดจ้านจนเกินไป เนื้อหมูที่คลุกเคล้าเครื่องเทศหลายๆ อย่างจนเดาไม่ออกว่ามีเครื่องเทศอะไรผสมอยู่บ้าง
แถมในจานยังมีแผ่นเกี๊ยวกรอบมาเป็นเครื่องเคียง พอลองทานหมูและเกี๊ยวไปพร้อมๆ กัน บอกเลยว่า เข้ากันมากๆ ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่จะสั่งมา
ทานเล่นเป็นกับแกล้มก็ได้ หรือจะทานเป็นกับข้าวก็ดีเหมือนกัน
จานที่สอง "ยำเฟรนฟรายด์เบค่อนทอด" เดาว่าน่าจะเป็นฟิวชั่นฟู้ดที่ผสมผสานกันแบบแปลกๆ แต่พอลองชิม เฮ้ย มันก็เข้ากันดีนี่นา
มันฝรั่งทอดพอเหลือง แต่ไม่อมน้ำมัน พอคลุกเคล้ากับเบคอนทอด ราดด้วยซอสมะเขือเทศ มะนาวสด มายองเนส กระเทียม พริก ได้อารมณ์แบบยำไทยๆ
แล้วยังมีผงสีแดงๆ โรย (คิดว่าน่าจะเป็นผงปาปริก้า) เพื่อเพิ่มความแซ่บตามสไตล์อาหารกับแกล้ม
แต่ถ้าใครหวังว่าจะแซ่บจี๊ดจ๊าด คงไม่ใช่ครับ แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบรสชาติกลางๆ แบบนี้ รู้สึกว่า มันทานง่ายดี
แต่ขอติหน่อย ตรงที่ซอสต่างๆ ถูกราดมาตั้งแต่ต้น ทำให้ตัวเฟรนฟรายด์ทอดออกจะนิ่มเร็วเกินไปสักหน่อย
หลังจากที่จัดการกับสองจานแรกแกล้มเบียร์ไปแล้ว มาลองสั่งเมนูทานกับข้าวสวยร้อนๆ ดีกว่า
ว่าแล้วก็ลองจัดมาอีก 2 เมนูครับ "คอหมูคั่วเกลือ" กับ "ไส้กรอกทอดซอสมะขาม" (จะว่าไป นี่มันอาหารกับแกล้มอีกแล้วนะเนี่ย 555)
คอหมูคั่วเกลือ ถือเป็นเมนูออฟเดอะแมทช์ของผมในวันนี้ครับ ดูเผิ่นๆ เหมือนจะธรรมดา แต่พอทานเข้าไปแล้ว มันหยุดไม่อยู่ครับ
คอหมูกรอบนอก นุ่มใน ให้รสชาติเค็มกำลังดี รู้สึกเหมือนทานเมนูของทอดที่คุ้นปาก อย่างพวกหนังไก่ทอด หรือ ไก่ไม่มีกระดูก
แถมยังไม่อมน้ำมันด้วย ส่วนน้ำจิ้มสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน เน้นรสจัดเพื่อให้ตัดกับความเค็มของคอหมู สรุปจานเดียวไม่พอครับ
ต้องสั่งเบิ้ลเอามาแกล้มเบียร์ต่อ
ปิดท้ายด้วย ไส้กรอกผัดซอสมะขาม นี่ก็เป็นอีกเมนูที่แปลกดี เพราะตามปกติเคยเห็นแต่เมนู “กุ้งทอดซอสมะขาม” แต่นี่กลับใช้ไส้กรอกมาปรุงแทน
ไส้กรอกรมควันเคี้ยวแล้วกรุบๆ เข้ากันดีกับหัวหอมใหญ่ และซอสมะขามเหนียวๆ รสชาติคล้ายๆ ผัดเปรี้ยวหวาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ยิ่งทำให้เจริญอาหารกันไปใหญ่
อิ่มแปล้กันไปตามระเบียบครับ มากันสองคน ทานอาหารไปซะ 5 จานจุกถึงคอเลยทีเดียว
สรุปแล้ว ค่อนข้างประทับใจเลยครับกับร้าน "SWAYDAY" ราคาอาหารอยู่ในระดับกลางๆ เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่จานค่อนข้างใหญ่
ทุกเมนูที่สั่งมาอร่อยใชัได้ บรรยากาศก็ดี เรียกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่บังเอิญผ่านมา แล้วเลือกแวะชิมร้านนี้ เย้!!!
ร้านนี้ เค้าเปิดตั้งแต่เวลา 17.00 ถึง 01.00 ครับ การเดินทางมาก็ไม่ยากครับ ถ้าเริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ขับรถวนมาเลี้ยวซ้ายเข้ามา
ทางถนนดินสอ แล้วเลี้ยวซ้ายแรกอีกที ตรงมาตามทาง จะเจอกับโรงแรมศรีกรุงเทพทางด้านขวา จะเห็นร้านอยู่ตรงนั้นพอดี
หรือลองไปติดตามที่เพจของร้านเค้าได้เลย www.facebook.com/sayswayday
โอกาสหน้า ถ้าบังเอิญไปชิมร้านไหนที่อร่อย น่านั่ง บรรยากาศดี จะนำมารีวิวให้อ่านกันอีกนะครับ ขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น