เนื่องจากเป็นกระทู้แรกของเก๊า ผิดพลาดยังไงแนะนำติชมกันได้น้า ปกติเป็นแฟนคลับห้องบลูอยู่แล้ว เวลาแบกเป้ไปเที่ยวที่ไหนก็จะตามรอยรีวิวเพื่อนๆในห้องบลูไปตลอด แต่ทริปนี้เกิดอาการคันไม้คันมือจากทริปพิเศษที่เรียกได้ว่าแผนที่วางไว้พังและมั่วสุดๆ จากแผนที่วางไว้ว่าจะไปสังขละบุรีชุมชนมอญชายแดนติดพม่า แต่ไปโผล่น้ำตกเอราวัณเฉย บอกไว้เลยว่าเราโชคดีจริงๆ มันและแซ่บมากกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว
จุดเริ่มต้นมันเกิดที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เราเดินมุ่งหน้าหาคิวรถตู้ไปกาญจนบุรีตามที่เพื่อนๆได้รีวิวไว้ ยังไม่ทันถึงคิวข้างๆห้างเซนจูรี่ตามรีวิวเลย อยู่ๆเราก็ขี้เกียจเดิน เจอคิวรถตู้ซอยแรกเลยหันซ้ายเลี้ยวเข้าไปเฉยจ้าาา อยากบอกว่าเจอคิวที่ไม่เห็นในรีวิวด้วยนะ แถมราคาถูกกว่านิดๆหน่อยๆ เลยตัดสินใจซื้อตั๋วแล้วปรี่วิ่งขึ้นรถเลย555 (คิดในใจไม่เป็นไรยังไงก็ถึงเหมือนกัน)
นี่แหละจุดเปลี่ยนของการแบกเป้ครั้งนี้... เมื่อเจอกับมนุษย์ป้าผู้พูดมากที่สุด ประหนึ่งว่าซี้กับคนขับรถตู้และเป็นเจ้าของวินนี้555 จากที่เราแอบฟังแกคุยกันก็สืบทราบว่าป้ากำลังจะไปงานแต่งงานหลานที่น้ำตกเอราวัณเมืองกาญ และดูชำนาญทางมาก เราเลยตัดสินใจถามป้าถึงการเดินทางไปสังขละบุรี ย้ำ!!ว่าถามถึงสังขละ แต่ป้าตอบอย่างฮาว่า "โอ้ยยยไกล ไปนี่คุ้มเลย นั่งรถอ่ะคุ้ม" "ไม่อยากไปเที่ยวน้ำตกมั่งหรอ ป้ากำลังจะไปเอราวัณ" และสดุดกับประโยคนี้"ไปมั้ยหละ ไปกับป้า ป้ามีหลานอยู่ในนั้นป้าพาเข้าฟรี" ห้ะ!!อะไรนะฟรี ฟรีหรอ ไม่รอช้าตอบป้าไปว่า "ไปค่ะไป หนูไปด้วยยย"
เอ้าาาาา แล้วสังขละอ่ะแก555 เอาไว้ไปถึงน้ำตกแล้วค่อยคิดละกัน ไว้พรุ่งนี้ค่อยต่อรถไปสังขละ เมื่อรถตู้พามาส่งที่บขส.กาญ ป้าพาขึ้นรถหวานเย็นคันเล็กๆเก่าๆ ย้ำว่าเก่ามากกก แต่โชคดีได้นั่งเบาะหลังสุดคือไม่อึดอัดเหมือนเบาะอื่นๆ ฟินไป
จ่ายเงินค่ารถเรียบร้อยคนละห้าสิบบาท ลุงคนขับบอกว่านั่งไปสุดสายประมาน2ชม. อุ้บสสสไม่นานเท่าไหร่หรอกเนอะ(มั้ง)
