https://www.youtube.com/watch?v=UthtbNbxtV8
สำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อก็ต้องถามว่า แล้วทฤษฎีนี้มันสามารถ falsify ได้หรือเปล่า ถ้าไม่สามารถ falsify ได้ก็ไม่ถือเป็นทฤษฎีวิทยาศาสตร์.
falsify ได้นั้นหมายความว่าต้องบอกได้ว่าหลักฐานแบบไหนที่จะหักล้างทฤษฎีนี้ได้.
หลักฐานที่จะหักล้างทฤษฎีนี้ต้องเป็นหลักฐานที่แสดงได้ว่าไม่มีใครระลึกชาติได้.
ผมก็ไม่นึกไม่ออกว่าจะออกแบบการทดลองหรือจะมีหลักฐานแบบไหนที่จะแสดงได้ว่าไม่มีใครระลึกชาติได้.
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่น่าเป็นทฤษฎีวิทยาศาสตร์ได้.
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเป็นทฤษฎีมุมกลับที่บอกว่า "ไม่มีใครระลึกชาติได้" อันนี้ก็บอกได้ง่ายเลยว่าหลักฐานแบบไหนที่หักล้างทฤษฎีนี้ได้. คือเพียงแค่เจอคนซักคนที่ระลึกชาติได้ก็หักล้างทฤษฎีนี้ได้.
จริงๆ ผมก็ยังงงๆ อยู่วาถ้าทฤษฎีมุมกลับถูกหักล้างได้ แล้วจะสรุปได้หรือเปล่าว่ามีคนระลึกชาติได้?
สมมุติว่าสรุปได้ว่าอย่างนั้น แต่มันก็แค่บางคนที่ระลึกชาติได้ มันไม่มีอะไรบอกได้แน่นอนว่าใครบ้างที่ระลึกชาติได้.
เมื่อไม่มีความแน่นอนก็ไม่มีประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์.
ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่ดีต้องสามารถใช้ได้เป็นการทั่วไป หรือไม่ก็ มีความแน่นอน สามารถระบุได้แน่นอนว่าภายใต้เงื่อนไขไหนจึงจะเป็นไปตามทฤษฎีนี้ จึงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ สามารถนำไปทำนายได้ว่าภายใต้เงื่อนไขแบบนี้จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ๆ เป็นต้น.
ถ้าเป็น อ.เจษฎา ก็มักจะพูดว่าทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่ดี ต้องสามารถทำซ้ำได้.
ทฤษฎีที่ไม่สามารถบอกเงื่อนไขที่แน่นอน หรือ ไม่สามารถทำซ้ำได้ ก็เป็นทฤษฎีที่ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถเอาไปทำประโยชน์อะไรได้.
เมื่อทำประโยชน์หรือต่อยอดทฤษฎีอื่นๆ ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะมีทฤษฎีนี้ไปทำไม.
แต่ลองคิดดูอีกที ถ้าตีวงทฤษฎีให้แคบลง ให้เป็นทฤษฎีที่จำเพาะเจาะจงไปเลยว่า "เด็กชาย ก. สามารถระลึกชาติได้", อย่างนี้ค่อยเป็นทฤษฎีที่สามารถทำซ้ำได้ และสามารถทำนายได้หน่อย.
คือทำซ้ำได้เฉพาะกับเด็กชาย ก. หนะ.
ก็นึกต่ออีกว่า แล้วจะเอาความสามารถในการระลึกชาติของเด็กชาย ก. ไปใช้ประโยชน์อะไรได้ หรือ เอาไปต่อยอดทฤษฎีอื่นได้อีกหรือเปล่า.
คม-ชัด-ลึก "ระลึกชาติ?"
สำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อก็ต้องถามว่า แล้วทฤษฎีนี้มันสามารถ falsify ได้หรือเปล่า ถ้าไม่สามารถ falsify ได้ก็ไม่ถือเป็นทฤษฎีวิทยาศาสตร์.
falsify ได้นั้นหมายความว่าต้องบอกได้ว่าหลักฐานแบบไหนที่จะหักล้างทฤษฎีนี้ได้.
หลักฐานที่จะหักล้างทฤษฎีนี้ต้องเป็นหลักฐานที่แสดงได้ว่าไม่มีใครระลึกชาติได้.
ผมก็ไม่นึกไม่ออกว่าจะออกแบบการทดลองหรือจะมีหลักฐานแบบไหนที่จะแสดงได้ว่าไม่มีใครระลึกชาติได้.
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่น่าเป็นทฤษฎีวิทยาศาสตร์ได้.
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเป็นทฤษฎีมุมกลับที่บอกว่า "ไม่มีใครระลึกชาติได้" อันนี้ก็บอกได้ง่ายเลยว่าหลักฐานแบบไหนที่หักล้างทฤษฎีนี้ได้. คือเพียงแค่เจอคนซักคนที่ระลึกชาติได้ก็หักล้างทฤษฎีนี้ได้.
จริงๆ ผมก็ยังงงๆ อยู่วาถ้าทฤษฎีมุมกลับถูกหักล้างได้ แล้วจะสรุปได้หรือเปล่าว่ามีคนระลึกชาติได้?
สมมุติว่าสรุปได้ว่าอย่างนั้น แต่มันก็แค่บางคนที่ระลึกชาติได้ มันไม่มีอะไรบอกได้แน่นอนว่าใครบ้างที่ระลึกชาติได้.
เมื่อไม่มีความแน่นอนก็ไม่มีประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์.
ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่ดีต้องสามารถใช้ได้เป็นการทั่วไป หรือไม่ก็ มีความแน่นอน สามารถระบุได้แน่นอนว่าภายใต้เงื่อนไขไหนจึงจะเป็นไปตามทฤษฎีนี้ จึงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ สามารถนำไปทำนายได้ว่าภายใต้เงื่อนไขแบบนี้จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ๆ เป็นต้น.
ถ้าเป็น อ.เจษฎา ก็มักจะพูดว่าทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่ดี ต้องสามารถทำซ้ำได้.
ทฤษฎีที่ไม่สามารถบอกเงื่อนไขที่แน่นอน หรือ ไม่สามารถทำซ้ำได้ ก็เป็นทฤษฎีที่ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถเอาไปทำประโยชน์อะไรได้.
เมื่อทำประโยชน์หรือต่อยอดทฤษฎีอื่นๆ ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะมีทฤษฎีนี้ไปทำไม.
แต่ลองคิดดูอีกที ถ้าตีวงทฤษฎีให้แคบลง ให้เป็นทฤษฎีที่จำเพาะเจาะจงไปเลยว่า "เด็กชาย ก. สามารถระลึกชาติได้", อย่างนี้ค่อยเป็นทฤษฎีที่สามารถทำซ้ำได้ และสามารถทำนายได้หน่อย.
คือทำซ้ำได้เฉพาะกับเด็กชาย ก. หนะ.
ก็นึกต่ออีกว่า แล้วจะเอาความสามารถในการระลึกชาติของเด็กชาย ก. ไปใช้ประโยชน์อะไรได้ หรือ เอาไปต่อยอดทฤษฎีอื่นได้อีกหรือเปล่า.