เอ่อ...เกริ่นก่อนดีกว่าเนอะนี่ก็ไม่ใช่กระทู้แรกของเราคะ แต่เป็นกระทู้ที่เราจริงจังไม่ใช่น้อย555555
มาเริ่มกันเลยเนอะ5555555 เราเป็นคนชอบจมปรักกับพวกความฝัน แบบลมๆแล้งๆคะ เรียกได้ว่าเพ้อเจ้อ อาการนี่ขั้นโคม่ารักษาไม่หาย คิดว่าน่าจะเป็นเรื้อรังกันเลยทีเดียวว น่ากลัวเนอะ [ปรบมือ~] คะ เวลาเราไปดูหนังเมื่อก่อนนี่จะกลัวมากกะคนแปลกหน้า กลัวมากเลยจริงๆโดยเฉพาะ ผู้ชาย [อ่านถูกละคะ]
เวลาเราไปดูหนังก็จะพาพ่อไปด้วยบางทีกลัวมากๆก็ชวนกันไปทั้งบ้านนั่งซ้ายนั่งขวากันเลยทีเดียว หง่อวว เวลาเดินห้างอย่างนี้ก็จะเดินใกล้ๆกับพ่อกันเลยบอกได้ว่าตัวติดกะพ่อเลยคะเหตุผลก็เดิมๆ กลัวคนแปลกหน้า บางครั้งเวลายืนอยู่ หรือนั่งอยู่คนเดียวแล้วมีผู้ชายแถวนั้น เราจะดึงหน้า แล้วเม้มปาก เหตุผลมีไม่มากเพราะเรากลัวนี่แหละคะ 5555555 จนเรามีแฟนคนแรก เราดีใจมากคะเขาเข้ามาจีบเราก่อน และแน่นอนคะมีคบก็ต้องมีเลิกด้วยความที่เราเป็นคนเพ้อเจ้อ ชั่งฝัน ขี้มโน เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว บวกกับพี่เขาสูงแล้วก็พูดชวนฝันกับเราต่างๆนานา ทำให้เราเชื่อมั่นในพี่เขามากคะ วันที่เราไม่อยากเจอก็มาถึงพี่เขาบอกเลิกเรา ผ่านโซเชี่ยวนี่แหละคะ เราเลิกกันเถอะ มันเป็นคำที่แบบ สั้นๆง่ายๆเข้าใจแต่ไม่ยากจำอะ หลังจากวันนั้นเราก็กลายเป็นขยาดผู้ชายเลยคะ ไม่ว่าใครหน้าไหนจะมาจีบดีกรีนักกีฬา หรือจะพวกสายเนิร์ต เราก็ได้แต่คุยแบบขอไปที จนถึงวันนี้คะ...ครบรอบ1ปี หากเรายังคบกับพี่คนนั้นอยู่ บางคนอาจจะมองว่า เฮ้ย!โรแมนติกจังนี่ยังไม่ลืมแฟนเก่ามาตั้งหนึ่งปีแหนะ แต่สำหรับเราแล้วมันเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมากคะ ถึงวันนี้เราจะไม่กลัวคนแปลกหน้าแล้ว เราจะเลิกดึงหน้าแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเลิกไม่ได้คือ ความขยาดผู้ชายที่เรามีอยู่ เราก็ยังฝันอยู่ลึกๆนะ ว่าจะมีไหมนะชีวิตที่เหมือนในหนังแบบว่าเลิกแล้วลืมาเลยหรือมีคนใจดีมาช่วยให้เราหายจากอาการขยาดผู้ชาย นี่ก็คิดไปเองทั้งนั้น ทุกวันนี้เรากลายเป็นคนเงียบๆไปเฉยเลย ถ้าอยู่กับเพื่อนเราก็มีเฮฮาบ้างไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงแต่พอต้องไปไหนคนเดียวนี่เราก็รู้สึกแปลกๆ ถึงมันจะปีนึงแล้วก็ยังแปลกๆอยู่ดีคะ
อาการขยาดผู้ชายนี่ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญที่ไหนคะ 5555