หลังจากป้าแยกตัวไปนั่งหน้าสุดประกบคนขับ ป้าก็เริ่มเม้าท์มอยกับลุงคนขับประหนึ่งว่าเหมารถมาเอง ขณะที่คนแน่นรถ แน่นแบบแน่นจริงจังเลยนะ สิ่งที่ป้าทำก็คือ ป้าให้ลุงคนขับจอดข้างทาง เพื่อซื้อเป็ด!!! ใช่อ่านไม่ผิดหรอก ป้าแวะซื้อเป็ดข้างทาง แม้คนในรถจะชะโงกหัวออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองว่าป้าอีกนานมั้ย ตูรีบ สายตานั้นก็ทำอะไรป้าชั้นไม่ได้อ่ะแก ป้ายังคงสั่งแม่ค้าให้สับเป็ดต่อไปโดยไม่แคร์ใครเลย อินดี้ซะงั้น5555
เมื่อป้าได้เป็ดตามที่ต้องการแล้วเราก็นั่งรถต่อไปเรื่อยๆ กำลังจะฟินว่าอากาศที่นี่ดีจัง เย็นสบายไม่ร้อนเลย แต่ได้แค่คิด ฝนเจ้ากรรมก็ตกลงมา ตกหนักและแรงสุดๆ คิดภาพดิแบบรถหวานเย็นเก่าๆ กระจกบานหลังพังเลื่อนลงมาปิดไม่ได้ เปียกจ้าาา นั่งทนฝนสาดแบบหนาวๆจนถึงเขื่อนศรีนครรินทร์ ชิคเนอะ
และในที่สุดเราก็นั่งหนาวตัวเปียกจนถึง"อุทยานน้ำตกเอราวัณ" เย้!!
ค่าเสียหายเข้าอุทยานคนละ50บาท แต่วันหยุดเสาร์อาทิตย์100บาทไทยจ้าา ถ้าขับรถไปเองมีค่ารถเข้าด้วยน้าา น่าจะ20-40บาท แต่เราเข้าฟรี!! รถจอดหน้าด่านเข้าปุ๊บ พี่เจ้าหน้าที่ก็ยกมือไหว้ป้าปั๊บ และเดินขึ้นมาเก็บค่าเข้าคนบนรถ ป้าลุกเดินมาหาเราและบอกเจ้าหน้าที่ว่า "อย่ายุ่งกับหลานป้านะ ห้ามเก็บนี่หลานป้าเอง" ง่อววววไงหละป้าอย่างเท่
และต้องนั่งรถเข้ามาอีกนิดก็จะถึงตัวอุทยานแล้ว แต่ป้าลงก่อนเพราะบ้านพักของเจ้าหน้าที่จะถึงก่อน แต่ป้าจดเบอร์ป้าไว้ให้เราโทรหาเดี๋ยวป้าเอาของเก็บจะแว๊นไปหาให้รอก่อน ระหว่างรอป้าเราก็เดินไปหาร้านอาหารกินประทังชีวิตแป๊ป
อยากบอกว่าร้านที่4ราคาเป็นมิตรและถูกกว่าร้านข้างเคียงประมาน20-40บาทเลย และทีเด็ดคือไก่ย่างร้านนี้อร่อยมากกก เนื้อนุ่มสุดๆ ครึ้งตัวละ80-100บาท จุดสังเกตุคือร้านนี้จะใช้ตู้ไก่ย่างห้าดาวมาใส่ไก่ร้านตัวเอง5555 (คุณหลอกดาว) แต่อร่อยมากกว่าไก่ห้าดาวอีกรับประกัน
