บทความ : รักษารากฟัน..รักษาจิตใจ อะไรที่มันสายไปก็ไม่มีผลดีทั้งนั้น
จริงๆก็ห่างหายจากการเขียนอะไรมีสาระมานานมาก หรือว่าไม่เคยเขียนเลยหว่า (555) เหตุเกิดจากวันก่อนอยู่ๆก็ปวดฟันสุดๆ ชนิดอยากจะเอาคีมมาคีบฟันเจ้าปัญหานี้ออกไปให้รู้แล้วรู้รอด ปวดจนขึ้นไปถึงหู ลงไปถึงคอ กินยาแก้ปวดแล้วก็ทุเลาแค่ 2-3 ชั่วโมง สองสามวันที่ผ่านมาก็เลยกลายเป็นคนเบลอๆ จากที่เอ๋อๆอยู่แล้วก็ยิ่งหนัก สุดท้ายก็ต้องกระ

กระสนไปหาหมอฟันทั้งๆที่กลัวมาก และตั้งแต่เกิดมาก็เรียกว่าไปหาหมอฟันแบบนับครั้งได้
ไปถึงคลีนิคหมอใจดีไม่พูดอะไรมาก จับอ้าปากแล้วเคาะไปตามฟัน เจ็บมั้ยคะ..ไอ่เอ็บ เจ็บมั้ยคะ..ไอ่เอ็บ อะไรนะคะ? เอ็บๆๆ เอิ่มม จะพูดชัดได้ยังไงค๊ะ ทั้งคีมทั้งที่ง้างคาปากอยู่แบบนั้น สุดท้ายก็มาเจอตัวปัญหา หลังจากที่เอาสิ่งง้างปากทั้งหลายออกก็ได้มาเริ่มคุยกัน หมอว่าฟันซี่ที่ปวดมันเกินกว่าที่จะอุดแล้วนะคะ มีทางเลือก 2 ทางคือ "ถอนและใส่ฟันปลอม" หรือ "รักษารากฟัน" ..ไอ่เราก็ ถอนไปเฉยๆเลยได้มั้ยคะ? ปรากฏว่าไม่ได้เพราะซี่ถัดๆกันมันจะล้มครืนมาด้วย และหมอแนะนำว่าให้รักษาดีกว่าเพราะตัวฟันยังแข็งแรงอยู่ อืม..รักษาก็รักษา ช่วยประเมินราคาให้ทีค่ะ..หมอบอกค่าเท่านั้นล่ะลมแทบจับ ไม่เกิน 19,000 ค่ะหมอคอนเฟิร์ม..(ช่วยคอนเฟิร์มราคาเบากว่านี้หน่อยได้มั้ยยย) แต่ไม่เป็นไรนะแบ่งจ่ายได้ตามขั้นตอน ตอนนั้นก็เบลอๆไปแล้วไม่รู้เบลอปวดฟันหรือเบลอราคาแต่ก็ปวดน่ะ เลยเซย์ Yes ไป
เข้าสู่ขั้นตอนทำฟันพูดถึงรักษารากฟัน อะไรที่เป็นรากๆ แน่นอนมันไม่ได้อยู่ด้านบนให้เรารักษาได้ง่ายๆ ขั้นแรกหมอได้ฉีดยาชาให้สองเข็ม (ซึ่งในขณะที่พิมพ์นี้ก็ยังมีเจ็บตรงที่ฉีดยาชาเล็กน้อย แต่อาการปวดได้หายไปหมดแล้ว) พอหน้าเริ่มรู้สึกบวมๆหมอจะเริ่มทำการกรอฟันด้านบนออกให้หมดเพื่อให้เห็นประสาทฟัน ซี่ที่เราปวดคือฟันกรามและแน่นอนมันมี 4 ขา ระหว่างที่กรอเราก็จะรู้สึกจึกๆแปล๊บๆ หมอก็ให้กำลังใจว่า..เจ็บนิดนะคะ ผุมาขนาดนี้แล้ว ยาชาอาจจะไม่ได้ผลเต็มที่..อดทนนิดนะคะ เดี๋ยวเสร็จ...ขอบคุณค่ะ ตอนกรอเราจะไม่รู้สึกเจ็บแต่ไอ้ตรงที่ปวดก็ยังคงปวดรบกวนอยู่เป็นระยะ หมอกรอฟันไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่รู้สึกว่านานมาก เราก็ได้ยินเสียงสวรรค์...เสร็จแล้ว ก็แอบเยส!!อยู่ในใจ ก่อนที่จะถูกถีบตกสวรรค์ หมอกรอเปิดผิวฟันเสร็จแล้วนะคะ ที่นี้จะเริ่มทำการรักษารากฟันแล้วนะ คนไข้นอนยาวไปเลยนะคะน่าจะสักชั่วโมงนึง พระเจ้า..พึ่งผ่านไปแค่ 30 นาที! ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่พยักหน้า
