ไปอยุธยา..ไปไหนดี แบกเป้เที่ยวฉบับนักศึกษา :)



       สวัสดีค่ะ >< นี่เป็นกระทู้แรกของเราที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราไปเที่ยวมาหลายที่ ส่วนมากจะเป็นโบราณสถานส่วนใหญ่ >< ไปเที่ยวทีก็อัพรูปลงเฟสไม่ค่อยกล้าเขียนรีวิวลงพันทิปเท่าไหร่ส่วนมากจะไปเขียนลงเว็บอืนแทน แต่การที่เราได้แบกเป้ไปเที่ยวจังหวัดในฝัน ทำให้เราอยากแชร์ประสบการณ์ตามประสานักศึกษาที่ชอบแบกเป้เที่ยวอย่างประหยัดค่ะ
      จังหวัดอยุธยาเป็นจังหวัดในฝันที่เราสัญญากับตัวเองไว้ว่าเราต้องไปสักครั้งในชีวิต แล้วฝันของเราก็เป็นจริงค่ะ เราได้ไปอยุธยาพร้อมๆกับเพื่อนร่วมเดินทางอีก 3 คน ภายใต้งบที่จำกัด
      เราออกเดินทางเช้าวันเสาร์ที่ 12 กันยายน เราเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟรีค่ะ เพราะสถานีที่เราขึ้นไปถึงสถานีอยุธยาค่อนข้างใช้เวลาไม่นานค่ะ เราขึ้นรถไฟขบวน 208 ต้นทางสถานีนครสวรรค์ ปลายทางสถานีกรุงเทพ เราขึ้นกันที่สถานีบ้านตาคลีค่ะ รถไฟมาถึงเวลา 05.55 น. ซึ่งปกติแล้วรถไฟขบวนนี้คนจะเดินทางน้อย แต่วันที่เราไปกลับตรงกับงานเทกระจาดที่วัดพนัญเชิงพอดี เลยกลายเป็นขบวนรถไฟที่คนแน่นมากที่สุดขบวนหนึ่งของวัน เรากับเพื่อนนี่น้ำตาตกในเลยค่ะ ร้อน TT



     เราทนร้อนจนถึงเวลา 8.25 น. ขบวนรถไฟก็เข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟอยุธยาค่ะ

     สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้คือ ความมีน้ำใจของคนที่นี่ค่ะ ด้วยความที่เราเป็นนักศึกษาที่มีงบประมาณการท่องเที่ยวที่จำกัด บวกกับไม่รู้เส้นทางเลยทำให้ค่อนข้างกังวล แต่นายสถานีที่นั่นใจดีค่ะ ท่านแนะนำให้เราขึ้นเรือข้ามฟาก แล้วไปติดต่อที่ฝั่งนั้นแทน
    พวกเราเลยขึ้นเรือข้ามฟากไปยังอีกฝั่งค่ะ เสียค่าโดยสาร 5 บาท เรายอมรับว่าเราตื่นเต้นมาก เกิดมาเพิ่งเคยนั่งเรือ ผลที่ได้คือเหมือนจะเมาเรือด้วยมั้งคะ 555

    เมื่อเรามาถึงก็มีการท่องเที่ยวในจังหวัดอยุธยามากมายให้เลือกค่ะ ทั้งรถตุ๊กๆ ที่คิดชั่วโมงละ 200 บาท หรือเหมาจ่ายทั้งวัน 900 บาท ล่องเรือตามน้ำ หรือจักรยาน แต่พวกเราเลือกการเช่ารถจักรยานยนต์ค่ะ ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่พวกเรารับไหว ตกคันละ 250 บาทค่ะ พี่ที่ร้านเช่ารถใจดีมากค่ะ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้เราเยอะมาก
    เมื่อเราได้รถบวกกับอาศัยการนำทางจากแผนที่ และ GPS ของเพื่อน ทั้งรถ ทั้งแผนที่ และ GPS นำพาเราไปวัดแรก คือ "วัดมหาธาตุ" ค่ะ