เมื่อฉันอยากมีแฟน •__•
มาเริ่มกันเลยเนอะ5555555 เราเป็นคนชอบจมปรักกับพวกความฝัน แบบลมๆแล้งๆคะ เรียกได้ว่าเพ้อเจ้อ อาการนี่ขั้นโคม่ารักษาไม่หาย คิดว่าน่าจะเป็นเรื้อรังกันเลยทีเดียวว น่ากลัวเนอะ [ปรบมือ~] คะ เวลาเราไปดูหนังเมื่อก่อนนี่จะกลัวมากกะคนแปลกหน้า กลัวมากเลยจริงๆโดยเฉพาะ ผู้ชาย [อ่านถูกละคะ]
เวลาเราไปดูหนังก็จะพาพ่อไปด้วยบางทีกลัวมากๆก็ชวนกันไปทั้งบ้านนั่งซ้ายนั่งขวากันเลยทีเดียว หง่อวว เวลาเดินห้างอย่างนี้ก็จะเดินใกล้ๆกับพ่อกันเลยบอกได้ว่าตัวติดกะพ่อเลยคะเหตุผลก็เดิมๆ กลัวคนแปลกหน้า บางครั้งเวลายืนอยู่ หรือนั่งอยู่คนเดียวแล้วมีผู้ชายแถวนั้น เราจะดึงหน้า แล้วเม้มปาก เหตุผลมีไม่มากเพราะเรากลัวนี่แหละคะ 5555555 จนเรามีแฟนคนแรก เราดีใจมากคะเขาเข้ามาจีบเราก่อน และแน่นอนคะมีคบก็ต้องมีเลิกด้วยความที่เราเป็นคนเพ้อเจ้อ ชั่งฝัน ขี้มโน เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว บวกกับพี่เขาสูงแล้วก็พูดชวนฝันกับเราต่างๆนานา ทำให้เราเชื่อมั่นในพี่เขามากคะ วันที่เราไม่อยากเจอก็มาถึงพี่เขาบอกเลิกเรา ผ่านโซเชี่ยวนี่แหละคะ เราเลิกกันเถอะ มันเป็นคำที่แบบ สั้นๆง่ายๆเข้าใจแต่ไม่ยากจำอะ หลังจากวันนั้นเราก็กลายเป็นขยาดผู้ชายเลยคะ ไม่ว่าใครหน้าไหนจะมาจีบดีกรีนักกีฬา หรือจะพวกสายเนิร์ต เราก็ได้แต่คุยแบบขอไปที จนถึงวันนี้คะ...ครบรอบ1ปี หากเรายังคบกับพี่คนนั้นอยู่ บางคนอาจจะมองว่า เฮ้ย!โรแมนติกจังนี่ยังไม่ลืมแฟนเก่ามาตั้งหนึ่งปีแหนะ แต่สำหรับเราแล้วมันเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมากคะ ถึงวันนี้เราจะไม่กลัวคนแปลกหน้าแล้ว เราจะเลิกดึงหน้าแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเลิกไม่ได้คือ ความขยาดผู้ชายที่เรามีอยู่ เราก็ยังฝันอยู่ลึกๆนะ ว่าจะมีไหมนะชีวิตที่เหมือนในหนังแบบว่าเลิกแล้วลืมาเลยหรือมีคนใจดีมาช่วยให้เราหายจากอาการขยาดผู้ชาย นี่ก็คิดไปเองทั้งนั้น ทุกวันนี้เรากลายเป็นคนเงียบๆไปเฉยเลย ถ้าอยู่กับเพื่อนเราก็มีเฮฮาบ้างไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงแต่พอต้องไปไหนคนเดียวนี่เราก็รู้สึกแปลกๆ ถึงมันจะปีนึงแล้วก็ยังแปลกๆอยู่ดีคะ
อาการขยาดผู้ชายนี่ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญที่ไหนคะ 5555