เมื่อเปิดหน้าฟันเสร็จ หมอก็เอาอุปกรณ์เหมือนเข็มเล็กๆใส่ลงไปที่ขาฟันทั้งสี่ขาเพื่อวัดว่ารากฟันของเราอยู่ลึกขนาดไหนก่อนจะทำการขุดและขูดเอาประสาทฟันที่อยู่ใรขาทั้ง 4 ออกมา รู้สึกได้เลยว่าขาไหนที่ไม่มีปัญหาจะไม่มีความเจ็บเลย แต่ขาไหนที่ตัวเชื้อโรคมันลงไป ขานั้นก็จะปวดสุดๆแต่! ทันทีที่ขุดออกมาหมด ความปวดที่มีมีหลายวันก็หายไปแทบจะทันทีเหมือนกัน หมอใช้เวลาขุดและขูด 4 ขานี้นานมากจนแน่ใจว่าสะอาดถึงเริ่มทำการอุดฟันชั่วคราวและนัดให้มารักษาต่ออีกครั้งในอาทิตย์หน้า ก่อนจากกันหมอเช็คฟันทั้งปากให้อีกรอบพร้อมบอกซี่ที่ผุน้อยๆก็ควรรีบอุดนะคะ ไม่งั้นจะเป็นแบบนี้..เลยบอกหมออย่างสุภาพว่า..แค่ซี่นี้ก็กินมาม่าไปหลายเดือนแล้วค่ะ หมอยิ้มๆบอกพร้อมเมื่อไหร่ก็มานะคะ ก่อนสั่งจ่ายยาแก้ปวดชนิดรุนแรงมาให้ ตอนแรงได้ยินก็ตกใจ..รุนแรงเลยหรอคะ แต่สุดท้ายก็ได้กินไปแค่เม็ดเดียวและกินเพราะความปอดแหก แค่เริ่มปวดนิดๆก็ซัดดักไปอย่างนั้น
ที่นี้จะมาพูดถึงว่าการรักษารากฟันกับรักษาจิตใจเหมือนกันยังไง? หนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดคือรากฟันและจิตใจเป็นสิ่งที่ต้องเปิดถึงจะมองเห็น และเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องยอมรับถึงจะสามารถรักษาได้ ไม่มีใครสามารถลากใครไปขึ้นเขียงหาหมอฟันได้และคนส่วนใหญ่ถ้าไม่เกิดอาการปวดก็คงไม่คิดจะเดินเข้าไปหาหมอฟัน กรณีนี้ก็จะเปรียบเทียบว่าฟันซี่นี้สร้างปัญหาเรื่องการปวดแบบทรมานให้เรามาหลายปี ปวดๆหายๆอยู่แบบนี้มาตลอดแต่เราก็ยังคงเฉย คิดแค่ว่ากินยาพาราก็หาย เม็ดละ 4 บาทเอง ทำไมต้องไปหาหมออุดฟันซี่ละ 600 ด้วย จนแล้วจนรอดก็ปล่อยให้ปัญหาลุกลามจนค่าเสียหายไม่กี่ร้อยไม่สามารถรักษาได้ เปรียบกับจิตใจ ตัวเราเท่านั้นถึงรู้ว่าเมื่อไหร่ใจเราปกติ เมื่อไหร่ใจเราผิดแปลกไป เมื่อรู้ตัวว่าจิตใจโดนทำร้าย ถูกรังแก หรือเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่ทำ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเรื่องที่ต้องมาคิดว่าตัวเองพ่ายแพ้ ยอมถอยออกมาเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ เสริมเกราะให้ตัวเองแล้วกลับเข้าไปสู้ใหม่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งมากกว่าเดิม ดีกว่าเดินหน้าต่อไปโดยที่ไม่มีอะไรดีขึ้นหรือมีแต่จะแย่ลง