อิ่มแล้วป้าก็มาพอดี ป้ามาพร้อมกับป้าอีกคนเอาถุงก๊อบแก๊บสวมหัวมาทั้งคู่ใจดีพอกันเลย ฝนก็ตกคือเกรงใจป้ามาก ป้าพาไปรู้จักบรรดาหลานๆเพื่อนๆเจ้าหน้าที่ในนั้น จากที่ตอนแรกไปติดต่อเองเจ้าหน้าที่พูดจาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ บอกบ้านพักเต็มเหลือแต่เต็นท์ ซึ่งฝนตกนอนเต็นท์คงไม่ดีมั้ง555 แต่ด้วยบารมีของป้าทำให้เราได้นอนบ้านจ้าาา เป็นบ้านไม้ไผ่ที่เก็บไว้1หลัง เนื่องด้วยพัดลมพังแต่อากาศหนาวขนาดนี้ หนูไม่ต้องการค่าาา หนูโอเค
สรุปเราได้นอนบ้านที่สบายกว่าเต็นท์และที่สำคัญมันฟรีด้วยแก โอ้ยฟรีอีกแล้วฟินไปดิ ถ้าราคาปกติอยู่ที่คืนละ300บาทไทย เต็นท์ราคา150-250บาทเอง เนื่องจากเรารบกวนบารมีป้ามาเยอะมากเราเลยบอกป้าว่าขอเดินเข้าที่พักเองไม่ต้องไปส่งคือป้ารำบากกับเรามากจริงๆ เราขอบคุณและร่ำลาป้าเสร็จเรียบร้อยแทบหอมแก้ม555 ก็ถึงเวลาเดินแล้ววว
ทางเดินเป็นถนนลาดยางปกติ ดูไม่น่าลำบากอะไรแต่ฝนตกหนักเลยเป็นโคลนอย่างที่เห็น555
เดินไปเรื่อยๆ แหงนหน้าดูหมอกเรื่อยๆ คูลสุดๆ
ก่อนจะถึงที่พักมีสะพานน้ำตกตื้นๆให้เดินข้าม ได้อารมณ์ชุ่มช่ำมากกก
และนี่คือสภาพบ้านไม้ไผ่ของเราอิอิ ปล.ลืมถ่ายข้างในที่พักมา เนื่องจากไม่มีบริเวณอะไรให้เดินเล่น เปิดเข้าไปมีแค่ฟูกที่นอน3ฟุตครึ้ง2ที่ หมอน ผ้าห่ม มุ้ง มีที่ว่างนิดหน่อยก็เต็มบริเวณแล้ว5555 ไม่มีไวไฟ มีปลั๊กไฟให้1รู ส่วนห้องน้ำก็ใช้ห้องน้ำรวมโลดดด จริงๆมันฟินตรงที่ฝรั่งอาบน้ำเย็นๆแล้วร้องตะโกนอ้าาา โอ้ นี่ฟินกว่าเดิมอีก555 แล้วอยากบอกว่าใครกลัวตุ๊กแกจิ้งจกนี่รีบทำธุระให้เสร็จก่อน1ทุ่มเลย ไม่งั้นจะเจอแบบเป็นแก๊ง ตัวนี่ใหญ่กว่าน้ำขวด1ลิตรอีก!! พึ่งเคยนอนที่พักแนวลุยๆในอุทยานครั้งแรก มันรู้สึกสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริงเลยอ่ะแก
คืนแรกใช้เวลากลับการเดินทางถึงที่พักเสร็จแล้วก็นอนเลย ตื่นมาวันที่สองเช้าสุดๆ อากาศหนาว น้ำเย็นจนไม่อาบน้ำ555 ข้ามไปลุยป่าตามหาน้ำตกเลยดีกว่า พร้อมแล้วก็ออกหาอาหารกินเพิ่มพลังก่อน ขาเข้าน้ำตกเราขอนั่งรถกอล์ฟละกัน กินอิ่มๆพุงกำลังตึงเดินไม่ไหวจริงๆ
รถกอล์ฟค่าเสียหายคนละ30บาท ไม่แพงมั้ง555
อ้าสสสส ถึงประตูสู่การเดินขึ้นเขาตามล่าหาน้ำตกแล้ว น้ำแรกที่เห็นใสมากกก ใสกว่าหน้าเราอีกนะ555