ภายในวัดมหาธาตุเราพบเศียรพระพุทธรูป และพบโบราณสถานต่างๆรอบบริเวณค่ะ



    ด้วยเวลาที่จำกัดทำให้เราเดินทางต่อไปยังวัดที่ 2 ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน นั่นก็คือ "วัดธรรมิกราช" ค่ะ
ภายในวัดธรรมมิกราช เราจะพบเศียรองค์พระพุทธรูปหล่อสำริดองค์ใหญ่ค่ะ นอกจากนั้นแล้วยังพบวิหารหลวงอยู่ภายในบริเวณวัดค่ะ


     ต่อจากวัดธรรมิกราช เราก็ออกเดินทางต่อไปยังวัดที่ 3 นั่นก็คือ "วัดหน้าพระเมรุ" ที่ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องพระมหากษัตราธิราช พระนามว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” อยู่ภายในค่ะ


     ถัดจากวัดหน้าพระเมรุ พวกเราไปต่อยังมหาวิหารมงคลบพิตรค่ะ ที่นี่ทำให้งบประมาณที่พวกเราตั้งกันมาต้องเกินงบ เพราะว่าบริเวณข้างมหาวิหารมีตลาดอยู่พอดีค่ะ อยากจะหักห้ามใจไม่ให้ซื้อแต่ก็ทำไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะมีของกิน ของฝาก ล่อตาล่อใจเยอะมาก
     ภายในวิหารประดิษฐานพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระประธานที่องค์ใหญ่มาก เรากับเพื่อนตื่นตาตื่นใจมากเลยค่ะ


ตลาดข้างพระวิหาร


      ที่ตลาดเรารวบรวมภาพได้แค่นี้จริงๆค่ะ เพราะมัวแต่ตามหาของกิน ของฝาก เลยไม่ค่อยได้เก็บภาพเท่าไหร่ แต่พวกเราอยากให้ลองไปดูค่ะ ที่นี่มีของกินและของฝากในราคาที่นักศึกษาอย่างพวกเราพอรับมือไหว ><
      ถัดจากมหาวิหารมงคลบพิตร เราขับรถออกมาไม่ไกลจะถึงวัดพระศรีสรรเพชญ วัดสุดท้ายของทริปนี้ค่ะ
      วัดพระศรีสรรเพชญมีจุดเด่นที่ดึงดูดพวกเราและเหล่านักท่องเที่ยว นั่นก็คือ เจดีย์สามองค์ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าพวกเราค่ะ



        พวกเราจบทริปกันที่วัดพระศรีสรรเพชญค่ะ เพราะเราจะกลับรถไฟกันไม่ทันเพราะเรามาแบบเช้าเย็นกลับค่ะ การเดินทางในครั้งนี้ได้สร้างประสบการณ์ดีๆให้เราได้มากมาย ถึงแม้จะแฝงไปด้วยความหดหู่ที่เห็นโบราณสถานที่ถูกทำลาย แฝงไปด้วยความเสียใจที่ไม่ได้มีโอกาสได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ตระการตาของกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งที่ยังคงเป็นราชธานีในอดีต แต่พวกเราก็มีความภาคภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยมที่ได้เดินทางมาที่นี่ พื้นที่ที่มากไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทยที่ยิ่งใหญ่ พวกเราสัญญาว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยความรู้สึกที่มากขึ้นกว่าเดิม ^^

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เดินทางไป-กลับ = ฟรีค่ะ (รถไฟฟรี)
ค่าเรือข้ามฟาก = คนละ 5 บาท
ค่าเช่ารถจักรยานยนต์ = 125 บาท (คันละ 250 บาท เช่า 2 คัน หารกัน 4 คน ตกคนละ 125 บาท)
ค่าเข้าชมโบราณสถาน = 10 บาท
ค่าอื่นๆ (ของกิน+ของฝาก) = 300 บาท (ถ้าไม่ได้ซื้ออะไรก็ตัดส่วนนี้ไปได้เลยค่ะ ><)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่