ฟันเจ้าปัญหาซี่นี้ก็เหมือนกับจิตใจ ถ้ายอมเสีย 600 ตั้งแต่ตอนที่เสียแล้วแก้ปัญหาได้ ก็คงดีกว่าต้องมาเสีย 19,000 โดยใช่เหตุ ตัวเราเสียหมื่นเก้าก็ไม่ใช่ว่าไม่เสียดาย แต่มันก็ยังดีเสียกว่าจะเสียฟันทั้งซี่ไปและยังดีที่ยอมลากตัวเองมารักษาได้ทันก่อนที่มันจะลุกลามไปถึงประสาทส่วนอื่นๆอีกมากมายซึ่งผลเสียและค่ารักษาก็คงมากกว่านี้ จิตใจก็เช่นกันคนเรามีอารมณ์อ่อนไหว อ่อนแอได้เสมอ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าตอนนี้เราอ่อนแอ เราต้องการซ่อมแซมจิตใจ เราไม่พร้อมรับมือกับศัตรูซึ่งคืออุปสรรคที่เรียงหน้าเข้ามา ก็ให้หยุดพัก ตั้งสติ หาทางทำให้ใจเราเข้มแข็งเสียตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองอ่อนไหว อ่อนแอจนถลำเข้าไปอยู่ในวงล้อมของอุปสรรคจนหาทางออกไม่เจอเพราะเมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าค่าเสียหายเท่าไรถึงจะพาใจออกมาจากวงล้อมได้มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่าจะยอมซื้อเกราะที่ 600 ตอนปัญหาเริ่มเกิดหรือที่ 19,000 ตอนปัญหาบานปลายหรือยอมแพ้และเสียฟันเพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้...
บทความ : รักษารากฟัน..รักษาจิตใจ อะไรที่มันสายไปก็ไม่มีผลดีทั้งนั้น (เขียนครั้งแรก รบกวนวิจารณ์ค่ะ)
จริงๆก็ห่างหายจากการเขียนอะไรมีสาระมานานมาก หรือว่าไม่เคยเขียนเลยหว่า (555) เหตุเกิดจากวันก่อนอยู่ๆก็ปวดฟันสุดๆ ชนิดอยากจะเอาคีมมาคีบฟันเจ้าปัญหานี้ออกไปให้รู้แล้วรู้รอด ปวดจนขึ้นไปถึงหู ลงไปถึงคอ กินยาแก้ปวดแล้วก็ทุเลาแค่ 2-3 ชั่วโมง สองสามวันที่ผ่านมาก็เลยกลายเป็นคนเบลอๆ จากที่เอ๋อๆอยู่แล้วก็ยิ่งหนัก สุดท้ายก็ต้องกระ
ไปถึงคลีนิคหมอใจดีไม่พูดอะไรมาก จับอ้าปากแล้วเคาะไปตามฟัน เจ็บมั้ยคะ..ไอ่เอ็บ เจ็บมั้ยคะ..ไอ่เอ็บ อะไรนะคะ? เอ็บๆๆ เอิ่มม จะพูดชัดได้ยังไงค๊ะ ทั้งคีมทั้งที่ง้างคาปากอยู่แบบนั้น สุดท้ายก็มาเจอตัวปัญหา หลังจากที่เอาสิ่งง้างปากทั้งหลายออกก็ได้มาเริ่มคุยกัน หมอว่าฟันซี่ที่ปวดมันเกินกว่าที่จะอุดแล้วนะคะ มีทางเลือก 2 ทางคือ "ถอนและใส่ฟันปลอม" หรือ "รักษารากฟัน" ..ไอ่เราก็ ถอนไปเฉยๆเลยได้มั้ยคะ? ปรากฏว่าไม่ได้เพราะซี่ถัดๆกันมันจะล้มครืนมาด้วย และหมอแนะนำว่าให้รักษาดีกว่าเพราะตัวฟันยังแข็งแรงอยู่ อืม..รักษาก็รักษา ช่วยประเมินราคาให้ทีค่ะ..หมอบอกค่าเท่านั้นล่ะลมแทบจับ ไม่เกิน 19,000 ค่ะหมอคอนเฟิร์ม..(ช่วยคอนเฟิร์มราคาเบากว่านี้หน่อยได้มั้ยยย) แต่ไม่เป็นไรนะแบ่งจ่ายได้ตามขั้นตอน ตอนนั้นก็เบลอๆไปแล้วไม่รู้เบลอปวดฟันหรือเบลอราคาแต่ก็ปวดน่ะ เลยเซย์ Yes ไป
