รักในความทรงจำ....

ขอพื้นที่สารภาพความในใจหน่อยนะคะ....
ฉันเชื่อว่าทุกคนมีความรักครั้งแรก...แต่ไม่ใช่ทึกคนที่จะโชคดีได้แต่งงานกับรักครั้งแรก
ฉัน....ก็หนึ่งในจำนวนผู้หญิงที่โชคร้าย.... ที่ความรักไม่ได้จบลงเหมือนนางเอกในละคร
แต่ในความโชคร้าย  นี้กลับมีความโชคดีที่ยิ่งใหญ่......
.....ฉันเป็นผู้หญิงไม่สวย  จึงไม่เคยมี ผช มาจีบเลยสักครั้ง และเพราะรู้ว่าตัวเองไม่สวย จึงไม่เคยคิดเรื่องแฟนเลย จน อายุจะปาไป 26!!!!
วันหนึ่ง...มีผู้ชายคนหนึ่ง ทักผ่านโปรแกรม MSN (โปรแกรมแชทสุดฮิตสมัยนั้น)....
ไม่รู้ว่าเค้าหาแอดเรามาได้ยังไง?....ข้อความคราวๆที่จำได้ ...สวัสดีครับ เมื่อเช้าเหนื่อยมั้ยวิ่งตามรถเมล์!!!!
ฉันเองตกใจมาก ใครกัน? ถามไปดีๆไม่บอกว่าใคร  เลยจัดการบล๊อกซะเลย...แต่ความพยายามของเค้าก็สมัครแอดมาใหม่ ทักมาทุกวัน...
ฉันเองก็แอบตื่นเต้นที่มี ผช มาสนใจ!!! ถึงแม้ไม่รู้ว่าเค้าหน้าตาเป็นอย่างไรก็อดฝันไม่ได้  มันก็ลุ้นอยู่ดี  ....ในที่สุดเค้าก็บอกว่ารู้จักเราผ่านเพื่อนของเรา เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานกันแต่ไม่บอกว่าเพื่อนคนใหน ? ...แต่สิ่งที่ทำให้เราตีดสินใจคุยกับเค้าต่อเพราะ ประโยคนี้
"ผมเจอคุณทุกวันเลย รอขึ้นรถเมล์คันเดียวกัน คุณไม่เคยมองผมเลย  ผมได้แต่มอง ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ"
ประโยคมัดใจหญิงสินะ ชอบแต่ครั้งแรกที่เจอ!!!  ...เราก็อดเขินไม่ได้   และก็คิดว่า แบบฉันนี้นะมีคนชอบครังแรกที่เจอ ลิปสติกยังไม่เคยทาเลยนะ .....หาความสวยมาจากตรงไหนในตัวฉันนะ ..นี้คือสิ่งที่อยากรู้.....จากนั้น เรื่องของเราก็เหมือนนิยายรัก....เราคุยกัน ผ่านโปรแกรมนี้ทุกวัน พอดีฉันทำงานกับญาติและไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่นัก..ทุกๆวันเราก็พยายามมองหาว่าเป็นใครกันนะ...แต่ไม่เคยรู้เลย...แม้ว่าบางวันเค้าจะบอกว่า วันนี้นั่งอยู่ข้างหลังเราเอง!!!!  ก็แอบกลัวว่าเค้าจะเป็นโรคจิตหรือเปล่าขึ้นมาละสิ!!  กลัวมากจริงๆ   เลยไม่อยากคุยต่อ   แต่เค้าก็พยายามถามว่าทำไมฉันเปลี่ยนไม่คุย  เหมือนเดิม
ฉันบอกเค้าไปตรงๆว่ากลัวโรคจิต  ถ้าเค้าเป็นคนปกติจริง หลายเดือนผ่านมาแล้วก็น่าจะกล้าทักทายกันบ้างถ้าเจอกันทุกวันเวลามาทำงาน
เค้าสัญญาว่าพรุ่งนี้จะทัก.....ฉันนอนแทบไม่หลับเลย แถมตื่นมาแต่งตัวยืมอุปกรณ์แต่งหน้าของพี่สาว จนพี่สาวแซวว่ามีความรัก!!!!
คำนี้เองทำฉันตกใจ นี้ฉันมีความรักหรอนี้ รักใครก็ไม่รู้? ....แต่แล้ววันนี้เค้าก็ไม่ทัก ..แต่ส่งข้อความมาบอกว่า  ไม่กล้าทัก  ขอโทษจริงๆ...
