สิ่งที่เรียนรู้ ตอนที่ 5/10 (กว่าจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ)

กระทู้สนทนา
สิ่งที่เรียนรู้ 5

หลังจากวันรับน้อง รูปที่ผมถ่ายเริ่มเป็นที่พูดถึง ว่าผมถ่ายรูปคนได้สวยและน่าสนใจ ด้วยการใช้กล้องและเลนส์ที่หลายคนมองข้าม

จากนั้นมาผมมักจะถูกเลือกจากรุ่นพี่เพื่อให้ถ่ายรูปให้ การพัฒนาฝีมือของผมเริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น

มีนิตยสารการถ่ายรูปหลายเล่มที่ผมพยายามหาซื้อและอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ในเวลานั้นถือว่าเป็นช่วงของการฝึกหัดและพัฒนาฝีมืออย่างจริงจัง

พอหมดเทอมที่หนึ่ง เงินเก็บที่มีอยู่เหลือเพียงไม่กี่พัน หลังจากจ่ายค่าห้องไปแล้ว
จดหมายฉบับล่าสุดของผมที่ส่งกลับบ้านคือ เรื่องเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ และขอให้ที่บ้านเริ่มส่งเงินมาให้

แล้วผมก็ได้ความกรุณา ด้วยจดหมายที่ผมเขียนเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องถ่ายรูป เงินเดือนจากทางบ้านที่ผมได้ในเวลานั้นคือ 3,000บาท ซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับสิ่งที่ผมเรียน ไหนจะค่าฟิล์ม ค่าล้างอัดรูป ค่ากิน ค่าสมุดหนังสือเรียน แค่ค่าห้องเพียงอย่างเดียวก็ 1,000 บาทแล้ว ผมต้องบริหารเงิน 2,000 บาทที่เหลือนั้นสำหรับทุกอย่างในชีวิตการเรียนมหาลัยของผมให้รอด

ข้าวเช้าคือนมกล่องราคาแปดบาทกับขนมปังราคาห้าบาท
มื้อเที่ยงทานที่มหาลัยซึ่งต้องพยายามไม่ให้เกินยี่สิบบาทที่รวมทั้งข้าวและน้ำแล้ว
ส่วนมื้อเย็น "มันส์มันส์" ขนมมันฝรั่งทอดกรอบที่หน้าตาเหมือน "เรย์" ถุงละสิบแปดบาท แต่ผมต้องแบ่งไว้กินสองวัน เท่ากับเก้าบาทต่อมื้อเย็นหนึ่งมื้อ

แต่ผมก็โชคดีที่มีพี่รหัสที่รักผมเหมือนน้องชายแท้ๆ ที่คอยช่วยเหลือเรื่องเงินในบางครั้ง บางเดือนที่ผมขาด ครั้งละร้อยสองร้อย ซึ่งพี่เขาบอกว่ากห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร

มีรุ่นพี่หลายคนมองว่า ฝีมือการถ่ายรูปของผมที่พัฒนาเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากการฝึกฝนที่มีอย่างต่อเนื่อง และอีกส่วนมาจากความมีศิลปะที่มีติดตัวมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน ที่ผมเคยทำงานด้านการออกแบบตกแต่งภายในมา ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของมุมมองและความสวยงามของภาพได้เป็นอย่างดี

พอหมดเทอมที่สอง ผลการเรียนของผมออกมาค่อนข้างดีมาก พอถึงช่วงซัมเมอร์ ผมเลยเลือกเรียนวิชาเอกและวิชาเลือกที่ผมอยากที่เรียนมันมานาน

วิชาการถ่ายภาพเบื้องต้น ซึ่งก็คือการถ่ายภาพขาวดำกับห้องมืด
วิชาการถ่ายภาพสี ซึ่งก็คงไม่แตกต่างกับวิชาแรกสักเท่าไหร่
วิชากาถ่ายภาพสไลด์ อันนี้คือเรื่องใหม่ที่สุดสำหรับผม และถือว่าน่าจะเป็นวิชาที่ยากที่สุด

หลังจากผมได้ลงทะเบียนเสร็จ เรื่องนี้ไปถึงหูรุ่นพี่ เย็นวันนั้นยังกะวันนัดประชุมใหญ่ มีรุ่นพี่สี่ห้าคนเข้ามาคุยกับผมเรื่องการเรียน

    "ทำไมลงทะเบียนโดยไม่ปรึกษารุ่นพี่ รู้มั้ยว่าทั้งสามวิชามันคือวิชาปราบเซียน ไม่มีใครลง    สามวิชานี้พร้อมกันหรอก"

แต่ผมก็ลงทะเบียนไปแล้ว ด้วยความอยากและตื่นเต้นที่จะได้เรียนวิชาถ่ายภาพแบบจริงจังซะที หลังจากที่ศึกษาหาความรู้เองมานาน ถีงแม้ว่าผมจะได้รับคำชมจากหลายๆคนว่าผมถ่ายรูปสวยแล้ว แต่ผมเองก็ยังคิดว่า ยังมีอีกหลายเรื่องหลายอย่างที่ผมยังคงจะต้องเรียนรู้ต่อไปอีก

ทั้งสามวิชาเป็นวิชาปฏิบัติ ซึ่งต้องใช้เวลาและใช้เงินมากกว่าปกติ แต่ผมคิดว่า นี่แหละคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด ที่จะพิสูจน์ความตั้งใจจริงของผมได้ ถ้าผมผ่านด่านนี้ไปได้ คงไม่มีอะไรมาขวางทางผมได้อีก