สภาพทางเดินขึ้นเขาก็ดูดีจัง สบายแล้วหละคงไม่เหนื่อยมากมาย(มั้ง) บอกเลยว่ารอดูทางเดินชั้นสูงๆนะรับรองมันสุดๆ
เนื่องจากเราออกเดินทางขึ้นเขาตามหาน้ำตกกันตั้งแต่เช้าตรู่ 7โมงเช้าอากาศเย็นสบาย คนยังไม่ค่อยพลุกพล่าน ทำให้รู้สึกอย่างกับเป็นเจ้าของที่นี่เองเลย รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
สวัสดีน้ำตกกกก เจอแล้วชั้นที่1ไหลคืนรัง แค่ชั้นแรกก็ดูใสแล้วง่ะ
ชั้นที่1ผ่านไปเดินขึ้นไปชั้นที่2ต่อ ใกล้กันมากยังไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร5555
ชั้นที่2 วังมัจฉา วังมัจฉาจริงๆเลยแหละ ปลาตัวใหญ่มากลอยสงบนิ่งอยู่บนผิวน้ำเยอะมากกกก
มุมขวาที่เห็นนั่นแหละมัจฉาตัวจริง มองตอนแรกไกลๆนึกว่าใบไม้ลอยน้ำจ้าาา ปลาอะไรจะเยอะขนาดนี้5555
ผ่านไป2ชั้นก็ยังเดินสบายๆไม่เหนื่อยอะไรนะ ชั้นนี้มีสะพานช่วยทุ่นแรง คือแรงเหลือสุดๆ
และนี่ชั้นที่3 ผาน้ำตก
เริ่มเห็นเป็นน้ำตกสูงขึ้นมาแล้วววว น้ำเริ่มใสออกสีเขียวมรกต อ้าสสชื่นใจ
อีกมุมของชั้น3 สวยมากกกก เริ่มได้อารมณ์ป่าเขาลำเนาไพรหละนะ555
เดินขึ้นต่อไปชั้น4 ก็ยังคงสบายอยู่จ้าาา มีบันไดให้เราด้วย แต่ดูความสูงดิโอยยยเมื่อยแน่ๆ
เดินไปอีกแป๊ปก็เจอชั้นที่4แล้วค่าาา ผ่านมา4ชั้นสบายมากอ่ะ (เดี๋ยวรอเจอของดี555)
ถึงแล้ววชั้นที่4 อกนางผีเสื้อ ชั้นนี้ทางลงค่อยข้างลำบากเลยแชะรูปเสร็จก็เดินผ่านไปชั้นบนต่อเลยละกัน555
อกจริงๆอ่ะ อกใหญ่ด้วยนะ555 น้ำใสๆเริ่มเปลี่ยนสีเขียวมรกตผสมฟ้าแล้ววว
และชั้น5 6 7คือมหาสุดยอดของการเดินขึ้นเขาจ้าาาา บอกคำเดียวทางแต่ละชั้นไม่สบายแบบที่ผ่านมาแล้ว ไม่มีทางเดินปูนสวยๆ และบันไดปูนเก๋ๆแล้วT^T
เลเวล1 ยังพอโอเคแต่ดินคือแฉะไปด้วยโคลน อย่าล้มเชียว ตัวแดงอมน้ำตาลน่ารักแน่ๆ
เลเวล2 ไม่ธรรมดาเลย555 หินและก็หิน มีคนใส่รองเท้าแตะลื่นแล้วนะจุดนี้ ปีนกันอย่างเมามันจ้าา
ปีนไปบ่นไปคืออยากจะลงแล้วไม่ไปต่อแล้วเหนื่อยT^T แต่เดินบ่นไปเรื่อยๆเจอน้ำตกชั้น5ถึงกับหุบปากแล้วถอดผ้าใบทิ้งไว้ข้างโขดหิน เอาเท้าจุ่มน้ำ โอ้ยยยยฟินมากก น้ำเย็นสุดๆ ปลาเยอะมากไม่ใช่แค่ตัวใหญ่ๆแบบชั้นที่2นะ นี่ลูกเล็กเด็กแดงเพียบ