ฉันเองผิดหวังและตัดสินใจว่า ถ้าวันนี้เค้าไม่มาเจอเราคงต้องเลิกคุย!!!! และแล้วมันได้ผลจากการที่เราไม่สนใจนี้เอง
และเค้าก็ขอนัดให้ฉันไปทานข้าวกับเค้าที่ร้านแถวๆบ้านหลังเลิกงาน   ฉันเองก็ทั้งกลัวทั้งกล้า แต่ก็คิดไว้แล้วว่าร้านที่นัดเจอกันอยู่ติดถนน คนเยอะ ไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้น อีกอย่างเราก็ตัวโตพอจะสู้ไหว ทั้งเทควันโด ยูโด ก็เรียนมา ..แต่ฉันก็ไม่กล้าเล่าให้พร่สาวฟังว่านัดเจ้าเค้า แต่การคุยกันหลายเดือนผ่านโปรแกรมพี่สาวรู้ด้วยตลอดและไม่ชอบที่ ผช คนนี้ไม่กล้าพอที่จะทักทายกัน....
............
ในที่สุดก็เจอ....ฉันตั้งใจไปสาย.....ฉันอึ้งไปสักพัก แอบเห็นเค้านั่งข้างๆหน้าต่าง ท่าทางกระวนกระวาน!!!!
นี้หรอ ผช ที่บอกว่าแอบชอบเราครั้งแรกที่เจอ เค้าไม่ได้ขี้เหร่ ขนาดนั้นสักหน่อย  ฉันเองตะหากที่ไม่เหมาะ นี้คือความคิดฉันตอนนั้น
ฉันเลยทำใจก่อนเดินเข้าไปในร้านแล้วว่า ในที่สุดพอเจอกันเค้าเห็นฉันชัดๆคงกลายเป็นเพื่อนแน่ๆ...คิดแบบนี้ก็ลดอาการเขินได้เยอะที่เดียว
......พอฉันเข้าไปในร้าน  เค้ามองและยิ้ม พร้อมกับลุกขึ้นยืน.....เท่านี้แหละ!!!ฉันอึ้งอีกรอบ.....ความสูงเราต่างกันมาก  มันมากจนตกใจ!!!!!
และเค้าก็ไม่ใช่ชายในฝันฉันซะแล้ว!!!!....ที่เป็นแบบนี้เพราะฉัน ดันสูงกว่าเค้า  คือ เค้าแค่ไหล่ฉันเท่านั้นเอง!!!!!
แต่ว่าตามมารยาทฉันควรเป็นเพื่อนกับเค้า....แต่ก็ไม่รู้ทำไมพอฉันรู้ว่าเค้าชอบ ก็แอบเขินอยู่ดี...
....พอเจอตัวจริง ผช คนนี้กลับคุยเก่ง ไม่มีท่าทีเขินเท่าที่ฉันคิด...ในที่สุดก็รู้เหตุผลว่าทำไมเค้าไม่กล้าทัก และทำไมฉันเองไม่เคยมองเห็นเค้าเลย...
เพราะความสูงนี้เอง เค้าบอกว่าเค้าไม่มั่นใจเลย และเค้าเองไม่ได้อยู่ในระดับสายตาฉันเลย!!!!!!!
เพราะแบบนี้ฉันเลยไม่คิดจะเป็นแฟนกับเค้าในวันนั้น......แต่เค้าเองบอกว่า ถึงยังไงก็ชอบ และขอเป็นเพื่อน กันไปก่อนก็ได้
ตั้งแต่นั้นมา  ฉันมีเพื่อนไปเดินห้าง  กินข้าว และดูหนัง ดีที่เราชอบอะไรเหมือนๆกัน แถมฉันเองก็ไม่เขินแล้ว ทุกอย่สงเป็นธรรมชาติมากๆ...ผ่านมาอีกหลยเดือน...เค้าขอคบเป็นแฟน!!!! ฉันเองก็รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง ทั้งกลัวทั้งกล้า รู้ว่าถ้าบอกว่าไม่เค้าจะเสียใจ รวมทั้งฉันเองคงรู้สึกแย่ที่ไม่มีเค้า...ฉันใช้เวลาทบทวนอยู่หลายวัน...ในที่สุดก็พิจราณาจาก อายุตัวเอง หน้าตาในกระจก และคิดได้ว่าโชคดีแค่ไหนมี  ผช ดีๆมารักเราขนาดนี้ ไม่มีอะไรเสียหายเลยถ้าเค้าจะเป็นรักครั้งแรก..........เพราะแบบนี้ รักแรก ของฉัน..ที่เริ่มต้น และจบลง ในเวลา เกือบ4ปี......
ผช  คนนี้รักฉันมากที่สุด ไม่เคยโกธรฉันก่อนเลยสักครั้ง  
ผช  คนนี้แม้นฉันจะงอแงไร้สาระ โกรธพาล เค้าจะเป็นฝ่ายง้อก่อนเสมอ
ผช คนนี้ที่พูดว่ารัก ก่อนฉันเสมอ
ผช คนนี้ที่พยายามหาสิ่งที่ฉันอยากได้มาให้ แม้นจะลำบากเก็บเงินก็ตาม
ผช คนนี้ที่อยู่ข้างๆกันตลอดทั้งสุขทั้งทุกข์
ผช ที่สอนฉันให้รู้จัก ความรัก  และแสดงให้เห็นว่าความรักมันสวยงาม  ความรักที่ดีมันเป็นอย่างไร
.....ผช ที่ฉันหวังว่า เราจะได้แต่งงานกัน....