ช่วงซัมเมอร์ การเรียนจะเข้มข้นกว่าช่วงเวลาเรียนปกติ
ซึ่งโดยปกติแล้ว เราจะเรียนแต่ละวิชาเพียงสัปดาห์ละครั้ง
แต่ซัมเมอร์ เราจะได้เรียนสามครั้งในหนึ่งสัปดาห์ บางวิชาเรียนจันทร์ พุธ ศุกร์ บางวิชาเรียน อังคาร พฤหัส เสาร์ ฉนั้นซัมเมอร์นี้ผมแทบจะไม่มีเวลาว่างที่จะไปไหนได้เลย มีเพียงวันอาทิตย์วันเดียวที่เป็นวันหยุด

แต่สิ่งที่ผมได้พบคือ ความสนุกในการเรียน ผมได้เรียนรู้เรื่องราวการถ่ายภาพที่ค่อนข้างครบถ้วน แต่ละวิชาเกื้อหนุนกันหมด ไม่ว่าจะภาพสี สไลด์ หรือขาวดำ จะแตกต่างกันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เข้มข้นมากสำหรับผมในการเรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพ

เรื่องราวการเรียนของผมยังคงถูกเขียนเป็นจดหมายเพื่อเล่าให้ที่บ้านฟัง การตอบรับจากที่บ้านเริ่มดีขึ้น จนมาถึงปลายเทอมก่อนช่วงสอบ ซึ่งซัมเมอร์เราจะเรียนกันเพียงสามเดือน

จากวิชาที่ลงเรียนไว้ผมเลยถือโอกาสขอเงินที่บ้านเพื่อซื้อกล้องตัวใหม่ ซึ่งผมให้เหตุผลว่ากล้องตัวเดิมไม่สามารถทำงานส่งอาจารย์ได้ดีพอ

ผมได้รับการอนุมัติเงินค่ากล้องมาสี่หมื่นบาท ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อยสำหรับค่าเงินในปี38 มันช่างเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับการเรียนของผมมากๆ

ก่อนสอบผมจึงเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับกล้องตัวที่ผมซื้อเอง ผมเอากล้องตัวนั้นไปให้ที่บ้านดูและใช้ถ่ายรูปทุกคนในครอบครัว
ความตั้งใจของผมเป็นผล เมื่อทุกคนมองเห็นทุกอย่างเหมือนกับที่ผมคิดไว้ ผมเดินทางกลับกรุงเทพพร้อมเงินสี่หมื่นด้วยรอยยิ้มและใจที่หึกเหิมพองโต อนาคตที่ผมคิดไว้มันเริ่มเปิดทางให้ผมเดินตามฝันแล้ว

กล้องตัวใหม่ที่เล็งไว้คือ Nikon F4 ซึ่งเป็นกล้องตัวโปรของนิคอนในเวลานั้น ด้วยราคาบอดี้ที่สามหมื่นเจ็ดพัน นั่นแหละคือปัญหา เพราะผมจะเหลือเงินแค่ไม่กี่พันในการซื้อเลนส์ ผมจึงเลือกที่จะขายกล้องตัวเก่าเพื่อเป็นเงินในการซื้อเลนส์

ร้านที่สองของการซื้อกล้องของผมครั้งนี้คือ Foto File อาจด้วยความเซอร์ของผม ผมจึงได้รับการดูถูกจากพนักงานขายเล็กน้อย ว่าไอ้เด็กหน้าใสตัวผอมคนนี้มันจะมีปัญญาซื้อ Nikon F4 ไปใช้เลยหรอ

ผมถูกเกลี่ยกล่อมให้ไปใช้รุ่นอื่นที่เล็กกว่า อาจด้วยว่าผมเองก็ยังไม่ใช่โปร ทำไมถึงช่างกล้าที่จะมาใช้เอฟสี่ที่มืออาชีพเขาใช้กัน

FM2 คือตัวเลือก ที่เขาให้ผมเลือก โดยให้ข้อดีว่า ถ้าซื้อตัวนี้แล้ว จะยังมีเงินเหลืออีกเยอะ และมากพอที่จะซื้อได้ทั้งเลนส์ แฟลช และขาตั้งกล้อง แถมยังเหลือเงินไปซื้อฟิล์มและล้างอัดสำหรับหัดถ่ายรูปอีก

และกล้องตัวเก่าก็ไม่ต้องขายหรอก เอาไว้ตีหัวหมา หรือปาหัวโจรเวลาที่จะมาขโมยของจะดีกว่า อีกเหตุผลที่คนขายให้มา
เพราะเขาจะรับซื้อมันเพียงสี่พันบาททั้งชุด ครึ่งนึงของราคาที่ผมซื้อมายังไม่ถึงเลย กล้องของผมยังใหม่ใช้มาได้เพียงปีเดียว แถมยังเก็บรักษาดูแลยังลูกในใส้ ราคานั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ

แต่ไม่เป็นไร ผมยังมีเวลา อาทิตย์หน้านี้จะสอบแล้ว และผมคงไม่เอาเวลาของการเตรียมตัวสอบไปเดินถ่ายรูปแน่ๆ กล้องตัวใหม่ก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ งั้นขอสอบเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกที เพราะงานที่ต้องส่งอาจารย์ เขาให้เวลาอีกสองอาทิตย์หลังจากสอบทฤษฎีแล้วค่อยส่งงานภาคปฏิบัติ

ระหว่าง FM2 กับ F4 ทางเลือกที่ดีที่สุดคงต้องว่ากันอีกทีหลังสอบเสร็จ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่