ชั้นที่5 เบื่อไม่ลง (ใช่ที่สุดเบื่อไม่ลงจริงๆชั้นนี้)
ชั้นที่5 น้ำเริ่มใสออกสีฟ้าชัดเจนแล้ว อย่างกับสระน้ำที่คนสร้างเลยใสแจ๋วสุดๆ
ฝรั่งคนนี้อึดมากกก ตอนชั้น4เรายังเดินอยู่ด้วยกัน ไม่มีพักเหนื่อยเลย นางแซงเราตอนนี้เราเดินบ่นๆหนีมาว่ายน้ำก่อนหละ[/cente
[CR] รีวิวเที่ยวจังหวัดกาญ " แบกเป้มั่วๆ ทั่วกาญจนบุรี " 3วัน2คืน ด้วยงบ2,000
ขอเปิดตัวด้วยกระทู้ ep.1 น้ำตกเอราวัณ เที่ยวฟรีตลอดทริป
เอ้าาาาา แล้วสังขละอ่ะแก555 เอาไว้ไปถึงน้ำตกแล้วค่อยคิดละกัน ไว้พรุ่งนี้ค่อยต่อรถไปสังขละ เมื่อรถตู้พามาส่งที่บขส.กาญ ป้าพาขึ้นรถหวานเย็นคันเล็กๆเก่าๆ ย้ำว่าเก่ามากกก แต่โชคดีได้นั่งเบาะหลังสุดคือไม่อึดอัดเหมือนเบาะอื่นๆ ฟินไป
เมื่อป้าได้เป็ดตามที่ต้องการแล้วเราก็นั่งรถต่อไปเรื่อยๆ กำลังจะฟินว่าอากาศที่นี่ดีจัง เย็นสบายไม่ร้อนเลย แต่ได้แค่คิด ฝนเจ้ากรรมก็ตกลงมา ตกหนักและแรงสุดๆ คิดภาพดิแบบรถหวานเย็นเก่าๆ กระจกบานหลังพังเลื่อนลงมาปิดไม่ได้ เปียกจ้าาา นั่งทนฝนสาดแบบหนาวๆจนถึงเขื่อนศรีนครรินทร์ ชิคเนอะ
สรุปเราได้นอนบ้านที่สบายกว่าเต็นท์และที่สำคัญมันฟรีด้วยแก โอ้ยฟรีอีกแล้วฟินไปดิ ถ้าราคาปกติอยู่ที่คืนละ300บาทไทย เต็นท์ราคา150-250บาทเอง เนื่องจากเรารบกวนบารมีป้ามาเยอะมากเราเลยบอกป้าว่าขอเดินเข้าที่พักเองไม่ต้องไปส่งคือป้ารำบากกับเรามากจริงๆ เราขอบคุณและร่ำลาป้าเสร็จเรียบร้อยแทบหอมแก้ม555 ก็ถึงเวลาเดินแล้ววว
สภาพทางเดินขึ้นเขาก็ดูดีจัง สบายแล้วหละคงไม่เหนื่อยมากมาย(มั้ง) บอกเลยว่ารอดูทางเดินชั้นสูงๆนะรับรองมันสุดๆ
และนี่ชั้นที่3 ผาน้ำตก
ถึงแล้ววชั้นที่4 อกนางผีเสื้อ ชั้นนี้ทางลงค่อยข้างลำบากเลยแชะรูปเสร็จก็เดินผ่านไปชั้นบนต่อเลยละกัน555
ปีนไปบ่นไปคืออยากจะลงแล้วไม่ไปต่อแล้วเหนื่อยT^T แต่เดินบ่นไปเรื่อยๆเจอน้ำตกชั้น5ถึงกับหุบปากแล้วถอดผ้าใบทิ้งไว้ข้างโขดหิน เอาเท้าจุ่มน้ำ โอ้ยยยยฟินมากก น้ำเย็นสุดๆ ปลาเยอะมากไม่ใช่แค่ตัวใหญ่ๆแบบชั้นที่2นะ นี่ลูกเล็กเด็กแดงเพียบ