เข้าสู่ขั้นตอนทำฟันพูดถึงรักษารากฟัน อะไรที่เป็นรากๆ แน่นอนมันไม่ได้อยู่ด้านบนให้เรารักษาได้ง่ายๆ ขั้นแรกหมอได้ฉีดยาชาให้สองเข็ม (ซึ่งในขณะที่พิมพ์นี้ก็ยังมีเจ็บตรงที่ฉีดยาชาเล็กน้อย แต่อาการปวดได้หายไปหมดแล้ว) พอหน้าเริ่มรู้สึกบวมๆหมอจะเริ่มทำการกรอฟันด้านบนออกให้หมดเพื่อให้เห็นประสาทฟัน ซี่ที่เราปวดคือฟันกรามและแน่นอนมันมี 4 ขา ระหว่างที่กรอเราก็จะรู้สึกจึกๆแปล๊บๆ หมอก็ให้กำลังใจว่า..เจ็บนิดนะคะ ผุมาขนาดนี้แล้ว ยาชาอาจจะไม่ได้ผลเต็มที่..อดทนนิดนะคะ เดี๋ยวเสร็จ...ขอบคุณค่ะ ตอนกรอเราจะไม่รู้สึกเจ็บแต่ไอ้ตรงที่ปวดก็ยังคงปวดรบกวนอยู่เป็นระยะ หมอกรอฟันไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่รู้สึกว่านานมาก เราก็ได้ยินเสียงสวรรค์...เสร็จแล้ว ก็แอบเยส!!อยู่ในใจ ก่อนที่จะถูกถีบตกสวรรค์ หมอกรอเปิดผิวฟันเสร็จแล้วนะคะ ที่นี้จะเริ่มทำการรักษารากฟันแล้วนะ คนไข้นอนยาวไปเลยนะคะน่าจะสักชั่วโมงนึง พระเจ้า..พึ่งผ่านไปแค่ 30 นาที! ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่พยักหน้า
เมื่อเปิดหน้าฟันเสร็จ หมอก็เอาอุปกรณ์เหมือนเข็มเล็กๆใส่ลงไปที่ขาฟันทั้งสี่ขาเพื่อวัดว่ารากฟันของเราอยู่ลึกขนาดไหนก่อนจะทำการขุดและขูดเอาประสาทฟันที่อยู่ใรขาทั้ง 4 ออกมา รู้สึกได้เลยว่าขาไหนที่ไม่มีปัญหาจะไม่มีความเจ็บเลย แต่ขาไหนที่ตัวเชื้อโรคมันลงไป ขานั้นก็จะปวดสุดๆแต่! ทันทีที่ขุดออกมาหมด ความปวดที่มีมีหลายวันก็หายไปแทบจะทันทีเหมือนกัน หมอใช้เวลาขุดและขูด 4 ขานี้นานมากจนแน่ใจว่าสะอาดถึงเริ่มทำการอุดฟันชั่วคราวและนัดให้มารักษาต่ออีกครั้งในอาทิตย์หน้า ก่อนจากกันหมอเช็คฟันทั้งปากให้อีกรอบพร้อมบอกซี่ที่ผุน้อยๆก็ควรรีบอุดนะคะ ไม่งั้นจะเป็นแบบนี้..เลยบอกหมออย่างสุภาพว่า..แค่ซี่นี้ก็กินมาม่าไปหลายเดือนแล้วค่ะ หมอยิ้มๆบอกพร้อมเมื่อไหร่ก็มานะคะ ก่อนสั่งจ่ายยาแก้ปวดชนิดรุนแรงมาให้ ตอนแรงได้ยินก็ตกใจ..รุนแรงเลยหรอคะ แต่สุดท้ายก็ได้กินไปแค่เม็ดเดียวและกินเพราะความปอดแหก แค่เริ่มปวดนิดๆก็ซัดดักไปอย่างนั้น