แต่เรา ความแตกต่าง กันในพื้นฐานครอบครัว กลับเป็นปัญหาของเรา....และเราทั้งคู่  รักครอบครัวพอๆกับที่เรารักตัวเอง...
...เรารู้แน่นอนว่า หากเราตัดสินใจแต่งงาน ความสุขแบบตอนนี้มันจะหายไปแน่ๆ เราทั้งคู่มีหน้าที่ของลูกที่ต้องทำ....เราจะปล่อยให้ใครสักคนหนึ่งเสียสละเพื่อใครคนหนึ่งไม่ได้ !!! ....ฉันเองก็ถึงวัยที่ต้องแต่งงาน ส่วนเค้าเองก็ไม่พร้อมในเร็วๆนี้ และนี้ก็เป็นปัญหาที่ครอบครัวฉันจะรับไม่ได้ที่จะคบกันอยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงาน และการแต่งงาน สินสอนก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ฉันคงไม่ยอมแน่ๆ......ถ้ายังคบกันในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ความเครียดจะทำให้เราค่อยๆห่างกัน.....ฉันจึงตัดสินใจคุยกับเค้าตรงๆ หากไม่สามารถ หมั้นหมายหรือไปคุยกับพ่อแม่เป็นทางการไว้ เราจะคบกันต่อไปแบบนี้ไม่ได้ และในระหว่างนี้ เราทั้งคู่ควรเป็นอิสระ ทั้งเค้าและฉันไม่ควรผูกมัดความเป็นเจ้าของกันละกัน ....มันพูดง่ายแต่ก็เจ็บปวด  ....เราทั้งคู่คิดเหมือนกัน   ทำให้เราไม่เครียดมาก เราไม่หึงห่วงกัน เค้าไปเที่ยวได้โดยไม่มีฉัน ฉันไปเที่ยวได้โดยไม่มีเค้า...แต่เรายังรักกันเท่าเดิม....แย่ตรงที่ความรักอย่างเดียวไม่มั่นคงพอ!!!!!ในความรู้สึกของผู้หญิงอย่างฉัน.....และแล้ววันหนึ่ง  มี ผช อีกคนมาชอบฉัน เค้าแสนดีและครบถ้วน ฉันบอกกับแฟนว่า คนนี้มาชอบฉันและเค้ากำลังจีบฉันอยู่ แต่ฉันบอกไปว่ามีแฟนแล้ว.....เท่านั้นแหละ แฟนฉันบอกว่าเธอควรเปิดโอกาสให้ตัวเอง เค้าพูดพร้อมน้ำตาไหล  ...ฉันเองสับสน เสียใจ ผิดหวัง ทำไมเค้าไม่คิดจะต่อสู้ เค้าจะปล่อยฉันไปง่ายๆแบบนี้หรอ หรือว่าหมดรักแล้ว....เราใช้เวลาคุยกันเรื่องนี้อยู่นาน จนในที่สุดเราเข้าใจเหตุผลกันและกัน ฉันเองก็ไม่อยากกดดันเค้าเรื่องหมั้นหมายเพราะรู้ว่าครอบครัวเค้าเองกำลังแย่.....เพราะแบบนี้เราจึงห่างกัน ....และฉันก็เริ่มเข้าใกล้อีกคนในฐานะพี่ชายที่ปรึกษาปัญหาชีวิต  ส่วนเค้าเองก็มีเพื่อนร่วมงานมาสารภาพรัก !!!!!
เราเล่าให้กันฟังเรื่อง ชีวิตความเป็นไป คนที่มาชอบเราเป็นยังไง ....แต่เราทั้งคู่ก็ยังรักกัน...ในที่สุดวันที่กลัวก็มาถึง...วันที่เราต้องเดินแยกทางกัน แต่ทางของเราเป็นทางขนาดที่คู่กันไป  ที่มองเห็นกัน แต่ล้ำเส้นไม่ได้...เป็นความรู้สึกอกหักครั้งแรก อกหักที่เราเลือกเอง  วันที่เราลากัน จำได้แค่ร้องไห้ทั้งสองคน และคำสัญญาจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน.....
ทุกวันนี้  รักครั้งนั้นยังอยู่ในใจเสมอ  แต่ฉันก็ไม่เสียใจเลยที่เลือกทางเดินนี้ ....เพราะทางนี้อย่างน้อยฉันก็มีความทรงจำที่สวยงาม ไปตลอดชีวิต  ดีกว่าฝืนเดินร่วมทางแคบๆที่สักวันก็อึดอันเดินเบียดกันตกถนนและอาจไม่เหลือแม้แต่ความทรงจำดีๆต่อกัน....ตอนนี้เราอยู่ห่างหันครึ่งโลก  แล้วละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่