ที่นี้จะมาพูดถึงว่าการรักษารากฟันกับรักษาจิตใจเหมือนกันยังไง? หนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดคือรากฟันและจิตใจเป็นสิ่งที่ต้องเปิดถึงจะมองเห็น และเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องยอมรับถึงจะสามารถรักษาได้ ไม่มีใครสามารถลากใครไปขึ้นเขียงหาหมอฟันได้และคนส่วนใหญ่ถ้าไม่เกิดอาการปวดก็คงไม่คิดจะเดินเข้าไปหาหมอฟัน กรณีนี้ก็จะเปรียบเทียบว่าฟันซี่นี้สร้างปัญหาเรื่องการปวดแบบทรมานให้เรามาหลายปี ปวดๆหายๆอยู่แบบนี้มาตลอดแต่เราก็ยังคงเฉย คิดแค่ว่ากินยาพาราก็หาย เม็ดละ 4 บาทเอง ทำไมต้องไปหาหมออุดฟันซี่ละ 600 ด้วย จนแล้วจนรอดก็ปล่อยให้ปัญหาลุกลามจนค่าเสียหายไม่กี่ร้อยไม่สามารถรักษาได้ เปรียบกับจิตใจ ตัวเราเท่านั้นถึงรู้ว่าเมื่อไหร่ใจเราปกติ เมื่อไหร่ใจเราผิดแปลกไป เมื่อรู้ตัวว่าจิตใจโดนทำร้าย ถูกรังแก หรือเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่ทำ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเรื่องที่ต้องมาคิดว่าตัวเองพ่ายแพ้ ยอมถอยออกมาเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ เสริมเกราะให้ตัวเองแล้วกลับเข้าไปสู้ใหม่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งมากกว่าเดิม ดีกว่าเดินหน้าต่อไปโดยที่ไม่มีอะไรดีขึ้นหรือมีแต่จะแย่ลง
ฟันเจ้าปัญหาซี่นี้ก็เหมือนกับจิตใจ ถ้ายอมเสีย 600 ตั้งแต่ตอนที่เสียแล้วแก้ปัญหาได้ ก็คงดีกว่าต้องมาเสีย 19,000 โดยใช่เหตุ ตัวเราเสียหมื่นเก้าก็ไม่ใช่ว่าไม่เสียดาย แต่มันก็ยังดีเสียกว่าจะเสียฟันทั้งซี่ไปและยังดีที่ยอมลากตัวเองมารักษาได้ทันก่อนที่มันจะลุกลามไปถึงประสาทส่วนอื่นๆอีกมากมายซึ่งผลเสียและค่ารักษาก็คงมากกว่านี้ จิตใจก็เช่นกันคนเรามีอารมณ์อ่อนไหว อ่อนแอได้เสมอ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าตอนนี้เราอ่อนแอ เราต้องการซ่อมแซมจิตใจ เราไม่พร้อมรับมือกับศัตรูซึ่งคืออุปสรรคที่เรียงหน้าเข้ามา ก็ให้หยุดพัก ตั้งสติ หาทางทำให้ใจเราเข้มแข็งเสียตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองอ่อนไหว อ่อนแอจนถลำเข้าไปอยู่ในวงล้อมของอุปสรรคจนหาทางออกไม่เจอเพราะเมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าค่าเสียหายเท่าไรถึงจะพาใจออกมาจากวงล้อมได้มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่าจะยอมซื้อเกราะที่ 600 ตอนปัญหาเริ่มเกิดหรือที่ 19,000 ตอนปัญหาบานปลายหรือยอมแพ้และเสียฟันเพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้...